“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน 2016
สัปดาห์ที่ 31 เทศกาลธรรมดา
ฟป 3:3-8ก………….
3พวกเราเท่านั้นเป็นผู้ที่เข้าสุหนัตโดยแท้จริง เป็นผู้ประกอบศาสนพิธีด้วยจิตของพระเจ้า และภูมิใจในพระคริสตเยซู ไม่วางใจในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทางกาย 4แม้ว่าข้าพเจ้ามีเหตุผลที่จะวางใจในการปฏิบัติเช่นนี้ได้ก็ตาม ถ้าผู้ใดคิดว่าตนมีเหตุผลที่จะวางใจในการปฏิบัติเช่นนี้ ข้าพเจ้าก็ยังมีเหตุผลมากกว่า

5ข้าพเจ้าได้รับพิธีสุหนัตเมื่อเกิดมาได้แปดวัน เป็นเชื้อสายชนชาติอิสราเอลจากตระกูลเบนยามิน เป็นชาวฮีบรูเกิดจากชาวฮีบรู ในด้านธรรมบัญญัติ เป็นชาวฟาริสี 6ในด้านความกระตือรือร้น เป็นผู้เบียดเบียนพระศาสนจักร ในด้านความชอบธรรมตามธรรมบัญญัติ ไม่มีสิ่งใดจะตำหนิข้าพเจ้าได้ 7แต่สิ่งที่เคยเป็นประโยชน์แก่ข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าละทิ้งเพราะพระคริสตเจ้า 8นับแต่บัดนี้ข้าพเจ้าเห็นว่าทุกสิ่งไม่มีประโยชน์อีกเมื่อเปรียบกับประโยชน์ล้ำค่าคือการรู้จักพระคริสตเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• “นับแต่บัดนี้ข้าพเจ้าเห็นว่าทุกสิ่งไม่มีประโยชน์อีกเมื่อเปรียบกับประโยชน์ล้ำค่าคือการรู้จักพระคริสตเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า”....
o เมื่อหลายปีก่อน สักเกือบสิบกว่าปีเห็นจะได้เรามีโอกาสได้ฉลองปีพระวาจา คือ ประมาณปี 2007-2010 หรือปีพระคัมภีร์ในประเทศไทยเป็นพิเศษ

• วันนี้อยากเล่าเรื่องที่มาของพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่เล่มสีแดงขลิบสีทองอีกครั้งครับ เรียกว่าเป็นเรื่อเก่าเล่าใหม่อีกทีครับ...
o สังฆมณฑลกรุงเทพฯ ในปีนั้น 2007 ปีมงคลที่พระคาร์ดินัล พระคาร์ดินัลคนแรก ของประเทศไทยที่ได้รับการประกาศสมณะศักดิ์เป็นพระคาร์ดินัล)
o ปีนั้น ในปีพระคัมภีร์นั่นแหละที่พระคุณเจ้าได้เป็นพระคาร์ดินัลมาครบ 25 ปี ต้องฉลองครับ แต่จะฉลองอย่างไร...

• ในปีนั้น... คณะกรรมการบริหารสังฆมณฑลจะจัดการฉลองให้ท่าน และต้องการสร้างที่ระลึกให้กับท่าน ขณะนั้น พระคาร์ดินัลท่านยังเป็นพระอัครสังฆราชปกครองอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯอยู่

• พ่อจำได้ดีครับ
o เวลานั้น พ่ออยู่ในคณะกรรมการบริหารอัครสังฆมณฑล และพ่อจำได้ดีไม่มีลืมเลือนว่า... คณะกรรมการบริหารได้มีมติจะสร้าง “วัดที่ระลึก” เป็นวัดหลังเล็กๆในอำเภอหนึ่งที่เรายังไม่มีวัด แต่มีสัตบุรุษสักสองสามครอบครัวซึ่งถือว่าเป็นชุมชนคริสตชนที่เล็กมากๆ แต่ก็ตั้งใจอยากให้มีวัดน้อยที่นั่นสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกโอกาสครบรอบ 25 ปีการรับสมณะศักดิ์เป็นพระคาร์ดินัลในคราวนั้น...
o สรุปว่ามติการสร้างวัดนั้นโดยใช้งบประมาณเป็นเงินห้าล้านบาท จะเป็นไปได้หรือสำหรับอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯจะสร้างวัดเล็กๆ และด้วยเงินเพียงห้าล้านบาทเท่านั้น โดยปรารถนาอยากให้วัดนี้เป็นวัดสัญลักษณ์ เพื่อการฉลอง 25 ปีพระคาร์ดินัล
o พ่อจำได้ว่ากรรมการบริหารได้ตัดสินใจไปแล้ว สรุปว่าตกลงเป็นเสียงเอกฉันท์ให้เป็นมติของที่ประชุมกรรมการบริหารแล้วในเวลานั้น จะให้มีวัด จะสร้างวัด ราคาเพียง 5 ล้านบาท... ครับวัดจะหน้าตาเป็นอย่างไร จะได้ความสวยงามขนาดไหนหนอ จะได้อะไรหนอ แล้ววัดก็เล็กและไกลจากกรุงเพทฯ...และใครจะไปใช้หรือไปได้เห็นที่ระลึกเช่นนั้น

• ในการตัดสินใจครั้งนั้น พ่อไม่ได้อยู่ในการประชุม และมติก็ผ่านไปแล้ว... และพ่อก็เด็กมากๆในคณะกรรมการบริหาร (เด็กน้อยสุด) แต่พ่อขาดประชุมไปเทศน์เข้าเงียบอยู่ที่อุดรธานีหนึ่งสัปดาห์... เมื่อพ่อกลับมาและเข้าการประชุมในเดือนถัดมา ก็มีการอ่านรายงานการประชุมและติดตาม พ่อก็ได้รับฟัง และได้มีการติดตามกัน...

• ที่สุดพ่อจำได้ว่า เมื่อมาถึงเรื่องการสร้างวัดที่ระลึกนี้... เป็นพ่อเอง เด็กน้อยที่สุดในที่ประชุมกรรมการบริหาร ในความหมายของอายุของพ่อกับพวกคุณพ่อท่านอื่นๆ พ่อได้ยกมือขอให้ทบทวนมตินี้ ขอให้มีการตรวจสอบอีกครั้งว่าจะสร้างวัดดีไหม มีอย่างอื่นดีกว่าไหมที่จะทำเพื่อเป็นการฉลอง 25 ปีพระคาร์ดินัล เอาละครับ...
o พ่อจำได้ว่าประธานกรรมการบริหารได้ถามพ่อว่า “พ่อสมเกียรติมีข้อเสนออะไรหรือ”
o ทันทีพ่อมีโอกาสจึงขอทบทวนจริงๆครับ พ่อขอว่าขอให้มีการทบทวนว่า “ถ้าเราสร้างวัดที่ห่างไกลจะมีกี่คนได้ไป... จะมีสักกี่คนได้ใช้วัดนี้ และขนาดของวัดก็เล็กมากๆด้วย... เล็กเกินไป... คนมีโอกาสไปน้อย และก็จะมีน้อยคนจะได้ร่วมฉลอง... แล้วเป็นที่ระลึก 25 ปีพระคาร์ดินัลองค์แรกของประเทศไทย... น้อยไปครับ...” พ่อเรียนคุณพออุปสังฆราชในเวลานั้นเช่นนี้

• คุณพ่อบางท่านเริ่มออกอาการหงุดหงิดนิดหน่อย เพราะมติผ่านไปแล้วจากเดือนที่แล้ว และคงได้คิดการก่อสร้างกันแล้ว... พ่อเสนอแล้วก็ก้มหน้าเงียบๆ รอคำตอบ... ครับที่สุดเราก็มีการทบทวนมติครับ... ทบทวนกันใหม่หมดครับ..

• พ่อเสนอให้ทำอย่างอื่นแทนการสร้างวัดเล็กๆนั้น...
o จะทำอะไรดีที่สุด
o ทำอะไรที่จะดีว่าสร้างวัดหลังเล็กๆ ดังกล่าว

• ที่สุด ก็มาถึงความคิดกันที่ว่าปีนั้นเป็นปีพระวาจา เป็นปีฉลองพระคาร์ดินัล เราควรเอาสองอย่างมารวมกัน และพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ภาษาไทยเล่มแรกของประเทศไทย “เล่มสีเหลือง” พันธสัญญาใหม่เวลานั้นก็ขาย 400 บาท แพงเหมือนกันครับ แพงครับสำหรับคนที่ยากจน และอาจยากและเกินกำลังหลายคนที่จะเข้าถึงหรือซื้อได้...
o พ่อเสนอครับขอให้ใช้เงินห้าล้านพิมพ์พระคัมภีร์เล่มพิเศษ สำหรับฉลองพระคาร์ดินัล..พ่อจำได้ว่าพ่อพูดอย่างนี้.. “พ่อครับ ผมว่าให้พระคุณเจ้าทำสิ่งที่จะจารึกไว้นานแสนนานและมีคุณค่าให้พระวาจาเข้าถึงคริสตชนทุกครอบครัวจริงๆ... ท่านสร้างวัดมาเยอะและวัดใหญ่ๆทั้งนั้น... วัดเล็กๆที่ระลึกจะมีไม่กี่คนที่ได้ระลึกถึงท่าน ได้ไป ได้เห็น และก็จะพังเก่าไปอย่างรวดเร็ว... ผมเสนอให้นำเงินนั้นมาพิมพ์พระคัมภีร์ดีกว่าครับ... ทำเล่มพิเศษ สีของพระคาร์ดินัล คือ เล่มสีแดงขลิบทอง จำนวนสัก 30,000 เล่ม โดยมีหมายเลขกำกับด้วย... ให้พรคุณเจ้ามอบพระวาจา พระคัมภีร์แก่ลูกๆ ของท่านทุกครอบครัว ทุกบ้าน ให้ทุกบ้านมีพระคัมภีร์ เพื่อได้อ่านพระคัมภีร์”

• ขอบคุณพระเจ้า... ที่สุดกรรมการบริหารก็ใจดีครับ ตัดสินใจตามที่พ่อขอทบทวนมติ... กรรมการบริหารจึงมอบเงินห้าล้านบาทนั้นให้กับการพิมพ์พระคัมภีร์ครับ... สังฆมณฑลกรุงเทพฯ จึงตัดสินใจพิมพ์สามหมื่นเล่มสำหรับทุกครอบครัวในสังฆมณฑล และมีใช้ในทุกวัด และที่สำคัญ “แจกฟรี” โอกาสฉลองปีพระวาจาและฉลองพระคาร์ดินัล

• พ่อคิดอย่างนี้จริงๆครับว่า...ด้วยความคิดที่ว่าถ้าเราสร้างวัดที่นั่นเล็กๆ จะมีกี่คนที่ได้ไปที่วัดน้อยๆแห่งนั้น (ถ้าสร้าง) แต่ แต่ แต่ถ้าเราพิมพ์พระคัมภีร์แจกทุกครอบครัว... การฉลองโอกาสพิเศษปีพระวาจาและฉลองพระคาร์ดินัลนี้... ทุกคนจะเข้าถึงพระวาจาและได้ร่วมฉลองพระคาร์ดินัลด้วย....

• ที่ประชุมใจกว้างมาก และยินดีกับความคิดที่พ่อเสนอไป... ประธานบริหารคืออุปสังฆราช ได้ตัดสินใจและสั่งให้ตกลงตามนั้น
o เราจึงมี “พระคัมภีร์เล่มสีแดง และท่ำคัญขลิบทองอีกต่างหาก” ต้องบอกว่าพระคัมภีร์พันธสัญญาให่เล่มนี้เป็นเล่มประวัติศาสตร์... คือเป็นเล่มที่ทำขลิบทองเล่มเดียวและเป็นสีแดงที่มีเลขกำกับ ใช้ปกสีแดงเป็นสีของพระคาร์ดินัล
o สรุปว่า... ทุกอย่างที่เราตัดสินใจร่วมกันก็มาถงจุดที่ลงตัว แทนจะสร้างวัดเล็กๆ ที่น้อยคนคงได้ไปฉลอง แต่การฉลองผ่านพระคัมภีร์เล่มพิเศษนี้สามหมื่นเล่ม แจกให้กับทุกบ้าน เข้าไปถึงทุกบ้านเพื่อมีการฉลอง เพื่อถวายเกียรติและขอบพระคุณพระเจ้า ฉลองปีพระวาจาสามปี และฉลองพิเศษแด่พระคาร์ดินัล นอกจากใช้แจกในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ เรายังมีเผื่อแจกไปไปยังสังฆมณฑลต่างๆด้วย

• พี่น้องรู้ไหมว่า เราพิมพ์อะไรลงไปเป็นคำที่ระลึก.. ก็คำจากพระวาจาวันนี้นี่เองครับ เราพิมพ์คำว่า “พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู โอกาสได้รับแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัล ครบ 25 ปี 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1989-2008 “ขอมอบพระวาจาของพระเจ้าให้กับครอบครัวสัตบุรุษแห่งอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ทุกครอบครัว ทั้งนี้เพื่อทุกคนจะได้รู้จักพระคริสตเจ้าอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เพราะว่า “ประโยชน์ล้ำค่าคือการรู้จักพระคริสตเยซู” (ฟป 3:8)”

• สรุปว่า พระคัมภีร์เล่มสีแดงจึงมีที่มาน่าคิด และเหตุผลน่าประทับใจ
o ใครอ่านพระคัมภีร์จะได้รู้จกพระคริสตเจ้าอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นนะครับ
o เล่มนี้ใครไม่มีก็เสียดาย หรือมีแล้วทิ้งไว้ยิ่งน่าเสียดายครับ...
o พระคัมภีร์เล่มแดงนี้เก็บไว้นะครับเพราะไม่มีอีกแล้ว มีจำนวนและหมายเลขกำกับในปกหน้าด้านใน... เก็บไว้และใช้เป็นประวัติศาตร์นะครับ อยู่ได้เป็นร้อยปีนะครับ... (แม้ว่าปีนี้ 2014 ประเทศไทยของเรา เราคาทอลิกไทยจะได้มีพระคัมภีร์คำแปลภาษาไทยคาทอลิกของเราในเล่มครบแล้ว) แต่เล่มแดงมีประวัติศาสตร์และมีที่มีน่ารักครับ ไม่มีจำหน่ายครับ ไม่มีราคาแต่มีค่ามากและจะมากขึ้นทุกวันในเชิงประวัติศาสตร์..
o เป็นพระคัมภีร์เล่มที่แจกให้ฟรี และพิมพ์พิเศษสุด... มีเลขกำกับไว้ด้วยว่าเป็นเล่มที่เท่าไร... ใช้กันนะครับ... และขอให้มั่นใจว่า พระวาจาวันนี้ที่เราอ่านในมิสซานี้... ได้ใช้คำจากพระวาจาที่เราฟังในวันนี้เลยที่เราเลือกพิมพ์ในพระคัมภีร์เล่มสีแดงพิเศษนี้ คือ ถ้อยคำของนักบุญเปาโลที่ว่า “ประโยชน์ล้ำค่าคือการรู้จักพระคริสตเยซู”

• พี่น้องที่รัก ลูกๆที่รักของพระเจ้าครับ...อ่านพระคัมภีร์นะครับ จริงๆเล่มไหนก็ได้ให้ได้ อ่านเถอะครับ เพราะนักบุญเปาโลเตือนเราวันนี้ว่า “ประโยชน์ล่ำค่าคือการรู้จักพระคริสตเจ้า”... และนักบุญเยโรมย้ำว่า “ใครไม่รู้จักพระคัมภีร์ ไม่รู้จักพระคริสตเจ้า”... อ่านนะครับ...

• เป็นบทอ่านวันนี้ ถ้อยคำของท่านนักบุญเปาโลที่เรานำมาใส่ไว้ในพระคัมภีร์เล่มพิเศษดังกล่าว.. และที่สำคัญ เป็นคำท้าทายเราในวันนี้ เราได้รู้จักพระคัมภีร์จริงๆไหม ท่านนักบุญเปาโลย้ำว่า...
o นับแต่บัดนี้ข้าพเจ้าเห็นว่าทุกสิ่งไม่มีประโยชน์อีกเมื่อเปรียบกับประโยชน์ล้ำค่าคือการรู้จักพระคริสตเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า
o เปาโลละทิ้งทุกอย่างเมื่อได้พบพระเยซู และท่านยืนยันว่า อดีตที่ผ่านมา เปรียบไม่ได้เลยกับการรู้จักพระคริสตเยซู...
o พ่อขอให้พี่น้องได้มั่นใจว่า การได้อ่านพระคัมภีร์ ได้ฟังพระวาจา มีคุณค่าล้ำค่าสุดเพราะเราได้รู้จักพระองค์ครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก