“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2016
สัปดาห์ที่ 30 เทศกาลธรรมดา
อฟ 4:32-5:8
ทั้งหลาย 32แต่จงมีใจโอบอ้อมอารี มีเมตตาต่อกัน ให้อภัยกันดังที่พระเจ้าทรงให้อภัยแก่ท่าน ในองค์พระคริสตเจ้าเถิด 5 1ท่านทั้งหลายจงทำตามแบบฉบับของพระเจ้า ประดุจบุตรสุดที่รักของพระองค์ 2จงดำเนินชีวิตในความรักดังที่พระคริสตเจ้าทรงรักเราและทรงมอบพระองค์เพื่อเรา เป็นเครื่องบูชากลิ่นหอมถวายแด่พระเจ้า


3ในหมู่ท่านทั้งหลาย อย่าให้มีการผิดประเวณี ความลามกโสมมต่าง ๆ หรือความโลภ อย่าให้มีแม้แต่การพูดถึง จึงจะเป็นการเหมาะสมกับผู้ศักดิ์สิทธิ์ 4อย่าให้มีทั้งการพูดหยาบคาย พูดไร้สาระและตลกหยาบโลนซึ่งไม่เป็นการสมควร แต่ให้มีการขอบพระคุณ
5ท่านทั้งหลายจงรู้ไว้เถิดว่า คนผิดประเวณี คนลามกโสมม และคนโลภซึ่งเป็นเสมือนคนนับถือรูปเคารพ ไม่มีสิทธิรับมรดกในพระอาณาจักรของพระคริสตเจ้าและของพระเจ้าเลย 6อย่าให้ใครใช้คำพูดไร้สาระหลอกลวงท่าน ผู้ที่ไม่ยอมเชื่อฟังและทำความผิดเหล่านี้สมควรจะได้รับโทษจากพระเจ้า 7จงอย่าสมาคมกับคนเหล่านี้เลย 8ในอดีตท่านเคยเป็นความมืด แต่บัดนี้ท่านเป็นความสว่างในองค์พระผู้เป็นเจ้า จงดำเนินชีวิตเช่นบุตรแห่งความสว่างเถิด

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• “ใจโอบอ้อมอารีย์ มีเมตาต่อกัน ให้อภัยกัน.... ในพระคริสตเจ้า”....

• ตั้งแต่พ่อเป็นเด็กจินตนาการของพ่อเรื่องของพระเจ้านั้นเป็นจินตนาการที่ยิ่งใหญ่เสมอ
o พระเจ้าหรอครับ พระเจ้าคือใครจริงๆไม่เคยเห็น ไม่เคยได้เห็นพระองค์...
o แต่...ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กๆ ตั้งแต่จากับแม่จับมือเราทำเครื่องหมายกางเขน และเอ่ย “เดชะพระนาม พระบิดา และพระบุตรและพระจิต”
o ตั้งแต่เด็กๆ ที่รู้ความเราต้องไปวัดกันทั้งครอบครัวทุกวันอาทิตย์ ทุกเหตุการณ์ฉลองสำคัญ เราต้องไปวัดด้วยกันหมดทั้งบ้านเสมอๆ
o เราต้องสวดภาวนาด้วยกั้นทั้งบ้าน จำได้ว่า แม่คือนาฬิกาปลุกลูกๆทุกเช้า... ตีห้าเศษๆเราต้องตื่นกันหมด เพราะบ้านมีสองห้องนอน “ห้องนอนรวม” อยู่ฝั่งตรงข้ามกันโดยมีแท่นพระขนาดใหญ่อยู่กลางระหว่างห้องนอน เป็นสักการสถานของบ้าน มีรูปพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า ยืนอยู่ในกระจกครอบ และมีรูปแม่พระ บรรดานักบุญทั้งหลายมากมาย และบนสุดจรดเพดานมีกางเขนเก่าๆ ดำๆ ติดอยู่ โดยสองข้างขนาบด้วยรูปภาพใส่กรอบกระจกพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าและดวงหทัยของพระแม่มารีอา มีไฟแท่นพระ และต้องเปิดไฟเมื่อจะสวดภาวนา บางโอกาสต้องจุดเทียนด้วย... เช่นเวลาฝนตก ไฟดับ พายุมา แท่นนี้คือชีวิตคือที่พึ่งและความหวังของเราทุกคน
o ทุกเช้าแม่จะเรียกด้วยเสียงอันดังของแม่...ลุกขึ้นสวด... “สุกขึ้นสวดโว๊ยยยย...ไม่ใช่โว๊ยหรอก แต่เป็นเร๊ววว มากว่า เพราะแม่ไม่เคยพูดคำหยาบเลยเท่าที่พ่อจำความได้.” นั่นคือสำนวนของแม่เวลาที่มีแต่ลูกๆๆ แต่เมื่อถึงชั้นที่มีหลานๆๆ หรือเวลาที่เราเข้าบ้านเณรกลับมา แม่จะพูดเพราะขึ้นว่า “ลุกขึ้นสวดครับ... ลุกขึ้นสวดค่ะ...” แม่ปรับตัวทันสมัยเสมอ แม่เป็นคนมีวิสัยทัศน์ เก่งครับ

• วันนี้ขอชมแม่แป้นของพ่อหน่อยครับท่านจากไปยี่สิบปีแล้ว... ถ้าคนๆหนึ่งอุ้มท้องหนักๆ ให้ลูกคนละเก้าเดือน...และคลอดลูกได้สิบกว่าคน หญิงที่คิดว่าอุ้มท้องก็ต้องเดินยาก หนัก ลำบากต้องระวัง แม่พ่อนี่แหละ สิบกว่าคนที่คลอดมา แม้เสียไปตอนเด็กๆ มีพี่น้องที่มีชีวิตอยู่จนปัจจุบันถึง 15 คนที่อยู่ด้วยกัน แต่ที่แน่ๆพ่อเป็นคนที่ 14 ที่อยู่ใน 15 คน และพ่อก็ใกล้ 51 เข้าไปแล้ว... อืม ถ้าใครเลี้ยงลูกได้ขนาดนี้ ต้องถือว่าเก่งมากและมีความเชื่อมากๆครับ...
o เอาละครับ กลับมาเรื่องสวดต่อ แม่จะปลุกลูกๆ ทุกวันให้สวดภาวนา... ให้ต้องลุกขึ้นมานั่งซึมๆเซื่องๆ แต่ก็สวดสายประคำ 30 เม็ดครับ พร้อมกับ... เยซูมารีอายอแซฟ โอ้พระชนนีฯ ... ฯลฯ จบท้ายด้วยภาษาญวณของแม่กับจาจะสวดกันสองคน เราก็มั่วๆตามไปตามทำนองเป็นพรหมถือสารฯ ภาษาญวณ พ่อก็มั่วไปขอให้เทคออฟและแลนดิ้งได้... แล้วก็จะได้....ล้มตัวนอนต่ออีกหน่อย....
o ชีวิตบ้านนอกของเราก็ประมาณนี้ครับโลกยามเช้าของเรา.... ส่วนยามค่ำก็บ้านยายครับ มีโทรทัศน์ให้ดู บ้านเราไม่มีครับ... สองทุ่มก็...ยายเรียกปิดโทรทัศน์สวดครับ อย่างยาวหน่อย สายประคำหนึ่งสายเลยที่เราต้องนั่งกันตัวตรงๆ รอให้สวดจบ จะได้ดูหนังต่อกันได้...
o นี่แหละเรื่องของพระเจ้า พระเจ้ามีส่วนแบบนี้ พระเจ้ามีส่วนเพราะเราได้รับการอบรมด้วยความเชื่อเสมอว่า มีพระองค์นะ พระองค์สำคัญที่สุดนะ ให้เวลากับพระองค์นะ พระองค์คือที่มาและเป้าหมายของเรานะ พระองค์เท่านั้นนะคืออนาคตของเรา...

• นื่คือเหตุผลที่เราได้รับ ได้เชื่อเสมอมาว่าเรามีพระเจ้า

• เราต้องรักพระองค์ เราต้องรัก ต้องรัก ต้องรัก ไม่รักไม่ได้

• และเราเป็นลูกของพระเจ้า เราไม่รักไม่ได้...

• นี่คือเหตุผลลึกๆของความเชื่อที่พวกเราถูกอบรมสั่งสอนมาแต่เด็ก... ทำให้เราต้องมีความยั้งคิดและพิจารณา ทำให้พ่อได้รับการอบรมให้มีมโนธรรมแบบคริสตชนครับ คือ
o ไม่อยากทำผิด หรือไม่ควรทำบาปหรือทำสิ่งไม่ดี
o ไม่อยากโกง แม้อยากจริงๆ อยากมากๆ ก็ “ทำไม่ได้” ทำไม่ได้หรอก เราเป็นลูกพระ และ
o ถ้าเราทำผิดละเมิดไปเราก็เสียใจ เสียใจจริงๆ ทุกทีไป เพราะเราเป็นลูกพระ ไปขอโทษพระ และตั้งใจเสมอไม่อยากทำอีก...
o เราอยากทำดี อยากรัก อยากเมตตา สงสาร และอยากแบ่งปัน แม้เรามีความอยากเห็นแก่ตัวก็ตาม.... “เพราะเรามีพระเจ้า เพราะเราเป็นลูกพระ” ....
o นี่คือเหตุผลของมโนธรรมและแรงจูงใจที่ยังอยู่ในชีวิตเสมอ... เราคริสตชนจะทำเลวไม่ได้ และถ้าพลาดผิดหรือพลั้งทำไปก็ต้องรู้สึกละอายต่อบาป อยากกลับใจ อยากคืนดี
o เรามีพระเจ้าอยู่ในชีวิตเรา เรามีมโนธรรมคือเสียงเตือนใจที่มาจากความเชื่อ มาจากพลังแห่งความหวังและความรักที่อยู่ภายในจิตใจของเรา เราต้องดีสิน่า ไม่ได้ดีได้อย่างไร....

• พี่น้องครับ ประสบการณ์ของพ่อ เล่าเพื่อตอกย้ำประสบการณ์ดีๆ ที่พระเจ้ามอบให้เราได้เชื่อในพระองค์ ให้เราได้รู้จักและรักพระองค์ จากครอบครัวของเราทุกคน จากเพื่อนพี่น้องของเรา
o ขอให้เราเสริมกำลังความเชื่อนะครับ ให้เราฟังเสียงของพระเจ้าเสมอ ให้เรารักพระเจ้าและเพื่อนมนุษย์เสมอ นั่นคือพลัง กำลังภายในสูงสุด ขั้นสูงสุดของเราที่เราจะประพฤติดีเสมอ...
o พ่อเห็นคนโกงในบ้านเมืองของเราเยอะ ยอมแลกผลประโยชน์ของชาติเพื่อตนเองด้วยความเห็นแก่ตัวจนน่าเกลียดน่าชั่งมากๆ เราทุกคนก็เห็นเหมือนกัน คนโกง ข้าราชการ นักการเมืองทุกๆรูปแบบ และบางทีเรา เรา เราเอง.... “ก็เอากับเขาด้วย”
o เห็นแล้วต้องหันกลับมาพิจารณาตัวเอง และเราต้องเป็นต่อไป คือ ต้องเป็น “แสงสว่างส่องโลก และเกลือดองแผ่นดิน” เราจะดับมืดหรือจืดชืดในความดีความรักเมตตาไม่ได้อย่างเด็ดขาด เราต้องเดินต่อไปในความเชื่อนะครับ

• อ่านพระคัมภีร์วันนี้จะเห็นว่า เราเป็นลูกพระ เราต้องมีนิสัยดี มีคุณธรรมความดี แบบทำให้เลวไม่ได้เลย ในการเจริญชีวิต เราต้องเป็นคนเมตตา โอบอ้อมอารี ให้อภัย...ฯลฯ

• อ่านพระคัมภีร์วันนี้ในบทจดหมายของนักบุญเปาโลดีๆนะครับ ช่วยกันสร้างคุณธรรมประจำชีวิตให้เป็นนิสัยถาวรแก้ไม่ได้เลยคือ “นิสัยดี...เราใจดีเมตตาและให้อภัยเสมอไป....เพราะเราเป็นบุตรของพระเจ้า...”
• พี่น้องครับ ขอพระเจ้าอวยพรให้เราเชื่อในพระองค์ มีพระองค์เสมอในชีวิตของเรานะครับ... ดูตัวบทอีกทีก็ได้ครับ....

“ท่านทั้งหลาย...
1. จงมีใจโอบอ้อมอารี มีเมตตาต่อกัน ให้อภัยกันดังที่พระเจ้าทรงให้อภัยแก่ท่าน ในองค์พระคริสตเจ้าเถิด
2. จงทำตามแบบฉบับของพระเจ้า ประดุจบุตรสุดที่รักของพระองค์
3. จงดำเนินชีวิตในความรักดังที่พระคริสตเจ้าทรงรักเราและทรงมอบพระองค์เพื่อเรา เป็นเครื่องบูชากลิ่นหอมถวายแด่พระเจ้า
4. อย่าให้มีการผิดประเวณี ความลามกโสมมต่าง ๆ หรือความโลภ
5. อย่าให้มีแม้แต่การพูดถึง จึงจะเป็นการเหมาะสมกับผู้ศักดิ์สิทธิ์
6. อย่าให้มีทั้งการพูดหยาบคาย พูดไร้สาระและตลกหยาบโลนซึ่งไม่เป็นการสมควร
7. แต่ให้มีการขอบพระคุณ
8. จงดำเนินชีวิตเช่นบุตรแห่งความสว่างเถิด”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก