“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันอังคารที่ 6 มกราคม 2015
เทศกาลพระคริสตสมภพ หลังพระคริสต์แสดงองค์
มก 6:34-44…
34เมื่อเสด็จขึ้นจากเรือ ทรงแลเห็นประชาชนมากมายก็ทรงสงสาร เพราะเขาเหล่านั้นเป็นดังฝูงแกะไม่มีคนเลี้ยง พระองค์จึงทรงเริ่มสั่งสอนเขาหลายเรื่อง 35เนื่องจากเป็นเวลาเย็นมากแล้ว บรรดาศิษย์จึงเข้ามาเฝ้าพระองค์ ทูลว่า “สถานที่นี้เป็นที่เปลี่ยวและเป็นเวลาเย็นมากแล้ว 36ขอพระองค์ทรงอนุญาตให้ประชาชนไปซื้ออาหารกินตามชนบทและตามหมู่บ้านรอบ ๆ นี้เถิด” 
37พระองค์ตรัสตอบว่า “ท่านทั้งหลายจงหาอาหารให้เขากินเถิด” บรรดาศิษย์จึงทูลถามว่า “พวกเราจะต้องไปซื้ออาหารสักสองร้อยเหรียญมาให้เขากินหรือ”

38พระองค์ตรัสว่า “ท่านมีขนมปังกี่ก้อน ไปดูซิ” บรรดาศิษย์ไปดูแล้วกลับมารายงานว่า “มีขนมปังอยู่ห้าก้อนกับปลาสองตัว” 
39พระองค์จึงทรงสั่งให้ทุกคนนั่งลงเป็นกลุ่ม ๆ ตามพื้นหญ้าสีเขียว 40เขาก็นั่งลงเป็นกลุ่ม ๆ กลุ่มละหนึ่งร้อยคนบ้าง ห้าสิบคนบ้าง 41พระองค์ทรงรับขนมปังห้าก้อนกับปลาสองตัวขึ้นมา ทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นมองท้องฟ้า แล้วทรงกล่าวถวายพระพร ทรงบิขนมปังส่งให้บรรดาศิษย์ไปแจกจ่ายให้กับประชาชน ทั้งยังทรงแบ่งปลาสองตัวแจกจ่ายให้ทุกคนด้วย 42ทุกคนได้กินจนอิ่ม 43แล้วยังเก็บเศษขนมปังและปลาที่เหลือได้ถึงสิบสองกระบุงเต็ม 44จำนวนคนที่กินขนมปังครั้งนั้นมีผู้ชายถึงห้าพันคน

 อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• “สงสาร” คือ นิสัยถาวรของคริสตชน... ความสงสารเป็นพลังมาจากความรัก เพราะรักจึงรู้สึกสงสารและกระทำความดี เมตตากรุณา


• ความสงสารไม่จบที่เพียงความรู้สึก “Misericordia” พ่อขอให้เราได้อ่านพระวาจาวันนี้ดีๆ เราได้ยินบ่อยๆ แต่คำสำคัญคือ “พระองค์ทรงสงสาร” 


• เรามาทำความเข้าใจคำว่า “สงสารหรือเมตตา หรือใจสงสาร ใจเมตตา” 


• ความเมตตากรุณาของพระเยซูคริสตเจ้า มหาสมณะอันที่จริงนั้นคือสาระสำคัญที่สุดเช่นเดียวกับความสุภาพอ่อนโยน


• ความหมายของคำว่า “ใจเมตตา” (misericordia= Miserere+Cordia) หัวใจที่เปี่ยมด้วยความสงสาร เราเห็นในข้อนี้ว่า ทัศนคติของมนุษย์และการกระทำของพระเจ้านั้นถูกแสดงออกด้วยคำที่มีรากศัพท์ เดียวกันอย่างแท้จริง “ใจเมตตา และพระเมตตา” 

o ภาษากรีกโดยทั่วไปทางโลกใช้คำนี้ “eleison” เพื่อหมายถึง “Compassion” และที่สำคัญคำว่า “Compassion” นี้ใช้ในพันธสัญญาใหม่เพื่อหมายถึง “การให้ทาน หรือให้สิ่งที่จำเป็นจริงๆ แก่ผู้ที่มีความต้องการที่สุด” สังเกตคำว่า “Compassion= Com+passion หรือ ภาษาลาติน cum+passio”

o พระเยซูทรงทอดพระเนตรเห็นประชาชนติดตามพระองค์ พวกเขาหิว พวกเขาต้องการอาหาร... ดังนั้น “ความเมตตาสงสาร” เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงเรียกร้องจากมนุษย์ และดูเหมือนพระเยซูเจ้าจะสอนเรื่องนี้โดยเรียกร้องอย่างมากเช่นกัน และที่สำคัญ พระองค์เรียกร้องความเมตตา ไม่ใช่เครื่องบูชา


• วันนี้พ่ออยากให้เราเป็นเหมือนพระเยซูเจ้าในประการนี้จริงๆ “สงสาร เมตตาสงสาร” และทรงกระทำเพื่อช่วยพวกเขา นั่นคือผลจากความสงสาร ความสงสารหรือเมตตา มีกระบวนการดังนี้

o ข้อสังเกต พระวรสาร เน้นการแสดงความเมตตานี้โดยเฉพาะกับบรรดาผู้ที่อยู่ชายขอบสังคม หรือผู้ที่มีความต้องการความช่วยเหลือ ความเห็นใจมากที่สุด โดยเฉพาะในเรื่องสะมาเรียผู้ใจดี (ลก 10) เราพบว่า เนื้อหาสาระของ “ความเมตตา” สรุปกระบวนการสามประการคือ
1. เราได้เห็น ได้มองดู และเห็นความอ่อนแอหรือความจำเป็นของเพื่อนพี่น้องรอบข้าง เหมือนพระเยซูเจ้าทรงเห็นประชาชนหิวเมื่อต้องติดตามพระองค์ และทรงรู้ว่าที่นั้นเป็นที่เปลี่ยวยากที่จะหาซื้ออาหาร...
2. เมื่อได้เห็น สิ่งที่ตามมาคือ “ความสงสาร” “Compassion” ความรู้สึกอัดแน่นในหัวใจ ความปรารถนาที่จะร่วมทุกข์ เห็นใจและรู้สึกลึกลงไปในใจ บางครั้งถึงขนาดน้ำตาคลอและร้องไห้ แต่ความสงสารไม่ได้จบเพียงที่นี่...แต่
3. การลงมือ ตัดสินใจกระทำอะไรบางอย่างที่เราสามารถทำได้จริงๆ การลงมือจริงๆ เพื่อช่วยเหลือเพื่อนพี่น้องของเราโดยสุดความสามารถ

o นี่คือสิ่งที่เราสามารถเรียกว่า “กระบวนการของความสงสาร” (Process of Pity and Mercy)


• พี่น้องที่รักเราได้เห็น กระบวนการนี้เกิดขึ้นในองค์พระเยซูเจ้า....

o ทรงแลเห็นประชาชนมากมาย

o ก็ทรงสงสาร เพราะเขาเหล่านั้นเป็นดังฝูงแกะไม่มีคนเลี้ยง

o พระองค์ตรัสตอบว่า “ท่านทั้งหลายจงหาอาหารให้เขากินเถิด” และแม้บรรดาศิษย์จะพยายามปฏิเสธถึงความเป็นไปไม่ได้... พวกเขามีขนมปังเพียงน้อยนิด แต่พระองค์เป็นผู้ทำอัศจรรย์ทวีขนมปังเลี้ยงเขาจนอิ่มและเหลืออีกมากมาย


• พี่น้องที่รัก เราฟังพระวรสารตอนนี้มากมามายหลายรอบ วันนี้พ่อคิดว่า เรามาไตร่ตรองกันจริงๆเถอะว่าเราจะสามารถเป็นเหมือนพระองค์ เลียนแบบพระองค์ในเรื่องหัวใจที่ห่วงในและเมตตาสงสารได้อย่างไรกัน พ่อเชิญชวนทุกท่านให้เอาจริงกันหน่อยครับ... พ่อมั่นใจว่า... “ความสงสารในหัวใจ ใจเมตตา” คือ “หัวใจของเราคริสตชน” เป็นอย่างอื่นไม่ได้โดยเด็ดขาดครับ...

• ให้เราหันมาอ่านพระวรสารตอนนี้และให้พระวรสารตอนนี้อ่านสอนหัวใจเรากันจริงๆ หน่อยนะครับ....

• ในพระวรสารเน้น “ความเมตตา” เป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงเรียกร้องจากมนุษย์ และดูเหมือนพระเยซูเจ้าจะสอนเรื่องนี้โดยเรียกร้องอย่างมากเช่นกัน และที่สำคัญ พระองค์เรียกร้องความเมตตา ไม่ใช่เครื่องบูชา

o เมื่อฟาริสีสะดุดเพราะพระเยซูเจ้าทรงนั่งร่วมโต๊ะกับคนเก็บภาษีและคนบาป (มธ 9:10-13) พระองค์ทรงยืนยันว่า “จงไปเรียนรู้ความหมายของพระวาจาที่ว่า ‘เราพอใจความเมตตากรุณา มิใช่พอใจเครื่องบูชา’ เพราะเราไม่ได้มาเพื่อเรียกคนชอบธรรม แต่มาเพื่อเรียกคนบาป”

o ทรงตำหนิฟาริสีที่กล่าวว่าศิษย์ของพระองค์ที่เก็บรวงข้าวในวันสับบาโต “ถ้าท่านเข้าใจความหมายของข้อความที่ว่า ‘เราพอใจความเมตตากรุณา มิใช่พอใจเครื่องบูชา’ ท่านคงจะไม่กล่าวโทษผู้ไม่มีความผิด เพราะบุตรแห่งมนุษย์เป็นนายเหนือวันสับบาโต” (12:7)


• ใน รม 12:3-8 เปาโลกล่าวถึงของขวัญหรือพระหรรษทานที่แตกต่าง พระหรรษทานสำหรับหมู่คณะ “ผู้ที่ได้รับพระพรที่จะตักเตือน ก็จงตักเตือน ผู้ที่บริจาค ก็จงบริจาคด้วยความเอื้อเฟื้ออย่างจริงใจ ผู้ที่เป็นผู้นำ ก็จงทำหน้าที่ผู้นำด้วยความเอาใจใส่ ผู้ที่แสดงความเมตตากรุณา ก็จงแสดงความเมตตากรุณาด้วยใจยินดี” (รม 12:8)

• พระพรที่แตกต่าง และพระพรที่สำคัญก็คือความเมตตา ในที่นี้กล่าวถึงบุคคลที่มีความเมตตา โดยที่เปาโลดูเหมือนจะคิดถึงบรรดาคนที่อยู่ที่โครินธ์ที่ให้ทุกสิ่งอย่างมี เงื่อนไข มีเจตนาแฝง โดยที่ อันที่จริงเปาโลต้องการเน้นว่า “พระเจ้าทรงรักผู้ที่ให้ด้วยความยินดี”

• ยด 21-23 “20ท่านที่รักทั้งหลาย จงเสริมสร้างตนเองจากพื้นฐานความเชื่อศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของท่าน จงอธิษฐานภาวนาในพระจิตเจ้า 21จงมีความรักอย่างมั่นคงในพระเจ้า ขณะที่รอคอยพระกรุณาของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา เพื่อจะได้รับชีวิตนิรันดร 22จงสงสารคนที่อ่อนแอ 23จงช่วยเขาให้รอดพ้นโดยดึงเขาออกมาจากไฟ จงสงสารคนอื่นด้วย แต่ต้องมีความระมัดระวัง จงอยู่ห่างแม้กระทั่งเสื้อที่เปื้อนมลทินของเขา” เรื่องที่อยู่เบื้องหลังคำสอนของจดหมายของยูดาห์นี้คือเรื่องคำสอนผิดๆ หลังจากที่ได้จัดการกับคำสอนผิดๆ ทั้งหลายแล้ว ผู้นิพนธ์อธิบายว่าจะทำอย่างไรที่จะรักษาชีวิตหมู่คณะไว้ได้

• พ่อสรุป สิ่งที่พ่อเสนอไว้แต่แรก... “ความสงสาร ความเมตตา Misericordia” คือ นิสัยถาวรของคริสตชน... ความสงสารเป็นพลังมาจากความรัก เพราะรักจึงรู้สึกสงสารและกระทำความดี เมตตากรุณา

• พี่น้องที่รัก... ถ้าเราอยากเลียนแบบพระเยซูเจ้า 
1. จงมีความรัก สงสารคนอื่นจริงๆ ชีวิตคริสตชนต้องเรียบร้อยมาก 
2. จงเป็นคนน่ารักมาก 
3. จงเปี่ยมเมตตาสงสารไม่ ไม่ดุและเกรี้ยวกราก... 
4. ขอเถอะครับสงสารเถอะครับ รับรู้และเมตตาเถอะครับ... 
5. จงเป็นคนน่ารักที่สุดสำหรับการเลียนแบบพระเยซู... 
6. จงให้อาหาร เลี้ยงดู และ
7. จงแบ่งปันเสมอนะครับ

• เพราะทั้งหมดนี้คือ ความสงสาร ความใส่ใจ ความเมตตาและการแบ่งปันเช่นนี้ นี่คือนิสัยดีถาวรของพวกเราคริสตชนทุกคนครับ.... ขอพระเจ้าอวยพรครับ

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก