“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม 2016

สัปดาห์ที่ 7 เทศกาลธรรมดา

วันนี้พ่อเริ่มต้นด้วยความรู้สึกดีๆ เมื่อได้อ่านพระคัมภีร์จดหมายของนักบุญยกอบ รู้สึกดีๆว่า ยากอบใช้คำสอนตรงๆ ง่ายๆของพระคัมภีร์ที่ยากอบเตือนสอนนี้ จำเป็นต่อชีวิตของคริสตชนเราจริงๆ พ่อคิดว่า ยากอบต้องการสอนเราคริสตชนให้คิดให้เป็นต้องมีปรีชาญาณ ฉลาดแบบคริสตชน รู้จักชีวิตที่ดีแบบคริสตชน ตรงนี้แหละคือประเด็นสำคัญที่สุด พ่อคิดว่าเราเริ่มอ่านพระคัมภีร์ตอนสั้นๆตรงนี้กันก่อนเลยครับ... น่าอ่าน อ่านง่าย เข้าใจง่าย แม้ปฏิบัติยังยากอยู่เสมอ แต่ถ้าเราอ่าน พ่อเชื่อ เชื่อว่า พระวาจาของพระเจ้าจะหล่อหลอมชีวิตจิตวิญญาณของเราอย่างดี และง่ายกว่าที่เราจะพยายามเสียอีกนะครับ ให้พระวาจาของพระเจ้าขับเคลื่อนเรา เป็นพลังแก่เรา นั่นคือประเด็นที่สำคัญที่สุด อ่านกันก่อนนะครับ

ยก 3:13-18…

13ใครบ้างคิดว่าตนฉลาดและมีปรีชาญาณ จงแสดงความฉลาดและปรีชาญาณนั้นอย่างอ่อนโยนด้วยการกระทำและความประพฤติดี 14แต่ถ้าใจของท่านขมขื่นด้วยความอิจฉาริษยา และมีความทะเยอทะยาน จงอย่าโอ้อวดและอย่ามุสาต่อต้านความจริง 15ปรีชาญาณเช่นนี้มิได้มาจากเบื้องบน แต่เป็นปรีชาญาณตามธรรมดาโลก ตามแบบวัตถุนิยมและตามแบบปีศาจ 16ที่ใดมีความอิจฉาริษยาและความทะเยอทะยาน ที่นั่นย่อมมีแต่ความวุ่นวายและความชั่วร้ายนานาชนิด 17ส่วนปรีชาญาณที่มาจากเบื้องบน ประการแรกเป็นสิ่งบริสุทธิ์ แล้วจึงก่อให้เกิดสันติ เห็นอกเห็นใจ อ่อนน้อม เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา บังเกิดผลที่ดีงาม ไม่ลำเอียง ไม่เสแสร้ง 18ผู้ที่สร้างสันติย่อมเป็นผู้หว่านในสันติ และจะเก็บเกี่ยวผลเป็นความชอบธรรม

อรรถาธิบายประเด็นสำคัญ

• เพียงเริ่มอ่าน พ่อก็รับรู้ได้ถึงพลังที่ทะลุทะลวงของพระวาจาของพระเจ้าจริงๆ
o ครับ พลังของพระเจ้าทะลุบาดลึกในหัวใจของเรา ก่อนจะอ่านอธิบายพระวาจาของพระเจ้า...
o พ่อคิดถึงคำสอนของพระสันตะปาปาฟรังซิสในช่วงนี้ ซึ่งต้องตรงกับพระวาจาของพระเจ้าอย่างมากๆ พระองค์เตือนความประพฤติของสมาชิกของพระศาสนจักร เรื่องการระมัดระวังการดำเนินชีวิตของพระศาสจักร
o เรามาอ่านกันตรงนี้สักหน่อยก่อนครับแล้วค่อยเข้าสู่การตีความพระคัมภีร์...

• คำสอนเตือนใจจากเอกสาร “พระดำรัสเตือนใจ” Evangelii Gaudium “ความชื่นชมยินดีแห่งพระวรสาร”
o พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงอุธรณ์ร้องขอ “ขอให้ชุมชนพระศาสนจักรอย่าได้ตกเป็นเหยื่อของความอิจฉาริษยา” หมายความว่า
o มีการทะเลาะเบาะแว้งกันมากเหลือเกินในหมู่ประชากรของพระเจ้า
o และในความท่ามกลางความแตกต่างของหมู่คณะคริสตชน ( EG 98)
o แล้วเราจะไปประกาศกับใครได้ถ้าพวกเราคริสตชนตกอยู่ในสภาพเช่นนี้??? (EG 100)

• เริ่มที่ถ้อยคำสอนใกล้ตัวเราของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระองค์ย้ำเตือนและเรียกร้องเราคริสตชนทั่วโลกอย่าได้ตกเป็นเหยื่อของความอิจฉาริษยา...

• ตรงลึกและชัดเจนดีครับ
o เพราะความอิจฉาริษยาเป็นบ่อเกิดของการทะเลาะเบาะแว้งและความแตกแยกมากเหลือเกิน
o พระสันตะปาปาเตือนเราตรงๆเรื่องนี้ ตรงกับคำสอนของยากอบวันนี้มากๆ ตอนนี้เรามาดูคำสอนกันครับ

13ใครบ้างคิดว่าตนฉลาดและมีปรีชาญาณ จงแสดงความฉลาดและปรีชาญาณนั้นอย่างอ่อนโยนด้วยการกระทำและความประพฤติดี

• ภาษาต้นฉบับที่ยากอบเขียน “Τίς σοφὸς καὶ ἐπιστήμων ἐν ὑμῖν; δειξάτω ἐκ τῆς καλῆς ἀναστροφῆς τὰ ἔργα αὐτοῦ ἐν πραΰτητι σοφίας.”

• มีคำสามคำที่น่าสนใจเป็นพิเศษ
o คำแรก σοφὸς อ่านว่า “โสฟอส” ยากอบถามหาคนที่ “ฉลาด” หมายความถึงคนที่มีประสบการณ์ดีพอ ได้รับการศึกษาดี และเป็นรากศัพท์ที่เรียกว่า “โซเฟีย” แปลว่า ความรู้ความชาญฉลาด
o คำที่สอง ἐπιστήμων อ่านว่า “เอปีสเตโมน” แปลว่า “ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี” อันที่จริง รากของคำนี้ไม่ได้หมายถึง “ปรีชาญาณ” อย่างที่ภาษาของเราได้แปลว่า แต่อันที่จริง หมายถึง “คนที่มีประสบการณ์มากๆ ช่ำชองมาก ได้เรียนรู้มามาก” (expert)
o คำที่สาม πραΰτητι อ่านว่า “ปลาอืวเตตี” คำนี้แปลว่า “ความอ่อนโยน ความสุภาพถ่อมตน ความรู้สึกรู้สาถึงคนอื่นจริง”

• ยากอบได้เน้นสิ่งที่ต้องไปด้วยกัน หรือมีอยู่ด้วยกัน คือ ฉลาด หรือมีปรีชาญาณ ถ้าเก่งจริงๆ ต้องเป็นคนที่มีความสุภาพถ่อมตนอ่อนโยนมากๆ ในชีวิต...

• พ่อชอบตรงนี้จริงๆครับ พี่น้องครับ คนที่เก่ง ฉลาดหรือเป็นคนที่มีการศึกษาอบรมมาอย่างดี... เขาคนนั้นต้องเป็นคนถ่อมตนสุภาพมากๆ เรื่องนี้สอนพ่อมากๆครับ
o หลายคนที่อาจเก่ง ฉลาด ที่คิดว่าสติปัญญาดี หรือเก่งกาจนัก ควรต้องเป็นคนสุภาพถ่อมตน
o ไม่น่ารักเลย ถ้าคนหนึ่งเก่ง จบสูง จบปริญญาเอกสูงๆ แต่มีข้อสังเกตว่า ถ้าไม่สุภาพ และคิดว่าตนเก่งกว่าคนอื่นๆ จะไม่อ่อนโยน และไม่น่ารักเลย
o พ่อเคยได้พบคนเก่งๆ เรียนสูง มีปรีชาญาณจริงๆ และสุภาพถ่อมตนมากๆ น่ารักมากๆ อันนี้แหละคือประเด็นสำคัญ... ยากอบเน้น ปรีชาญาณ ความรู้ต้องทำให้เรา ถ้ามีความรู้จริงต้องเป็นคนน่ารักอ่อนโยนและถ่อมตนนะครับ
o ตรงๆ ครับ ใครเรียนสูง มีความรู้ดี สุดยอดของความรู้คือรู้ว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่และเราช่างเล็กน้อยเหลือเกิน มีคนมากมายรอบข้างเราที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน
o พี่น้องครับ พ่อเชื่อว่า พระวาจาของพระเจ้า ถ้าเราได้อ่านทุกวัน ไตร่ตรองทุกวัน ดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อจริงๆ ทุกวัน เราจะเป็นคนที่ฉลาดที่สุดในความรู้จักพระเจ้านะครับ... อ่านพระคัมภีร์มากๆ
o ฟังพระวาจาและปฏิบัติตามมากๆ เราจะเติบโตมากๆในความอ่อนโยนครับ

14แต่ถ้าใจของท่านขมขื่นด้วยความอิจฉาริษยา และมีความทะเยอทะยาน จงอย่าโอ้อวดและอย่ามุสาต่อต้านความจริง 15ปรีชาญาณเช่นนี้มิได้มาจากเบื้องบน แต่เป็นปรีชาญาณตามธรรมดาโลก ตามแบบวัตถุนิยมและตามแบบปีศาจ

• ยากอบย้ำว่า “ถ้าใจของท่านขมขื่นด้วยความอิจฉาริษยา” ไม่ยากที่จะเข้าใจ คนอิจฉาริษยามีความสุขไหม ไม่เลย ความอิจฉา “อิจฉาตาร้อน” ภาษาที่ดี คือ “ตาร้อน” คือ ไม่มีความสุขมาก ขมขื่นๆมาก แสบตาเพราะร้อนตามีความสุขที่ไหนเล่า...

• คำว่า “อิจฉา” ภาษากรีก ζῆλος อ่านว่า “เซ-ลอส” คำนี้มีสองความหมาย คือความร้อน ร้อนรน หรือริษยาในสองความหมายคือ
o ด้านบวก คือ ความกระตือรือร้น เต็มที่เพื่อพระเจ้า
o ด้านลบ คือ ความอิจฉาตาร้อนและริษยา

• ความทะเยอทะยาน ภาษากรีกต้นฉบับ คือ ἐριθεία อ่านว่า “เอริเธยา” แปลว่า ความทะเยอทะยาน หรือแปลว่า ความกระเหี้ยนกระหือรือหรือความเห็นแก่ตัวอย่างแรงๆ

• ในจดหมายของยากอบตอนนี้ ท่านได้เน้นคำแรงมากๆ ว่า
o ความริษยาและความทะเยอะทะยานนี้ ก่อให้เกิดความ “ขม” กับชีวิต
o พ่อคิดว่าจริงๆมาก คนที่มีความทะเยอะทะยาน มีความริษยา เหนื่อยและน่าเหนื่อยมากๆ
o พ่อเคยเห็นเด็กเขาคุยล้อกันเล่น เวลาที่เขาเห็นสายตาอิจฉาของเพื่อของเขาที่ต้องทำเริดเชิดหยิ่ง ทำหน้าตามอิจฉากระฟัดกระเฟียดตลอดเวลา เห็นแล้วเขาก็ล้อกันเล่นว่า “น่าเหนื่อย” หรือ “ดูทำหน้าอย่างนั้นสิ เหนื่อยไหมนั่น” พ่อคิดว่าจริงๆ ครับคนอิจฉาริษยานั้น “ขมขื่นมาก” สำหรับคนที่ใจมีความริษยา อิจฉาตาร้อนตลอดเวลา หรือทะเยอทะยานตลอดเวลาจริงๆ

• ยากอบสอนเราว่า
o “ยอมรับความจริงเถอะ อย่าต่อต้านความจริง”
o พ่อคิดว่า ชีวิตคนที่มีความสุข คือคนที่มีชีวิตในความจริง รักความจริง..
o ครับ พระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ที่สิหก เคยสอนเราด้วยเอกสารที่ชื่อ “ความรักในความจริง” (Caritas in Veritate = การีตัส อิน เวริตาเต)
o ชีวิตของคนที่อยู่กับความจริง มีสันติ มีความสุข ไม่มีความขมขื่นนะครับ

• ยากอบบอกว่าความคิดหรือปรีชาญาณที่ก่อความอิจฉาริษยา เป็นกระแสโลก เป็นสิ่งที่มาจากปีศาจจริงๆ หรือเรียกว่า เป็นธรรมชาติหรือความเป็นจริงของปีศาจจริงๆ ครับ พ่อคิดว่าเราน่าจะคิดตัดสินใจจริงๆ ครับ ความอิจฉาริษยามาไม่ใช่ธรรมชาติของเราคริสตชนนะครับ...

• ดังนั้น พ่อเชิญชวนพี่น้องทุกท่านครับ อย่าให้กระแสโลก ความริษยา ความทะเยอทะยาน มีในหัวใจของเรา เพราไม่น่ารักมากๆ ให้เราเป็นลูกของพระเจ้าที่น่ารักเสมอจริงๆ พ่อมีคำตอบในการปฏิบัติ และเพื่อสอนให้เราเอาจริงเอาจังกับชีวิตคริสตชนจากคำสอนของยากอบที่เราอ่านวันนี้ เรามาอ่านเป็นบทสรุปจริงๆสรับชีวิตคริสตชนของเรานะครับ

• ยากอบย้ำว่า “ที่ใดมีความอิจฉาริษยาและความทะเยอทะยาน ที่นั่นย่อมมีแต่ความวุ่นวายและความชั่วร้ายนานาชนิด”

• ปรีชาญาณแท้จริงที่มาจากพระเจ้า และชีวิตคริสตชนของเรา ถ้ามีปรีชาญาณจริงๆ มีความจริงของพระเจ้าเราจะมีปรีชาญาณแท้ครับ และปรีชาญาณแท้นั้นต้องทำให้เรามีลักษณะแปดประการที่ยากอบสอนวันนี้ ถ้าเป็นปรีชาญาณจากพระเจ้า หรือจากเบื้องบน จะต้อง...
1. บริสุทธิ์
2. ก่อให้เกิดสันติ
3. เห็นอกเห็นใจ
4. อ่อนน้อม
5. เปี่ยมด้วยความเมตตากรุณา
6. บังเกิดผลที่ดีงาม
7. ไม่ลำเอียง
8. ไม่เสแสร้ง

• พี่น้องที่รัก พ่อคงไม่ต้องอธิบายอะไรอีกครับ... อ่านคำสอนของยากอบดีๆ และเลือกให้ได้ว่า เราจะมีปรีชาญาณตามกระแสโลก และทำให้เราเป็นคนริษยาอิจฉาและทะเยอะทะยาน หรือเราจะมีปรีชาญาณแท้ที่จะทำให้เราอ่อนโยน ถ่อมตน สุภาพ ลำกระตือรือร้นเพื่อพระเจ้า พ่อขอให้เราเลือกการดำเนินชีวิตคริสตชนของเราดีๆนะครับ คริสตชนแท้ ฉลาดที่จะเลือกปรีชาญาณของพระเจ้า และเปี่ยมด้วยความรักและความเชื่อ และผลตามมาคือเราจะเป็นผู้ที่สร้างสันติ เป็นผู้หว่านในสันติ และจะเก็บเกี่ยวผลเป็นความชอบธรรมเสมอ

• พี่น้องที่รักครับ พ่อขอสรุปว่า

o ขอให้เราฉลาดในหนทางแห่งความรัก อ่อนโยนของพระเจ้าเสมอไปนะครับ พ่อขอจบลงด้วยคำสอนของพระสันตะปาปาฟรังซิสในเอกสารพระดำรัสเตือนใจ Evangelii Gaudium ข้อสุดท้าย ข้อ 288 พระสันตะปาปาสอนว่า พระองค์เชิญชวนให้เราคริสตชน “ปฏิวัติ” จริงๆ ครับ คือ “ปฏิวัติความรักและความอ่อนโยน”
o ดังนั้น พ่อขอย้ำว่า ให้เราปฏิวัติตัวเราจริงๆ ให้มีความรักแท้และมีความอ่อนโยนจริงๆ เสมอไปครับ เพราะความรักและความอ่อนโยนคือธรรมชาติ คือ ตัวตนที่แท้จริงของเราคริสตชนทุกคนครับ สำรวจตัวเราจริงๆ ต้องกล้าสำรวจตัวเราจริงๆนะครับ ว่าเราอ่อนโยนไหม เราน่ารักจริงๆใช่หรือไม่ครับ ขอพระเจ้าอวยพรให้เราฉลาดแท้ มีปรีชาญาณแท้เสมอไปครับ...

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก