“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

อับซาโลมวางแผนกบฏ

15 1ต่อมา อับซาโลมจัดหารถศึกเทียมม้าคันหนึ่ง มีทหารห้าสิบคนวิ่งนำหน้ารถศึกคันนี้ 2เขามักตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ ไปยืนอยู่ข้างถนนที่ประตูเมือง เมื่อผู้ใดนำคดีพิพาทมาฟ้องร้องให้กษัตริย์ทรงตัดสิน อับซาโลมจะเรียกผู้นั้นไปซักถามว่า “ท่านมาจากเมืองใด” เมื่อผู้นั้นตอบว่า “ผู้รับใช้ของท่านมาจากเผ่าหนึ่งของอิสราเอล”a 3อับซาโลมจะพูดว่า “เหตุผลของท่านใช้ได้และถูกต้อง แต่กษัตริย์ไม่ทรงแต่งตั้งผู้ใดให้รับฟังคดีของท่านแทนพระองค์” 4อับซาโลมพูดเสริมอีกว่า “ถ้าฉันได้รับแต่งตั้งเป็นผู้พิพากษาในแผ่นดิน ทุกคนที่มีคดีพิพาทที่จะต้องตัดสินมาหาฉัน ฉันจะให้ความเป็นธรรมแก่เขา” 5เมื่อผู้ใดเข้ามาก้มกราบลง อับซาโลมจะเอื้อมมือไปพยุงเขาขึ้นมาและจูบเขา 6อับซาโลมทำเช่นนี้กับชาวอิสราเอลทุกคนที่มาขอให้กษัตริย์ทรงตัดสินความ โดยวิธีนี้อับซาโลมจึงชนะใจชาวอิสราเอล


อับซาโลมเป็นกบฏ

          7สี่ปีผ่านไปb อับซาโลมทูลกษัตริย์ว่า “ขอทรงอนุญาตให้ข้าพเจ้าไปเมืองเฮโบรนc เพื่อแก้บนที่ข้าพเจ้าได้ทำไว้กับพระยาห์เวห์ 8เมื่อผู้รับใช้ของพระองค์อยู่ที่แคว้นเกชูร์ในแผ่นดินอารัม ผู้รับใช้ได้บนไว้ว่า ‘ถ้าพระยาห์เวห์ทรงนำข้าพเจ้ากลับมากรุงเยรูซาเล็ม ข้าพเจ้าจะไปนมัสการพระยาห์เวห์ที่เมืองเฮโบรน’”d 9กษัตริย์ตรัสตอบว่า “จงไปโดยสวัสดิภาพเถิด” อับซาโลมจึงออกเดินทางไปเมืองเฮโบรน

          10เขาส่งผู้นำสารลับไปหาชนอิสราเอลทุกเผ่า สั่งว่า เมื่อได้ยินเสียงแตร ให้ท่านร้องว่า “อับซาโลมขึ้นเป็นกษัตริย์ที่เมืองเฮโบรนแล้ว” 11ชายสองร้อยคนจากกรุงเยรูซาเล็มเดินทางไปกับอับซาโลม ผู้รับเชิญเหล่านี้ไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่ล่วงรู้แผนการนี้เลย 12อับซาโลมส่งคนไปเชิญeอาคิโทเฟลชาวกิโลห์ ที่ปรึกษาของกษัตริย์ดาวิด ให้มาจากเมืองกิโลห์เพื่อร่วมพิธีถวายบูชาด้วย แผนการกบฏก็เข้มแข็งขึ้น ประชาชนเข้ามาสนับสนุนอับซาโลมมากยิ่งขึ้นทุกวัน


กษัตริย์ดาวิดทรงหนีไปจากกรุงเยรูซาเล็ม

          13มีผู้มากราบทูลกษัตริย์ดาวิดว่า “ชาวอิสราเอลมีใจไปเข้ากับอับซาโลมแล้ว” 14กษัตริย์ดาวิดจึงตรัสกับข้าราชบริพารทั้งหลายที่อยู่กับพระองค์ในกรุงเยรูซาเล็มว่า “จงรีบหนีกันเถิด มิฉะนั้น พวกเราจะไม่มีใครหนีรอดพ้นอับซาโลมได้ จงรีบไปเถิด เขากำลังมาอย่างรวดเร็วและจะทันเรา นำหายนะมาให้เรา และใช้ดาบฆ่าทุกคนในเมือง”f 15บรรดาข้าราชบริพารของกษัตริย์ต่างทูลว่า “ข้าแต่พระราชาเจ้านายของข้าพเจ้าทั้งหลาย ผู้รับใช้ของพระองค์พร้อมที่จะปฏิบัติตามพระประสงค์ทุกประการ” 16กษัตริย์จึงเสด็จไปพร้อมกับทุกคนในพระราชวัง เหลือไว้แต่นางสนมสิบคนเพื่อเฝ้าพระราชวัง 17กษัตริย์เสด็จออกไปพร้อมกับประชาชนมาหยุดอยู่ที่บ้านหลังสุดท้ายของเมือง 18บรรดาข้าราชบริพารเดินเคียงข้างพระองค์ ชาวเคเรธีและชาวเปเลททุกคน พร้อมกับอิทธัยg และชาวกัทหกร้อยคน ซึ่งตามเสด็จมาจากเมืองกัทเดินผ่านเฉพาะพระพักตร์ 19กษัตริย์ตรัสถามอิทธัยชาวเมืองกัทว่า “ทำไมท่านจึงมากับเราด้วย จงกลับไปอยู่กับพระราชาองค์ใหม่เถิด ท่านเป็นคนต่างด้าว ลี้ภัยมาจากบ้านเมืองของท่าน 20ท่านเพิ่งมาถึงเมื่อวานนี้ แล้ววันนี้เราจะให้ท่านต้องมาระเหเร่ร่อนไปกับเราหรือ เราเองก็ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ใด จงกลับไปเถิด และพาคนของท่านกลับไปด้วย ขอพระยาห์เวห์ทรงสำแดงhความรักมั่นคงและความเที่ยงธรรมต่อท่าน” 21แต่อิทธัยทูลตอบว่า “ข้าแต่พระราชาเจ้านายของข้าพเจ้า ตราบใดที่พระยาห์เวห์ทรงพระชนม์ และพระองค์ทรงพระชนม์ พระราชาเจ้านายของข้าพเจ้าเสด็จไปทางใด ผู้รับใช้ของพระองค์ขอตามเสด็จด้วย ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย” 22กษัตริย์ดาวิดตรัสตอบอิทธัยว่า “ถ้าเช่นนั้นก็ไปเถิด เดินต่อไป” อิทธัยชาวเมืองกัทกับคนของเขาพร้อมกับครอบครัวก็ออกเดินทาง 23ชาวบ้านในชนบททุกคนต่างร้องไห้เสียงดังขณะที่กำลังพลทั้งหมดเดินผ่าน กษัตริย์เสด็จข้ามห้วยขิดโรน และทุกคนเดินนำหน้าพระองค์มุ่งไปทางถิ่นทุรกันดารi

กษัตริย์ดาวิดทรงละหีบพันธสัญญาไว้ที่กรุงเยรูซาเล็ม

          24สมณะศาโดกพร้อมกับชนเลวีที่หามหีบพันธสัญญาของพระเจ้ามาอยู่ที่นั่น เขาวางหีบพันธสัญญาของพระเจ้าลงข้างๆ อาบียาธาร์ จนกระทั่งประชาชนทุกคนเดินออกจากเมือง 25กษัตริย์ตรัสกับศาโดกว่า “จงหามหีบพันธสัญญาของพระเจ้ากลับเข้าไปในเมืองเถิด ถ้าพระยาห์เวห์โปรดปรานเรา สักวันหนึ่งพระองค์จะทรงบันดาลให้เรากลับมาเห็นหีบและสถานที่ประดิษฐานหีบนั้นอีก 26แต่ถ้าพระองค์ไม่พอพระทัยเรา ก็ขอให้พระองค์ทรงกระทำกับเราตามพระประสงค์เถิด” 27แล้วกษัตริย์ตรัสกับสมณะศาโดกต่อไปว่า “นี่แน่ะj ท่านและอาบียาธาร์ จงกลับเข้าไปในเมืองโดยสวัสดิภาพ พร้อมกับบุตรของท่านทั้งสองคน คืออาคิมาอัสบุตรของท่าน และโยนาธานบุตรของอาบียาธาร์ 28ส่วนเราจะคอยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ตรงท่าข้ามแม่น้ำจอร์แดนจนกว่าเราจะได้ข่าวจากท่านทั้งสอง” 29ศาโดกและอาบียาธาร์จึงนำหีบพันธสัญญาของพระเจ้ากลับไปที่กรุงเยรูซาเล็ม และพำนักอยู่ที่นั่น


กษัตริย์ดาวิดทรงบัญชาให้หุชัยกลับไปคอยสังเกตการณ์

          30กษัตริย์ดาวิดเสด็จขึ้นบนภูเขามะกอกเทศ ทรงกันแสงตลอดทาง เสด็จโดยพระบาทเปล่า มีผ้าคลุมพระเศียรk ทุกคนที่ตามเสด็จต่างคลุมศีรษะและเดินร้องไห้ 31เมื่อกษัตริย์ดาวิดทรงทราบข่าวว่าl อาคิโธเฟลเข้าร่วมพวกกบฏกับอับซาโลมด้วย ก็ทูลพระเจ้าว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ ขอให้คำแนะนำของอาคิโธเฟลล้มเหลวเถิด”

          32เมื่อกษัตริย์ดาวิดเสด็จขึ้นไปถึงยอดเขา ซึ่งประชาชนมักจะกราบนมัสการพระเจ้าm หุชัยจากตระกูลอารคีมาเฝ้ากษัตริย์ เขาสวมเสื้อผ้าฉีกขาดและมีฝุ่นดินบนศีรษะเป็นการไว้ทุกข์ 33กษัตริย์ดาวิดตรัสว่า “ถ้าท่านมากับเรา ท่านก็ช่วยอะไรเราไม่ได้ 34แต่ถ้าท่านกลับเข้าไปในเมือง และบอกอับซาโลมว่า ‘ข้าแต่พระราชา ข้าพเจ้าจะเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ ข้าพเจ้าเคยรับใช้พระบิดาของพระองค์อย่างไร ก็จะรับใช้พระองค์อย่างนั้น’ ท่านก็จะช่วยเราได้โดยคัดค้าน ทำให้คำแนะนำของอาคิโธเฟลต้องล้มเหลว 35สมณะศาโดกและอาบียาธาร์จะอยู่ที่นั่นกับท่าน ท่านรู้เรื่องในพระราชวังประการใด จงแจ้งแก่สมณะศาโดกและอาบียาธาร์เถิด 36สมณะทั้งสองคนมีบุตรอยู่ที่นั่นด้วยคือ อาคิมาอัสบุตรของศาโดก และโยนาธานบุตรของอาบียาธาร์ ท่านจงใช้คนทั้งสองนี้มาส่งข่าวทุกเรื่องที่ท่านได้ยินให้เรารู้ด้วย” 37หุชัยพระสหายของกษัตริย์ดาวิดกลับเข้าไปในเมืองเวลาเดียวกันกับที่อับซาโลมมาถึงกรุงเยรูซาเล็ม

 

15 a อิสราเอลในที่นี้คงหมายถึงเผ่าทางเหนือซึ่งไม่ใช่เผ่ายูดาห์ อับซาโลมใช้ความเป็นปฏิปักษ์ที่แฝงอยู่ลึกๆ ในชนสองกลุ่มนี้เพื่อประโยชน์ของตน (ดู 19:42ฯ)

b “สี่” ตามต้นฉบับภาษากรีกฉบับคัดลอกของลูเซียน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “สี่สิบ”

c อับซาโลมออกหาเสียงทางเหนือเสร็จสิ้นแล้ว เวลานี้กำลังออกหาการสนับสนุนจากทางใต้ เฮโบรนซึ่งเป็นเมืองหลวงเดิม (2:1ฯ) อาจมีความขุ่นเคืองใจที่กษัตริย์ดาวิดทรงเลือกกรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงแทนเฮโบรนก็เป็นได้

d “ที่เมืองเฮโบรน” ตามต้นฉบับภาษากรีกฉบับคัดลอกของลูเซียน ไม่มีในต้นฉบับภาษาฮีบรู

e “ส่งคนไปเชิญ” ตามต้นฉบับภาษากรีกฉบับคัดลอกของลูเซียน ในต้นฉบับภาษาฮีบรูมีเพียงคำว่า “ส่ง” ส่วน “และสั่งให้เขามาหา” เป็นการแปลตามการคาดคะเน ไม่มีในต้นฉบับภาษาฮีบรู

f กษัตริย์ดาวิดไม่ได้ทรงถือว่าทรงสูญเสียทุกสิ่งเพราะยังทรงทิ้งผู้สนับสนุนไว้เบื้องหลัง (ข้อ 27ฯ, 34ฯ) แต่เมื่อทรงต้องประสบกับการกบฏทั้งจากทางเหนือและทางใต้ พระองค์ถอยออกไปก่อน เป็นกลยุทธ์ที่ทรงนำมาใช้เพื่อแก้ปัญหา

g “อิทธัย” เป็นการแก้ไขต้นฉบับให้เข้ากับข้อ 19-22

h “ขอพระยาห์เวห์ทรงสำแดง” ตามต้นฉบับภาษากรีก ไม่มีในต้นฉบับภาษาฮีบรู

i ต้นฉบับข้อ 23-24 ไม่ชัดเจน

j “ท่านและอาบียาธาร์จงกลับเข้าไป” เป็นการแปลตามการคาดคะเนให้เข้ากับเรื่องที่ตามมา ต้นฉบับภาษาฮีบรูใช้คำเอกพจน์ ว่า “ท่านจงกลับ”

k การคลุมศีรษะเป็นประเพณีการไว้ทุกข์ (19:5; อสค 24:17) ปกติเป็นคำแสดงถึงความโศกเศร้า (อสธ 6:12; ยรม 14:3ฯ; มคา 1:8)

l “กษัตริย์ดาวิดทรงทราบข่าวว่า” ตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “กษัตริย์ดาวิดทรงแจ้งว่า”

m คงจะเป็นศาสนสถานที่โนบ (1 ซมอ 21:2)

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก