“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพุธที่ 15 เมษายน 2015
สัปดาห์ที่สองเทศกาลปัสกา
ยน 3:16-21…
16พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร 17เพราะพระเจ้าทรงส่งพระบุตรมาในโลกนี้มิใช่เพื่อตัดสินลงโทษโลก แต่เพื่อโลกจะได้รับความรอดพ้นเดชะพระบุตรนั้น 18ผู้ที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่ถูกตัดสินลงโทษ แต่ผู้ที่ไม่มีความเชื่อก็ถูกตัดสินลงโทษอยู่แล้ว เพราะเขามิได้มีความเชื่อในพระนามของพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระเจ้า 19ประเด็นของการตัดสินลงโทษก็คือความสว่างเข้ามาในโลกนี้แล้ว แต่มนุษย์รักความมืดมากกว่ารักความสว่าง เพราะการกระทำของเขานั้นชั่วร้าย 20ทุกคนที่ทำความชั่วย่อมเกลียดความสว่างและไม่เข้าใกล้ความสว่าง เกรงว่าการกระทำของตนจะปรากฏชัดแจ้ง 21แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามความจริงย่อมเข้าใกล้ความสว่าง เพื่อให้เห็นชัดว่าสิ่งที่เขาทำนั้นได้ทำโดยพึ่งพระเจ้า”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• พระวาจาวันนี้คือข้อความที่แสนรักและประทับใจ พ่อเองปักข้อความนี้ไว้บนแขนเสื้อของพ่อ ยน 3:16 (Jn 3:16) ข้อความในการสนทนาของนิโคเดมัสกับพระเยซูพระอาจารย์เจ้ากำลังมาถึงหัวใจสำคัญมากๆ เมื่อพระองค์ตรัสว่า “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร”
o นี่เป็นประโยคทองเลยครับ พระเยซูเจ้าตรัสด้วยพระองค์เอง คำว่า “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมาก” ในที่นี้หมายถึงความรักต่อเรามนุษย์ ซึ่งพ่อคิดว่าความจริงประการนี้ไม่ต้องสงสัยเลยสำหรับเราคริสตชน
o เราเชื่อในความรักของพระเจ้าที่ทรงมอบพระบุตรสุดที่รักของพระองค์เพื่อเรา... พ่อคิดว่าเรื่องการสงสัยในความรักนี้ พ่อไม่เคยสงสัยเลย... ความรักขอพ่อแม่ของเรา... พ่อเล่าถึงจาพ่อบ่อยๆ พ่อรู้ว่า จาของพ่อรักพ่อและรักลูกๆหลานๆมากมาย ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร.. จามีสายตาที่รัก ห่วงใย พ่อจำได้ว่าเวลาพวกเราไปรวมตัวกันที่บ้าน ลูกๆจามีหลายคน มากันหลายครอบครัว พร้อมหลานๆ พวกเราจะนั่งคุยกัน จาของพ่อซึ่งชราแล้ว ป่วยด้วยโรคร้ายที่มีความหวังน้อย.. เจ็บปวดกับการที่มันรุกลามไปในกระดูก แต่จาก็อดทน และก็ยิ้มกับพวกเรา นั่งมองพวกเรา... นับจำนวนลูกๆว่ายังมาไม่ครบ บอกให้รับประทานอาหารก็ไม่ยอม ขับรถไฟฟ้าของตนวนไปวนมา และก็ปรารภว่าลูกๆที่สามคันรถ (สามครอบครัว) ยังไม่มาตามที่บอกไว้ จาห่วง ห่วงใยและเฝ้ารอ พ่อไม่เคยสงสัยความรักของจาเลยจริงๆ แม้มีจามีลูกมากเหลือเกิน... แต่จาพ่อก็รักห่วงใยลูกๆหลานๆทุกคนจริงๆ...

• พ่อกำลังพูดถึง “ความรัก” และพ่อรู้ว่า มนุษย์ทุกคนมีประสบการณ์ไม่มากก็น้อยในเรื่องความรัก คนเราถ้าขาดความรักจะเรียกว่า พังทลายทั้งระบบชีวิตก็ว่าได้ เด็กๆที่เกิดมาแบบที่ขาดความรัก ถูกทิ้งหรือถูกละเลย ขาดบิดามารดาที่รักเขาก็จะกลายเป็นคนที่มีความลำบากหรือมี “ปม” ของชีวิต การขาดความรักนี่โหดร้ายจริงๆนะครับ พ่อคิดว่า สังคมของเรามีเรื่องราวให้ดูชมและเรียนรู้ได้มากมายจริงๆ
• พ่อเชื่อมั่นในประสบการณ์ที่ว่า คนเราที่ได้รับความรักนั้น มีความสุขเสมอ แต่ แต่ แต่ คนที่ได้รักเป็นผู้รักนั้น... มีความสุขมากกว่า.. พี่น้องว่าจริงไหม ความรักคือการให้ สุดยอดของความรักคือการให้อภัยไม่สิ้นสุดเพราะรักไม่สิ้นสุด พ่อได้เรียนรู้กับตนเองด้วยว่า “การที่เราได้รักคนอื่น รักครอบครัว รักลูก รักสัตบุรุษ รักเพื่อนบ้าน” คนที่รัก มีความสุขกว่าการได้รับความรักมากเลยนะครับ

• เรามาดูกันต่อ... คนเราได้รับความรักมาก ถูกตามใจมาก ใครๆก็รุมรักมาก เช่นเด็กที่เจอภาวะแบบนี้ถ้าไม่ระวังจะเรียกว่า “สปอยล์” คือเด็กถูกตามใจ.. มักจะเกิดกับหลานๆเหลนๆอากงอาม่านี่แหละครับ ปกติอาตี๋น้อยจะ “เสียคน” ได้ง่ายมากๆ เพราะใครๆก็รุมรักตามใจจนเสียคน พ่อแม่ดุไม่ได้ อาม่าอากงไม่ยอม ตีก็ไม่ได้ ลงโทษไม่ได้ ทำผิดมาก็วิ่งหาอากงอาม่าแล้วก็ได้ที่หลบภัยไม่มีใครกล้าทำอะไรได้... สรุป.. อากงอาม่ากับม๊าป๊าตีกันเองเพราะอาตี๋น้อยเสมอ.. และอาตี๋น้อยก็ถูกรัก รัก รัก จนที่สุด “เสียคน” วันนี้พ่อมาไตร่ตรองว่าทำไมเป็นเช่นนั้น ความรักไม่ดีหรือ ทำไมความรักกลับทำให้อาตี๋น้อยเสียคนได้หนอ
o พ่อพบคำตอบจะจริงหรือไม่ แต่พ่อคิดว่าน่าพิจารณาไตร่ตรองครับ เรื่องความรักนี้มีความตอบที่พ่อได้รับครับ
o ความรักไม่ทำความเสียหายครับ... พระคัมภีร์ยืนยันโดยนักบุญเปาโล แต่ว่า ความรักนั้น ต้องส่งผลออกไปสู่ “การให้” ความรักที่ได้รับมาต้องส่งต่อ รักต่อ ไม่เก็บไว้คนเดียว แต่ต้องรักต่อไป
o ที่บรรดาอาตี๋น้อยเสียคนเพราะเขาได้รับความรัก ได้รับๆๆๆ รับจนเคยตัว ไม่เคยถูกสอนให้เป็นผู้ให้ความรักอย่างสมดุล จะเรียกว่า อะไรดี “บริโภคความรักมาจนอัดแน่นจนไม่มีทางออกของความรัก ขังไว้ จนติดกับตนเองฝ่ายเดียว จน ระเบิดหรือสปอยล์จนได้”
o พี่นี่น้องที่รัก เพราะความรักต่างจากความเห็นแก่ตัวโดยสิ้นเชิง ดังนั้น ความรักมุ่งที่จะออกจากตนเองไปรักผู้อื่น ให้เกียรติ หวังดี และจนถึงการให้อภัย... ดังนั้น ความรักถ้าขังไว้ในตนไม่เผยออกไปหาคนอื่น และรุมๆกันรักรักรักจนเรียกฝังตัวไว้จนกลายเป็นความรักแต่ตนเองจึงไม่ใช่ความรักที่แท้จริง และที่สุดก็สปอยล์อยู่กับตนเองนั่นเอง

• สำหรับเราคริสตชน เรามีต้นแบบครับ พระเจ้าเป็นความรัก ทรงรักมนุษย์ จึงทรงออกจากพระองค์เอง โดยยอมมอบพระบุตรสุดที่รักเพื่อสอนเราให้ได้เรียนรู้ความรักแท้ดังเช่นพระองค์... “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร”
o นี่คือต้นแบบความรักของเราเลยครับ... ออกจาตนเอง ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เก็บความรักหมักไว้จนกลายเป็นความเห็นแก่ตัว ทั้งนี้เพราะไม่ได้หยิบยืนออกไปให้กลายเป็นความรักแท้ต่อเพื่อนมนุษย์และโลก
o เราเพิ่งผ่านปัสกามาครบ เราได้สัมผัสความรักที่สุดที่ทรงรักเราจนถึงกับมอบพระบุตร และพระบุตรก็ทรงยอมรักพระบิดาและรักเราจนสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน นี่คืออะไรที่มากกว่าบทเรียน มากกว่าแบบอย่าง แต่ แต่ แต่... เป็น “บ่อเกิดและจุดสูงสุด” ของความรักสำหรับเราทุกคน
o ดังนั้น เราคริสตชนเชื่อในความรักแบบนี้ครับ... “เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร”
o พ่อสรุปว่า เราคริสตชน เชื่อในความรักของพระเจ้าเช่นนี้ครับ... เราเชื่อศรัทธาในความรักของพระเจ้า จนเราได้เรียนรู้จากพระคัมภีร์ว่า “พระองค์คือพระเจ้าองค์ความรัก” จะสรุปได้ไหมว่า “ทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้จริงๆ เพราะทรงเป็น “ความรัก” นะครับ”
o ประเด็นนี้แหละที่พ่ออยากบอกว่า มนุษย์เราทุกคนแสวงหาความรัก อยากได้ความรักแท้จริงๆ ทุกคนที่มีความสุขคือคนที่ได้พบความรักแท้ จริงไหมครับ.. ครอบครัว สามีภรรยา ก็ปรารถนารักแท้ทั้งนั้นเลย... เด็กๆเกิดมาหากไม่ได้รับความรักแท้ จะเป็นแผลไปตลอดชีวิต หรือถ้าถูกรักจนเคยตัวก็สปอยล์ คือ เสียคนไปตลอดชีวิตเหมือนกัน จะกู้กู่กลับได้ ก็ต้องอาศัยความรักเช่นกัน...
o ถ้าเป็นเช่นนี้... ถ้าเรามนุษย์ได้พบพระเจ้า รู้จักพระเจ้าเที่ยงแท้ผู้เป็นพระเจ้าองค์ความรักนิรันดร ทรงเป็น “ความรักและเป็นความสัตย์จริงในความรัก” หรือกล่าวอย่างที่พระคัมภีร์บอกกับเรา “พระเจ้าเป็นความรัก” และที่พระศาสนจักรสอนเรา “ความรักในความจริง” สรุปว่า ความรักและความจริงหรือความสัตย์จริงๆในความรัก คือความงดงามที่สุด และสมบูรณ์แบบในพระเจ้า...
o พี่น้องครับ.. พระเจ้าไม่ใช่เพียงเป้าหมายปลายทาง แต่เป็นบ่อเกิดและจุดสูงสุดของชีวิตคริสตชนเราทุกคน “ความรัก” คือ พระเจ้านิรันดร และเราเชื่อศรัทธาในความรักนิรันดรของพระบิดาเสมอนะครับ..

• พระเยซูเจ้าตรัสกับนิโคเดมัสต่อไปว่า...
o ประเด็นของการตัดสินลงโทษก็คือความสว่างเข้ามาในโลกนี้แล้ว
o แต่มนุษย์รักความมืดมากกว่ารักความสว่าง เพราะการกระทำของเขานั้นชั่วร้าย
o ทุกคนที่ทำความชั่วย่อมเกลียดความสว่างและไม่เข้าใกล้ความสว่าง เกรงว่าการกระทำของตนจะปรากฏชัดแจ้ง
• พี่น้องที่รัก..พระองค์เสด็จมาเป็นความรักสำหรับเรา ทรงรักเรา เป็นแสงสว่างแห่งคำสอนความจริงให้กับเรา.. แต่มนุษย์รักความมืด (นิโคเดมัสมาหาพระองค์ในเวลากลางคืน เขามาหาองค์ความสว่าง) พ่อคิดว่า ความเห็นแก่ตัว เอาแต่ได้นั้น มันน่าหลงใหลจริงๆ กระแสโลก ทรัพย์สินทางโลกมันน่าหลงใหลจริงๆ คนเราก็นะ..หลงสิ่งของมากกว่ารัก และรักกับหลงก็แยกไม่ค่อยออกเลย.. หลงรถคันงาม หลงแสงสี หลงราตรี หลงเงินทอง หลงแบรนด์เนม หลงความร่ำรวย หลงอำนาจ เหลิงด้วย หลงอีกมากมาย และหลงที่น่ากลัวที่สุดคือหลงตนเอง... ไม่ใช่รักตนเองนะครับ เพราะคำว่า “รัก” ไม่มีลบครับ แต่เพียงแต่คนเราคิดว่าหลงนั้นคือรักเท่านั้น คิดว่า ความเห็นแก่ตัวคือความรักตนเอง...แต่จริงๆคือเห็นแก่ตัว

• พ่อมั่นใจว่า เราคริสตชนต้องไม่รักความมืดมน หลงใหลจนหน้ามืดตามัว ดับบอด หรือเดินในความมืด แต่เราได้รับแสงสว่าง เราได้รับความรักแท้ เราได้รับความจริงคือ “พระเยซู” เราเชื่อในพระองค์เถอะนะครับ เชื่อในความรักแท้ ศรัทธาในความรักแท้ คริสตชนถ้าหลงตนเอง แม้ว่าเป็นพระสงฆ์ นักบวช หรือแม้แต่สังฆราชด้วย ถ้าหลงตนเอง ก็แย่เลยครับ จะไม่น่ารักมากๆเลยจริงนะครับ... และถ้า “หลง” และคิดหรือมั่นใจว่าคือ “รัก” จะมั่นใจมาก และครอบครัว พระศาสนจักร ชุมชนวัด จะไม่มีความสุขเลยครับ

o พ่อขอให้เราศรัทธาและเรียนรู้จักพระบิดาเจ้า เรียนรู้จักพระเจ้าของเราทางพระเยซูคริสตเจ้าได้โดยตลอดเลยครับ เพราะทรงรัก และออกจากพระบิดาลงมาสู่เรา บังเกิดเพื่อเราและทรงมอบตนเองสิ้นพระชนม์เพื่อเรา แม้สิ้นพระชนม์แล้ว สีข้างก็ยังถูกเปิดเพื่อให้น้ำและพระโลหิตแห่งความรักหลั่งไหลรินมาสู่เราเป็นนิรันดร์
o ไม่มีอะไรจะยิ่งใหญ่กว่านี้อีกแล้ว.. “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศ แต่จะมีชีวิตนิรันดร”
o พี่น้องที่รัก จงเชื่อใน...พระองค์กันสุดหัวใจและสุดกำลังเลยนะครับ...
o ขอพระเจ้าองค์ความรัก รักทุกท่านและเป็นความรักสำหรับชีวิตของเราทุกคนนะครับ อาแมน อัลเลลูยา

 

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก