“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

III. สรุปบทบาทของโยชูวา

ก. เผ่าทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนกลับสู่ภูมิลำเนา

เรื่องพระแท่นบูชาa

เผ่าจากทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดนกลับสู่ภูมิลำเนา

22 1ต่อมา โยชูวาเรียกชนเผ่ารูเบน เผ่ากาดและครึ่งเผ่ามนัสเสห์มาชุมนุมกัน 2พูดว่า “ท่านทั้งหลายได้ปฏิบัติตามทุกสิ่งที่โมเสสผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์สั่งให้ทำ และได้ฟังเสียงของข้าพเจ้าในทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าสั่ง 3ท่านไม่ได้ทอดทิ้งพี่น้องตลอดเวลานานมาแล้วจนถึงทุกวันนี้ ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านอย่างซื่อสัตย์ 4บัดนี้ที่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านได้ประทานการหยุดพักแก่พี่น้องของท่าน ตามที่ทรงสัญญาไว้แล้ว จงกลับไปบ้านของท่าน ไปยังแผ่นดินส่วนมรดกของท่าน ซึ่งโมเสสผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์มอบให้ท่านทางฟากโน้นของแม่น้ำจอร์แดน 5แต่จงเอาใจใส่เป็นพิเศษที่จะปฏิบัติตามบทบัญญัติและธรรมบัญญัติ ซึ่งโมเสสผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์มอบให้ คือ จงรักพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน จงเดินตามทางของพระองค์อยู่เสมอ ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ จงยึดมั่นในพระองค์และรับใช้พระองค์สุดจิตใจและสุดวิญญาณ”

6แล้วโยชูวาก็อวยพรเขาทั้งหลายและส่งกลับไป เขาจึงกลับไปบ้านของตน

7 โมเสสเคยมอบแผ่นดินในแคว้นบาชานแก่ชนครึ่งหนึ่งของเผ่ามนัสเสห์ และโยชูวามอบแผ่นดินแก่อีกครึ่งหนึ่งของชนเผ่านี้ในหมู่พี่น้องทางฟากนี้ของแม่น้ำจอร์แดนด้านตะวันตก โยชูวาส่งคนเหล่านี้กลับไปบ้านและอวยพรเขาด้วย 8พูดว่า “จงกลับไปบ้านพร้อมกับทรัพย์สมบัติมากมาย ฝูงสัตว์จำนวนมาก เงิน ทองคำ ทองสัมฤทธิ์และเหล็ก และเสื้อผ้าอีกมาก จงแบ่งปันสิ่งของที่ยึดได้จากศัตรูแก่พี่น้องของท่านด้วย”

การสร้างแท่นบูชาริมแม่น้ำจอร์แดน

9ชนเผ่ารูเบน เผ่ากาดและมนัสเสห์ครึ่งเผ่ากลับไปบ้าน แยกจากชาวอิสราเอลเผ่าอื่นที่เมืองชิโลห์ในแผ่นดินคานาอัน มุ่งหน้าไปยังแคว้นกิเลอาด ซึ่งเป็นแผ่นดินที่เขาได้รับเป็นกรรมสิทธิ์ตามพระบัญชาของพระยาห์เวห์ผ่านทางโมเสส 10เมื่อมาถึงเกลีโลทใกล้กับแม่น้ำจอร์แดน ในแผ่นดินคานาอัน ชนเผ่ารูเบน เผ่ากาดและมนัสเสห์ครึ่งเผ่าได้สร้างแท่นบูชาไว้ที่ริมแม่น้ำจอร์แดน เป็นแท่นบูชาขนาดใหญ่สง่างาม

11เมื่อชาวอิสราเอลอื่นๆ ได้ยินเรื่องนี้ จึงพูดกันว่า “ดูสิ ชนเผ่ารูเบน เผ่ากาดและมนัสเสห์ครึ่งเผ่าได้สร้างแท่นบูชาไว้ตรงชายแดนคานาอัน ที่เกลีโลทริมฝั่งแม่น้ำจอร์แดน ทางฝั่งของพวกเราชาวอิสราเอล”

12เมื่อชาวอิสราเอลได้ยินข่าวนี้ ก็ได้เรียกชุมชนทั้งหมดมาชุมนุมกันที่เมืองชิโลห์ เพื่อเดินทัพไปทำสงครามกับเขา

ชาวอิสราเอลตำหนิชนสองเผ่าครึ่งทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน

13ชาวอิสราเอลส่งฟีเนหัสบุตรของสมณะเอเลอาซาร์ไปพบชนเผ่ารูเบน เผ่ากาดและมนัสเสห์ครึ่งเผ่าในแผ่นดินกิเลอาด 14มีชนชั้นนำสิบคนไปกับเขา จากหัวหน้าครอบครัวของอิสราเอลแต่ละเผ่า แต่ละคนเป็นหัวหน้าครอบครัวในตระกูลของอิสราเอล 15เมื่อมาพบชนเผ่ารูเบน เผ่ากาดและมนัสเสห์ครึ่งเผ่าในแคว้นกิเลอาด เขาพูดว่า

16“ชุมชนทั้งหมดของพระยาห์เวห์กล่าวดังนี้ ‘ทำไมท่านทั้งหลายจึงไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าแห่งอิสราเอล ทำไมท่านจึงหันเหไปจากพระยาห์เวห์ในวันนี้ และสร้างแท่นบูชาโดยตั้งใจจะเป็นกบฏต่อพระยาห์เวห์ในวันนี้b

17ความผิดที่เราได้ทำที่เปโอร์ยังไม่พอหรือ จนถึงวันนี้พวกเรายังชำระตนให้บริสุทธิ์ไม่ได้ แม้โรคระบาดได้เกิดขึ้นในชุมชนของพระยาห์เวห์มาแล้ว 18วันนี้ท่านยังหันเหไม่ยอมติดตามพระยาห์เวห์อีกหรือ ถ้าวันนี้ท่านเป็นกบฏต่อพระยาห์เวห์ พรุ่งนี้ พระองค์จะทรงพระพิโรธต่อชุมชนอิสราเอลทั้งหมด

19ถ้าแผ่นดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของท่านมีมลทิน ก็จงข้ามเข้ามาในแผ่นดินของพระยาห์เวห์ ที่ซึ่งกระโจมที่ประทับของพระยาห์เวห์ตั้งอยู่เถิด จงเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ในหมู่พวกเรา แต่จงอย่ากบฏต่อพระยาห์เวห์ หรือทำให้เราร่วมเป็นกบฏด้วยโดยสร้างแท่นบูชาสำหรับท่าน นอกเหนือจากแท่นบูชาของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา 20เมื่ออาคานบุตรของเศรัคละเมิดคำสั่งให้ทำลายล้าง พระยาห์เวห์ทรงลงโทษชุมชนอิสราเอลทั้งหมดมิใช่หรือ แม้เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ทำผิด เขาไม่เป็นเพียงคนเดียวที่ต้องตายเพราะความผิดนั้น’”

ชนสองเผ่าครึ่งทางฟากตะวันออกอธิบายเหตุผลการกระทำของตน

21ชนเผ่ารูเบน เผ่ากาดและครึ่งเผ่ามนัสเสห์จึงตอบหัวหน้าตระกูลของอิสราเอลว่า

22“พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพcเป็นพระยาห์เวห์ พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพเป็นพระยาห์เวห์ พระองค์ทรงทราบ และอิสราเอลจงรู้ด้วย ถ้าการกระทำเช่นนี้ของเราเป็นการกบฏหรือเป็นความไม่ซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์ ก็ขอให้พระองค์ทรงอย่าช่วยพวกเราให้รอดพ้นในวันนี้ 23ถ้าเราได้สร้างแท่นบูชาเพื่อหันเหไปไม่ติดตามพระยาห์เวห์ ถวายเครื่องเผาบูชาและธัญบูชา หรือถวายศานติบูชาบนพระแท่นนั้น ขอพระยาห์เวห์ทรงลงโทษพวกเราเถิด 24แต่ทว่าพวกเราได้ทำเช่นนี้เพราะเกรงว่าในอนาคตบุตรหลานของท่านอาจพูดกับบุตรหลานของเราว่า ‘ท่านทั้งหลายเกี่ยวข้องอย่างไรกับพระยาห์เวห์พระเจ้าของอิสราเอล 25พระยาห์เวห์ทรงกำหนดให้แม่น้ำจอร์แดนเป็นเขตแดนระหว่างเรากับท่านชนเผ่ารูเบนและเผ่ากาด ท่านไม่มีส่วนร่วมกับพระยาห์เวห์เลย’” ดังนั้น บุตรหลานของท่านอาจทำให้บุตรหลานของเราเลิกยำเกรงพระยาห์เวห์

26เราจึงพูดกันว่า “เราจงสร้างแท่นบูชานี้ ไม่ใช่เพื่อถวายเครื่องเผาบูชาหรือเครื่องบูชาอื่นใด 27แต่เพื่อเป็นพยานระหว่างเรากับท่าน และระหว่างบุตรหลานที่จะมาในภายหลังว่าเราต้องการนมัสการพระยาห์เวห์เฉพาะพระพักตร์พระองค์ ด้วยเครื่องเผาบูชา เครื่องบูชาและศานติบูชาของเราด้วย ดังนั้น ในอนาคต บุตรหลานของท่านจะได้ไม่พูดกับบุตรหลานของเราว่า ท่านทั้งหลายไม่มีส่วนกับพระยาห์เวห์เลย” 28เราจึงพูดกันว่า “ถ้าในอนาคต เขาจะพูดเช่นนี้กับเราหรือกับบุตรหลานของเรา เราจะตอบว่า ‘จงดูรูปแบบของพระแท่นบูชาของพระยาห์เวห์ ที่บรรพบุรุษของเราได้สร้างไว้ ไม่ใช่เพื่อถวายเครื่องเผาบูชาหรือเครื่องบูชาอื่นๆ แต่เพื่อเป็นพยานระหว่างเรากับท่าน’ 29เราไม่เคยคิดเลยที่จะเป็นกบฏต่อพระยาห์เวห์ และหันเหไม่ติดตามพระองค์โดยสร้างแท่นบูชาเพื่อถวายเครื่องเผาบูชา ธัญบูชาและเครื่องบูชาอื่นๆ นอกเหนือจากพระแท่นของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราซึ่งตั้งอยู่หน้ากระโจมที่ประทับของพระองค์”

ชนทุกเผ่าคืนดีกัน

30เมื่อสมณะฟีเนหัส บรรดาผู้นำชุมชน และหัวหน้าตระกูลของอิสราเอลซึ่งมากับเขาได้ยินถ้อยคำของชนเผ่ารูเบน เผ่ากาด และเผ่ามนัสเสห์ ก็พอใจ 31ฟีเนหัสบุตรของสมณะเอเลอาซาร์บอกชนเผ่ารูเบน เผ่ากาดและเผ่ามนัสเสห์ว่า “วันนี้ พวกเรารู้ว่าพระยาห์เวห์สถิตในหมู่เรา เพราะท่านไม่ได้ทำผิดต่อพระยาห์เวห์ในเรื่องนี้ ท่านจึงทำให้ชาวอิสราเอลพ้นจากการลงโทษของพระยาห์เวห์”

32ฟีเนหัสบุตรของสมณะเอเลอาซาร์และบรรดาผู้นำจึงเดินทางจากชนเผ่ารูเบนและเผ่ากาด กลับจากแผ่นดินกิเลอาดไปยังแผ่นดินคานาอันและไปพบชาวอิสราเอล นำเรื่องราวมาบอกให้รู้ 33เมื่อชาวอิสราเอลรู้เรื่องนี้ ก็พอใจและถวายพระพรแด่พระเจ้า เขาไม่พูดถึงการยกทัพไปทำสงครามกับชนเผ่ารูเบนและชนเผ่ากาด และทำลายแผ่นดินที่เขาอาศัยอยู่อีกเลย 34ชนเผ่ารูเบนและชนเผ่ากาดเรียกแท่นบูชานี้ว่า “พระแท่นพยาน”d เพราะเขากล่าวว่า “พระแท่นนี้จะเป็นพยานระหว่างพวกเราว่า พระยาห์เวห์เป็นพระเจ้า”

 

22 a บทที่ 22 มาจากตำนานหลายสาย (ก) ข้อ 1-6 มาจากตำนานเฉลยธรรมบัญญัติและสอดคล้องกับ 1:12-18 (ข) ข้อ 7-9 เป็นเรื่องเกี่ยวกับชนเผ่ามนัสเสห์ครึ่งเผ่า ซึ่งต่อเติมเข้ามาในภายหลัง (ค) ข้อ 10-34 ได้รับการเรียบเรียงใหม่จากตำนานสงฆ์ อย่างไรก็ตาม เรื่องราวทั้งหมดในบทนี้ได้มาจากตำนานโบราณ และสะท้อนการชิงดีกันระหว่างสักการสถานที่เมืองชิโลห์ (ข้อ 9 และ 12) รวมทั้งบรรดาสมณะที่นั่น (ดู ข้อ 13ฯ; 30ฯ) กับชนเผ่าทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน ซึ่งเผ่าอื่นๆ อาจรู้สึกว่า เขตแผ่นดินแห่งพระสัญญาสิ้นสุดลงที่แม่น้ำจอร์แดน

b การที่ชนเผ่ารูเบนและกาดสร้างพระแท่นบูชาถูกตำหนิที่นี่และในข้อ 19 ว่า เป็นการละเมิดกฎหมายที่กำหนดให้มีสักการสถานเพียงแห่งเดียว (ฉธบ 12:5) แต่โดยแท้จริงแล้วกฎข้อนี้ถูกกำหนดขึ้นเป็นเวลานานมากหลังจากนั้น

c “พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ” แปลตามตัวอักษรว่า “พระเจ้าของบรรดาพระเจ้า” (เอลเอโลฮิม) การใช้พระนามทั้งสองรวมกันเป็นสูตรที่ใช้ในการสาบานหรือสาปแช่ง (ดู ฉธบ 10:17; สดด 50:1; ดนล 11:36) ทั้งคำว่า “เอล” และ “เอโลฮิม” ซึ่งเป็นพหูพจน์ของคำ “เอล” ก็แปลว่า “พระเจ้า” โดยปกติมักจะใช้เพียงคำใดคำหนึ่งเท่านั้น มีความหมายเช่นเดียวกัน คำ “เอล” ซึ่งอยู่ในรูปเอกพจน์ เป็นคำโบราณกว่า (ดู ปฐก 33:20; 46:3; กดว 16:22)

d “พระแท่นพยาน” ต้นฉบับภาษาฮีบรูไม่สมบูรณ์ ละชื่อนี้ แต่ต้องเสริมจากข้อความในประโยคต่อไป (เทียบ การอธิบายชื่อ “กิเลอาด” ใน ปฐก 31:47-48)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก