“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันอังคารที่ 10 กุมภาพันธ์ 2015
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลธรรมดา
มก 6:53-56…
53พระเยซูเจ้าทรงข้ามฟากพร้อมกับบรรดาศิษย์ มาจอดเรือขึ้นฝั่งที่เมืองเยนเนซาเร็ธ 54เมื่อเสด็จขึ้นจากเรือประชาชนก็จำพระองค์ได้ทันที 55และคนในบริเวณนั้นต่างรีบมาหา นำผู้เจ็บป่วยนอนบนแคร่มาเฝ้าพระองค์ ณ สถานที่ที่เขาได้ยินว่าพระองค์ประทับอยู่ 56ไม่ว่าพระองค์เสด็จไปที่ใด ในหมู่บ้าน ในเมืองหรือในชนบท เขาก็นำผู้เจ็บป่วยมาวางตามลานสาธารณะ ทูลขอพระองค์ให้เขาสัมผัสเพียงชายฉลองพระองค์เท่านั้น และทุกคนที่สัมผัสแล้วก็หายจากโรคภัยมก 7:1-13…


1ชาวฟาริสีและธรรมาจารย์บางคนจากกรุงเยรูซาเล็มมาเฝ้าพระองค์พร้อมกัน 2เขาสังเกตว่าศิษย์บางคนของพระองค์กินอาหารด้วยมือที่ไม่สะอาด คือไม่ได้ล้างมือก่อน 3เพราะชาวฟาริสีและชาวยิวโดยทั่วไปย่อมถือขนบธรรมเนียมของบรรพบุรุษ เขาไม่กินอาหารโดยมิได้ล้างมือตามพิธีก่อน 4เมื่อกลับจากตลาด เขาจะไม่กินอาหารเว้นแต่จะได้ทำพิธีชำระตัวก่อน เขายังถือขนบธรรมเนียมอื่น ๆ อีกมาก เช่น การล้างถ้วย จานชามและภาชนะทองเหลือง 5ชาวฟาริสีและธรรมาจารย์จึงทูลถามพระองค์ว่า “ทำไมศิษย์ของท่านไม่ปฏิบัติตามขนมธรรมเนียมของบรรพบุรุษ และทำไมเขาจึงกินอาหารด้วยมือที่ไม่สะอาดเล่า” 6พระองค์ตรัสตอบว่า “ประกาศกอิสยาห์ได้พูดอย่างถูกต้องถึงท่าน คนหน้าซื่อใจคด ดังที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า
ประชาชนเหล่านี้ให้เกียรติเราแต่ปาก
แต่ใจของเขาอยู่ห่างไกลจากเรา
7เขานมัสการเราอย่างไร้ความหมาย
เขาสั่งสอนบัญญัติของมนุษย์เหมือนกับเป็นสัจธรรม

8“ท่านทั้งหลายละเลยบทบัญญัติของพระเจ้ากลับไปถือขนบธรรมเนียมของมนุษย์” 9แล้วพระองค์ทรงเสริมว่า “ท่านช่างชำนาญในการละเลยบทบัญญัติของพระเจ้า เพื่อถือขนบธรรมเนียมของท่านเองเสียจริง ๆ 10เช่นโมเสสกล่าวว่า จงนับถือบิดามารดา และใครด่าบิดาหรือมารดา จะต้องรับโทษถึงตาย 11แต่ท่านกลับสอนว่า ‘ถ้าใครคนหนึ่งพูดกับบิดาหรือมารดาว่า ทรัพย์สินที่ลูกนำมาช่วยเหลือพ่อแม่ได้นั้นเป็นคอร์บันคือของถวายแด่ พระเจ้า’ 12ท่านก็บอกว่าเขาไม่ต้องช่วยเหลือบิดามารดาอีกต่อไป 13ท่านใช้ขนบธรรมเนียมที่ท่านสอนต่อ ๆ กันมาทำให้พระวาจาของพระเจ้าเป็นโมฆะ ท่านยังปฏิบัติเช่นนี้อีกมากมาย”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• ฟาริสี ภาษาฮีบรูมาจากราก “P R Sh” (Parash / Perushime) แปลว่าพวกที่เก็บรักษาธรรมบัญญัติของโมเสสอย่างเคร่งครัด เป็นพวกยิวชาตินิยม อยู่คู่ๆ กับพวกยิวนิยมกรีกคือพวกซะดูสี


• สำหรับฟาริสี โมเสสเปรียบเหมือนต้นตระกูลฟาริสี ที่ฟาริสีทุกคนให้ความเคารพมากที่สุด 


• เราทราบจากพระคัมภีร์สมัยพระเยซูเจ้า เราเห็นพฤติกรรมและนิสัยของชาวฟาริสีและธรรมาจารย์ พระคัมภีร์เขียนวันนี้ชัดว่า...

o เพราะชาวฟาริสีและชาวยิวโดยทั่วไปย่อมถือขนบธรรมเนียมของบรรพบุรุษ

o เขาไม่กินอาหารโดยมิได้ล้างมือตามพิธีก่อน 

o เมื่อกลับจากตลาด เขาจะไม่กินอาหารเว้นแต่จะได้ทำพิธีชำระตัวก่อน

o เขายังถือขนบธรรมเนียมอื่น ๆ อีกมาก เช่น การล้างถ้วย จานชามและภาชนะทองเหลือง 


• ความเคร่งครัดของชาวฟาริสีจริงๆก็ดีนะ แต่บ่อยครั้งพวกเขาเคร่งครัดมาก “กับคนอื่น” เน้นธรรมเนียมมากกว่าความจำเป็นของชีวิต ปัญหาใหญ่ของฟาริสีและซัดดุสีอีกทั้งธรรมมาจารย์และผู้ใหญ่ของศาสนาสมัยพระ เยซูเจ้าคือ “หน้าซื่อใจคด” ภาษากรีกใช้คำว่า Hypocrites หรือ Hypocrite รากศัพท์หมายถึง เขียน สอน แต่สิ่งที่ทำนั้นไม่เหมือนที่เขียนไม่เหมือนที่สอน คือปฏิบัติเกินจากที่เขียนที่สอน คำว่า “หน้าซื่อใจคด” ก็ตรงดีในภาษาไทย แต่มีอีกคำที่น่าจะไปได้ดีมากๆ คือ “มือถือสากปากถือศีล” โอ คำนี้แรงมากๆ ตรงเป๊ะจริงๆเรียกว่า “เป๊ะเวอร์” นั่นคือปัญหาอย่างไม่น่าเชื่อ “มือถือสากปาถือศีล” คือ สอนสวยงามแต่ปฏิบัติตรงกันข้ามเลย คำนี้ราชบัณฑิตอธิบายว่า “มักแสดงตัวว่าเป็นคนมีศีลมีธรรม แต่กลับประพฤติชั่ว”


• พี่น้องที่รัก ประกาศกอิสยาห์ได้เคยกล่าวถึงคนพวกนี้และพระเยซูเจ้าก็ทรงอ้างอิงถึงคนพวก นี้จริงๆ “ประชาชนเหล่านี้ให้เกียรติเราแต่ปาก แต่ใจของเขาอยู่ห่างไกลจากเรา เขานมัสการเราอย่างไร้ความหมาย เขาสั่งสอนบัญญัติของมนุษย์เหมือนกับเป็นสัจธรรม” เน้นธรรมเนียมมากมายที่สร้างขึ้นมาประหนึ่งเป็นบัญญัติที่มาจากพระเจ้า...


• บัญญัติของพระเจ้าแสนดี แต่พวกเขานำมาขยายความให้กลายเป็นธรรมเนียมเพื่อประโยชน์ส่วนตนมากมาย... พ่อคิดว่าบ่อยครั้งคนของพระเจ้า คนของศาสนา ผู้นำศาสนา ศาสนบริกรอย่างพวกเรา อย่างพ่อเป็นต้น และบรรดาผู้เป็นบุคลากรของพระศาสนจักรต้องระวังมากๆ เพราะบางทีกระแสโลกก็รุกล้ำเข้ามาจนเราเองก็เกินเส้นของมาตรฐานบัญญัติของ พระเจ้า กลับไปสู่ธรรมเนียมต่างๆที่สร้างขึ้นเพื่อตนเอง เพื่อพวกพ้องครอบครัวของตน... พ่อคิดว่าเรามีตัวอย่างที่เราได้เห็นกันมาแล้วในหลายระดับครับ...

o ระดับการเมือง.. ได้อำนาจ การได้พรรคพวก การออกกฎหมายที่ทำให้ผิดเป็นถูกได้ เสียงข้างมากยกมือกันตีสามตีสี่ก็ทำกันได้ ขอให้รู้ว่าถูกกฎหมาย ทำได้ และจะได้ทำร้ายทำลายประเทศชาติ เพื่อช่วยพวกตนเอง ประสบการณ์เหล่านี้เราได้เห็นในประเทศของเรา หนักกว่าฟาริสีสมัยพระเยซูคือบรรดาคนที่อยู่ในหน้าที่ในตำแหน่งและทำทุก อย่างดูดีปากถือศีลมือถืออาวุธร้ายแรงคืออำนาจและคอรัปชั่น ทำให้ดูดีมีสง่า ทำถูกกฎหมายแต่ผิดศีลธรรม.. ไม่เป็นไร.. เพราะถูกกฎหมาย... นี่คือปัญหาของสังคมที่ร้ายแรงที่มาจากการเมือง.. เศรษฐกิจก็ผูกขาดทางการค้า กินรวบ และไม่เปิดโอกาสให้คู่แข่งรอดเรื่องเหล่านี้พ่อคงไม่สามารถเขียนถึง ทั้งหมด...

o ระดับที่พ่อห่วงใยคือคือศาสนาครับ... ศาสนิกชนและโดยเฉพาะคนของศาสนา คือ ศาสนบริกรเช่นพ่อเองนี่แหละ และบรรดานักบวชและผู้ร่วมงานอภิบาลทั้งหลาย พ่อต้องเตือนตนเองด้วยพระวาจาของพระเยซูเจ้าจริงๆ เพราะบางทีพวกเราเองกำลังตกเป็นเหมือนฟาริสีหรือซัดดุสีหรือคัมภีราจารย์ เช่นพ่อนี่แหละ... บ่อยครั้ง “การเมืองในหมู่เรา” ประโยคนี้ไม่ใช่ของพ่อ แต่เป็นของพระสันตะปาปาฟรังซิสเอง พระองค์เตือน “การเมือง” ในหมู่คนศาสนา พระองค์เตือนหนักให้เรากลับใจจริงๆ บ่อยครั้ง การใช้อำนาจ หรือการหน้าซื่อใจคดทำให้เราเองทำให้ศาสนาได้รับความนับถือน้อยลงไปมากจริงๆ พระสันตะปาปาฟรังซิสเตือนแรงๆว่า “พอเถอะการเมืองในหมู่เรา”

o พ่อเตือนตัวเองจริงๆ เพราะบางทีเมื่อวัดของเรา ศาสนาของเรา มีเรื่อง “พาณิชย์” เรื่องการเงิน รายได้ และกำไร เข้ามาเกี่ยวข้อง “พระเจ้าและเงินตรา” ช่างอันตรายต่อศาสนาที่แสนบริสุทธิ์จริงๆ เมื่อใดก็ตามที่พระเจ้าเท็จเทียมหรือเงินตราเข้ามาเป็นคู่แข่งกับพระเจ้า เที่ยงแท้... เมื่อวัดของเราต้องทำกิจศาสนาขณะเดียวกันเมือเราคิดถึงคำว่า “กำไร” อันนี้แหละอันตรายที่สุด.. สมัยพระเยซูเจ้าและสมัยก่อนพระองค์ พระวิหารของพระเจ้าต้องมีการถวายบูชานานาชนิด การถวายโค แกะ แพะ นกเขา นกพิราบ ต้องถวายเงิน... ก็เกิดพาณิชย์ในบริเวณพระวิหาร อ้างว่าเพื่ออำนวยความสะดวกแกะประชาชน... ก็จัดให้ จัดไป ขายไป คนทำธุรกิจเหล่านี้ก็คนในพระวิหาร ตระกูลของสมณะหรือเครือญาติ ก็พากันวุ่นวายไปหมด เอากำไร กีดกัน และข่มขู่กัน สร้างระบบการเมืองในพระวิหาร... พระเยซูเจ้าเคยใช้คำว่า “อย่าทำบ้านพระบิดาของเราให้เป็นซ่องโจร(ตลาด)” เออ คำว่าตลาดหรือซ่องโจรมักจะสับๆสนๆกันในการแปลพระวาจาของพระเยซูเจ้าที่ทรง ตำหนิพวกเขา...


• พี่น้องที่รัก วันนี้เขียนเท่านี้ เทศน์เตือนตนเองและไตร่ตรองเท่านี้ดีกว่า เขียนต่อไปเทศน์ต่อไปเจ็บปวดและเรียกว่า “เข้าเนื้อ” ได้ง่ายๆ แต่ที่แน่ๆสิ่งที่พ่ออยากตอบสนองพระวาจาของพระเจ้าคือคำสอนของพระสันตะปาปาฟ รังซิสครับ... อ่านคำสอนของพระสันตะปาปาหน่อยดีไหมครับ “ความชื่นชมยินดีแห่งพระวรสาร” (Evangelii Gaudium) พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเขียนพระสมณะสาสน์เตือนใจนี้ตรงๆกับลูกของพระองค์

o “มีสงครามเกิดขึ้นมากมายภายในประชากรของพระเจ้า และในชุมชนต่าง ๆ ในย่านถิ่นที่ทำงาน มีสงครามอันเกิดจากความอิจฉาริษยา และในระหว่างคริสตชนด้วยเช่นกัน จิตตารมณ์ทางโลกในคริสตชนบางคน ก่อให้เกิดสงครามกับคริสตชนอื่น ๆ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการแสวงหาอำนาจ อภิสิทธิ์ ความพอใจและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของพวกเขา ยิ่งกว่านั้น บางคนยังเลิกดำเนินชีวิตการเป็นสมาชิกของพระศาสนจักร หล่อเลี้ยงจิตตารมณ์การต่อต้าน แทนที่จะเป็นสมาชิกของพระศาสนจักรทั้งมวล ที่มีความหลากหลาย เขากลับเป็นสมาชิกของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่รู้สึกว่าตนเองแตกต่างหรือพิเศษ กว่าคนอื่น

o ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจที่เห็นว่าในชุมชนคริสตชนบางแห่ง และแม้แต่ในระหว่างนักบวชด้วยกัน เราให้ที่ว่างแก่ความเกลียดชังรูปแบบต่างๆ ทั้งความแตกแยก การดูถูกเหยียดหยาม การแก้แค้น ความอิจฉาริษยา ความต้องการยัดเยียดความคิดของตน จนกระทั่งถึงการเบียดเบียนข่มเหง ที่คล้ายคลึงกับการตามล่าบรรดาแม่มดในสมัยโบราณ เราจะประกาศพระวรสารด้วยพฤติกรรมเช่นนี้แก่ใครได้เล่า”


• พี่น้องที่รัก บ่อยครั้งในสมัยพระเยซูเจ้า พวกที่แตกแยกกันแรงๆ ก็คือฟาริสี ซัดดุสี และพวกสมณะนั่นแหละครับ... บัดนี้ ยุคของเราเราต้องไตร่ตรองและเรียนรู้จริงที่จะกลับใจอย่าแท้จริง และนำพวกเราให้พ้นจากความแตกแยกและผลประโยชน์ใดๆ โดยเน้นประโยชน์สุงสุดคือความดีส่วนรวมและความรอดพ้นของทุกคนครับ


• ขอพระเจ้าอวยพรนะครับ...

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก