“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ประกาศกนาธันประณามการกระทำของกษัตริย์ดาวิด กษัตริย์ดาวิดทรงเป็นทุกข์เสียพระทัยa

12 1พระยาห์เวห์ทรงส่งประกาศกนาธันไปพบกษัตริย์ดาวิด ประกาศกนาธันจึงเข้าเฝ้าทูลกษัตริย์ว่า

“ในเมืองหนึ่ง มีชายสองคน

                    คนหนึ่งร่ำรวย อีกคนหนึ่งยากจน

          2คนร่ำรวยมีฝูงแกะและโคจำนวนมาก

          3ส่วนคนยากจนมีลูกแกะเพศเมียเพียงตัวเดียว

                    เป็นลูกแกะที่เขาซื้อมาและเลี้ยงดูอย่างดี

          แกะตัวนั้นเติบโตขึ้นในบ้านกับเขาและลูกๆ

                    กินอาหารกับเขา และดื่มจากถ้วยของเขา

          นอนซบอกของเขา เขารักแกะตัวนั้นเหมือนบุตรสาว

          4วันหนึ่ง มีคนเดินทางมาแวะที่บ้านของคนร่ำรวย

                    ซึ่งไม่อยากฆ่าแกะหรือโคของตนนำมาทำอาหารให้คนเดินทางที่บังเอิญมาเยี่ยม

          เขาจึงเอาลูกแกะของคนยากจน

          มาทำอาหารให้แขกแทน”

          5กษัตริย์ดาวิดกริ้วชายผู้นั้นมาก ตรัสกับนาธันว่า “ตราบใดที่พระยาห์เวห์ทรงพระชนม์อยู่ ผู้ที่ทำเช่นนี้จะต้องถูกประหารชีวิต 6เขาต้องชดใช้ราคาลูกแกะนั้นสี่เท่า เพราะเขามีใจร้ายกระทำเช่นนี้”

          7ประกาศกนาธันจึงทูลกษัตริย์ดาวิดว่า “พระองค์คือชายคนนั้น พระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลตรัสดังนี้ว่า ‘เราได้เจิมตั้งท่านเป็นกษัตริย์ของอิสราเอล เราได้ช่วยท่านให้รอดพ้นจากมือของซาอูล 8เราได้มอบผู้คนในครอบครัวเจ้านายของท่าน มอบภรรยาของเจ้านายให้อยู่ในอ้อมกอดของท่าน และมอบพงศ์พันธุ์อิสราเอลและยูดาห์แก่ท่าน ถ้าทั้งหมดนี้ยังไม่พอ เราจะให้มากกว่านี้อีก 9ทำไมท่านจึงลบหลู่พระยาห์เวห์b กระทำสิ่งชั่วร้ายเฉพาะพระพักตร์พระองค์ ท่านให้อุรียาห์ชาวฮิตไทต์ถูกฆ่า ปล่อยให้ชาวอัมโมนฆ่าเขา แล้วเอาภรรยาของเขาเป็นภรรยาของตน 10เพราะเหตุนี้ จะมีคนในวงศ์ตระกูลของท่านถูกฆ่าอยู่เรื่อยๆc เพราะท่านได้ลบหลู่เรา เอาภรรยาของอุรียาห์ชาวฮิตไทต์มาเป็นภรรยาของท่าน’

          11พระยาห์เวห์ตรัสอีกว่า ‘เราจะให้คนในครอบครัวของท่านนำเหตุร้ายมาให้ท่าน เราจะพรากภรรยาของท่านต่อหน้าท่าน ไปให้แก่ผู้ใกล้ชิดของท่าน เขาจะหลับนอนกับภรรยาของท่านอย่างเปิดเผย 12ท่านได้ทำการนี้อย่างลับๆ แต่เราจะทำการนี้อย่างเปิดเผยให้อิสราเอลทุกคนได้เห็น’”

          13กษัตริย์ดาวิดตรัสกับนาธันว่า “ข้าพเจ้าได้ทำบาปผิดต่อพระยาห์เวห์แล้ว” นาธันทูลตอบว่า “พระยาห์เวห์ทรงให้อภัยบาปพระองค์แล้ว พระองค์จะไม่ต้องสิ้นพระชนม์ 14แต่เนื่องจากพระองค์ทรงดูหมิ่นพระยาห์เวห์dโดยกระทำการนี้ พระโอรสที่จะเกิดมาจะต้องตาย” 15แล้วนาธันก็กลับบ้าน


พระโอรสที่เกิดจากนางบัทเชบาตาย ซาโลมอนประสูติ

          พระยาห์เวห์ทรงทำให้พระโอรสของกษัตริย์ดาวิดที่เกิดจากภรรยาของอุรียาห์ป่วยหนัก 16กษัตริย์ดาวิดทูลอ้อนวอนพระเจ้าขอให้ทารกนั้นหายป่วย ไม่ยอมเสวยอะไรเลย บรรทมบนพื้นทุกคืน 17บรรดาข้าราชบริพารผู้อาวุโสทูลเชิญให้พระองค์ทรงลุกขึ้นจากพื้น แต่พระองค์ไม่ทรงยอม ทั้งไม่ยอมเสวยพระกระยาหารกับเขา 18ในวันที่เจ็ด ทารกนั้นก็ตาย บรรดาข้าราชบริพารไม่กล้าทูลว่าทารกตายแล้ว เขาพูดกันว่า “เมื่อทารกยังมีชีวิตอยู่ เราทูลสิ่งใดกษัตริย์ก็ไม่ทรงฟังเรา เราจะทูลพระองค์ได้อย่างไรว่าทารกตายแล้ว พระองค์อาจทำร้ายพระองค์ก็ได้” 19เมื่อกษัตริย์ดาวิดทรงสังเกตเห็นว่าบรรดาข้าราชบริพารกระซิบกระซาบกันอยู่ ก็ทรงทราบว่าทารกสิ้นชีวิตแล้ว พระองค์จึงตรัสถามข้าราชบริพารว่า “เด็กนั้นสิ้นชีวิตแล้วหรือ” เขาทูลตอบว่า “สิ้นแล้ว พระเจ้าข้า”

          20กษัตริย์ดาวิดทรงลุกขึ้นจากพื้น เสด็จไปสรงพระวรกาย เปลี่ยนฉลองพระองค์ แล้วเสด็จไปยังที่ประทับของพระยาห์เวห์ และกราบลงนมัสการ เมื่อเสด็จกลับมาถึงพระราชวังแล้ว พระองค์รับสั่งให้ยกเครื่องเสวยมาและได้เสวย 21บรรดาข้าราชบริพารทูลถามพระองค์ว่า “ทำไมพระองค์ทรงกระทำเช่นนี้ เมื่อเด็กยังมีชีวิตอยู่ พระองค์ไม่ยอมเสวยอะไรและทรงกันแสง แต่พอเด็กสิ้นชีวิตแล้ว พระองค์เสด็จลุกขึ้นเสวยพระกระยาหาร”e 22พระองค์ตรัสตอบว่า “เมื่อเด็กยังมีชีวิตอยู่ เราอดอาหารและร่ำไห้ เพราะคิดว่า ‘ใครจะรู้ พระยาห์เวห์อาจจะทรงเมตตาข้าพเจ้าให้เด็กมีชีวิตต่อไป 23บัดนี้ เขาตายแล้ว เราจะอดอาหารไปทำไม เราจะทำให้เขากลับคืนชีวิตมาได้หรือ สักวันหนึ่งเราจะต้องตายตามเขาไปf แต่เขาจะไม่มีวันกลับมาหาเราอีก’”

          24แล้วกษัตริย์ดาวิดทรงปลอบโยนนางบัทเชบามเหสี และเสด็จไปหลับนอนกับนาง นางก็ตั้งครรภ์g และประสูติพระโอรสอีก ซึ่งได้รับนามว่าซาโลมอน พระยาห์เวห์ทรงรักซาโลมอน 25ทรงส่งประกาศกนาธันไปทูลกษัตริย์ดาวิดให้ทรงทราบ โดยเรียกนามเขาว่า “เยดีคิยาห์” ตามพระบัญชาของพระยาห์เวห์h

กษัตริย์ดาวิดทรงยึดเมืองรับบาห์

          26ระหว่างนั้นโยอาบโจมตีเมืองรับบาห์ของชาวอัมโมน และยึดป้อมที่ประทับของกษัตริย์ได้ 27โยอาบส่งผู้นำสารมาทูลกษัตริย์ดาวิดว่า “ข้าพเจ้าเข้าโจมตีเมืองรับบาห์และยึดแหล่งน้ำของเมืองได้i 28ขอพระองค์ทรงรวบรวมกำลังพลที่เหลืออยู่มาล้อมเมืองและยึดให้ได้ มิฉะนั้น ข้าพเจ้าจะเข้ายึดเองและชัยชนะจะเป็นของข้าพเจ้า” 29กษัตริย์ดาวิดจึงทรงรวบรวมกำลังพลทั้งหมดเสด็จไปยังเมืองรับบาห์ ทรงเข้าโจมตีและยึดเมืองได้ 30พระองค์ทรงถอดมงกุฎจากพระเศียรรูปเคารพของเทพมิลโคมj มงกุฎนี้ทำด้วยทองคำหนักประมาณสามสิบสี่กิโลกรัม ประดับเพชรพลอยล้ำค่า ซึ่งกษัตริย์ดาวิดทรงนำมาประดับมงกุฎของพระองค์ นอกจากนั้น กษัตริย์ดาวิดยังยึดได้ของเชลยจำนวนมากจากเมืองนั้น 31ทั้งยังทรงกวาดต้อนชาวเมืองนั้น บังคับให้ทำงานเลื่อยไม้ ขุดดิน ตัดไม้ และเผาอิฐ พระองค์ทรงทำเช่นเดียวกันนี้กับชาวอัมโมนทุกเมือง แล้วกษัตริย์ดาวิดทรงยกทัพกลับกรุงเยรูซาเล็ม

 

12 a บางทีการเข้าแทรกแซงของนาธัน (12:1-5ก) อาจไม่มีอยู่ในเรื่องเดิม จากข้อ 22 ดูเหมือนว่า ดาวิดไม่รู้ชะตากรรมของเด็กที่เกิด แต่ทั้งสองธรรมประเพณีมีความเก่าแก่เท่าเทียมกัน และแสดงถึงความรู้สึกทางศาสนาเดียวกันที่ว่า การประกอบอาชญากรรมของกษัตริย์ดาวิดถูกลงโทษ แต่การเป็นทุกข์เสียใจของพระองค์ ทำให้ทรงได้รับการอภัย

b “พระยาห์เวห์” ตามสำนวนแปลโบราณบางฉบับ ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “พระวาจาของพระยาห์เวห์”

c นี่เป็นการกล่าวพาดพิงถึงการถูกฆ่าตายของอัมโนน (13:28-29) อับซาโลม (18:9-15) และอาโดนิยาห์ (1 พกษ 2:22-25) ทั้งสามคนเป็นพระโอรสของกษัตริย์าวิด

d “ทำให้พระยาห์เวห์พิโรธ” แปลตามการคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ทำให้ศัตรูของพระยาห์เวห์โกรธ” เพื่อหลีกเลี่ยงการพูดถึงพระเจ้าในทางที่ไม่สมควร บาปไม่เป็นเพียงการละเมิดกฎศีลธรรมหรือกฎเกณฑ์ทางสังคม แต่เป็นการตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้าเป็นอันดับแรก (ดู ปฐก 39:9; สดด 51:1 เชิงอรรถ f; อสย 59:2) พระเจ้าเท่านั้นสามารถฟื้นฟูสัมพันธภาพนั้นได้ใหม่ (สดด 65:3 ดู มก 2:5)

e กษัตริย์ดาวิดได้ทรงละเมิดขนบประเพณีทุกประการ ความสัมพันธ์ของพระองค์กับพระเจ้ามาจากความจริงใจ ไม่เป็นเพียงการปฏิบัติตามกฎภายนอกเท่านั้น (ดู ข้อ 22-23 และ 6:21-22)

f “ตามเขาไป” หมายถึง ไปยังแดนผู้ตาย หรือ “เชโอล” (ดู กดว 16:33 เชิงอรรถ f)

g “นางก็ตั้งครรภ์” ตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูละวลีนี้

h “ตามพระบัญชาของพระยาห์เวห์” ตามสำนวนแปลโบราณบางฉบับ ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “เพราะพระยาห์เวห์” การเกิดของซาโลมอนบุตรของนางบัทเชบา “ที่รักของพระยาห์เวห์” (ความหมายของคำว่า yedidyah) คือหลักประกันการให้อภัยของพระเจ้า นอกนั้น ซาโลมอนซึ่งพระเจ้าทรงเลือกสรรให้ขึ้นครองบัลลังก์ ไม่ได้เป็นผู้มีสิทธิในการสืบราชสมบัติแต่อย่างใด

i หมายถึง เมืองในบริเวณที่ราบลุ่ม ตั้งอยู่ใต้ “เมืองของกษัตริย์” หรือป้อม

j “มิลโคม” ตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูพูดถึง malkam แปลว่า “กษัตริย์ของพวกเขา” มิลโคมเป็นเทพเจ้าองค์หนึ่งของชาวอัมโมน (1 พกษ 11:5) “ฝังเพชรหนึ่งเม็ด” ตามสำนวนแปลโบราณบางฉบับ และ 1 พศด 20:2 ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “และเพชรเม็ดหนึ่ง”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก