“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม 2016

สัปดาห์ที่ 14 เทศกาลธรรมดา

อชย 14:2-10……………..
2อิสราเอลเอ๋ย จงกลับมาเฝ้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเถิด
ท่านสะดุดล้มลงเพราะความผิดของท่าน


3จงเตรียมถ้อยคำที่จะพูดมาด้วย
และกลับมาเฝ้าพระยาห์เวห์
ทูลพระองค์ว่า “โปรดทรงลบล้างความผิดทั้งหมด
และทรงรับสิ่งที่ดี
ข้าพเจ้าทั้งหลายจะนำคำสรรเสริญจากปากมาถวายแทนโคเพศผู้
4อัสซีเรียจะไม่ช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายให้รอดพ้น
ข้าพเจ้าทั้งหลายจะไม่ขี่ม้าอีก
จะไม่เรียกสิ่งที่มือของข้าพเจ้าได้สร้างขึ้น
อีกต่อไปว่า ‘พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย’
เพราะลูกกำพร้าพบพระกรุณาในพระองค์”

5(พระยาห์เวห์ตรัสว่า)
เราจะรักษาเขาให้หายจากความไม่ซื่อสัตย์ของเขา
เราจะรักเขาด้วยใจจริง
เพราะเราจะไม่โกรธเขาอีกแล้ว
6เราจะเป็นเหมือนน้ำค้างสำหรับอิสราเอล
เขาจะผลิดอกเหมือนดอกลิลลี่
เขาจะหยั่งรากเหมือนต้นสนสีดาร์แห่งเลบานอน
7กิ่งก้านของเขาจะแผ่ขยาย
เขาจะงดงามเหมือนต้นมะกอกเทศ
และจะมีกลิ่นหอมเหมือนเลบานอน
8เขาทั้งหลายจะกลับมานั่งอยู่ใต้ร่มเงาของเรา
เขาจะปลูกข้าวสาลีอีก
จะทำให้เถาองุ่นผลิตผลอุดม
มีชื่อเสียงเหมือนเหล้าองุ่นแห่งเลบานอน
9เอฟราอิมจะต้องเกี่ยวข้องอะไรกับรูปเคารพอีก
เราเองจะตอบและดูแลเขา
เราเป็นเหมือนต้นไซเปรสใบเขียวสดอยู่เสมอ
ท่านจะได้รับผลของท่านจากเรา
10ผู้มีปรีชาพึงเข้าใจเรื่องเหล่านี้
ผู้ใดฉลาดก็จงรู้
เพราะหนทางทั้งหลายของพระยาห์เวห์ล้วนเที่ยงธรรม
ผู้ชอบธรรมย่อมเดินตามทางนี้
แต่ผู้ล่วงละเมิดจะสะดุดล้ม

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• “ความรักเรียกร้องและรอคอยให้กลับคืนมา”
o ในที่สุดเราก็มาถึงตอนสุดท้ายของหนังสือประกาศโฮเชยา ประกาศกแห่งความรัก ประกาศกแสนหวานที่ประกาศความรักแสนหวานชื่นของพระยาห์เวห์
o ความรักไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ยอมทิ้งความรัก ไม่ยอมเลิกรัก ก็รักแล้วจะไม่รักได้อย่างไร

• อ่านตัวบทจากประกาศกโฮเชยาประจำวันนี้แล้ว ถ้าเรากลับไปอ่านประกาศกโฮเชยาอย่างดีๆ
o เราได้เรียนรู้จักพระเจ้าแท้จริง สุดแสนจะน่ารัก
o รู้จักความรักมั่นคงของพระองค์และความซื่อสัตย์ที่สุดของพระองค์
o ความรักนิรันดรไม่มีที่สิ้นสุดของพระเจ้า งดงามไปหมดครับ
o อ่านตอนสุดท้ายของหนังสือประกาศกโฮเชยานี้ดีๆ เราจะได้เข้าถึงความลึกซึ้งถึงความรักอย่างแท้จริง

• วันนี้พ่ออยากให้ข้อมูลจากพระคัมภีร์เกี่ยวกับความรักให้อ่านกันแน่นๆ สักหน่อยนะครับ...
o เราคริสตชนกล่าวถึง พูดถึงความรักกันตลอด เพราะว่าสำหรับเราพระเจ้าเป็นความรัก พระเยซูเป็นความรัก และศาสนาเราเน้นความรักมากเหลือเกิน

• แต่วันนี้หลังจากอ่านผ่านโฮเชยามาห้าวัน และพิธีกรรมจัดให้เราได้อ่านวันนี้เป็นวันสุดท้ายของประกาศกแห่งความรักของพระเจ้า นามว่า “โฮเชยา” วันนี้เรามาศึกษาความรักอย่างกระชับและอัดแน่นไปด้วยข้อมูลของพระคัมภีร์กันให้มากๆ สักหน่อยนะครับ
o หลังจากที่ได้ค้นคว้าและแสวงหาข้อมูลจากพระคัมภีร์มาแล้ว ดังนั้น พ่ออยากให้อ่านข้อมูลที่พ่อค้นมานำเสนอให้จากพันธสัญญาใหม่ในวันนี้ดีๆ
o โดยเฉพาะจากคำสอนมากมายของ นักบุญเปาโล บุคคลที่มีลักษณะคล้ายๆกับประกาศกโฮเชยา คือ ร้อนรน กระตือรือร้นและจริงๆ จังในเรื่องความรักและคำสอนมากๆ เพราะท่านนักบุญเปาโลผู้เคยเกลียชังพระคริสตเจ้าพระเจ้าองค์ความรัก แต่เมื่อได้พบพระองค์ และได้กลับใจมารักพระเยซูเจ้า จากที่เคยเกลียดชังกลายเป็นผู้สามารถพรรณาความรักของพระคริสตเจ้าได้งดงามกว่าใครๆ
o ในพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ นักบุญเปาโลเป็นคนที่เขียนถึงความรักได้งดงามมากที่สุดคนหนึ่งทีเดียว พ่ออยากให้อ่านข้อมูลต่อไปนี้ดีๆ จะได้เข้าใจ “ความรัก” ของพระเจ้าจริงๆ และอย่างดี
o อ่านแล้วเราจะเข้าใจบทเพลงแห่งความรักที่พระเจ้าทรงเรียกร้องประชากรให้กลับใจ อ่านแล้วจะเข้าใจพระเจ้ามาในประกาศโฮเชยาห์มากขึ้นอย่างแน่นอน
o บทเพลงแห่งความรักของพระยาห์เวห์ที่ทรงเรียกร้องให้ประชากรกลับใจมาหาพระองค์นะ ก่อนอื่นวันนี้เทเวลา เปิดหัวใจ ให้พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่เหล่านี้สอนเราเรื่องควารักนะครับ....

พระหรรษทานแห่ง “ความรัก” ในพันธสัญญาใหม่....

• ความรัก (agape) ไม่มีลักษณะของการเป็นเจ้าของ และไม่ใช่ความปรารถนาที่จะได้รับความพึงพอใจ แต่ความรักต้องการทำให้ผู้อื่นพอใจ

• ความรักสูงสุดคือความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา (1 ยน 4:19) ซึ่งทำให้พระองค์ประทานพระบุตร เพื่อทำให้คนบาปกลับคืนดีกับพระองค์ (รม 5:8; 8:32-39; 2 คร 5:18-21; อฟ 2:4-7; ดู ยน 3:16; 1 ยน 4:9-10)

• ความรักนั้นทำให้เขาไม่เป็นเพียงแต่ผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรรเท่านั้น (อฟ 1:4) แต่ยังเป็นบุตรของพระเจ้าด้วย (1 ยน 3:1)

• ความรักนี้ถือว่าเป็นความรักของพระเจ้า (พระบิดา) (รม 5:5; 8:39; 2 คร 13:11,13; ฟป 2:1; 2 ธส 2:16; เทียบ 1 ยน 2:15)
o เนื่องจากความรักเป็นสิ่งเดียวกับพระธรรมชาติของพระเจ้า (1 ยน 4:7ฯ,16)
o จึงพบความรักแท้นิรันดรนี้ในพระเยซูพระบุตรของพระเจ้าด้วย (รม 8:35,37,39; 2 คร 5:14; อฟ 3:19; 1 ทธ 1:14; 2 ทธ 1:13)
o ดังนั้น พระบุตรจึงทรงรักพระบิดาดังที่พระบิดาทรงรักพระบุตร (อฟ 1:6; คส 1:13; เทียบ ยน 3:35; 10:17; 14:31)
o พระบิดาทรงรักเราฉันใด พระบุตรก็ทรงรักมนุษยชาติฉันนั้น (ยน 13:1,34; 14:21 15:9)
o พระบุตรถูกส่งมาช่วยมนุษยชาติให้รอดพ้น (2 คร 5:14ฯ; กท 2:20; อฟ 5:2,25; 1 ทธ 1:14ฯ; เทียบ ยน 15:13; 1 ยน 3:16; วว 1:5)
o พระจิตเจ้าได้ประทานความรักเดียวกันนี้ (รม 15:30; คส 1:8) แก่คริสตชนทุกคน
o ดังนั้น เราคริสตชนทุกคนจึงเป็นบุคคลแห่งความรักของพระเจ้าแน่นอน (รม 5:5; เทียบ กท 5:22)

• การรักทั้งเพื่อนมนุษย์และศัตรู (มธ 5:43-48) ไม่เป็นเพียงผลตามมาที่จำเป็นจากความรักของพระเจ้าต่อเราเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง
o ยังพิสูจน์อีกว่า พระเจ้าทรงรักเรา (1 ยน 3:17; 4:20ฯ) และ
o ยังเป็นบทบัญญัติใหม่ที่พระคริสตเจ้าได้ทรงกำหนดไว้ (ยน 13:34ฯ; 15:12,17; 1 ยน 3:23; ฯลฯ) และ
o เป็นบทบัญญัติที่บรรดาสาวกได้เน้นอยู่เสมอ (รม 13:8; กท 5:13ฯ; อฟ 1:15; ฟป 2:2ฯ; คส 1:4; 1 ธส 3:12; 2 ธส 1:3; ฟม 5-7; เทียบ ยก 2:8; 1 ปต 1:22; 2:17; 4:8; 1 ยน 2:10; 3:10ฯ,14; ฯลฯ)

• นักบุญเปาโลรักคริสตชนในพระศาสนจักรต่างๆ ที่ท่านได้จัดตั้งขึ้น (2 คร 2:4; 12:15; ฯลฯ) และคริสตชนเหล่านี้ก็รักเปาโลเช่นเดียวกัน (คส 1:18; 1 ธส 3:6; ฯลฯ)

• ความรักเรียกร้อง
1. ความจริงใจ
2. ความถ่อมตน
3. ความไม่เห็นแก่ตัวและ
4. การยอมอุทิศตน (ข้อ 4-7; รม 12:9ฯ; 2 คร 6:6; ฟป 2:2ฯ)
5. การรับใช้ (กท 5:13 เทียบ ฮบ 6:10)
6. การช่วยเหลือกันและกัน (อฟ 4:2 เทียบ รม 14:15; 2 คร 2:7ฯ)

• ความรักปรากฏในความประพฤติ (2 คร 8:8-11,24 เทียบ 1 ยน 3:18) และ

• การที่เราเชื่อฟังพระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้า (ยน 14:15; 1 ยน 5:2ฯ; ฯลฯ) และทำให้ความเชื่อของเราบังเกิดผล (กท 5:6 เทียบ ฮบ 10:24)

• ความรักทำให้คริสตชนรวมเป็นหนึ่งเดียวกันในหมู่คณะ (คส 3:14; เทียบ 2 ปต 1:7) และ "ปกคลุม (เอาชนะ) บาปจำนวนมาก" (1 ปต 4:8; เทียบ ลก 7:47)

• เนื่องจากความรักต่อพี่น้องมาจากความรักต่อพระเจ้า แรงจูงใจของความรักจึงไม่ใช่ความกลัว (รม 8:28-39 เทียบ 1 ยน 4:17ฯ)

• เราไม่สามารถรักผู้อื่นได้ถ้าไม่รู้ความจริง (อฟ 4:15-16; เทียบ 2 ธส 2:10) และ
o การรู้ความจริงนี้เองทำให้เราตัดสินผิดถูกได้ (ฟป 1:9) และ
o ทำให้เราเข้าใจธรรมล้ำลึกเรื่องพระเจ้าเดชะพระจิตเจ้า (คส 2:2; เทียบ 1 ยน 4:7) และ
o เข้าใจความรักของพระคริสตเจ้า ซึ่งไม่มีวิธีอื่นจะเข้าใจได้ (อฟ 3:17-19; เทียบ 1 คร 8:1-3; 13:8-12)

• เนื่องจากพระคริสตเจ้า (อฟ 3:17) และพระตรีเอกกาพ (2 คร 13:13 เทียบ ยน 14:15-23; 1 ยน 4:12) ประทับอยู่ในวิญญาณซึ่งมีความรักนี้ ความรักนี้จึงหล่อเลี้ยงคุณธรรมทางเทววิทยา (ดู รม 1:16) ในบุคคลที่มีความรักเป็นลักษณะเด่น (1 คร 13:3)

• ความรักเป็นคุณธรรมเดียวที่คงอยู่ชั่วนิรันดร (ข้อ 8) และจะสมบูรณ์เมื่อเราจะเห็นพระเจ้าแล้วเท่านั้น (ข้อ 12 เทียบ 1 ยน 3:2)

• เมื่อนั้นแหละพระเจ้าจะประทานพระคุณต่างๆ ที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้ให้แก่ผู้ที่พระองค์ทรงรัก (1 คร 2:9 รม 8:28; อฟ 6:24; 2 ทธ 4:8; เทียบ ยก 1:12; 2:5)

• เมื่อได้อ่านและเข้าใจความรักอย่างหนักแน่น เต็มเปี่ยมแบบความรักของพระตรีเอกภาพจริงๆ และความรักของเราคริสตชนจริงๆจากข้อเขียนต่างๆ ของเปาโลและพันธสัญญาใหม่แล้ว

• พี่น้องที่รัก และจากนี้เรากลับไปอ่านโฮเชยาวันนี้ดีๆอีกที เราจะเข้าใจเพลงส่งท้ายของโฮเชยา

• บทเพลงของโฮเชยาในส่วนสุดท้ายของหนังสือประกาศกนี้ ได้พรรณนาแห่งความรักของพระเจ้า

• ความรักแท้จริง
o ต้องมีรากฐานอยู่ที่ความรักของพระเจ้าที่ทรงรักเราถึงเพียงนี้ (sic nos amantem)
o ขอให้เราคริสตชนทุกคนต้องเป็นบุคคลแห่งความรักดังเช่นพระเจ้าทรงรักเราทุกคนนะครับ
o ขอพระเจ้าอวยพรให้เราได้ รัก รัก รัก และพร้อมจะให้อภัยตลอดไปนะครับ....
o ความรักคือการให้ Love = give ดังนั้นรักที่มีอยู่ก่อนเสมอ จึงหมายถึงกรให้อภัยเสมอ Love Before จึงเท่ากับ Forgive
o ให้อภัยเสมอครับ รอคอยเสมอ และรักเสมอครับ คนที่มีความรักย่อมให้อภัยได้เสมอครับ.....

อ่านโฮเชยาอีกทีครับ... (ในวงเล็บคือคำอธิบายเพิ่มเติมของพ่อครับ)

• อิสราเอลเอ๋ย จงกลับมาเฝ้าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเถิด ท่านสะดุดล้มลงเพราะความผิดของท่าน จงเตรียมถ้อยคำที่จะพูดมาด้วย และกลับมาเฝ้าพระยาห์เวห์ ทูลพระองค์ว่า “โปรดทรงลบล้างความผิดทั้งหมด
o (กลับมาเถิด หย่าเหลิงเจิ้งไปไกลกว่านี้เลย ยอมเสียใจ ยอมเสียหน้า และเตรียมคำพูดสารภาพกลับมาเสียดีเถิดวิญญาณของข้าเอ๋ย อิสราเอลเอ๋ย สะมาเรียกเอ๋ย ตัวพ่อเองด้วยเอ๋ย บ่อยครั้ง เราก็เหลิงเจิ้งไปเหมือนกัน สะดุดล้ม ทำผิด กลับมาขอพระเจ้าเมตตาลบล้างความผิดของเราเถิด)

• “อัสซีเรียจะไม่ช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายให้รอดพ้น ข้าพเจ้าทั้งหลายจะไม่ขี่ม้าอีก”
o (ตีความซื่อๆ ตรง คือ ขอให้เราเลิกขี่ม้าเสียที และกลับมาหาพระเจ้า คือ ชีวิตที่พยศเย่อหยิ่งจองหองเหลือเกิน.. หลงเหลิงเจิ้งเหลือเกิน บัดนี้ จงเลิกพยศและกลับมาถ่อมตนต่อความรักของพระเจ้าเสมอ)

• “เราจะรักษาเขาให้หายจากความไม่ซื่อสัตย์ของเขา เราจะรักเขาด้วยใจจริง เพราะเราจะไม่โกรธเขาอีกแล้ว เราจะเป็นเหมือนน้ำค้างสำหรับอิสราเอล เขาจะผลิดอกเหมือนดอกลิลลี่ เขาจะหยั่งรากเหมือนต้นสนสีดาร์แห่งเลบานอน กิ่งก้านของเขาจะแผ่ขยาย เขาจะงดงามเหมือนต้นมะกอกเทศ และจะมีกลิ่นหอมเหมือนเลบานอน เขาทั้งหลายจะกลับมานั่งอยู่ใต้ร่มเงาของเรา เขาจะปลูกข้าวสาลีอีก จะทำให้เถาองุ่นผลิตผลอุดม มีชื่อเสียงเหมือนเหล้าองุ่นแห่งเลบานอน”
o (ที่สุด พระเจ้าก็แสนดี ที่สุดพระเจ้าก็มีแต่รัก รักนี้ก็มีแต่ให้... (ไม่ใช่พี่คนนี้นั้นมีแต่ให้นะครับ) แต่พระเจ้าแสนดีพระองค์นี้มีแต่ให้ ให้จริงๆไม่มีผลประโยชน์เหมือนเพลงพี่นี้มีแต่ให้นะครับ... พระองค์จะทรงรักษาให้หายจากความไม่ซื่อสัตย์ รักจริงๆตลอดไป ไม่มีโกรธ นั่นคือพระเจ้า และพระองค์จะเป็นน้ำจากฟ้าแห่งการฟื้นฟู ให้ชีวิต ให้โอกาส และให้ความเติบโตแท้จริง และเมื่อกลับมาหาพระเจ้า จะเกิดผลดี งดงาม
o อ่านตอนนี้แล้วพ่อได้กลิ่นอายของฝน เพราะนั่งเขียนที่ระเบียง ฝนกำลังตก แต่แดดออกด้วย พ่อได้กลิ่นอายความชุ่มฉ่ำของชีวิต... เออ เรา เลิกเหี่ยวเฉาฝ่ายจิตใจและความรักจริงกันเสียทีเถิด)

• “เอฟราอิมจะต้องเกี่ยวข้องอะไรกับรูปเคารพอีก เราเองจะตอบและดูแลเขา เราเป็นเหมือนต้นไซเปรสใบเขียวสดอยู่เสมอ ท่านจะได้รับผลของท่านจากเรา ผู้มีปรีชาพึงเข้าใจเรื่องเหล่านี้ ผู้ใดฉลาดก็จงรู้ เพราะหนทางทั้งหลายของพระยาห์เวห์ล้วนเที่ยงธรรม ผู้ชอบธรรมย่อมเดินตามทางนี้ แต่ผู้ล่วงละเมิดจะสะดุดล้ม”
o (พระเจ้าจะทรงปกป้องดูแลเรา และเราก็ควรเลิกยุ่งกับรูปเคารพและความหลงงมงายเสียที “งมงาย” เป็นอีกคำของคำว่า “โง่” นั่นเอง และพระเจ้าตรัสชัดเจน “ผู้ใดฉลาดก็จงรู้ เพราะหนทางของพระยาห์เวห์ล้วนเที่ยงธรรม”
o พ่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คงต้องยอมหายจากความหลง โง่ งมงาย กับการดำเนินชีวิตที่ไม่รู้จักพระเจ้า หรือการละทิ้งพระเจ้า เรียกว่า ถ้าไม่รักพระเจ้า ไม่รักความยุติธรรม ก็คงโง่งมงายและหลงเหลิงเจิ้งต่อไป... แล้วอ่านพระคัมภีร์แล้ว เราจะยอมหลงงมงายโง่ในการเจริญชีวิต เลือกผิดๆ เลือกพยศ หรือเลือกทำบาปต่อไปได้อย่างไร....)
o ขอให้เราทุกคนรู้ ตระหนักเสมอว่า พระเจ้ารักเราที่สุดครับ... และเจริญชีวิตตอบสนองความรักของพระเจ้าอย่างชาญฉลาดในความรักและในความดีเสมอไป....

พระวาจาแสนไพเราะ
5(พระยาห์เวห์ตรัสว่า)
เราจะรักษาเขาให้หายจากความไม่ซื่อสัตย์ของเขา
เราจะรักเขาด้วยใจจริง
เพราะเราจะไม่โกรธเขาอีกแล้ว
6เราจะเป็นเหมือนน้ำค้างสำหรับอิสราเอล

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก