“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม 2014
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า

มธ: 7:21,24-27..
21“คนที่กล่าวแก่เราว่า ‘พระเจ้าข้า พระเจ้าข้า’ นั้นมิใช่ทุกคนจะได้เข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาของเรา ผู้สถิตในสวรรค์นั่นแหละจะเข้าสู่สวรรค์ได้ 
24“ผู้ใดฟังถ้อยคำเหล่านี้ของเราและปฏิบัติตาม ก็เปรียบเสมือนคนมีปัญญาที่สร้างบ้านไว้บนหิน 25ฝนจะตก น้ำจะไหลเชี่ยว ลมจะพัดโหมเข้าใส่บ้านหลังนั้น บ้านก็ไม่พัง เพราะมีรากฐานอยู่บนหิน 26ผู้ใดที่ฟังถ้อยคำเหล่านี้ของเรา และไม่ปฏิบัติตามก็เปรียบเสมือนคนโง่เขลาที่สร้างบ้านไว้บนทราย 27เมื่อฝนตก น้ำไหลเชี่ยว ลมพัดโหมเข้าใส่บ้านหลังนั้น มันก็พังทลายลงและเสียหายมาก”


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• พระวาจาของพระเยซูเจ้าวันนี้ มัทธิวบทที่ 7 เป็นตอนสรุปของพระโอวาทแรกของพระเยซูเจ้า... “พระโอวาทบนภูเขา” หรือ คำสอนเรื่อง “บุญลาภ” พระองค์สอนท่ามกลางประชาชนที่มาติดตามพระองค์ ประชาชนมากมาย และบรรดาศิษย์ก็ห้อมล้อมพระองค์ พระองค์สอนพวกเขาถึง “มหาบุญลาภ” แล้วก่อนจะจบพระโอวาท พระองค์สรุป ให้เลือก


• เลือกที่จะสร้างบ้านไว้บทศิลา หรือ สร้างบ้านไว้บนทราย... เรื่องนี้เราทราบดีว่าความั่นคงถาวรที่เราจากวางชีวิตของเรานั้นให้มั่นคง ให้ปลอดภัย ถาวร ยืนนาน อยู่ที่ไหน

• พ่อมีข้อคิดจากประสบการณ์และความคิดของพ่อนำเสนอหน่อยครับ

1. ถ้าเราเลือกแบบกระแสโลก วัตถุนิยม ทรัพย์สินนิยมจะเป็นอย่างไร... พ่อเคยคิดจริงๆว่า คนที่เขาพยายามที่จะ “มี” ให้มากที่สุด มีจนไม่รู้จะมีอย่างไร หลายคนมีบัญชีเงินเป็นพันๆหมื่นๆล้าน มีธุรกิจมากมายทั่วไปหมด บางคนเคยคุยว่า มีเงินมากใช้ไปอีกสิบชาติก็ไม่หมด.. พ่อก็ไตร่ตรองมองดู.. อายุคนเราเท่าไรกัน เราจะแข็งแรงไปอีกกี่ปี เมื่อป่วย เมื่อเวลาและวาระสุดท้ายมาถึง... คนที่มีมากๆจะเป็นอย่างไรหนอ.. พ่อไม่ทราบเหมือนกันไม่ได้มีมากเช่นนั้น ที่บ้านก็ไม่เคยมีมาก... แต่พ่อดูละครเหมือนกันนะครับ ละครไทยที่ว่าน้ำเน่าเคล้าความจริงในสังคมได้บ้าง.. มหาเศรษฐี ตระกูลยิ่งใหญ่ เจ้านายร่ำรวย เวลาวาระสุดท้าย... จบลงก็ตรงพินัยกรรม.. ช่วงชิง แย่ง ฆ่า ทำร้าย ของคนรุ่นหลัง หรือไม่ก็มาตบตีกันต่อหน้ายามปางตายอยู่บนเตียงเถียงอะไรไม่ได้... ยามท้ายปลายทางมาถึง... ไม่มีอะไรเอาไปได้เลย ลูกหลานบางทียังมาตบตีกันต่อกลางงานพิธี... หรือไม่ก็ ต้องแบ่งเวลากันมา มางานศพบุพการีผู้วายชนม์เวลาเดียวกันไม่ได้... บางศพต้องแช่แข็งไว้เป็นปีๆๆ เพราะคดีแย่งทรัพย์ของพี่น้องลูกหลานยังไม่สิ้น บางกรณีก็ต้องผ่าแล้วผ่าอีก พิสูจน์พลิกศพกันแล้วกันอีก... ไม่ได้เผาไม่ได้ฝังสักที...เศร้าเนอะ ดีไม่ดีฝังไปแล้วมีเจดีย์ให้เก็บเศษที่เหลือ หรือมีฮวงซุ้ยใหญ่ๆ ลูกหลานก็ไปตบไปตีกันต่ออีกมิได้ขาด..

2. ถ้าเราเลือกวางรากฐานชีวิตเรากับความดี ความรัก เมตตา และหรือ “พระเจ้า” หรือ “ศาสนาและความเชื่อศรัทธา” หลายคนก็ร่ำรวย มีมากเช่นกัน แต่คำสอนศาสนาก็สอนให้เมตตา รัก แบ่งปัน ไม่ยึดติด และต้องเต็มไปด้วยศีลธรรม ความสัตย์ซื่อ ถือบัญญัติจัดวางทุกอย่างไว้บนรากฐานของศรัทธาและความดี... มีมาก หรือมีน้อย ร่ำรวยมากหรือยากจนมาก ก็ไม่ได้ยึดติดที่ “วัตถุ” แต่ศรัทธาในพระเจ้า คุณธรรม ความดี.. ชีวีก็เป็นสุข สงบ ยามเวลาวาระต้องจากลาก็ปล่อยวางไว้ด้วยความรัก ทุกคนรอบข้างก็ได้เรียนรู้คุณธรรมความดี ลูกหลานร่ำไห้จากลาด้วยน้ำตาแห่งความรักจริงๆ เพราะรากฐานที่ยึดวางไว้คือความดี ความรัก คือ ศาสนาและศรัทธา

• พ่อกลับมาที่พระเยซู... มัทธิวนำเสนอคำสอนแห่งชีวิต หรือวิถีแห่งศรัทธา สำหรับทุกคนที่ติดตามพระองค์ เชื่อในพระองค์ พระองค์อยู่ในศรัทธาสูงสุดจนไม่มีวัตถุหรือสมบัติใดๆ มาเทียบกับพระพระเจ้าได้เลย

• พ่อได้รับคำตอบจากพระวรสารวันนี้ที่เราต้องไตร่ตรองต่อไปครับ...

o การขาดปรีชาญาณ คือคนที่ไม่มีปัญญาแท้ “ไม่ดำเนินชีวิตตามพระวาจา หรือไม่ปฏิบัติตามพระวาจา” พวกเขาวางชีวิตของตน สร้างบ้านของชีวิตตนไว้บนทรัพย์สมบัติที่ไม่จีรัง คือ การปฏิบัติชีวิตตามใจตน ตามกระแสโลกและกระแสโลภของโลก การปล่อยตัวไปกับตัณหาและความโลภ สิ่งที่ร้ายสุดคือ “ขาดความรัก” คือ “เห็นแก่ตัว” นี่ทำให้คนเราไม่น่ารักจริงๆ ความเห็นแก่ตัวทำให้คนเราริษยา โลภ ไม่น่ารัก และที่สำคัญคงไม่มีใครรักเขาจริงๆได้นอกจาก “ผลประโยชน์” ที่ต้องชิงกันจนวันตายแม้ตายแล้วก็ยังไม่จบอยู่ดี
o การมีปรีชาญาณแท้ คนฉลาดแท้จริงคือคนที่ “เลือกเจริญชีวิตตามพระวาจาและปฏิบัติตาม” พวกเขาแข็งแกร่งเพราะสร้างชีวิตของตนในความมั่นคงถาวรในพระเจ้า... ดำเนินชีวิต “ตามพระวาจา” คือ “ตามพระบัญญัติ” คือ ความรัก ความเมตตา บัญญัติแห่งความรักตามแบบอย่างพระคริสตเจ้า “รักจนถึงที่สุด” แม้ตายแล้วก็ตายลงเพราะความรักจริงๆ และจะได้กลับคืนชีพดังเช่นพระองค์ เพราะเชื่อศรัทธาและมีความหวังในพระองค์

• พี่น้องที่รัก สองวันก่อนพ่อเขียนเรื่องราวที่ว่า “พ่อไม่เสียใจเลยที่เกิดมาเป็นคริสตชน” วันนี้ พ่ออยากเขียนอีกประโยคต่อเนื่องกันว่า “พ่อไม่เคยเสียใจเลยที่ได้สร้างบ้านชีวิตของตนไว้บนศิลานิรันดรของพระเยซู”

o พ่อมั่นใจว่าพ่อไม่ได้โง่เลยที่เลือกจะเชื่อฟังพระองค์ เชื่อพระบัญญัติแห่งความรัก ความเมตตา และความยุติธรรม.. สายตาคนโฉดเขลาอาจดูว่าเราโง่ที่ไม่โกง ไม่ฉ้อฉล ไม่เอาเปรียบ ไม่โลภ แบบที่กระแสโลกและคนที่เดินตามกระแสได้ทำกัน และคิดว่า ฉลาดมือใครยาวสาวได้สาวเอา

o แต่พ่อไม่เคยรู้สึกโง่เขลาและไม่เคยรู้สึกเสียเปรียบ (อาจมีบางเวลาขับรถแล้วถูกแย่งเลนส์ตรงถนนคอขวด ปาดเข้ามา แย่งคิวเราไป... บางทีก็อยากเอาคืนบ้างเหมือนกัน อยากทำ “เลว” เหมือนเขาเหมือนกัน... และดูว่าเราโง่นะที่เข้าคิวไป... แต่เสียงมโนธรรมก็บอกพ่อว่า เราลูกพระต้องเป็นคนดีในสังคมสิ ต้องเพียรทนสิ....) 

o พ่อภูมิใจที่ได้ถือบัญญัติของพระองค์เสมอ

• พี่น้องที่รักครับ เรากำลังเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า... คำสอนจากพระวรสารก็ยืนยันให้เราเลือก...สร้างบ้านไว้บนศิลา พระวรสารสอนเราให้เลือกที่จะมีปรีชาญาณ... 


• และพระวรสารก็สอนเราให้เลือกที่จะทำตามพระบัญญัติแห่งความรัก 


• พ่อคิดว่า การเป็นคริสตชนต้องฉลาดขาวสะอาดล้ำลึก เพราะรากฐานของเราลึกล้ำและมั่นคงในพระเจ้าองค์ความรักผู้ทรงยอมบังเกิดมา เพราะทรงรักเรา...

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก