“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2016
สัปดาห์ที่ 34 เทศกาลธรรมดา
วว 20:1-4,11-21:2…
1ข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์ ถือกุญแจแห่งบาดาลและโซ่ใหญ่เส้นหนึ่ง 2เขาจับมังกร งูดึกดำบรรพ์คือปีศาจและซาตาน แล้วล่ามมันไว้เป็นเวลาหนึ่งพันปี 3โยนมันลงไปในบาดาล ปิดกุญแจทางเข้าและประทับตราไว้ข้างบน เพื่อมิให้มันหลอกลวงนานาชาติให้หลงผิดได้อีกจนกว่าจะครบกำหนดหนึ่งพันปี หลังจากนั้น มันจะต้องถูกปล่อยออกมาชั่วระยะเวลาสั้น ๆ


4ข้าพเจ้าเห็นบัลลังก์หลายหลัง และบรรดาผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์นั้นได้รับอำนาจที่จะพิพากษา ข้าพเจ้าเห็นวิญญาณของผู้ที่ถูกตัดศีรษะเพราะคำพยานถึงพระเยซูเจ้าและเพราะพระวาจาของพระเจ้า ข้าพเจ้ายังเห็นผู้ที่ไม่ได้กราบนมัสการสัตว์ร้ายและ รูปปั้นของมัน และไม่ยอมสักตราไว้บนหน้าผากหรือที่มือ เขาเหล่านั้นกลับมีชีวิต และเข้าครองราชย์พร้อมกับพระคริสตเจ้าเป็นเวลาหนึ่งพันปี
11ข้าพเจ้าเห็นบัลลังก์ใหญ่สีขาวและเห็นพระองค์ผู้ประทับอยู่บนบัลลังก์ ท้องฟ้าและแผ่นดินสูญหายไปเฉพาะพระพักตร์ของพระองค์ 12แล้วข้าพเจ้าเห็นบรรดาผู้ตายทั้งผู้ใหญ่และผู้น้อยยืนอยู่หน้าพระบัลลังก์ หนังสือหลายม้วนถูกคลี่ออก หนังสืออีกม้วนหนึ่งคือม้วนหนังสือแห่งชีวิตก็ถูกคลี่ออกด้วย บรรดาผู้ตายถูกพิพากษาตามข้อความที่บันทึกไว้ในหนังสือเหล่านั้น ตามกิจการของเขา
13ทะเลคืนบรรดาผู้ตายที่อยู่ในทะเล 14ความตายและแดนผู้ตายก็คืนบรรดา ผู้ตายที่อยู่ในแดนผู้ตาย ทุกคนถูกพิพากษาตามกิจการของตน ความตายและแดน ผู้ตายถูกโยนลงไปในทะเลไฟ ทะเลไฟนี้คือความตายครั้งที่สอง 15ผู้ใดไม่มีชื่อบันทึกอยู่ในหนังสือแห่งชีวิตก็ถูกโยนลงในทะเลไฟ
1แล้วข้าพเจ้าเห็นฟ้าใหม่และแผ่นดินใหม่ เพราะฟ้าและแผ่นดินเดิม สูญหายไป ไม่มีทะเล อีกต่อไป 2ข้าพเจ้าเห็นนครศักดิ์สิทธิ์ คือนครเยรูซาเล็มใหม่ลงมาจากสวรรค์ ลงมาจากพระเจ้า เตรียมพร้อมเหมือนกับเจ้าสาวที่แต่งตัวรอเจ้าบ่าว

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• อ่านวิวรณ์แล้ว เราพบความจริงว่า ไม่ต้องกลัว ความชั่วร้ายในที่สุดจะพ่ายแพ้และมันจะถูกกังขังและลงโทษ วิวรณ์นี้วันนี้ทำให้เราได้เห็นชัดเจน จากถ้อยคำของวิวรณ์ครับ เราอ่านดีๆนะครับ
o “ข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์ ถือกุญแจแห่งบาดาลและโซ่ใหญ่เส้นหนึ่ง เขาจับมังกร งูดึกดำบรรพ์คือปีศาจและซาตาน แล้วล่ามมันไว้เป็นเวลาหนึ่งพันปี
o โยนมันลงไปในบาดาล ปิดกุญแจทางเข้าและประทับตราไว้ข้างบน เพื่อมิให้มันหลอกลวงนานาชาติให้หลงผิดได้อีกจนกว่าจะครบกำหนดหนึ่งพันปี หลังจากนั้น มันจะต้องถูกปล่อยออกมาชั่วระยะเวลาสั้น ๆ”
o ข้อคิดจริงๆ คือ ปีศาจ หรืองูดึกดำบรรพ์ที่เป็นเครื่องหมายของปีศาจและซาตาน ล่ามมันไว้เป็นเวลาหนึ่งพันปี... หนึ่งเป็นจำนวนมากมายมหาศาล ปีศาจหรือซาตานที่ต้องถูกลงโทษ นี่คือเส้นทางของความชั่วร้าย
o การเบียดเบียนคริสตชนในสมัยนักบุญยอห์นนั้น จักรวรรดิโรมมันทำให้ชีวิตคริสตชนขมขื่นจริงๆ กับการเบียดเบียนของกระแสโลก และคำที่พ่อชอบใช้คือกระแสโลภ แต่การเบียดเบียนในสมัยของเรา โลกยุคของเรา ก็ต้องยอมรับว่า ปีศาจหรือซาตานถูกปล่อยออกมาเป็นระยะเวลาสั้นๆ นั่นหมายความว่า...ใช่แล้ว ความชั่วร้ายยังมีอยู่ในโลก มันเหมือนปีศาจที่ออกมาผจญล่อลวงหรือทำร้ายคริสตชนอยู่เนืองๆ
o พี่น้องที่รัก พ่อคิดว่า เราคงต้องใช้เวลาได้ไตร่ตรองมองหาเจ้าปีศาจร้าย ความชั่วร้ายหรือซาตานที่ยังออกมาเพ่นพ่านอยู่ วุ่นวายอยู่ในสังคมของเรา.. ร้ายแรงมากๆกว่าสมัยของยอห์นจริงๆ เชื่อไหมครับ ปีศาจความเห็นแก่ตัวสุดๆ โลภสุดๆ ทำร้ายคนอื่น ทำร้ายสังคม ทำร้ายระบบชีวิตของมนุษย์และเพื่อนพี่น้อง ปีศาจร้ายที่เข้ามาในคราบของลูกแกะแต่เป็นหมาป่าอย่างร้ายกาจ มันมาในคราบของความสวยงาม ตำแหน่ง อำนาจ พรรคพวก การเมือง เครื่องแบบ ความชั่วร้ายบ่อยครั้งแนบเนียนกว่าแต่ก่อนมากๆครับ
o แต่ไม่ต้องกลัวนะครับ พี่น้องที่รัก ไม่ต้องกลัว วิวรณ์นำเรามาถึงจุดที่สำคัญที่สุดคือชัยชนะของพระคริสตเจ้า

• เราจึงต้องอ่านหนังสือวิวรณ์ ไม่ใช่ในฐานะที่หนังสือที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในยุคสุดท้ายของประวัติศาสตร์ ไม่ใช่แม้กระทั่งหนังสือที่กล่าวถึงเหตุการณ์ร่วมสมัยกับผู้นิพนธ์ นั่นคือการที่พระศาสนจักรต้องขับเคี่ยวกับจักรวรรดิโรมันและกับชาวยิวเท่านั้น
o แต่ในฐานะหนังสือที่กล่าวถึงการสู้รบระหว่างพระเยซูคริสตเจ้ากับซาตาน การสู้รบเช่นนี้ยังคงยืดเยื้ออยู่ตลอดไป จากการสู้รบนี้แหละ การเบียดเบียนพระศาสนจักรในสมัยแรกนั้นนับเป็นเหมือนฉากแรกเท่านั้น และแบบอย่างของสิ่งที่จะเป็นมาในการเสด็จมาครั้งที่สองของพระคริสตเจ้า
o หนังสือวิวรณ์จึงเป็นหนังสือที่แจ้งให้เราทราบไม่ใช่เหตุการณ์ที่จะต้องเกิดขึ้นเมื่อสิ้นพิภพ แต่กล่าวถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดอยู่ทุกขณะของประวัติศาสตร์ของโลก พระศาสนจักรซึ่งกำลังถูกเบียดเบียนและถูกขัดขวางในการประกอบภารกิจที่ได้รับมอบหมายมานั้น แม้ในพระศาสนจักรส่วนเล็กที่สุดคือครอบครัวและสังคมย่อย ๆ ของคริสตชน ล้วนกำลังมีส่วนร่วมในชัยชนะของพระคริสตเจ้า

• พี่น้องที่รัก...กางเขน ความตายของพระคริสตเจ้าคือชัยชนะ
o การสิ้นพระชนม์นี้ไม่อาจแยกได้จากการกลับคืนพระชนมชีพในธรรมล้ำลึกปัสกา การกลับคืนพระชนมชีพคือชัยชนะที่แท้จริงเหนือความตาย
1. สำหรับพระศาสนจักรก็เช่นเดียวกัน การที่ต้องผ่านธรรมล้ำลึกปัสกาของพระคริสตเจ้าจึงเป็นชีวิตที่แท้จริงเพื่อรอคอยการกลับคืนพระชนมชีพ พระศาสนจักรเป็นผู้ร่วมในธรรมล้ำลึกปัสกาของพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นศีรษะ เพื่อรับชัยชนะพร้อมกับพระคริสตเจ้า
2. สำหรับบรรดาคริสตชนก็เช่นกัน ไม่มีใครเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้าได้ถ้าเขาไม่ผ่านหนทางเดียวกันกับพระคริสตเจ้าและพระศาสนจักร เพราะพระสิริรุ่งโรจน์ของพระคริสตเจ้าคือไม้กางเขน ไม่มีใครจะเข้าสู่พระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์โดยไม่มีส่วนร่วมในพระสิริรุ่งโรจน์แห่งไม้กางเขนของพระองค์ นักบุญเปาโลเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี (2 คร 4:7-11) การสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้าจึงนับเป็นสิ่งจำเป็น “จำเป็นที่พระคริสตเจ้าจะต้องทนทุกข์ทรมานแล้วจึงจะเข้าไปรับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์มิใช่หรือ?” (ลก 24:26)
o เราจึงไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะพระองค์ทรงได้รับชัยชนะ ทรงทำลายและจำจองความชั่วร้ายได้แน่นอน... และเสมอไป.
.
• วิวรณ์เสนอชัยชนะในรูปแบบความใหม่ในรูปแบบต่างๆอย่างน่าสนใจ และมั่นใจในภาพลักษณ์ของชัยชนะทั้งสิ้น นั่นคือยอห์นย้ำถึงการได้เห็นนิมิต พลังแห่งชัยชนะที่มาจากพระเจ้าครับ...วิวรณ์นั้น เลข 7 คือ เลขสมบูรณ์จริงๆ เรามานับคำว่า “ข้าพเจ้าเห็น” ที่ยอห์นใช้ในตอนนี้ของพระคัมภีร์กันครับ
1. “ข้าพเจ้าเห็นบัลลังก์หลายหลัง และบรรดาผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์นั้นได้รับอำนาจที่จะพิพากษา” (บัลลังก์คืออำนาจแห่งการตัดสินที่มาจากพระเจ้า พร้อมกับคณะอำนาจสวรรค์เพื่อตัดสินความจริง)
2. “ข้าพเจ้าเห็นวิญญาณของผู้ที่ถูกตัดศีรษะเพราะคำพยานถึงพระเยซูเจ้าและเพราะพระวาจาของพระเจ้า” (มรณะสักขีมากมายที่ต้องถูกประหารชีวิตเพราะพระคริสต์และเพราะพระวาจาของพระองค์ พวกเขากลับคืนชีพ และได้รับชัยชนะ)
3. “ข้าพเจ้ายังเห็นผู้ที่ไม่ได้กราบนมัสการสัตว์ร้ายและ รูปปั้นของมัน และไม่ยอมสักตราไว้บนหน้าผากหรือที่มือ เขาเหล่านั้นกลับมีชีวิต และเข้าครองราชย์พร้อมกับพระคริสตเจ้าเป็นเวลาหนึ่งพันปี” (โรมมันได้บังคับให้ประชาชนและคริสตชนนมัสการจักรพรรดิเป็นพระเจ้า แต่มีคนจำนวนมาก คริสตชนที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับความชั่วร้าย พวกเขาได้รับความรอดพ้นอย่างงาม เรียกว่า กล้าทวนกระแสความชั่ว และไม่ยอมให้กับความเลวร้ายในรูปแบบต่างๆ)
4. “ข้าพเจ้าเห็นบัลลังก์ใหญ่สีขาวและเห็นพระองค์ผู้ประทับอยู่บนบัลลังก์ ท้องฟ้าและแผ่นดินสูญหายไปเฉพาะพระพักตร์ของพระองค์” (สีขาว คือสีแห่งความรุ่งโรจน์ ชัยชนะ และอำนาจแห่งสวรรค์ พระองค์ทรงได้รับชัยชนะจริงๆตลอดไป พระองค์ทรงอำนาจ ท้องฟ้าแผ่นดินไม่สามารถสู้อะไรกับพระองค์ได้เลย)
5. ข้าพเจ้าเห็นบรรดาผู้ตายทั้งผู้ใหญ่และผู้น้อยยืนอยู่หน้าพระบัลลังก์ (ทุกคนกำลังมารับการพิพากษา เป็นเครื่องหมายชี้ว่า ทุกคนจะได้รับการพิพากษาจากพระเจ้าตามความประพฤติและการกระทำของตนเอง)
6. “ข้าพเจ้าเห็นฟ้าใหม่และแผ่นดินใหม่ เพราะฟ้าและแผ่นดินเดิม สูญหายไป ไม่มีทะเล อีกต่อไป” (ฟ้าสวรรค์ใหม่เข้ามาแทนที่ เป็นความสมบูรณ์ครบครันมากกว่า... ไม่มีอะไรสามารถทัดทานพระเจ้าได้เลย ไม่มีอะไรสามารถทัดทานความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าได้เลย... ทะเลที่ในหนังสือวิวรณ์บอกว่า สัตว์ร้ายขึ้นมาจากทะเล... และที่นี่ทะเลไม่มีอีกต่อไป คือ ความชั่วร้ายนั้นไม่มีอีกแล้ว)
7. “ข้าพเจ้าเห็นนครศักดิ์สิทธิ์ คือนครเยรูซาเล็มใหม่ลงมาจากสวรรค์ ลงมาจากพระเจ้า เตรียมพร้อมเหมือนกับเจ้าสาวที่แต่งตัวรอเจ้าบ่าว” (ความงามของพระศาสนจักร หรือพระอาณาจักรของพระเจ้า แสดงออกเป็นนครที่เป็นเมืองหลวงคือเยรูซาเล็ม ปรากฏมาเป็นชัยชนะ... สวยงาม บริสุทธิ์ พรมจารีย์เหมือนเจ้าสาว... นี่คือ ชีวิตของพระศาสนจักรที่ต้องเป็นให้ได้ในองค์พระคริสตเจ้า เจ้าบ่าวของพระศาสนจักร)

• พี่น้องที่รัก เราได้พบการเห็นที่ยอห์นเห็น เห็นชัยชนะจริงๆ 7 ครั้ง ที่ยอห์นย้ำว่า “ข้าพเจ้าเห็น” ภาษาของวิวรณ์นี้งดงามมากครับ
o เราได้เห็นชัยชนะ
o เราได้เห็นพลังแห่งการกอบกู้ แม้ดูเหมือนจะพ่ายแพ้และต้องตายเป็นมรณะสักขี แต่ก็ได้รับการกอบกู้จริงๆ
o เราได้เห็นฟ้าใหม่แผ่นดินใหม่
o เราได้เห็นนครหรือเมืองที่มาเหนือกรุงโรมแห่งอาณาจักรโรมันที่เบียดเบียนคริสตชน “นครศักดิ์สิทธิ์ คือ เยรูซาเล็ม” นครแห่งสันติที่มาจากพระเจ้าจริงๆ
o นี่คือพระศาสนจักรของเราที่เราเชื่อในพลังแห่งการช่วยให้รอดพ้น ที่พระคริสตเจ้าได้ทรงนำมาให้เราอย่างแน่นอน...
o พ่อกล้ายืนยันพร้อมกับบทเพลงบทหนึ่งพระศาสนจักร “สักวันฉันจะได้เห็น...”
o ขอพระเจ้าแห่งชัยชนะอวยพรทุกท่านครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก