“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2016

สัปดาห์ที่ 10 เทศกาลธรรมดา

1 พกษ 17:1-6…
1เอลียาห์ ชาวทิชบีจากเมืองทิชบีในแคว้นกิเลอาด ทูลกษัตริย์อาหับว่า “พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ซึ่งข้าพเจ้ารับใช้ทรงพระชนม์อยู่ฉันใด จะไม่มีน้ำค้างหรือฝนตกในปีต่อๆไป จนกว่าข้าพเจ้าจะสั่งฉันนั้น”


2พระยาห์เวห์ทรงบัญชาเอลียาห์ว่า 3“จงไปจากที่นี่ ไปทางทิศตะวันออก แล้วซ่อนตัวอยู่ใกล้ลำธารเครีท ทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน 4ท่านจะดื่มน้ำจากลำธาร และเราจะสั่งนกกาให้นำอาหารไปให้ท่านที่นั่น” 5เอลียาห์ก็ไป และปฏิบัติตามพระบัญชาของพระยาห์เวห์ เขาไปอยู่ข้างลำธารเครีท ทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน 6นกกานำขนมปังและเนื้อมาให้เขาเวลาเช้า และนำขนมปังและเนื้อมาให้เขาเวลาเย็น เขาดื่มน้ำจากลำธาร

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

เรื่องประกาศกเอลียาห์...
• เรามารู้จักประกาศกเอลียาห์กันสักหน่อยก่อนครับ
o Eliah เอลียาห์ ภาษาฮีบรู คือ eliyyah แปลว่า “พระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าของฉัน” (Yahweh is my God)
o เอลี Eli = My God พระเจ้าของข้าพเจ้า
o ยาห์ Yah = YaHWeH พระยาห์เวห์
o ชื่อ เอลียาห์ คือ “พระยาห์เวห์เท่านั้น ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า”

• ท่านทำหน้าที่ประกาศกระหว่างการปกครองของกษัตริย์อาหับ เพราะอาหับได้แต่งงานกับพระนางเยเซเบล พระนางเยเซเบลคือผู้บูชาพระเท็จเทียมคือพระบาอัล พระของคนต่างชาติ

• เยเซเบลได้กลายเป็นคู่กรณีและศัตรูร้ายกาจกับประกาศกเอลียาห์ เพราะนางเชื่อและต้องการขยายความเชื่อในพระเท็จเทียม

• พระบาอัลซึ่งถือว่เป็น “พระเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์” ผู้ประทานฝนฟ้าและพืชพันธุ์บริบูรณ์ (the pagan god of fertility) นางเยเซเบลทำได้สำเร็จ คือสามารถบังคับและหันใจของอาหับไปหาพระเท็จเทียม พระแห่งความมังคั่ง ร่ำรวย ฟ้าฝน และพืชพันธุ์ นางเยเซเบลได้ขยายศรัทธาและการบูชาพระเท็จเทียมไปทั่วแผ่นดิน.... ผลตามมาที่น่าเศร้าใจ กระแสโลก กระแสรวย พระเท็จเทียมและความลุ่มหลง...
o ชาวอิสราเอลมากมายติดตามเยเซเบล ดังนั้น เอลียาห์จึงประกาศสิ่งที่ตรงกันข้ามกับอำนาจของบาอัลโดยสิ้นเชิง... “1เอลียาห์ ชาวทิชบีจากเมืองทิชบีในแคว้นกิเลอาด ทูลกษัตริย์อาหับว่า “พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ซึ่งข้าพเจ้ารับใช้ทรงพระชนม์อยู่ฉันใด จะไม่มีน้ำค้างหรือฝนตกในปีต่อๆไป จนกว่าข้าพเจ้าจะสั่งฉันนั้น” (1พกษ 17:1ff)
o เพื่อสามารถนำประชาชนกลับมาสู่ความจงรักภักดีต่อพระยาห์เวห์ ในภายหลัง พระคัมภีร์จะเล่าเรื่องราวที่เราทราบกันดีจริงๆ คือ เรื่องเอลียาห์ได้ท้าทายให้มาที่ภูเขาคาร์แมลเพื่อท้าทายและเผชิญหน้ากันเพื่อร้องหาพระเจ้า ใครจะเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ หรือพระเจ้าเท็จเทีม (1พกษ 18) และเอลียาห์ได้รับชัยชนะ พระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้...
ประกาศกของพระบาอัลถูกฆ่าทั้งหมด แต่เอลียาห์ต้องหนีจากพระนางเยเซเบลที่ประกาศจะฆ่าเอลียาห์เช่นกัน

• พระคัมภีร์วันนี้คือการเริ่มเรื่องราวของเอลียาห์ คือ เอลียาห์ได้ประกาศกับอาหับถึงความแห้งแล้งครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น... อ่านพระคัมภีร์ดีๆสิครับ...

• “เอลียาห์ ชาวทิชบีจากเมืองทิชบีในแคว้นกิเลอาด ทูลกษัตริย์อาหับว่า “พระยาห์เวห์ พระเจ้าแห่งอิสราเอล ซึ่งข้าพเจ้ารับใช้ทรงพระชนม์อยู่ฉันใด จะไม่มีน้ำค้างหรือฝนตกในปีต่อๆไป จนกว่าข้าพเจ้าจะสั่งฉันนั้น””
o อรรถาธิบายง่ายๆหน่อย คือ ให้มันรู้กันไปเลย..พระบาอัลเป็นเทพเจ้าแห่งฟ้าฝนใช่ไหม หลงใหลขอฟ้าขอฝนกันดีนักใช่ไหม สิ่งที่เราต้องไม่ลืมคืออิสราเอลต้องการฝนเสมอ ฝนคือความฉ่ำเย็นที่มาจากพระเจ้าพระยาห์เวห์ เรียกว่า “ดูสิจะมาบิดเบือนความสามารถของยาห์เวห์ให้เป็นของพระเท็จเทียมได้อย่างไร...”
o พระเจ้าพระยาห์เวห์เป็นพระเจ้าแท้ พระผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดิน สร้างฟ้าฝนทุกอย่าง... เจ้าความเท็จเทียม พระเท็จเทียม ความหลอกลวงควงใจให้หลงไปกับพระเท็จเทียม อาหับไป ประชาชนก็ไป นางเยซเบลล้มทำลายพระเจ้าแท้ด้วยความเท็จเทียม จะยอมได้อย่างไรกัน...
o เอลียาห์ มายืนต่อหน้าอาหับ ประกาศเลย “ปิดท้องฟ้า” จะไม่มีฝน และความแล้งจะเกิด เพราะ “พระยาห์เวห์ตรัส” ให้มันรู้กันไปเลย ใครยิ่งใหญ่กว่ายาห์เวห์ พระเท็จเทียม กระแสโลกที่หลงกันนักหนา ปิดเสียเลยท้องฟ้าและกั้นฝนให้จบ สอนให้รู้ ให้สำนึก และจงรู้ไว้ว่า พระเท็จเทียมอย่างบาอัล “เจอของจริง เจอประกาศกจริง เจอพระเจ้าจริง”

• ในความกันดารที่เกิดขึ้น เอลียาห์ได้รับคำสั่งให้ไปทาง “ทิศตะวันออก” “จงไปจากที่นี่ ไปทางทิศตะวันออก แล้วซ่อนตัวอยู่ใกล้ลำธารเครีท ทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ท่านจะดื่มน้ำจากลำธาร และเราจะสั่งนกกาให้นำอาหารไปให้ท่านที่นั่น” ทิศตะวันออก คือทิศแห่งแสงสว่างยามเช้า เป็นการเริ่มต้นแสงแห่งพระเจ้า

• การหันไปทางตะวันออกคือการหันไปหาพระเจ้าผู้ทรงชีวิต... มีความหมายที่จะต้องมุ่งหน้าไป เอลียาห์ต้องหันไปหาพระเจ้า อย่าไปในทางกลับกัน และที่สำคัญ พระเจ้าจะทรงเลี้ยงดูเอง ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องมีพระบาอัล แต่พระเจ้าจะทรงเลี้ยงดู “พระเจ้าเลี้ยงดูด้วยขนมปังที่มาจานกกาที่นำมาให้... ไม่น่าเชื่อ แต่เชื่อได้ นั่นคือ “ยาห์เวห์”
o เคยทรงเลี้ยงประชากรด้วยมานนา “ในถิ่นกันดาร”
o เคยประทานน้ำให้ดื่ม “น้ำจากก้อนหินในถิ่นกันดาร”
o เคยประทานเนื้อ “นกคุ่ม” ในทะเลทรายให้... ทำไม่จะให้ไม่ได้เล่า
o เป็นได้อย่างไร... “ก็เพราะทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ ทรงสามารถทุกอย่างนั่นเอง
o สำหรับเอลียาห์เช่นกัน “นกกา” เป็นนกกินเนื้อ และหวงอาหาร ไม่มีทางที่จะคาบเนื้อและขนมปังและนำมาให้เอลียาห์ได้หรอกครับ.. “เป็นไปไม่ได้หรอก” แต่ “ก็เพราะพระเจ้าทรงประทาน พระยาห์เวห์ทรงทำได้ทุกอย่างครับ ทรงเป็นพระเจ้านั่นเอง” คำสอนสำคัญ “เชื่อ ไว้ใจในพระองค์เถิด อย่าหลงไปหาพระเท็จเทียมที่แสนโอเวอร์แบบกระแสโลกของพระบาอัลเลย...” (ปัจจุบันเรากระแสโลกก็แรงเช่นกันมิใช่หรือครับ... หลงบูชาหวงแหนวัตถุ ค่านิยมเงินตรา หุ้น หวย หรือ GDP เหมือนกับเป็นพระเจ้าที่ต้องบูชาหวงแหน เฝ้าดูภาวนากันทั้งวัน)

• หันไปทางตะวันออกกันเถอะ ไปหาพระเจ้าเที่ยงแท้ครับ
o วันนี้เริ่มอ่านเอลียาห์ประกาศ.. ดูกันต่อไป อ่านกันต่อไป
o และเราก็ต้องมั่นใจในความเป็น “คริสตชน” ของเราเหมือนกัน จะเรียกว่า อะไรดี “คริสตชน คือ คนของพระคริสตเจ้า” พระคริสตเจ้าเท่านั้น ทรงเป็น “องค์พระผู้เป็นเจ้าของฉัน”
o พ่อจะประดิษฐ์ศัพท์สักคำครับ เลียนแบบชื่อ ELiYaHWeH “เอลียาห์” พ่อขอเสนอคำว่า “เอลีคริสต์” Eli-CHRIST “พระคริสต์คือพระเจ้าของฉัน” หมายความว่าเราทุกคนที่ได้รับศีลล้างบาป เป็นคริสตชน ได้ฉลองปัสกาและได้รับผลแห่งพระทรมานและความตายอีกทั้งการกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้าแล้ว... เราจงประกาศเสมอ “พระคริสต์คือพระเจ้าของฉัน”
o ให้เราจงหันไปหาพระองค์ “อรุโณทัยหรือรุ่งอรุณแห่งชีวิตนิรันดร” อย่าได้หลงไปกับพระเท็จเทียมหรือความเท็จเทียมของกระแสโลกปัจจุบันเลยครับ... พระองค์ทรงเป็นนิรันดรแห่งชีวิตเรา...

พระสันตะปาปาฟรังซิส สอนเราใน “ความชื่นชมยินดีแห่งพระวรสาร” Evangelii Gaudium เน้นเตือนสิ่งท้าทายของโลกปัจจุบัน พ่อเรียกว่า พระเท็จเทียมของโลกปัจจุบันก็ได้ครับ... (EG 52)

• ปัจจุบัน มนุษยชาติกำลังอยู่ตรงจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเรามองเห็นได้จากความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นในมิติต่าง ๆ เราต้องยกย่องความสำเร็จที่มีส่วนทำให้มนุษย์มีคุณภาพชีวิตที่ดี เช่น ในเรื่องสุขภาพ การศึกษา และการสื่อสาร

• อย่างไรก็ตาม เรามิอาจลืมได้ว่ามนุษย์ส่วนใหญ่ในยุคของเรายังคงดำเนินชีวิตอยู่ในความไม่แน่นอนประจำวัน ตกอยู่ในสภาพที่น่าเวทนา มีโรคภัยต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ความกลัวและความสิ้นหวังรุมล้อมจิตใจผู้คนจำนวนมาก แม้ในประเทศที่ได้ชื่อว่าร่ำรวย บ่อยครั้ง ความยินดีในการมีชีวิตอยู่ก็สูญสิ้นไป การขาดความเคารพและความรุนแรงมีเพิ่มมากขึ้น

• ความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมยิ่งชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้คนต้องต่อสู้เพื่อจะมีชีวิตอยู่ และบ่อยครั้งเพียงเพื่อจะมีชีวิตด้วยศักดิ์ศรีอันน้อยนิด

• การเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยนี้ มีสาเหตุจากความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดด ทั้งด้านคุณภาพ และปริมาณ ซึ่งเห็นได้จากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่รวดเร็ว นวัตกรรมทางเทคโนโลยี และการนำสิ่งเหล่านี้มาใช้กับมิติต่าง ๆ ในเรื่องของธรรมชาติและชีวิต

• เราอยู่ในยุคของความรู้ และข้อมูลข่าวสาร ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่ของอำนาจที่บ่อยครั้งไม่อาจระบุนามได้

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก