"พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ใดสำหรับข้าพเจ้า" อธิบายพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก โดย บาทหลวงฟรังซิส ไก้ส์
“บุตรแห่งมนุษย์จะต้องรับทุกข์ทรมานอย่างมาก และถูกเหยียดหยาม ”

44. การถามถึงประกาศกเอลียาห์(2)

 (b) ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
1.    บรรดาศิษย์ของพระเยซูเจ้ามีปัญหาว่า ถ้าพระองค์เป็นพระเมสสิยาห์ ทำไมประกาศกเอลียาห์ที่จะต้องปรากฏตัวก่อนการเสด็จมาของพระเมสสิยาห์ เพื่อทำลายความชั่วร้ายและนำการคืนดีกันในหมู่อิสราเอล ยังมาไม่ถึง พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ปัญหาแท้จริงไม่ใช่ว่า ประกาศกเอลียาห์จะต้องมาก่อน แต่ท่านทั้งหลายได้เข้าใจแล้วหรือไม่ว่า บุตรแห่งมนุษย์จะต้องรับทุกข์ทรมานอย่างมาก และถูกเหยียดหยาม" หมายความว่าท่านเข้าใจพระธรรมล้ำลึกเรื่องไม้กางเขนและเรื่องบุตรแห่งมนุษย์ได้หรือไม่ เราจึงจำเป็นต้องเข้าใจไม้กางเขนของพระเยซูเจ้าเพื่อจะได้เข้าใจปัญหาความชั่วร้ายในประวัติศาสตร์มนุษย์


2.    คำตอบของพระเยซูเจ้าเป็นปริศนาว่า“ประกาศกเอลียาห์ได้มาแล้ว และประชาชนได้ทำกับเขาตามความพอใจ”ประกาศกเอลียาห์ผู้นี้ที่มาแล้วเป็นใครเล่าเขาเป็นประกาศกที่มีชะตากรรมเช่นเดียวกับชะตากรรมของประกาศกทั้งหลาย คือถูกกำจัด ในพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโกประกาศกเอลียาห์และนักบุญยอห์นผู้ทำพิธีล้างมีคุณลักษณะเหมือนกันเขาทั้งสองคนเป็นพยานถึงความจริง และต้องสูญเสียชีวิตของตนในการเป็นพยานนั้น ประกาศกเอลียาห์จึงเป็นแบบอย่างผู้ชอบธรรมทุกคนในโลกที่ยอมเสียสละตนเองเพื่อทำลายความชั่วร้าย อันเป็นพระธรรมลึกลับเรื่องพระคริสตเจ้าและเรื่องไม้กางเขน ดังนั้น ปัญหาเรื่องความชั่วร้ายเป็นปัญหาเรื่องผู้ชอบธรรมที่รับทรมานอย่างอยุติธรรม และเป็นปัญหาเรื่องไม้กางเขนคือ บุตรแห่งมนุษย์จะต้องรับทรมานอย่างมากและมีชัยชนะเหนือความชั่วร้ายด้วยวิธีนี้ เราก็เช่นกัน จะมีชัยชนะเหนือความชั่วร้ายก็ต่อเมื่อ เราจะไม่ทำความชั่วแต่ยอมแบกความชั่วร้ายโดยรับทรมานอย่างอยุติธรรม

3.    บางครั้งเราเป็นเหมือนบรรดาศิษย์ที่ทูลถามพระเยซูเจ้าเกี่ยวกับปัญหาบางประการ เราคงไม่ทูลถามว่าประกาศกเอลียาห์ได้มาแล้วหรือยังเพราะเรารู้แน่ว่าพระเยซูเจ้าเป็นพระเมสสิยาห์ที่เสด็จมาแล้ว แต่ทูลถามว่าเมื่อใดจะได้รับความรอดพ้น เพราะคิดว่า การมีชัยชนะที่สมบูรณ์เหนือความชั่วร้ายจะเกิดขึ้นเพียงเมื่อพระองค์จะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งในวันสิ้นพิภพเท่านั้น เราไม่ค่อยตระหนักว่า บุตรแห่งมนุษย์ผู้เสด็จมาแล้วทรงบันดาลให้เราอยู่ในสภาพใหม่ที่มีชัยชนะเหนือความชั่วร้าย และสภาพนี้ยังช่วยเราให้พร้อมเสมอที่จะรอคอยการเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้า โดยมีใจจดจ่อในพระองค์และเปิดใจยอมรับสิ่งใหม่อยู่เสมอ

4.    พระเยซูเจ้าทรงเปลี่ยนความคิดทั่วไปของบรรดาศิษย์ ผู้รอคอยการปรากฏมาของประกาศกเอลียาห์และการเสด็จมาของพระเมสสิยาห์ เพื่อพระเจ้าจะทรงบันดาลให้ชาวอิสราเอลมีชัยชนะยิ่งใหญ่ แต่ตรงกันข้าม พระองค์ทรงพยายามแสดงให้เขาเห็นว่า ทั้งผู้นำหน้าพระเมสสิยาห์จะถูกฆ่าอย่างทารุณและพระเมสสิยาห์เองก็จะต้องสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน บรรดาศิษย์ยังไม่เข้าใจคำสอนนี้ เพราะเขายึดมั่นในความคิดดั้งเดิมของตน และไม่ยอมมองวิธีการของพระเจ้า ทุกวันนี้ คริสตชนอาจประพฤติตนเช่นเดียวกัน คือปรารถนาให้ทุกอย่างเกิดขึ้นดังที่ตนต้องการไม่ใช่ดังที่พระเจ้าทรงพระประสงค์ ความคิดผิดพลาดนี้ทำให้เขาตาบอด มองไม่เห็นความจริงที่พระเจ้าทรงเปิดเผยให้รู้

5.    เราควรวอนขอพระเจ้าให้โปรดประทานแสงสว่าง เพื่อจะได้เข้าใจเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตของตนและของมนุษยชาติโดยคำนึงถึงพระธรรมล้ำลึกเรื่องการรับทรมานของบุตรแห่งมนุษย์ เพราะการแบกไม้กางเขนเป็นหนทางเดียวที่นำเราเข้าสู่การกลับคืนชีพและชีวิตนิรันดร