“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 16 มิถุนายน 2017
สัปดาห์ที่สิบ เทศกาลธรรมดา
2 คร 4:7-15….
         7เรามีสมบัตินี้เก็บไว้ในภาชนะดินเผา เพื่อแสดงว่าอานุภาพล้ำเลิศนั้นมาจากพระเจ้า มิใช่มาจากตัวเรา 8เราทนทุกข์ทรมานรอบด้าน แต่ไม่อับจนเราจนปัญญา แต่ก็ไม่หมดหวัง 9เราถูกเบียดเบียน แต่ไม่ถูกทอดทิ้ง เราถูกตีล้มลง แต่ไม่ถึงตาย

10เราแบกความตายของพระเยซูเจ้าไว้ในร่างกายของเราอยู่เสมอ เพื่อว่าชีวิตของพระเยซูเจ้าจะปรากฏอยู่ในร่างกายของเราด้วย 11ขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่เราเสี่ยงกับความตายอยู่เสมอเพราะความรักต่อพระเยซูเจ้า เพื่อให้ชีวิตของพระเยซูเจ้าปรากฏชัดในธรรมชาติที่ตายได้ของเรา 12ดังนั้น ความตายกำลังทำงานอยู่ในเรา แต่ชีวิตกำลังทำงานอยู่ในท่าน

13มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ข้าพเจ้าได้เชื่อ จึงได้พูด เรามีจิตแห่งความเชื่อเดียวกันนี้ เราเชื่อ เราจึงพูด 14เพราะรู้ว่าพระองค์ทรงบันดาลให้พระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพ ทรงบันดาลให้เรากลับคืนชีพพร้อมกับพระเยซูเจ้าด้วย จะทรงนำเราและท่านทั้งหลายไปอยู่กับพระองค์ 15เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นสำหรับท่านเพื่อว่าเมื่อพระหรรษทานแผ่ไปถึงคนมากขึ้น การขอบพระคุณจะทวียิ่งขึ้น เป็นการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า

อรรถาธิบายไตร่ตรอง
• วันนี้ขออธิบายพระวาจาเพื่อเห็นสมบัติในภาชนะดินเผา ปกติ“พ่อย้ำเสมอมาว่า NOT ME BUT YOU หรือ “ไม่ใช่ข้าพเจ้า แต่เป็นพระองค์” พ่อสอนเณรใหญ่ปีห้าเสมอๆและย้ำเสมอว่า “เรามาไกลถึงเพียงนี้ได้อย่างไร... ไตร่ตรอง เราจะเห็นว่า เราไม่มีอะไรจริงๆ ถ้าไม่มีพระองค์”

• นักบุญเปาโลสอนชาวโครินธ์วันนี้อย่างชัดเจน เรามีสมบัตินี้ในภาชนะดินเผา เพื่อแสดงว่าอานุภาพล้ำเลิศนั้นมาจากพระเจ้า มิใช่มาจากตัวเรา... เพื่อเชื่อมั่นว่าสิ่งนี้จริงๆที่สุด พ่อชอบคำของเปาโลที่ว่า “เราแบกความตายของพระเยซูเจ้าไว้ในร่างกายของเราอยู่เสมอ เพื่อว่า ชีวิตของพระเยซูเจ้าปรากฏอยู่ในร่างกายของเราด้วย”

• ทฤษฎีเพื่ออธิบายเรื่องพระเยซูเจ้านี้พ่อมักจะคิดแบบที่เราเคยได้รู้ว่า คนเรานะ ถ้าเรามีผีสิง มีเจ้าเข้า องค์ลง อะไรทำนองนี้ ตามที่เคยได้ยินได้ฟัง ได้ดูละครโขนหนังมา พ่อพบว่า คนที่มีผีสิงหรือเจ้าเข้าองค์ลงนั้น จะมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เสียงเปลี่ยน อาการเปลี่ยนไป ไม่เหมือนคนเดิมอีกเลย... คนๆนั้นสูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง และมีความสามารถไม่เหมือนเดิม มักจะสามารถและพฤติกรรมเปลี่ยนไปตามเจ้าทรงองค์ลงผู้นั้นที่มาเข้า หรือมาสิงสถิตอยู่ เรียกว่า ถ้าผีสิงเจ้าเข้าองค์ลงแล้วละก็คนเราก็เปลี่ยนไปตามองค์ทรงหรือเจ้าลงนั้นๆ เอาเป็นว่า เรื่องผีสิงเจ้าเข้าองค์ลงทั้งหลายนี้พ่อไม่ต้องอธิบายอะไรอีก เพราะเรื่องเหล่านี้เราคนไทยโดยเฉพาะชอบหนังผีๆเจ้าๆ ประมาณนี้อยู่แล้ว และทั้งหนังทั้งละครหรือเรื่องเล่าไทยๆ เราก็มีเรื่องราวแบบนี้มากมายเหลือเกิน

• พี่น้องที่รัก พ่อเชื่อเสมอและมักจะเน้นและสอนอย่างหนักแน่นเสมอว่า เราคริสตชนผู้ที่ไดรับศีลล้างบาปแล้วได้จุ่มตัวในน้ำแห่งพระจิตเจ้า น้ำแห่งชีวิตพระของพระเจ้าแล้ว เราทุกคนต่างได้ได้รับการประทับตราของพระจิตเจ้า เราได้รับการประทับอยู่ของพระเจ้า เราเป็นพระวิหารของพระเจ้า เรามีพระเจ้าประทับในชีวิตเรา... อธิบายแบบนี้อาจเข้าใจได้ง่ายและเห็นภาพยากสักหน่อย พ่อจึงเน้นว่า เราต้องเป็นเหมือนคนที่โดนผีสิง... ไม่ใช่ผีสิง แต่เป็น “พระเจ้าสถิตอยู่” พระเจ้าประทับอยู่ชีวิตเรา พระองค์มาสำนักอยู่ในเรา พระเยซูเจ้าเองเคยตรัสว่า “และเราจะสำนักอยู่ในเขา” ดังนั้น ถ้าอธิบายแบบนี้ เราอาจเห็นภาพลักษณ์ของคริสตชนได้ง่ายขึ้น แน่นอนพระเจ้าไม่ได้ครอบงำเรา ไม่ได้ใช้อำนาจของพระองค์ครอบเราจนเราหมดเสรีภาพแบบที่ภาพลักษณ์ของเจ้าทรงองค์ลงหรือผีสิง แบบที่คนๆนั้นหมดความเป็นตัวของตัวเอง แม้แต่เสียงร้องเสียงพูดพฤติกรรมท่าทางก็ไม่เหลือความเป็นตัวของตัวเอง... มิได้เป็นเช่นนั้นเลย ตรงกันข้าม การประทับอยู่ของพระเจ้ายังคงให้เราเป็นตัวเรา มีอิสรภาพและเสรีทุกอย่าง และอันที่จริงมีมากขึ้นเสรีภาพที่จะไม่เป็นทาสของบาปและความตาย ไม่เป็นทาสของพฤติกรรมที่ไม่ดีทั้งหลาย การประทับอยู่ของพระเจ้าเป็นการเพิ่มศักดิ์ศรีความเป็นตัวของเราให้โดดเด่นมากขึ้น เพราะเราเป็นพระฉายาลักษณ์ของพระเจ้า เรายิ่งต้องมีอิสระ มีเสรีภาพ มีมโนธรรมและชีวิตที่แสนดีขึ้น เพราะมีพระเจ้าสำนักอยู่ในชีวิตเรา

• เมื่อเรามั่นใจ เชื่อมั่นและศรัทธาในพระเจ้า ในศีลล้างบาปที่เราได้รับ ในการประทับตราศักดิ์สิทธิ์ที่เราได้รับ เราย่อมต้องเด่นชัดในความจริง เราได้รับแบกความตายของพระองค์ไว้ชีวิตเรา “เครื่องหมายกางเขน เดชะพระนามที่เรากระทำทุกค่ำเช้า” มีค่ายิ่ง เป็นการประกาศว่า เราได้รับแบก “ความตายบนไม้กางเขน” ของพระองค์ไว้ในชีวิตเรา... หมายความว่า เราคริสตชนทุกคนเราได้รับประทับตราและรอยแห่งความรักของพระเจ้าองค์ความรักผู้ทรงรักเราถึงเพียงนี้ ทรงยอมรับความทรมานสิ้นพระชนม์เพราะบาปและความตายเพื่อเรา ทรงรักเราจนถึงที่สุด ถึงเพียงนี้ Sic nos amantem ทรงรักเราถึงเพียงนี้ ดังนั้น ชีวิตของเราคริสตชนได้รับการประทับตราด้วย “ความรัก” อย่างไม่สามารถลบเลือนได้เลย ความรักจึงไม่ทำลายอิสรภาพของเรา แต่ให้เรามีเสรีภาพมากขึ้นในความรัก เรามีอิสรภาพ มีรอยยิ้มเต็มที่ มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม และมีหัวใจที่ต้องกล้าเดินไปในความรักจริงๆ...

• พ่อสอนเสมอว่า สอนตัวพ่อเอง สอนสามเณร และสัตบุรุษ ว่า เราคริสตชนถ้าไม่น่ารัก ไม่เป็นคนที่แสนดีจริงๆ รักจริงๆ ให้อภัยเสมอจริงๆ อ่อนโยนจริงๆ เมตตาจริงๆ ถ้าไม่มีลักษณ์แบบนี้ เราทำเสียหายมาก เราทำให้ความรักของพระเจ้าในชีวิตเราเสียหายไปมากทีเดียว... “พ่อกล่าวเสมอว่า เป็นคริสตชนไม่เป็นคนที่แสนดีไม่ได้นะครับ...”

• อ้อเกือบลืม คนที่โดนผีสิงเจ้าลงองค์เข้ามักจะมีอาการหนึ่ง คือ “อึดและอดทนผิดปกติ” ไต่บันไดมีดได้ เอาเข็มแทงทะลุกระพุ้งแก้ม (จุดบางๆที่ไม่มีเส้นประสาทมากนัก) ได้ ลุยไฟได้ แต่ต้องเดินเร็วๆ นะเดี๋ยวไหม้... ฯลฯ อึดผิดปกติ...

• พี่น้องที่รักครับ เราคริสตชนที่มีพระเจ้าประทับอยู่จริงๆโดยทางศีลล้างบาป โดยทางศีลมหาสนิท พระวาจาและชีวิตภาวนา เราต้อง “อึดอดทนเป็นพิเศษ” นะครับ
o ต้องอึดมาก กับความโหดร้ายของสังคมโลกที่ขาดศีลธรรม อยุติธรรม เบียดเบียน และยั่วยวนให้หลงใหล
o ดังนั้น ดังนั้น ดังนั้น ....เราต้องอึดเป็นพิเศษ “อดทน” มาเป็นพิเศษ “ความรักย่อมอดทน ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่ช่างจดจำความผิด...” วันนี้นักบุญเปาโลจึงกล่าวไว้น่าฟังและชัดเจนว่า

• “เรามีสมบัตินี้เก็บไว้ในภาชนะดินเผา เพื่อแสดงว่าอานุภาพล้ำเลิศนั้นมาจากพระเจ้า มิใช่มาจากตัวเรา

• เราทนทุกข์ทรมานรอบด้าน แต่ไม่อับจนเราจนปัญญา แต่ก็ไม่หมดหวัง

• เราถูกเบียดเบียน แต่ไม่ถูกทอดทิ้ง

• เราถูกตีล้มลง แต่ไม่ถึงตาย

• เราแบกความตายของพระเยซูเจ้าไว้ในร่างกายของเราอยู่เสมอ เพื่อว่าชีวิตของพระเยซูเจ้าจะปรากฏอยู่ในร่างกายของเราด้วย”

• พี่น้องที่รักครับ เราฟังพระวาจาวันนี้ชัดมากใช่ไหมครับ พระเจ้าอยู่กับเรา เราต้องมีชีวิตเหมือนพระองค์ อดทน มั่นคงในความเชื่อ เพราะพระเจ้าประทับกับเรา เรามีเสรีภาพ เราไม่ได้ถูกครอบงำแต่เราได้รับตราแห่งความรักและเสรีภาพเพื่อตัดสินใจที่จะรักเหมือนที่พระเจ้าทรงรักเรา... ขอพระเจ้าอวยพรนะครับ... เป็นคริสตชนต้องดีเสมอครับ อ่านพระคัมภีร์ด้วยนะครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก