“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันอังคารที่ 2 สิงหาคม 2016

สัปดาห์ที่ 18 เทศกาลธรรมดา

ยรม 30:1-2,12-15,18-22………..
1พระยาห์เวห์ตรัสกับเยเรมีย์ว่า 2“จงเขียนถ้อยคำทุกคำที่เราได้บอกท่านไว้ในหนังสือเพื่อจะอ่านในภายหลัง 12พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้
บาดแผลของท่านรักษาไม่หาย
รอยฟกช้ำของท่านก็สาหัส


13ไม่มีผู้ใดช่วยแก้คดีของท่าน
ไม่มียารักษาบาดแผลของท่าน
ท่านจะไม่มีวันหายเจ็บ
14คนรักทุกคนของท่านได้ลืมท่าน
เขาไม่แสวงหาท่านอีกแล้ว
เพราะเราเฆี่ยนตีท่านเหมือนศัตรูโบยตี
เป็นการลงโทษอย่างที่คนโหดร้ายทำ
เพราะความผิดของท่านใหญ่หลวง
บาปของท่านมากมาย
15ทำไมท่านจึงร้องเพราะบาดแผล
รอยฟกช้ำของท่านรักษาไม่ได้
เพราะความชั่วร้ายของท่านใหญ่หลวง
บาปของท่านมากมาย
เราได้ทำสิ่งเหล่านี้แก่ท่าน

18พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้
ดูซิ เราจะตั้งกระโจมของยาโคบให้กลับดีเหมือนเดิม
เราจะสงสารที่อาศัยของเขา
เมืองจะถูกสร้างขึ้นอีกบนกองซากปรักหักพัง
พระราชวังจะถูกตั้งขึ้นอีกในที่เดิม
19เพลงขอบพระคุณและเสียงของผู้ฉลองยินดีจะออกมาจากที่เหล่านั้น
เราจะทวีจำนวนของเขา เขาจะไม่ลดจำนวนลง
เราจะให้เกียรติเขา
เขาจะไม่ถูกเหยียดหยาม
20ลูกหลานของเขาจะเป็นเหมือนเดิม
ชุมชนของเขาจะมั่นคงอยู่ต่อหน้าเรา
เราจะลงโทษทุกคนที่เบียดเบียนเขา
21เจ้านายของเขาจะเป็นคนหนึ่งจากหมู่ของเขา
ผู้ปกครองเขาจะมาจากหมู่ของเขา
เราจะทำให้ผู้นั้นเข้ามาใกล้
และเขาจะเข้ามาใกล้เรา
เพราะผู้ใดเล่าจะกล้าเสี่ยงชีวิตเข้ามาใกล้เรา
- พระยาห์เวห์ตรัส –

22ท่านทั้งหลายจะเป็นประชากรของเรา
และเราจะเป็นพระเจ้าของท่าน

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• “ก็รู้ๆอยู่แต่ไม่เป็นไร.... เห็นอยู่ตำตา เห็นอยู่ทนโท่ แต่ก็ไม่ติดใจอีกแล้ว ให้อภัยแล้ว...ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร....”

• พ่อเคยได้ยินคำถามแบบนี้บ่อยๆ
o “พ่อครับ พ่อคะ (ส่วนใหญ่จะคะมากกว่าพ่อครับ อาจเป็นเพราะผู้หญิงมาวัดมากกว่า แก้บาปมากกว่า และละเอียดอ่อนกว่า).... เวลาที่ลูกมาแก้บาป ขอโทษพระเจ้า แต่ลูกยังรู้สึกผิดเสมอ ไม่ค่อยแน่ใจว่าบาปหมดไหม บาปที่แก้ไปได้รับการยกโทษหมดเลยไหม ลูกสะอาดพอจริงๆไหม.... บางทีลูกรู้สึกว่า แก้บาปแล้ว แต่ยังไม่สบายใจ ไม่แน่ใจ... คิดว่า บาปจะหมดไปไหม พระเจ้าจะยกโทษให้หมดไหมคะ....”

• ครับ คำถามแบบนี้มีบ่อยๆ ทุกครั้งที่พ่อได้ยินคำถามแบบนี้ พ่อมักจะตอบด้วยประสบการณ์และความเข้าใจ จะใช้เทววิทยาหนักๆ ก็คงยากเหมือนกัน...

• เวลาต้องตอบปัญหาแบบนี้.... พ่อมักจะอ้างถึงคำพูดของคุณพ่ออาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านเสียชีวิตไปนานแล้ว คุณพ่อ โมลิ่ง คณะเยซูอิต... ท่านบอกว่า
o บางทีเราคิดว่า เวลาที่เรามาแก้บาป เราเป็นเหมือนกระดานไวท์บอร์ดสีขาวสะอาด และเราได้ทำบาป เหมือนกับเราทำให้ชีวิตที่ขาวสะอาดนั้นมีจุดดำๆ เต็มไปหมด...
o จุดใหญ่ จุดเล็ก บาปหนักบาปเบา... (กระดานชีวิตไม่สะอาดเลย อันนี้พ่อเติมเข้ามาครับ)
o และเราก็มาหาพระสงฆ์... มาแก้บาปอย่างดี และเราคิดว่า เมื่อได้รับการอภัย... พระสงฆ์ยกบาป ทำหน้าที่เหมือนกับแปรงลบกระดานไวท์บอร์ด การยกบาปคือเอาแปรงลบๆ และกลับไปโอ้โห สะอาดมาก ขาวบริสุทธิ์จริงๆ...

• เรามักคิดแบบนี้ แต่อันที่จริง อันที่จริง บาปและรอยดำๆเคยมีอยู่ และมันก็เคยอยู่ตรงที่ที่เราทำผิด
o กล่าวให้ชัด เรียกว่า ข้อเท็จจริงแห่งบาปที่เราได้ทำ (Metaphysical Facts) ไม่ได้จบไป ไม่ได้หายไป สิ่งที่ทำแล้วก็ได้ทำแล้ว
o ตัวอย่างเช่น เราได้ตบหน้าเพื่อน เราได้ทำร้ายเขา ทำแล้วก็ทำแล้ว รอยตบยังแดงๆ อยู่เลยเวลาที่เราแก้บาปแล้ว รอยตบอาจหายไปในที่สุด แต่การกระทำที่เคยได้กระทำยังอยู่ คือได้กระทำไปแล้ว....
o ถ้ากล่าวถึงกรณีเราทำบาป คือได้ทำแท้ง... เราเสียใจ แก้บาปยอย่างดี ใช้โทษบาปอย่างดี แต่สิ่งที่เคยทำก็ได้ทำแล้ว เด็กผู้บริสุทธิ์คนนั้น ก็ได้ตายแล้ว ไม่ได้กลับมามีชีวิตอีก...

• สรุปว่า สิ่งที่ทำแล้ว ก็ได้ทำแล้ว ไม่สามารถ “ไม่ทำ ไม่เกิด ไม่เคยเกิดขึ้น เพราะการแก้บาป” เพราะร่องรอยของการกระทำ สิ่งที่ได้ทำ ก็ยังอยู่ทนโท่...

• แต่... แต่... แต่.... อย่าเพิ่งตกใจ อ่านกันต่อไปอีหน่อย เพื่อเข้าใจเข้าถึงการให้อภัยของพระเจ้า
o การให้อภัยของพระเจ้าในการรับศีลอภัยบาปคืออะไร...
o ก็แปลว่า เมื่อเรามาขอโทษ พระเจ้าเห็นสิ่งทรงทราบดีที่เราทำ แม้บางทีสังคม หรือคู่กรณีเห็นสิ่งที่เราทำ หรือไม่เห็น แต่เรารู้อยู่คนเดียวก็ตาม...
o แต่พระเจ้า โดยผ่านทางการยกมืออวยพรอภัยบาปและยกบาปของพระสงฆ์.... โดยผ่านทางการเข้ามาขออภัยของเราอย่างชัดเจนเป็นเครื่องหมายว่า “เราเสียใจ เราขอโทษ”....
o พระเจ้ายืนยันกับเราด้วยความรักจริงๆ เหมือนกับพระองค์ตรัสว่า ว่า “ไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไรลูกรัก...”
o คือ พระเจ้ารู้ พระเจ้าเห็น และเราก็เห็นบาปนั้นอยู่ต่อหน้าว่าเราได้ทำ แต่จากที่เราเชื่อศรัทธาและไว้วางใจพระเจ้า และมั่นใจในพลังแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า เกินกว่าบาปของเรา
o การให้อภัย คือ พระองค์บอกกับเราว่า “ไม่เป็นไรแล้วลูก” พระองค์ให้อภัย แม้สิ่งที่ได้ทำผิดนั้นได้ทำไปแล้ว เกิดขึ้นแล้ว เห็นอยู่ เหมือนตัวเราจะมีจุดดำๆเพราะความผิด มอมแมมบ้าง แต่ก็ “ไม่เป็นไร”
o พระเจ้าเป็นพระบิดา ทรงรัก และสำหรับพระองค์ คือ ก็ไม่เป็นไร...

• พ่อคิดถึงรูปเด็กเล็กที่ตัวมอมแมม... กินสปาเก็ตตี้และก็ซอสกระเด็นเต็มหัว เต็มหน้าหา เห็นแล้วก็ขำๆ... อาบน้ำแล้ว สะอาดแล้ว แต่ก็เป็นภาพที่ไม่ลืมเลย
o คิดถึงทุกครั้ง ก็ขำทุกที... บางทีโตแล้ว ก็ยังเป็นเรื่องเล่าย้อนความหลังให้ขำๆ ตลอดไปนั่นเอง...
o แต่ ไม่เป็นไรแล้ว ผ่านไปแล้ว และทุกครั้งที่คิดถึงอดีตที่ทำผิดไปก็รู้สึกดีทุกทีที่พระเจ้าทรงรักและเมตตา...
o หรือเปรียบเทียบเหมือนรอยแผลเป็นจากความซุกซนของเรา ที่แอบเล่นประทัด เล่นมีดคมๆ แล้วก็โดนจนได้...เป็นแผลเป็นติดตัวตลอดชีวิ แผลหาย แต่รอยแผลเป็นยังอยู่เลย... คิดถึงทีไรก็อดคิดไม่ได้ว่า “ไม่น่าเลย”....

• จึงไม่แปลกครับ ที่ในมิสซาตอนต้นมิสซาเราต้องสวดบาปสารภาพบาป และข้อน-อก (ทุบที่หน้าอกประกาศความเสียใจเสมอ) เพราะเราสำนึกถึงความผิดที่เราได้กระทำ และเรารู้ว่าพระเจ้าทรงรักเรา.... แม้ตัวเราจะมีรอยแผลเป็นเต็มไปหมด หรือร่องรอยที่เคยเป็นเต็มไปหมด ก็...ไม่เป็นไร

• ครับ การให้อภัยของพระเจ้า... ไม่ได้แปลว่า พระเจ้าลืมบาปของเรา พระองค์ลืมไม่ได้ พระองค์เป็นพระปรีชาญาณสูงสุด...
o แต่...พระองค์ไม่ได้ติดใจอีกต่อไป เห็น รู้ แต่ไม่เป็นไร พระองค์รัก และรักต่อไป...
o พระเจ้ารักเราคนบาปมากขึ้นด้วย (คิดแบบมนุษย์) ถ้ารู้ว่าเราอ่อนแอและพยายามที่จะแก้ไขพัฒนาตน
o พระองค์รักเราคนบาปมากขึ้นเพราะพระองค์ทรงเป็นความรักนิรันดร ให้อภัย ไม่เป็นไร และปรารถนาจะอวยพรเรามากขึ้นเสมอ เมื่อเรากลับมา...
o จำเรื่องลูกล้างผลาญได้ใช่ไหม... ลูกกลับมาเป็นอย่างไร... “บิดามองเห็นลูกแต่ไกล จึงวิ่งเข้าไปสวบกอดและจูบเขา (ใครเห็นใครก่อน ใครวิ่งก่อน ใครเป็นฝ่ายเคลื่อนเข้าหาก่อน)
o ลูกสารภาพ แต่บิดาดูเหมือนไม่ได้ฟัง กลับหันไปสั่งคนใช้... ‘เร็วไปเอาเสื้อสวยที่สุดมาสวมให้ลูกเรา... เราแหวนมาสวมนิ้ว เอารองเท้ามาสวมให้... ฆ่าวัวอ้วนพีเลี้ยงฉลอง...’”
o โอ้โห ความรัก ความเมตตา และการให้อภัย ไม่ถามสักคำถึงความผิดที่ได้ทำไป ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจฟังด้วยซ้ำ
o จากพระคัมภีร์เราเชื่อมั่นได้ว่า พระเจ้าเป็นแบบนี้ครับ พระเยซูเจ้าเล่าเรื่องนี้ให้เราฟังในพระวรสาร (ลูกา 15) แล้วจะห่วงอะไรอีก กลับมาเท่านั้น ก็เกินพอ... ความรักรู้แต่ไม่ชั่งจดจำความผิด ไม่ติดใจ... ไม่เป็นไร ให้อภัย รักจริงๆ... รู้น่า แต่ไม่เป็นไร

• พี่น้องที่รัก บทอ่านพระวาจาจากเยเรมีย์วันนี้
o เป็นดังบทเพลง วรรณกรรมแห่งความรักที่ประชากรผิดจริงๆ พระเจ้ารู้ ให้เยเรมีย์เตือน แต่ในคำเตือน พระเจ้าจะทำให้เขารุ่งเรือง และสัญญาต้องเป็นสัญญา พระองค์จะอวยพร พระองค์จะทำให้เขามั่นคง เพราะสัญญาของพระเจ้าคือสัญญาแห่งความรัก...
o พระเจ้าทรงรู้ เห็นอยู่ทนโท่ แม้บาดแผลอยู่ต่อหน้า “รักษาไม่หายด้วย รอยฟกช้ำก็อยู่ตลอด” แต่พระองค์ให้อภัย ไม่เป็นไร และอวยพร อ่านพระคัมภีร์วันนี้ดีๆนะครับ และเราจะรู้ว่า ความรักของพระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าบาปของเราจริงๆ และเราจะรักพระองค์มากขึ้นแน่นอนครับ
o หรับพระองค์ “ไม่เป็นไร เพราะทรงรักเรา รู้นะว่าเราผิด แต่ไม่เป็นไรจริงๆ” ขอพระเจ้าอวยพรครับ...

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก