“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

โยบยืนยันความบริสุทธิ์ของตนa

31 1“ข้าพเจ้าตกลงกับดวงตาของข้าพเจ้า

ว่าจะไม่จ้องมองหญิงพรหมจารีใดๆb

2แล้วพระเจ้าผู้สถิตเบื้องบนทรงกำหนดอะไรไว้ให้ข้าพเจ้า

พระผู้ทรงสรรพานุภาพประทานมรดกอะไรแก่ข้าพเจ้าจากที่สูง

3พระเจ้าทรงกำหนดหายนะไว้สำหรับคนอธรรม

ทรงกำหนดภัยพิบัติสำหรับผู้ทำชั่ว

4พระองค์ทรงเห็นความประพฤติของข้าพเจ้า

ทรงนับทุกก้าวเดินของข้าพเจ้า

5ถ้าข้าพเจ้าเดินไปกับความเท็จ

หรือเท้าของข้าพเจ้ารีบเร่งไปสู่ความหลอกลวงc

6ก็ขอพระเจ้าทรงใช้ตราชูยุติธรรมชั่งข้าพเจ้า

แล้วพระองค์จะทรงทราบว่าข้าพเจ้าไร้ตำหนิ

7ถ้าข้าพเจ้าย่างเท้าออกไปจากหนทาง

ถ้าใจของข้าพเจ้าปรารถนาตามที่ดวงตาแลเห็น

ถ้ามือของข้าพเจ้าเปรอะเปื้อนdสิ่งสกปรก

8ก็ขอให้ผู้อื่นได้กินผลจากสิ่งที่ข้าพเจ้าได้หว่านไว้

ขอให้พืชพันธุ์ที่งอกขึ้นถูกถอนรากออกไป

9ถ้าข้าพเจ้ายอมให้ใจข้าพเจ้าถูกหญิงหลอกลวงให้หลงไป

และถ้าข้าพเจ้าไปซุ่มอยู่ที่ประตูของเพื่อนบ้านe

10ก็ขอให้ภรรยาของข้าพเจ้าต้องโม่แป้งให้ผู้อื่น

และให้ผู้อื่นหลับนอนกับนาง

11เพราะการทำเช่นนี้เป็นความผิดน่ารังเกียจ

และเป็นความชั่วที่ผู้พิพากษาต้องตัดสินลงโทษf

12เป็นไฟที่เผาผลาญไปถึงแดนแห่งความพินาศ

และเผาผลาญgผลิตผลทั้งหมดของข้าพเจ้า

13ถ้าข้าพเจ้าไม่ยอมรับสิทธิของทาสชายหรือทาสหญิง

เมื่อเขานำคดีมาร้องทุกข์ต่อข้าพเจ้าh

14ข้าพเจ้าจะทำอะไรได้ เมื่อพระเจ้าทรงลุกขึ้นพิพากษา

ข้าพเจ้าจะทูลตอบพระองค์อย่างไร เมื่อพระองค์ทรงสอบถาม

15พระองค์ผู้ทรงสร้างข้าพเจ้าในครรภ์มารดา ก็ทรงสร้างทาสผู้นั้นด้วย

พระองค์ทรงสร้างข้าพเจ้าและทรงสร้างเขาในครรภ์เช่นเดียวกัน

16ข้าพเจ้าไม่เคยปฏิเสธสิ่งที่ผู้ยากจนปรารถนาk

ไม่เคยปล่อยให้ดวงตาของหญิงม่ายต้องมืดมัว

17ข้าพเจ้าไม่เคยกินอาหารตามลำพัง

แต่ได้แบ่งปันอาหารกับลูกกำพร้า

18เพราะพระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าเสมือนบิดาตั้งแต่วัยเด็ก

และทรงนำทางข้าพเจ้าlตั้งแต่เกิดจากครรภ์มารดา

19ถ้าข้าพเจ้าเห็นใครคนหนึ่งขัดสนเพราะขาดเสื้อผ้า

หรือเห็นคนยากจนที่ไม่มีผ้าคลุมกาย

20ถ้าเขามิได้อวยพรข้าพเจ้าจากใจจริง

เพราะได้รับความอบอุ่นจากขนแกะของข้าพเจ้า

21ถ้าข้าพเจ้ายกมือขึ้นกล่าวโทษลูกกำพร้าm

เพราะเห็นว่าผู้พิพากษาสนับสนุนข้าพเจ้าที่ประตูเมือง

22ก็ขอให้บ่าของข้าพเจ้าหลุดจากคอ

และให้แขนหักที่ข้อศอก

23เพราะข้าพเจ้ากลัวว่าพระเจ้าจะทรงลงโทษn

และไม่อาจต่อต้านพระอานุภาพของพระองค์ได้

24ถ้าข้าพเจ้าวางใจในทองคำ

หรือพูดกับทองคำบริสุทธิ์ว่า ‘ท่านเป็นที่วางใจของข้าพเจ้า’o

25ถ้าข้าพเจ้ายินดีที่มีทรัพย์สมบัติจำนวนมาก

หรือยินดีเพราะมือของข้าพเจ้าทำกำไรได้มากมาย

26ถ้าข้าพเจ้าเห็นดวงอาทิตย์ส่องแสง

หรือดวงจันทร์เคลื่อนไปอย่างสุกใส

27และข้าพเจ้ายอมถูกหลอกลวงในใจ

ให้กราบไหว้ดวงอาทิตย์ดวงจันทร์โดยยกมือขึ้นจูบp

28นี่เป็นความผิดที่ผู้พิพากษาจะต้องตัดสินลงโทษ

เพราะข้าพเจ้าได้ปฏิเสธพระเจ้าผู้สถิตเบื้องบน

29ข้าพเจ้าไม่เคยยินดีเมื่อผู้ที่เกลียดชังข้าพเจ้าต้องประสบเหตุร้าย

ไม่เคยชื่นชมเมื่อเหตุร้ายมาถึงเขาq

30ข้าพเจ้าไม่ยอมให้ปากของข้าพเจ้าทำบาป

โดยสาปแช่งให้เขาตาย

31ทุกคนในกระโจมของข้าพเจ้าเป็นพยานได้ว่า

ข้าพเจ้าให้คนแปลกหน้าได้กินเนื้อจนอิ่ม

                32คนแปลกหน้าไม่ต้องนอนค้างคืนกลางแจ้ง

ข้าพเจ้าเปิดประตูรับผู้เดินทางr

33ข้าพเจ้าไม่ปิดบังความผิดของข้าพเจ้าดังที่มนุษย์ทำกันs

โดยซ่อนความชั่วของข้าพเจ้าไว้ในใจ

34เหมือนกับว่าข้าพเจ้ากลัวผู้คนจำนวนมาก

และกลัวว่าครอบครัวต่างๆ จะดูถูกข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าจึงนิ่ง ไม่ออกนอกประตูบ้านt

35ข้าพเจ้าอยากให้ใครสักคนหนึ่งฟังข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าพูดจบแล้วu ขอพระผู้ทรงสรรพานุภาพตรัสตอบข้าพเจ้าเถิด

ขอให้คู่อริของข้าพเจ้าเขียนข้อกล่าวหาเป็นลายลักษณ์อักษรเถิด

36ข้าพเจ้าจะได้แบกข้อกล่าวหานั้นไป

และคาดไว้บนศีรษะเหมือนมงกุฎv

37ข้าพเจ้าจะรายงานทุกก้าวเดินของข้าพเจ้า

และจะกล้าเหมือนเจ้านายเข้าเฝ้าพระองค์

38ถ้าที่ดินของข้าพเจ้าร้องกล่าวโทษข้าพเจ้า

และรอยไถร้องไห้พร้อมกัน

39ถ้าข้าพเจ้าได้กินผลิตผลของที่ดินโดยไม่จ่ายเงินซื้อ

และทำให้เจ้าของเดิมต้องตายi

40ก็ขอให้กอหนามงอกขึ้นแทนข้าวสาลี

และข้าวละมานjงอกขึ้นแทนข้าวบาร์เลย์เถิด”

คำพูดของโยบจบที่นี่w

 

31 a ในข้อความนี้ที่โยบยืนยันความบริสุทธิ์ของตน คำสอนทางจริยธรรมของพันธสัญญาเดิมได้พัฒนาขึ้นถึงที่สุด เป็นการกล่าวล่วงหน้าถึงจริยธรรมที่จะพบในคำสอนของพระวรสาร การยืนยันความบริสุทธิ์ของตนที่นี่เป็นการกล่าวสาปแช่งตนเอง ดังที่ธรรมบัญญัติกำหนดไว้ ถ้าผู้นั้นไม่ได้ประพฤติดี (อพย 22:9-10; กดว 5:20-22; 1 พกษ 8:31-32)

b โยบเริ่มต้นยืนยันความบริสุทธิ์ของตนโดยกล่าวว่าตนไม่มีบาปที่ไม่ปรากฏภายนอก แต่เป็นเพียงการกระทำด้วยสายตาเท่านั้น (ดูข้อ 7)

c “ความหลอกลวง” อาจหมายถึงการคดโกงในการแลกเปลี่ยนสินค้า หรือการค้าขายในตลาด ในข้อ 6 โยบเรียกร้องให้พระเจ้าทรงใช้กฎ “การปรับโทษเท่ากับความผิด” (ดู อพย 21:25 เชิงอรรถ f) ในการพิจารณาการกระทำของตนอย่างยุติธรรม

d “มือ...เปรอะเปื้อน” หมายถึงความผิดอย่างอื่นต่อเพื่อนบ้าน โยบไม่ได้โลภอยากได้หรือขโมยทรัพย์สินของผู้อื่น

e “ซุ่มอยู่ที่ประตูของเพื่อนบ้าน” เพื่อเป็นชู้กับภรรยาของเขา

f ข้อ 11 นี้อาจเป็นข้อความที่ผู้คัดลอกเสริมเข้ามา

g “เผาผลาญ” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ถอนราก”

h กฎหมายมักกำหนดไว้เสมอให้นายปฏิบัติอย่างดีต่อบ่าวไพร่ ข้อ 15 ปกป้องสิทธิของทาสโดยคำนึงถึงความจริงที่ว่าพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ทุกคนรวมทั้งทาสด้วย นักบุญเปาโลให้ข้อสังเกตว่าทั้งทาสและนายล้วนมีพระคริสตเจ้าทรงเป็น “เจ้านาย” องค์เดียวกัน

k “ปฏิเสธสิ่งที่ผู้ยากจนปรารถนา” เป็นบาปผิดต่อความรักและความใจดีต่อเพื่อนพี่น้อง ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ความรู้คุณต่อพระเจ้าเรียกร้อง

l “ทรงนำทางข้าพเจ้า” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ทรงนำนาง” (หมายถึง “มารดาของข้าพเจ้า”)

m “ยกมือขึ้นกล่าวโทษลูกกำพร้า” เป็นการแสดงความเป็นอริหรือข่มขู่ (ดู อสย 11:15; 19:16; ศคย 2:13) เพื่อจะได้ชนะคดี

n “พระเจ้าจะทรงลงโทษ” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ภัยพิบัติจากพระเจ้าสำหรับข้าพเจ้า

o “ท่านเป็นที่วางใจของข้าพเจ้า” คนร่ำรวยที่โลภและหยิ่งยโสมักคิดว่าตนทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องพึ่งพระเจ้า

p “กราบไหว้...โดยยกมือขึ้นจูบ” หลังจากกล่าวถึงการกราบไหว้เงินทองเป็นพระเจ้า ผู้ประพันธ์กล่าวถึงการกราบไหว้ดวงดาราบนท้องฟ้าเป็นพระเจ้า การยกมือขึ้นจูบเป็นท่าทางของการกราบไหว้นมัสการเทพเจ้า

q โยบไม่เคยนึกจะแก้แค้นผู้ทำร้ายตน ดังที่คนทั่วไปมักคิดว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ (บางครั้งพระคัมภีร์สั่งให้เราแสดงความรักต่อคู่อริด้วย เช่น อพย 23:4-5; ลนต 19:18; สภษ 20:22; 25:21-22) แต่โยบก้าวไปไกลกว่านั้น เขาไม่ยินดีเมื่อผู้ทำร้ายตนต้องประสบเหตุร้าย เขาไม่สาปแช่งคู่อริของตน

r “รับผู้เดินทาง” พบในสำนวนแปลหลายฉบับ ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “บนถนน” ในดินแดนตะวันออกสมัยโบราณ การต้อนรับแขกถือว่าเป็นคุณธรรมใหญ่อันหนึ่ง

s “ดังที่มนุษย์ทำกัน” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “เหมือนมนุษย์” วลีนี้ยังอาจแปลได้อีกว่า “เหมือนคนทั่วไป” หรือ “เหมือนอาดัม”

t ข้อ 33-34 ไม่กล่าวถึงความผิดอะไรโดยเฉพาะ เป็นแต่เพียงท่าทีของผู้ที่คิดว่าตนมีความผิด โยบไม่เคยคิดจะซ่อนตัวจากผู้อื่น ยิ่งกว่านั้น เขายังพร้อมที่จะปรากฏตัวเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าเสียด้วย

u “ข้าพเจ้าพูดจบแล้ว” แปลตามตัวอักษรว่า “นี่เป็นอักษร ‘ตาว’ ของข้าพเจ้า” (อักษร ‘ตาว’ เป็นพยัญชนะตัวสุดท้ายของภาษาฮีบรู)

v โยบมั่นใจว่าตนจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้ เขาจึงประกาศว่าจะใช้เอกสารที่คู่อริเขียนข้อกล่าวหาตนทำเป็นมงกุฎสวมศีรษะแสดงความมีเกียรติของตน

i “ทำให้เจ้าของเดิมต้องตาย” การได้ที่ดินมาโดยวิธีทุจริตเป็นบาปผิดต่อสังคมอีกประการหนึ่ง

j “ข้าวละมาน” แปลโดยคาดคะเน คำภาษาฮีบรูในต้นฉบับหมายถึงพืชชนิดหนึ่งที่มีกลิ่นเหม็น

w “คำพูดของโยบจบที่นี่” อาจเป็นข้อความที่ผู้คัดลอกเสริมเข้ามา *** NJB จัดข้อ 38-40ก ไว้หลังข้อ 15 ก่อนข้อ 16 เพราะเป็นบาปผิดต่อความยุติธรรม ก่อนจะกล่าวถึงบาปผิดต่อความรักเพื่อนมนุษย์ เชิงอรรถ i และ j จึงมาอยู่หลังเชิงอรรถ v

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก