“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม 2015
สัปดาห์ที่ยี่สิบเก้า เทศกาลธรรมดา

ลก 12:13-21…

13ประชาชนคนหนึ่งทูลพระเยซูเจ้าว่า “พระอาจารย์ โปรดบอกพี่ชายข้าพเจ้าให้แบ่งมรดกให้ข้าพเจ้าเถิด” 14พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า “มนุษย์เอ๋ย ใครตั้งเราเป็นผู้พิพากษาหรือเป็นผู้แบ่งมรดกของท่าน” 15แล้วพระองค์ตรัสกับคนเหล่านั้นว่า “จงระวังและรักษาตัวไว้ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด เพราะชีวิตของคนเราไม่ขึ้นกับทรัพย์สมบัติของเขา แม้ว่าเขาจะมั่งมีมากเพียงใดก็ตาม”


16พระองค์ยังตรัสอุปมาเรื่องหนึ่งให้เขาทั้งหลายฟังอีกว่า “เศรษฐีคนหนึ่งมีที่ดินที่เกิดผลดีอย่างมาก 17เขาจึงคิดว่า ‘ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันไม่มีที่พอจะเก็บพืชผลของฉัน’ 18เขาคิดอีกว่า ‘ฉันจะทำอย่างนี้ จะรื้อยุ้งฉางเก่าแล้วสร้างใหม่ให้ใหญ่โตกว่าเดิม จะได้เก็บข้าวและสมบัติทั้งหมดไว้ 19แล้วฉันจะพูดกับตนเองว่า ดีแล้ว เจ้ามีทรัพย์สมบัติมากมายเก็บไว้ใช้ได้หลายปี จงพักผ่อน กินดื่มและสนุกสนานเถิด’ 20แต่พระเจ้าตรัสกับเขาว่า ‘คนโง่เอ๋ย คืนนี้ เขาจะเรียกเอาชีวิตเจ้าไป แล้วสิ่งที่เจ้าได้เตรียมไว้จะเป็นของใครเล่า 21คนที่สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนเองแต่ไม่เป็นคนมั่งมีสำหรับพระเจ้า ก็จะเป็นเช่นนี้’”


อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
 
• พระวาจาวันนี้พระเยซูเจ้าตรัสตอบคนที่มาขอให้พระองค์จัดการกับพี่ชาย เรื่องของการแบ่งมรดาให้แก่ตน คำตอบของพระเยซูเจ้า ชัดเจนในคำสอนสำหรับเรามากๆ

o ““จงระวังและรักษาตัวไว้ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด เพราะชีวิตของคนเราไม่ขึ้นกับทรัพย์สมบัติของเขา แม้ว่าเขาจะมั่งมีมากเพียงใดก็ตาม””

• พระเยซูเจ้าเตือนเราด้วยพระวาจานี้ “ระวัง และ รักษาตัวไว้ ให้พันจากความโลภ” ความโลภนี้แหละที่เป็นผลของปัญหาใหญ่มากคือ “ความเห็นแก่ตัว” ความเห็นแก่ตัวหรือการเอาตนเองเป็นศูนย์กลางจะเรียกร้องทุกอย่างให้วิ่งเขา มาหาเพื่อตนเอง แสวงหาทุกอย่างด้วยความ “โลภ”

o ถ้ามองใหนแง่ของการกินการดื่ม คือ ก็คืดความ “จะกละ หรือ ตะกละ” (Greedy, Greedily) คือการเห็นแก่กิน กินไม่รู้จักพอ กินเท่าไรก็ไม่รู้จักจบสิ้น เรามารู้จักคำนี้อีกหน่อยก็ดีครับ..น่าสนใจ คำว่า “จะกละ” หรือ “ตะกละตะกลาม” ภาษาไทยแรงดีครับ ภาษาอังกฤษ มีคำที่เกียวข้องต่อเนื่องคือ “piggish คือ กินแบบหมูไม่เคี้ยวกระซวกๆซรดเข้าไปอย่างเดียวเลย

o อีกคำหนึ่งคือ Gormandize หรือ Gluttonize มีความหมายเดียวกันหมด คือ ตะกละกินดื่มไม่รู้จักพอ... แต่รากศัพท์คำว่า Gluttonize มีรากที่แปลกและข้ามสายพันธุ์อย่างมาก ภาษาโบราณคือความหมายมาจากฝรั่งเศส เป็นอาการการกินแบบใช้อำนาจจะกละตะกลามใช้อำนาจ และจากคำนี้พัฒนามาสูรากศัพท์ของคำว่า “Malfer” ในภาษาฝรั่งเศส และไปใช้ทางใต้ของอิตาลีกับพวก “Mafia” ซึ่งมีอาการแบบใช้ความรุนแรง ภาษาอาหรับเรียกว่า Mahjas คนกลุ่มนี้จะแสดงอาการออกทางรุนแรง เอาแต่ได้ และใช้อำนาจแย่งชิง ดังนัน ความตะกละแบบนี้เรียกว่าได้ไว้เป็นพวก “กินรวบเขมือบแย่ง” ก็ว่าได้ครับ 

o นอกจากนั้น วากยะสัมพันธ์ทางคำศัพท์ เราพบคำนามที่จัดเข้าในพวกนี้คือนอกจากหมูแล้วในภาษาโบราณ ยังใช้คำ Raven คือนำตระกูลกินแหลก กินแบบเจ้าเล่ห์ที่สุด คือ “นกกา หรือนกล่าเหยื่อยประเภทกา” มันแอบมา ฉกกินและบินหนี ฉกปั๊บ ได้ชิ้นบินไปกินบนต้นไม้ เท้าหนีจิกกินแบบตะกละ ส่วนตามันยังคงมองที่เหยื่อยที่ยังมีอยู่ ไม่ได้ใสใจกับชิ้นที่ได้มาแล้วเพราะกินแบบอัตโนมัติ และมองเหยื่อหาช่องบินไปขโมยแย่งชิ้นต่อไป...

• พี่น้องที่รัก พ่ออธิบายคำศัพทโดยเจตนาครับ เพราะเราจะได้ใช้ประสบการณ์ของเราจัดความคิด จัดกลุ่มความคิดกับประสบการณ์และความจริง และเราก็ได้ไตร่ตรองกับพระวาจา ที่พระเยซูย้ำว่า ““จงระวังและรักษาตัวไว้ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด เพราะชีวิตของคนเราไม่ขึ้นกับทรัพย์สมบัติของเขา แม้ว่าเขาจะมั่งมีมากเพียงใดก็ตาม”” นั่นหมายความว่า ความโลภ ความอยากได้ไม่รู้พอ นั้นไม่ดีจริงๆ เราเห็นประสบการณ์มากมายจริงๆ ครับ แล้วเท่าไรคนเราจะถึงจุดที่บอกว่า พอเพียง ความพ่อเพียงไม่ได้แปลว่าจนนะครับ พอเพียงคือไม่โลภ เอาแต่ได้ แต่รู้จักพอ และที่สำคัญ

o การแบ่งปันด้วยความอ่อนโยน มีเมตตา ใจดี เป็นความงดงามของชีวิต เป็นหัวใจที่รู้พอ และยิ่งให้ยิ่งแบ่งปันเราจะรู้สึกว่า “เรายังให้ได้อีกนี่นา” พ่อเน้นเรื่องนี้มากเสมอ และพ่อคิดว่าเรื่องนี้ต้องสอนตัวพ่อเอง

o ความโลภคือการเอาเปรียบ เอาแต่ได้ ไม่ดี และแปลกนะครับ คนที่ไม่อ่อนโยน ไม่พอเพียง โลภ ตะกละกะกลามและจ้องเขมือบเอาแต่ได้จะไม่รู้จักพ่อ และทุกคนรอบข้างหรือคู่ค้าทุกคนก็จะกลายเป็นเหยื่อยของเขา เหยื่อของการเอาเปรียบเอาแต่ได้จริงๆ

• ประสบการณ์ตรงๆเลยครับ

o เพิ่งเกิดเมื่อวานก่อนพ่อจะมาอ่านพระวาจาตอนนี้ และนั่งเขียนอยู่นี่เอง พ่อไปเขาใหญ่กับน้องเณร ไปกันสามคน เราไปในบ้านพักที่สวย สงบ ของพี่น้องสัตบุรุษผู้ใจดีอนุญาตให้พ่อแวะไปพักที่บ้านเขา บ้านนี้อยู่ในหมู่บ้านหนึ่ง คัรบ...ก่อนกลับเราไปสงบ ไปสวด และเดินชมวัดบุญราศีนิโคลาส บุญเกิด (สวยมาก และบรรยากาศเงียบสงบมาก)

o ขากลับเราต้องกลับเข้าบ้านเณรให้ทันหกโมงเย็น และพ่อตัดสินใจแวะพาน้องเณรไปทานอาหาร แน่นอนต้องเป็นสเต็กร้านใหญ่คนครึกที่อยู่ริมทางบนพื้นที่ที่แสนสวยมาก เจ้าของคือมหาเศรษฐีที่ดิน คนแวะเยอะมาก หลายๆปีก่อน พ่อเคยแวะและทานเนื้อย่างที่เขาว่าดีหนักหนา... พ่อก็แวะเพราะอยากให้น้องเณรรับประทานสิ่งที่เราคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสดี และเราก็แค่สามคน จ่ายไหวนานๆที... 

o คนเยอะจริงๆ เมื่อเราเข้าไปในร้าน และบริเวณร้าน เพราะเป็นวันเสาร์ เมนูติดโชว์เยอะทุกจุดตั้งแต่นอกร้าน ทุกป้าย มีข้อความในวงเล็บ (เพื่อโฆษณาเท่านั้น) 

o แปลว่าอะไร พ่อสรุปได้ว่า แปลว่า “เพื่อโกหกกันหน่อยเท่านั้น เพราะของจริงที่สั่งจะไม่มีวันได้เห็นแบบนี้” แล้วก็เป็นจริงครับ เราได้เจอสเต็กโชคร้ายเข้าแล้ว... ภาพสวยมากดูเกินจริงๆมาก ดูก็จะว่าสมราคาก็ได้... ดูใหญ่ ราคาแพง แต่ถ้าจะใหญ่ ดีจริงๆ ก็ชิ้นละสามพันกว่าก็มี...เมินเสียเถอะ ชิ้นที่เราได้เมื่อได้เห็นของจริงที่ต่างจากรูปและความพิถีพิถันที่หาไม่ได้ เลย ผักเคียงมาก็แห้งสนิทไร้ร่อยรอยความชื้น... โอ... พ่อสงสารน้องเณรเลย เพราะเราสั่งจานถูกหน่อย (แต่จริงๆแพง) ห้าร้อยกว่าบาท “ริบอาย” สั่งมาแล้ว “พริบๆอาย คือตาพริบๆเลย ขนาดเล็ก บางจนแถบจะเรียกว่า เนื้อแผ่นแล้วนะครับ” ไม่มีทางอิ่ม จะสั่งเพิ่มก็รู้ว่าเราเจ๊ง และไม่คุ้มค่า เราถูกเอาเปรียบเกินไป... พ่อจำได้ว่า เมื่อก่อนชิ้นใหญ่กว่านี้มากนัก...พ่อรู้ว่าทุกอย่างแพงแต่พ่อก็รู้เช่นกัน ว่าเขาลดขนาดชิ้นเนื้องลงจนกลายเป็น “พริบอาย แทนที่จะเป็นริบอาย” พ่อไม่ทานเนื้อ แต่น้องเณรสองคนทาน พ่อรู้สึกได้จริงๆ ถึงความเอาเปรียบลูกค้าเกินไป

o พ่อนั่งคุยกับเณร เรื่องแผ่นป้าย และทุกหน้าที่มีวงเล็บ “มีไว้เพื่อโฆษณาเท่านั้น” พ่อบอกกับน้องเณรว่า ทำไมหนอ ทำไม ทำไมเขาไม่เขียนบนรูปว่า “ที่เห็นเป็นเพียงโฆษณา แต่ของจริงดีกว่านี้ สวยกว่านี้ ปราณีตกว่านี้คุ้มค้ากว่านี้มากมายนัก” ทำไมเจตนาของการค้าไม่เป็นแบบนี้นะ... ภาพสวย แต่ของจริงๆสวยกว่า ดีกว่ามาก การที่เขาติดวงเล็กว่าเพื่อโฆษณาเท่านั้น เพราะเขากลัวการฟ้องร้อง เขารู้อยู่แก่ใจว่าของจริงๆด้อยกว่ามาก ต้องทำใจ แต่ทำไมไม่ให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าหนอ

• ครับ บังเอิญเมื่อวานพ่อกับน้องเณรแวะร้านโชคร้ายสเต็กเฮ้าส์เข้า และบังเอิญพระวาจาวันนี้ก็เตือนเรื่องต้องระวังความโลภ เอาไต่ได้ เห็นแก่ตัว ทุกชนิด พ่อเลยได้ไตร่ตรอง และบทสอนจริงๆ เขาให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าได้ไหม ลูกค้าจอดรถกันพรึบ แต่สิ่งที่ได้ก็ด้อยและเอาเปรียบเกินไป...สมัยก่อนมีซอสนานาชนิดวางไว้ บาร์บีคิว ซอสเปรี้ยวอย่างดี แต่นานมาแล้วเขาไม่มีวางเลย...เหลือแต่ซอสพริกกับซอสมะเขือเทศ... โอ...ขายจานละหลายร้อยจนถึงพันๆ ยังจะเอาเปรียลลดต้นทุนกันขนาดนี้... ถ้าขอซอสเปรี้ยวจะได้ทันที แต่ไม่มีวางให้ เพราะคนไทยน้อยคนจะรู้ว่า...การเทซอสมะเขือเทศหรือซอสพริกลงไปบนเนื้อย่าง แบบนั้น สำหรับต้นตำหรับเขาเรียกว่า “รับประทานไม่ได้ ไม่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องอาหารเลย เสียของ”

• ครับ พ่อได้เห็น ได้บทเรียน และอยากให้เราคริสตชนได้คิดเรื่องธุรกิจการค้าที่เอากำไรเกินควร กำไรมีสิทธิ์ครับสำหรับผู้ค้า แต่จริยธรรมทางการค้าก็มีด้วย ศีลธรรมก็มีด้วยเช่นกัน... จะเป็นแบบเห็นแก่ตัว เอาไต่ได้ ไม่ให้สิ่งที่ดีสุดคุ้มค่าสุดแก่ผู้ซื้อก็ดูไร้จริยธรรมหรือจรรยาจริงๆนะ ครับ ““จงระวังและรักษาตัวไว้ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด เพราะชีวิตของคนเราไม่ขึ้นกับทรัพย์สมบัติของเขา แม้ว่าเขาจะมั่งมีมากเพียงใดก็ตาม”” ตัวร้ายสุดคือความโลภ ตะกละหรือเห็นแก่ตัวนี่เอง ความร่ำรวยไม่เป็นไรเลยครับ ดีครับ ทำการค้าให้ร่ำรวย แต่ความมีศีลธรรมจรรยา จริยธรรมทางการค้า คือดรรชนีชี้วัดแท้จริงของความงดงามและความสำเร็จทางการค้าครับ...

o จะมีแม่ค้ากี่คนที่ตื่นมาเตรียมของขาย พร้อมกับความคิด ความรัก ต่อลูกค้า ฉันจะทำให้สะอาดที่สุด ให้ลูกค้ามีความสุข ปลอดภัย ฉันจะให้พวกเขาได้รับคุ้มค่ากับเงินที่เขาจ่าย และฉันก็กำไรพอเพียงกับหลักจริยธรรมทางการค้าบวกความรักที่ฉันมี

o หาได้ไหมหนอ... แบบนี้ ถ้าเป็นคริสตชน เป็นคาทอลิก ต้องได้แบบนี้เลยนะครับ... น่ารักงดงามจรรโลงสังคมที่สุด แต่ทว่า ในสายตาพ่อค้า มาเฟียทางการค้า นักเอากำไร คิดแบบนี้ที่ควร ก็กลายเป็นโง่ไปจนได้... ไม่เป็นไรนะครับ ความสุขแห่งความรักพอเพียงก็จะทำให้เราเพียงพอ และทำให้สังคมมีความสุข

• พระเยซูยังตรัสอุปา คนที่สะสม เศรษฐีที่ผูกกับทรัพย์และความรวย เรียกว่า วางใจในความร่ำรวย แต่ที่สุด เมื่อวาระสุดท้ายมาถึงก็จบ ความสุขที่จะเอาอะไรไปได้ก็ไม่มี เพราะใจยึดติดกับความโลภตะกละและเห็นแก่ตัว

• พี่น้องครับ ชีวิตปลงๆบ้างก็ดีเหมือนกัน คนเราจะมีอะไรมากมายนักหนาหนอ บางคนเขาเล่ากันว่าเป็นราชาที่ดินทั่วประเทศ ขนาดที่ไปที่ไหนก็ซื้อ เห็นสวยก็ซื้อ จนเรื่องเล่าว่านั่งรถผ่านไปเห็นที่สวย สั่งเลขาไปหาเจ้าของมาเลย ฉันชอบผืนนี้ฉันต้องการซื้อมัน... เลขาหายไปสองอาทิตย์ กลับมากเรียนว่า “ท่านครับ ที่ๆที่ท่านเห็นผืนนั้น คือ ของท่านครับ ซื้อไว้เมื่อหลายสิบปีก่อนแล้วครับ... ฮาๆๆๆ” ขำๆครับ แต่เขาว่าเรื่องนี้จริงๆ หรือจริงกว่านี้ก็เยอะ...


• พี่น้องเคยป่วยเป็นไข้หนักๆไหม ไข้ขึ้นสูงๆ จะรู้สึกอย่างไร ต้วร้อน ทรมานมาก ปวดไปหมด ไม่อยากได้อะไรทั้งสิ้น... อะไรก็ไม่อยากทาน นอนที่นอนดีที่สุดก็นอนไม่ได้ ทุรนทุลาย และสิ่งของรอบกายก็ไม่ได้อยากได้อะไรอีกแล้ว... พี่น้องครับ สะสมทรัพย์ของเราที่พระเจ้า ให้พระเจ้าเป็นความสุข ความหวัง และความรักของเราเถอะ สะสมสร้างมิตรแสนดีรอบข้างด้วยความรัก ความเมตตา ความใจดี และความรักที่แสนอบอุ่นเถอะครับ เพื่อว่าเราจะได้รับการปลอดโยนอุ่นใจยามที่เราต้องละจากทุกสิ่งที่เป็นทรัพย สินและของใช้ทั้งหลายครับ


• เลือกที่จะฉลาด มีปรีชาญาณ และวางความหวังของเราไว้กับพระเจ้า ไว้กับความรักและความสุขแท้เถิดนะครับ พระเยซูเจ้าตำหนิในอุปมา... “‘คนโง่เอ๋ย คืนนี้ เขาจะเรียกเอาชีวิตเจ้าไป แล้วสิ่งที่เจ้าได้เตรียมไว้จะเป็นของใครเล่า คนที่สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนเองแต่ไม่เป็นคนมั่งมีสำหรับพระเจ้า ก็จะเป็นเช่นนี้’”” พ่อขอให้เราทุกคน พ่อด้วย ร่ำรวยด้วยพระพรสำคัญคือเป็นคน “มั่งมีสำหรับพระเจ้า” นะครับ รัก เมตตา คนมีมาก รักมาก โอกาสแบ่งปันความรักได้มากก็ยิ่งดีครับ

• พี่น้องที่รักทุกท่าน... พ่อขอภาวนาให้น่ารักในความร่ำรวย (โลภเห็นแก่ตัวเป็นบาปที่ไม่น่ารักเลยนะครับ ไม่เอานะครับ มันเป็นเหมือนนกแร้งกาที่ต้องไล่ไปให้พ้นจากเรานะครับ เทียบ ปฐก 15:11 อับราฮัมไล่นกแร้งที่มาซากสัตว์ที่เตรียมไว้...) 


• ขอให้เราได้พบกันแบบโชคดีเสมอๆ ไม่ใช่แบบที่พ่อไปเจอโชคร้ายสเต็กเฮ้าส์นะครับ จงโชคดี จงให้สิ่งที่ดีที่สุด จากความใจกว้างมากๆ นะครับ คนที่มีน้อย จน ก็มีความสุขในการให้ได้ด้วยเช่นกัน จะมีหนึ่งตาแลนต์หรือมีห้าตาแลนต์ พระเจ้าก็พอพระทัยกับความใจดีและการออกแรงทำงานเพื่อพระเจ้าเช่นกัน... ขอพระเจ้าอวยพรให้ทุกท่านโชคดี คือ ให้ความดีเมตตา ความรัก มีเต็มเปี่ยมในทุกคน จนเราฉลาดในการดำเนินชีวิตที่สะสมความรักของพระเจ้าเพื่อแบ่งปันความรักเสมอ ครับ..ขอพระเจ้าอวยพรนะครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก