“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ความผิดของชาวยูดาห์

9 1ข้าพเจ้าใคร่จะพบที่พักของผู้เดินทางในถิ่นทุรกันดาร

เพื่อจะได้ละทิ้งประชากรของข้าพเจ้าและจากเขาไป

เพราะเขาทุกคนล้วนผิดประเวณีเป็นกลุ่มชนทรยศ

2“เขาใช้ลิ้นพูดเท็จประหนึ่งเป็นคันธนูที่ยิงลูกศร

ความเท็จ ไม่ใช่ความจริง มีอำนาจaในแผ่นดิน

เขาผ่านจากความชั่วหนึ่งไปสู่อีกความชั่วหนึ่ง

เขาทั้งหลายไม่รู้จักเรา”

พระยาห์เวห์ตรัส

3แต่ละคนจงระวังเพื่อนบ้านของตน

อย่าวางใจพี่น้องคนใดเลย

เพราะพี่น้องทุกคนคอยแต่จะหลอกลวงกันb

เพื่อนบ้านทุกคนมีแต่ใส่ความนินทากัน

4ทุกคนหลอกลวงเพื่อนบ้าน

ไม่มีผู้พูดความจริงแม้แต่คนเดียว

เขาฝึกลิ้นให้พูดเท็จ

อดไม่ได้ที่จะทำชั่ว

5ใช้ความรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เขาหลอกลวงครั้งแล้วครั้งเล่า

เขาปฏิเสธไม่ยอมรู้จักเรา

พระยาห์เวห์ตรัส

6ดังนั้น พระยาห์เวห์จอมจักรวาลตรัสดังนี้ว่า

“ดูซิ เราจะถลุงเขาและทดสอบเขา

ไม่มีวิธีอื่นแล้วที่เราจะทำกับธิดาประชากรของเรา

7ลิ้นของเขาทั้งหลายเป็นเหมือนลูกธนูที่ประหาร

ปากของเขาพูดหลอกลวง

ปากของเขากล่าวสันติกับเพื่อนบ้าน

แต่ใจของเขาวางแผนคอยดักทำร้าย

8เราจะต้องไม่ลงโทษเขาเพราะการกระทำเหล่านี้หรือ

พระยาห์เวห์ตรัส

เราจะต้องไม่ปรับโทษชนชาติเช่นนี้หรือ”

ความทุกข์ในศิโยน

            9ข้าพเจ้าจะร้องไห้และคร่ำครวญบนภูเขา

เป็นเพลงคร่ำครวญบนทุ่งหญ้าในถิ่นทุรกันดาร

เพราะสถานที่เหล่านี้ถูกไฟเผาc ไม่มีผู้ใดผ่านไปมา

ไม่มีผู้ใดได้ยินเสียงร้องของสัตว์เลี้ยงอีก

ทั้งนกบนท้องฟ้าและสัตว์เลี้ยงได้หนีไปทั้งหมด

10“เราจะทำให้กรุงเยรูซาเล็มเป็นกองซากปรักหักพัง

เป็นที่อยู่ของหมาใน

เราจะทำให้หัวเมืองของยูดาห์เป็นที่ร้าง

ไม่มีผู้อาศัย”

11ใครเป็นผู้มีปรีชาที่จะเข้าใจเรื่องนี้ได้ มีผู้ใดที่พระโอษฐ์ของพระยาห์เวห์ตรัสแก่เขาให้ประกาศแก่ผู้อื่นได้ว่า

          ทำไมแผ่นดินจึงถูกทำลายและทิ้งร้างไว้

                    เหมือนถิ่นทุรกันดาร จนไม่มีผู้ใดผ่านไปมา

          12พระยาห์เวห์ตรัสว่า “หายนะนี้เกิดขึ้นเพราะเขาทั้งหลายละทิ้งธรรมบัญญัติที่เราได้ตั้งไว้ต่อหน้าเขา เขาไม่ได้ฟังเสียงของเราและไม่ได้เดินตามนั้น 13แต่ได้เดินตามใจดื้อดึงของตน และติดตามพระบาอัลต่างๆ ที่บรรพบุรุษได้สั่งสอนเขา 14ดังนั้น พระยาห์เวห์จอมจักรวาลพระเจ้าของอิสราเอลจึงตรัสว่า บัดนี้ เราจะให้ประชากรนี้กินบอระเพ็ดและให้เขาดื่มน้ำที่เป็นพิษ 15เราจะทำให้เขากระจัดกระจายไปในหมู่ชนชาติที่ทั้งเขาและบรรพบุรุษไม่เคยรู้จัก เราจะส่งดาบไล่ตามเขา จนกว่าจะได้ทำลายล้างเขาจนหมดสิ้น”

          16พระยาห์เวห์จอมจักรวาลตรัสดังนี้ว่า

“ฟังซิ จงเรียกนางร้องไห้เข้ามา

จงส่งคนไปเรียกนางร้องไห้ที่ชำนาญที่สุดมา”

17ให้นางเหล่านี้รีบมาส่งเสียงคร่ำครวญเพื่อพวกเรา

น้ำตาจะได้ไหลออกจากดวงตาของเรา

หนังตาของเราจะได้มีพุน้ำหลั่งออกมา

18เพราะมีผู้ได้ยินเสียงคร่ำครวญออกมาจากศิโยนว่า

‘พวกเราแย่แล้ว ต้องอับอายมาก

เพราะเราต้องละทิ้งแผ่นดิน

ที่อาศัยของเราถูกทำลายแล้ว’”

19หญิงทั้งหลายเอ๋ย จงฟังพระวาจาพระยาห์เวห์เถิด

หูของท่านจงรับพระวาจาจากพระโอษฐ์

จงสอนเพลงคร่ำครวญบทนี้แก่บุตรหญิงของท่านเถิด

แต่ละคนจงสอนเพลงโศกแก่เพื่อนบ้านของตน

20เพราะความตายได้ขึ้นมาทางหน้าต่างของเรา

เข้ามาในวังของเรา

กำจัดพวกเด็กๆ ออกไปจากถนน

กำจัดคนหนุ่มออกจากลานสาธารณะ”

21จงพูดดังนี้เถิด

พระยาห์เวห์ตรัส

“ศพมนุษย์จะเกลื่อนอยู่ทั่วไป

เหมือนมูลสัตว์ตามทุ่งนา

เหมือนฟ่อนข้าวที่ผู้เกี่ยวทิ้งไว้

และไม่มีผู้ใดจะมาเก็บ”

ปรีชาญาณแท้จริง

            22พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า

“ผู้มีปรีชาอย่าอวดว่าตนมีปรีชา

ผู้มีกำลังอย่าอวดว่าตนมีกำลัง

คนร่ำรวยอย่าอวดว่าตนร่ำรวย

23ถ้าผู้ใดต้องการจะอวดตนก็จงอวดในเรื่องนี้

อวดว่าเขาเข้าใจและรู้จักเราd

เพราะเราคือพระยาห์เวห์ ผู้แสดงความรักมั่นคงe

ความถูกต้องและความยุติธรรมในแผ่นดิน

เราพอใจในสิ่งเหล่านี้ พระยาห์เวห์ตรัส”

การเข้าสุหนัตไม่เป็นประกันว่าจะไม่ต้องถูกลงโทษ

            24“ดูซิ วันเวลากำลังจะมาถึง พระยาห์เวห์ตรัส เมื่อเราจะลงโทษผู้เข้าสุหนัตทุกคนที่ประพฤติตนเหมือนผู้ไม่เข้าสุหนัต คือ 25ชาวอียิปต์ ชาวยูดาห์ ชาวเอโดม ชาวอัมโมน ชาวโมอับ และทุกคนที่โกนจอนหูอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารf เพราะชนชาติเหล่านี้g และพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งหมดมีจิตใจที่ไม่ได้เข้าสุหนัต”

 

9 a “ไม่ใช่ความจริงมีอำนาจ” แปลตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “เขาไม่แข็งแรงสำหรับความจริง”

b “หลอกลวงกัน” แปลตามตัวอักษรว่า “หลอกลวงความหลอกลวง” เป็นการเล่นคำกับชื่อ “ยาโคบ” ซึ่งแปลว่า “ส้นเท้า” เป็นการกล่าวพาดพิงถึงยาโคบที่เข้ามา “แย่งที่” ของเอซาวพี่ชาย โดยจับส้นเท้าของเขาเมื่อคลอดออกมา (ปฐก 25:26 เชิงอรรถ g) ข้อความนี้ยังอาจแปลได้อีกว่า “พี่น้องทุกคนทำตนเหมือนยาโคบ”

c การกล่าวถึงกรุงเยรูซาเล็มถูกคุกคาม อาจเป็นการกล่าวพาดพิงถึงการยกทัพของกษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์มาล้อมกรุงครั้งแรกในปี 605 ก่อน ค.ศ. (2 พกษ 24:1)

d “ความรู้จักพระยาห์เวห์” เป็นหัวใจของการนับถือศาสนาอย่างแท้จริง (ดู ฮชย 2:22 เชิงอรรถ v) และเป็นความคิดหลักในคำเทศน์สอนของประกาศกเยเรมีย์ (ดู ยรม 2:8; 22:15-16; 24:7; 31:34)

e “ความรักมั่นคง” หรือ “hesed” ในภาษาฮีบรู (ดู ฮชย 2:21 เชิงอรรถ u)

f “คนที่โกนจอนหูอาศัยในถิ่นทุรกันดาร” ได้แก่ชาวอาหรับ

g “ชนชาติเหล่านี้” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ชนชาติที่ไม่เข้าสุหนัต” (ดู ข้อ 24)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก