“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันเสาร์ที่ 2 ธันวาคม 2017
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา
ลก 21:29-33…
    34“จงระวังไว้ให้ดี อย่าปล่อยใจของท่านให้หมกมุ่นอยู่ในความสนุกสนานรื่นเริง ความเมามายและความกังวลถึงชีวิตนี้ มิฉะนั้น วันนั้นจะมาถึงท่านอย่างฉับพลัน 35เหมือนบ่วงแร้ว เพราะวันนั้นจะลงมาเหนือทุกคนที่อาศัยอยู่บนแผ่นดิน 36ท่านทั้งหลายจงตื่นเฝ้าอธิษฐานภาวนาอยู่ตลอดเวลาเถิด เพื่อท่านจะมีกำลังหนีพ้นเหตุการณ์ทั้งปวงที่จะเกิดขึ้นนี้ไปยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์บุตรแห่งมนุษย์ได้”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• บทเทศน์วันนี้ช่างเป็นเวลาที่เหมาะกับการเขียนของพ่อมาตลอด 7 ปี เพราะตามที่พ่อได้คิดและวางแผนไว้ บทเทศน์นี้จะเป็นบทเทศน์สุดท้ายที่จะเขียน เพราะรอบปีพิธีกรรมนั้น ครบแล้วสำหรับวันธรรมดาที่พ่อเขียนมาตลอดทุกวันไม่เคยขาดเลย และอันที่จริงๆ ก็เพียงพอและสามารถจะนำไปใช้เตรียมเทศน์หรืออ่านย้อนหลังได้อีกนาน พระวาจาของพระเจ้าวันนี้ คือ วันสุดท้ายในปีพิธีกรรม วันสุดท้ายของปีปฏิทินของพระศาสนจักรคาทอลิก

• ไม่ใช่โดยบังเอิญ แต่ที่จริงๆวันนี้ วันเสาร์สัปดาห์ที่ 34 เป็นวันสุดท้ายที่พ่อได้เขียนบทเทศน์มาถึงในปีนี้ ตลอดเวลาเจ็ดปีพ่อเขียนมามาด้วยความรักต่อพระวาจาอย่างต่อเนื่อง จำความได้และไฟล์ข้อมูลบอกว่า ไม่เคยขาดสักวันเดียวจากวันจันทร์ถึงวันเสาร์ทุกอาทิตย์ ขอบคุณพระเจ้า ขอสรรเสริญและถวายเกียรติแด่พระองค์ผู้เดียว...

• แต่ไม่ต้องห่วงครับ ในรูปแบบใหม่... จะมีการ “ประกาศ เทศน์สอน เพื่อประกาศพระวาจาของพระเจ้าต่อไป โดยอาศัยสื่อใหม่ เฟสบุค หรือไลน์ หรืออะไรที่เหมาะสม เราจะจับมาเป็นทาสรับใช้ประกาศพระวาจาต่อไป แต่การเขียนประจำวันและเทศน์ประจำทุกวันตามบทอ่านจะจบลง การเขียนอาจน้อยลง ถ้าพระเจ้าทรงมีพระประสงค์ต่อไปให้เราประกาศข่าวดี... “การประกาศข่าวดีใหม่” ในรูปแบบใหม่คือเสียงท้าทายของพระศาสนจักรครับ พ่อจึงมั่นใจ และวางใจว่า สิ่งใหม่ วิธีใหม่ ความร้อนรนแบบใหม่ตามกฤษฎีกาสมัชชาฯ จะทำให้เราทำให้พระวาจาของพระเจ้าดังขึ้นและเด่นชัดกว่าที่เคยแน่นอน

• วันนี้เขียนเริ่มต้นเหมือนนักมวยประกาศแขวนนวม เหมือนนักฟุตบอลประกาศแขวนรองเท้า เหมือนนักเทนนิสประกาศแขวนแร็กเกต ไม่หรอกครับ พระวาจาของพระเจ้า ละทิ้งไม่ได้สำหรับพระสงฆ์ การเทศน์จะต้องมีต่อไปจนตลอดชีวิต เพราะหนทางนี้ทำให้พ่อกับพี่น้องสัตบุรุษเป็นหนึ่งเดียวกันในการฟังพระวาจา การภาวนา และการเสริมกำลังกันด้วยชีวิตคริสตชน... พ่อไม่ไปไหน จะประกาศพระวาจาให้เข้มขึ้นกว่าเดิมอาศัยการเทศน์สอน การไตร่ตรอง เพียงการเขียน การเทศน์ประจำวันแบบที่เคยทำมานี้จะหยุดแล้วเท่านั้นครับ... “พระวาจาของพระเจ้าจะถูกปิดกั้นไม่ได้” อย่างแน่นอน

• พี่น้องที่รัก... พระวาจาวันนี้ จบพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญลูกาบทที่ 21 จบการประกาศในรูปแบบวิวรณ์การเตือนให้พร้อมสรรพ พระเยซูเจ้าทรงประกาศชัดเจน ก่อนจะทรงรับทรมาน คือ การจะทรงรักมนุษย์จนถึงที่สุดที่รับทรมานและความตาย...ในบทที่ 22-23 ของพระวรสาร... พระองค์ได้ประกาศตอนท้ายของบทที่ 21 นี้ว่า
o ““จงระวังไว้ให้ดี อย่าปล่อยใจของท่านให้หมกมุ่นอยู่ในความสนุกสนานรื่นเริง ความเมามายและความกังวลถึงชีวิตนี้ มิฉะนั้น วันนั้นจะมาถึงท่านอย่างฉับพลัน เหมือนบ่วงแร้ว เพราะวันนั้นจะลงมาเหนือทุกคนที่อาศัยอยู่บนแผ่นดิน
o ท่านทั้งหลายจงตื่นเฝ้าอธิษฐานภาวนาอยู่ตลอดเวลาเถิด เพื่อท่านจะมีกำลังหนีพ้นเหตุการณ์ทั้งปวงที่จะเกิดขึ้นนี้ไปยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์บุตรแห่งมนุษย์ได้””

• มีสองประเด็นสำคัญ คือ

1. จงระวังให้ดี อย่าปล่อยใจหมกมุ่นในความสนุกรื่นเริงตามกระแสโลก ความเมามืนและความกังวลแต่เรื่องในชีวิตนี้...
o เรื่องนี้จริงเสมอ เพราะเราไม่รู้ว่าเวลาของเราจะมาถึงเมื่อใดนะครับ เราไม่รู้จริงๆ เวลาของเราจะมาถึงเมื่อใดหนอ.. เราจะจากโลกนี้ไปวันใดหนอ พระวาจาเตือนเราให้ระวังและพร้อมไว้... พ่อรู้จากประสบการณ์ตลอดปีที่ผ่านมา มีหลายคน หลายกรณีที่พ่อได้รู้จักมักคุ้น
o เคยมีน้องเณรคนหนึ่งของเราบราเดอร์ “ตูมตาม” น้องอยู่ปีเล็กๆเท่านั้น ยังหนุ่มเหลือเกิน แล้วอยู่ๆ หัวใจของเขาก็ล้มเหลวเพราะสภาพทางกายภาพร่างกายที่ไม่อาจยับยั้งไว้ได้... เวลาก็เป็นแบบนี้
o วานนี้อดีตนักการเมือง การทำงานเพื่อชาติระหว่างประเทศ คนเก่ง คนดีคนหนึ่งที่โดดเด่นก็จากไปอย่างกระทันหันไม่ทันได้ตั้งตัว

2. “ท่านทั้งหลายจงตื่นเฝ้าอธิษฐานภาวนาอยู่ตลอดเวลาเถิด เพื่อท่านจะมีกำลังหนีพ้นเหตุการณ์ทั้งปวงที่จะเกิดขึ้นนี้ไปยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์บุตรแห่งมนุษย์ได้”
o เราต้องการกำลังแห่งการเดินทางไปสู่นิรันดร... พ่อรู้ว่าไม่ง่าย และเชื่อว่าที่สุดเวลาของเราทุกคนก็ต้องมาถึง เหตุการณ์ต่างๆ จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแบบใด เช่นใด และเมื่อใด วันใดหนอที่พระเจ้าจะบอกกับเราถึงพระประสงค์ที่เราไม่อาจเข้าใจได้เลย... และไม่สามารถจะอธิบายได้ด้วยเหตุผลว่า “ทำไม” “ทำไมจึงเป็นเช่นนี้”
o ในหลายๆ กรณีพ่อก็อยากถาม... ทำไมเกิดสิ่งร้ายๆกับชีวิตของคนบริสุทธิ์ ทำไมคนบริสุทธิ์คนดีต้องระทมทุกข์ หรือดูเหมือนจะจากไปเมื่อยังไม่ถึงเวลาอันควรในสายตาของเรามนุษย์... นอกจากคำว่า “ไม่น่าเลย” สิ่งที่ยากกว่านั้นก็คือ “ทำไม”
o เหตุร้ายในโลกของเราในปีพิธีกรรมที่ผ่านมา มีมาก การรุกรานของอุดมการณ์นิยมทางศาสนาแบบผิดๆและบ้าคลั่ง สร้างการสงครามและการแก้แค้นอย่างไม่สิ้นสุด ความรุนแรงและการประหารชีวิตผู้บริสุทธิ์อย่างนาเวทนา เพียงเพราะถือศาสนาต่างกัน เชื้อชาติต่างกัน หรืออุดมการณ์ต่างกัน อุบัติเหตุที่บ้านเมืองไทยเราขึ้นครองอันดับหนึ่งและดูเป็นอันดับสองรองจากประเทศหนึ่งในอาฟริกา แต่ด้วยปริมาณ เราอยู่อันดับหนึ่งมานาน... นานอย่างน่าเวทนาเพราะการศึกษาและการขาดวินัย... การขาดวุฒิภาวะทางการถือและรักษากฎหมาย ข้อบ่งใช้ข้อเดียวที่มาแรงคือเงินและการฉ้อโกงที่กลบความผิดของวินัยและกฎหมายได้เสมอ จนเราสูญเสียชีวิตคนรุ่นเยาวชนไปมากที่สุด และถ้ารอด ก็เป็นภาระหนักของครอบครัวและสังคมตลอดไปอีกนาน
o ปัญหาการอพยพย้ายถิ่นอย่างผิดสังเกต... การขยับย้ายถิ่นของแรงงานข้ามชาติ หรือการทำให้สังคมมากหมายว่างลงเพราะคนวัยทำงานที่แข็งแรงหายไป ทำให้เกิดสังคมเคลื่อนที่แสวงโชค และสังคมที่นั่งรอโชคด้วยความหวังเท่านั้น สองอย่างเกิดไปพร้อมๆกัน และหนักพอกัน... พฤติกรรมการค้ามนุษย์ ความโหดร้ายทางแรงงานและอยุติธรรมต่อชีวิตก็หนักหนานัก...
o เราจำเป็นต้องภาวนาเสมอเพื่อให้เรา ประชากรของเรา บ้านของเรา ครอบครัวบ้านใหญ่รวมของเราคือโลก หลุดพ้นจากสิ่งเหล่านี้ให้ได้... การภาวนา และการออกแรงหนุนการภาวนาเพื่อสร้าง สถาปนา ให้พระอาณาจักรของพระเจ้า อาณาจักรแห่งความรัก ได้เกิดขึ้นจริงๆ ณ เวลานี่ ที่นี่ และเปิดประตูสู่ความหวังในชีวิตนิรันดรด้วย... จนกว่าพระองค์จะเสด็จกลับมา...

พี่น้องที่รัก... จบปลายปีพิธีกรรม ปิดปีปฏิทินพระศาสนจักรและเริ่มใหม่ในวันพรุ่งนี้ ด้วยการมองดู ไตร่ตรอง และเปิดใจ เพื่อว่าเราจะสามารถเดินไปในโลก พร้อมกับโลก แต่ไม่เป็นของโลก แต่พยามพัฒนาโลกให้เป็นพระอาณาจักรของพระเจ้า พระอาณาจักรแห่งความรักเมตตา ยุติธรรม สันติ และความจริง

• พ่อถามคำถามตนเองและถามพี่น้องพร้อมกัน
o ถ้าไม่ใช่เราพระศาสนจักรคาทอลิก พระกายทิพย์ของพระคริสตเจ้าที่จะร่วมกันสถาปนาพระอาณาจักรพระเจ้า แล้วจะเป็นใคร”
o ถ้าไม่ใช่เราคริสตชนที่จะเริ่มต้น รักเมตตา ยุติธรรม สันติ และเป็นเกลือดองแผ่นดิน เป็นแสงสว่างส่องโลก ถ้าไม่ใช่เราแล้วจะเป็นใคร... ที่พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เพื่อคนทั้งหลายเห็นกิจการดีของท่านแล้วจะได้สรรเสริญพระบิดาเจ้าสวรรค์ของท่าน” เทียบ มธ 5:13-16
o ถ้าไม่เริ่มที่เรา แล้วเราจะให้ใครเริ่มที่จะดำเนินชีวิตสถาปนาอาณาจักรพระเจ้า ด้วยความรักเมตตาแท้จริง...

• ขอให้เราตื่นเฝ้าระวัง และภาวนา และเจริญชีวิต อาศัยพระวาจา ศีลศักดิ์สิทธิ์ ร่วมกันนะครับ... ขอให้เราภาวนาและร้องขอพระองค์ “มารานาธา” เชิญเสด็จมาเถิดพระเจ้าข้า ลูกๆรอคอยที่จะฟังและทำตามพระประสงค์ของพระองค์... อาแมน อาแมน อาแมน

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก