“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม 2016

ระลึกถึงแม่พระแห่งลูกประคำ

กท 3:7-14…….
7ท่านทั้งหลายจงรู้เถิดว่า คนที่มีความเชื่อนั่นแหละคือบุตรของอับราฮัม 8พระคัมภีร์เห็นล่วงหน้าแล้วว่าพระเจ้าจะโปรดให้คนต่างศาสนาเป็นผู้ชอบธรรมโดยความเชื่อ พระองค์จึงทรงประกาศข่าวดีล่วงหน้าแก่อับราฮัมว่า อาศัยท่านนานาชาติจะได้รับพระพร 9ดังนั้น ผู้ที่มีความเชื่อจึงได้รับพระพรร่วมกับอับราฮัมผู้มีความเชื่อ


10ผู้ใดที่พึ่งการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติย่อมถูกสาปแช่ง เพราะมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ทุกคนที่ไม่ปฏิบัติตามทุกสิ่งที่เขียนไว้ในหนังสือธรรมบัญญัติย่อมถูกสาปแช่ง 11เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า ไม่มีผู้ใดเป็นผู้ชอบธรรมเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้าได้เพราะธรรมบัญญัติ เพราะผู้ชอบธรรมจะดำรงชีวิตอยู่โดยความเชื่อ 12ธรรมบัญญัติมิได้มาจากความเชื่อ ยิ่งกว่านั้น ผู้ที่ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติก็จะพบชีวิตอาศัยการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติเหล่านั้น 13พระคริสตเจ้าทรงไถ่กู้เราให้รอดพ้นจากการสาปแช่งของธรรมบัญญัติโดยทรงถูกสาปแช่งแทนเรา เพราะมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ทุกคนที่ถูกแขวนประจานบนต้นไม้ จงถูกสาปแช่ง 14เพื่อพระพรที่อับราฮัมได้รับจะได้ผ่านทางพระเยซูคริสตเจ้าไปถึงคนต่างศาสนาด้วย เพื่อเราจะได้รับพระจิตเจ้า ตามพระสัญญาโดยอาศัยความเชื่อ

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• “ความเชื่อ ความเชื่อ ความเชื่อ” ภาษาลาติน Fides ภาษาอังกฤษ Faith (Believe)

• เราพูด เรากล่าวกันถึงความเชื่อกันมากเหลือเกิน และความเชื่อจริงๆ คืออะไรหนอ

• เรามีความเชื่อ เรายืนยันว่าเรามีความเชื่อ แต่พ่ออยากให้เราวันนี้กล่าวถึงความเชื่อกันหน่อย ว่าความเชื่อคืออะไรและมีพลังแค่ไหน...

• อำนาจในการเปลี่ยนแปลง...มักจะมีและเริ่มต้นแบบนี้ครับ
1. การได้ยินได้ฟัง (Listening) เมื่อคนเราได้ยินได้ฟังอะไรก็ตาม มักจะเป็นจุดเริ่มต้นของความและการเปลี่ยนแปลงครับ... การฟัง ฟัง ฟัง ไปนาน คนเราจะคล้อยและไหลตามสิ่งที่ได้ยินได้ฟังไปได้อย่างง่ายๆเสมอ ฟังบ่อยๆ เช่นการประกาศโฆษณาชวนเชื่อ การย้ำๆ ย้ำฟังได้ยินได้ฟังจะโน้มนำคนเราให้ไหลคล้อยไปได้อย่างง่ายดายเสมอๆ ไม่ต้องไปที่ไหนไกลครับ ดูอย่างการดูทีวีในอดีตของบ้านเราสิ หลายปีมาแล้วเรามีทีวีช่องพิเศษ ช่องแดง ช่องเหลือ ไม่ทราบว่ามีช่องสีไหนลายไหนอีกไหม ถ้ามีคนที่เปิดช่องหนึ่งๆฟังเป็นประจำ ฟัง ฟัง ฟัง และก็ฟัง ถ้าฟังเหลือง ก็จะเหลืองจ๋อยหรือเหลืองโจ๊ดไปเลย และถ้าฟังช่องแดง ฟัง ฟัง ฟัง และก็ฟัง ก็จะแดงแจ๋ไปเลยเหมือนกัน ดีไม่ดี ถ้าช่องหนึ่งฟังไป เลยเหลือจัดแดงแจ๋ พ่อฟังช่องตรงข้าม ฟัง ฟัง ฟัง ก็พลิกผันได้เหมือนกัน เปลี่ยนสี เปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนข้างไปเลย ที่พ่อเขียนมาทั้งหมดเป็นตัวอย่างเท่านั้น ครับ เป็นตัวอย่างของการ “ฟัง” และอำนาจของการฟังครับ และเราก็รู้ว่าอำนาจของการฟังนั้น มีพลังเหลือเกิน

2. เมื่อได้ฟังแล้วก็เกิดอาการ “เข้าใจ เห็นด้วย” (Understanding) ตรงนี้แหละเริ่มมีปฏิกิริยาออกมา เพราะเห็นด้วย ยอมรับเริ่มเชียร์ขึ้น เอากับเขาด้วย เอาแบบเป็นหมู่ก่อน คาดเหลือง คาดแดงบนหน้าผาก เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง ก็เริ่มออกอาการตามไป ไปไหนไปกัน เอาด้วยไม่เข้าใจแต่มันส์จึงอยากตามไป เรียกว่า คล้อยตามพฤติกรรมบางทีเริ่มออกอาการแรง ทั้งๆ ที่ “ไม่เข้าใจจริง” เพียงแต่กระแสพาไป การฟังมีอิทธิพลนำไป

3. เกิดความ “ตระหนัก” ว่าต้อง “เอาจริง” (Awareness) ไม่จริงไม่ได้แล้ว ต้องออกแรงกันละเพราะ ได้ยินได้ฟังมา เห็นด้วยแล้ว ก็ตระหนัก.... เฮละโลกันล่ะครับ ไปไหนไปด้วย ไปปิดที่นี่ ไปขวางที่โน่น ไปล้อมตรงนั้น ตรงนี้ เริ่มเอาหมด แม้ไม่เข้าใจจริงๆ ก็ตามแต่ แต่ไปครับ...

• ครับ สามขั้นตอนที่กล่าวมานี้เรียกว่า “กระแส” กระแสและพลังของการฟัง การได้ยินได้ฟัง ผลตามมาเป็นความเข้าใจ ตระหนัก แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะจบตรงนี้แหละครับ ไปต่อไม่ได้ไกล ขาดการฟัง ขาด “น้ำเลี้ยง” ไม่มีเสียงตามสายไม่มีภาพตามจอเดี๋ยวก็จางหายไปเอง... หรือจอดับสักสามวันความเข้มก็หมดไป หรือกลับบ้านไปพักหนึ่งก็ไฟแรงๆมอดไปครับ...

• แต่ แต่ แต่.... ถ้าสิ่งที่ได้ฟัง ได้เข้าใจ ได้ตระหนัก เติบโตต่อไป ไปจนถึงกลายเป็น “ความเชื่อ” เมื่อไรละก็ “แรง” ครับ “ความเชื่อ” ถ้าได้เชื่อจริงๆละก็เรียกว่า “ยอมสละชีวิตกันได้เลยครับ”

• แต่เรื่องความเชื่อก็ยังมีประเด็นต้องพิจารณา....
o ความเชื่อแท้ ถ้าสิ่งที่เชื่อเป็นความจริง เป็นความถูกต้อง เป็นความเชื่อแท้จริง คนเราก็จะมุ่งไปถูกทาง สละชีวิตและอุทิศตนได้คุ้มค่าเพื่อความเชื่อ หรืออุดมการณ์ที่ถูกต้องประการนั้น... และความเชื่อนั้นจะถูกต้อง จะดีจริง ถ้า “เป้าหมายคือเนื้อหา หรือตัวบุคคล” ที่เป็นเป้าหมายของความเชื่อนั้นเป็น “ความจริง ของจริง ถูกต้อง เที่ยงตรง” ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็เยี่ยมยอดเลยครับ แต่
o ถ้าความเชื่อที่เชื่อนั้นมันเป็น “ของปลอม” ไม่ใช่ของจริง โกหก หลอกลวง และเต็มด้วยอุบายและความจอมปลอม ความเชื่อนั้นกลายเป็น “งมงาย ลุ่มหลง หลงผิด หลงประเด็น” และกลายเป็น “ความเท็จ และปฏิบัติเท็จ” สุดท้ายก็เสียเปล่าไป น่าเห็นใจ น่าเสียดายในที่สุด และจะเรียกว่า “น่าเวทนา” ก็ว่าได้.... และลงท้ายลงเอยในเชิงของปรีชาญาณ เขาเรียกว่า “เขลา โง่ และลวงหลอก”

• พี่น้องที่รัก ที่สุด “ความเชื่อของเรา” คือ “พระเจ้าครับ”
o ไม่ต้องกลัวพลาด ไม่ต้องกลัวหลง ไม่ต้องกลัวหลอกลวง
o และไม่ต้องกลัวโง่เขลาเลยครับ สบายใจได้ พระองค์ไม่มีช่องนี้ช่องโน้น พระองค์ไม่มีสีนี้สีโน้น ไม่มีพวกนี้พวกโน้นครับ สำหรับพระเจ้ามีช่องทางเดียวที่ถูกต้องที่สุด คือช่องทางแห่งความจริง ความรักและสันติสุขครับ มีความรัก มีความเมตตา ไม่มีที่สิ้นสุด
o ตามพระองค์ไปจะไม่หลงทาง เดินตามพระองค์จะถึงที่หมายแน่นอนครับ...

• ดังนั้น สำหรับเราคริสตชน ฟัง ฟัง ฟัง...
o ฟังพระองค์ให้มาที่สุด ฟัง “พระวาจา พระคัมภีร์”
o พระองค์ประกาศข่าวดีและความดี และข่าวดีและความดีไม่ใช่การโฆษณาสิ่งใด อื่นๆนอกจาก “พระองค์เองครับ” ทรงรักเราจนยอมตายเพื่อเรา ทรงกลับคืนชีพเพื่อเรามีความหวังครับ....
o อ่านพระคัมภีร์วันนี้จะมีคำตอบอย่างดีครับ ไม่มีช่องทีวีสีๆแล้วช่วงนี้ หันมาเปิดความจริงตลอดนิรันดร คือ พระวาจาทรงชีวิตด้วยกันนะครับ
o ยิ่งอ่านยิ่งรัก ยิ่งอ่านยิ่งมีความหวัง ยิ่งอ่านยิ่งสงบและสันติครับ พระวาจาทรงชีวิตนิรันดรครับ อ่านแล้วไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องโต้ความรู้กันมา แต่อ่านแล้วปฏิบัติตามพระธรรมของพระเจ้า จะมีชีวิตนิรันดรครับ
o ไม่ต้องคลั่งอุดมการณ์ ไม่ต้องคลั่งธรรมเนียม แต่แน่นหนักในความรักของพระเจ้า และแบบฉบับของพระองค์ก็เพียงพอครับ
o ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่าน พระองค์ยอมสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพราะทรงรักเราครับ
o ดังนั้น จง “รัก” เหมือนพระองค์ รักพี่น้อง รักพระเจ้า บัญญัตินี้เยี่ยม เชื่อได้ และฝากฝังไว้เป็นอุดมการณ์ได้เลยครับ คือ บัญญัติแห่ความรักนั่นเองครับ....
o พระเจ้าอวยพรครับ..... ที่สุด นี่อย่างไรครับ “ความเชื่อของเรา” คือ “พระเยซู”

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก