“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

สงครามศักดิ์สิทธิ์a

20 1ต่อมา ชาวโมอับ ชาวอัมโมน กับชาวเมอูนีbบางคนยกกำลังพลขึ้นมาทำสงครามกับกษัตริย์เยโฮชาฟัท 2มีผู้มาทูลกษัตริย์เยโฮชาฟัทว่า “กองทัพใหญ่จากอีกฟากหนึ่งของทะเลตายและจากเอโดมcกำลังมาสู้รบกับพระองค์ และบัดนี้เขามาอยู่ที่ฮาซาโซนทามาร์ คือ เอนเกดี แล้ว”

3กษัตริย์เยโฮชาฟัททรงกลัวและตั้งพระทัยแสวงหาพระยาห์เวห์ ทรงสั่งให้ประชาชนทั่วอาณาจักรยูดาห์จำศีลอดอาหาร 4ชนชาวยูดาห์มาชุมนุมกันเพื่อทูลขอความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์ เขามาจากทุกเมืองของอาณาจักรยูดาห์เพื่อทูลขอความช่วยเหลือจากพระยาห์เวห์

5กษัตริย์เยโฮชาฟัททรงยืนอยู่ในที่ประชุมของชาวยูดาห์และชาวกรุงเยรูซาเล็ม ในพระวิหารของพระยาห์เวห์ ข้างหน้าลานใหม่ 6ทรงอธิษฐานว่าd “ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของบรรพบุรุษ พระองค์เพียงผู้เดียวเป็นพระเจ้าแห่งสวรรค์ ทรงปกครองอาณาจักรทั้งหลายของชนชาติต่างๆ พระองค์ทรงพระอานุภาพและพระฤทธานุภาพ ไม่มีผู้ใดต่อต้านพระองค์ได้ 7ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระองค์ทรงขับไล่ผู้อาศัยในแผ่นดินนี้ออกไปต่อหน้าชาวอิสราเอลประชากรของพระองค์ และทรงมอบแผ่นดินนี้ไว้แก่ลูกหลานของอับราฮัมมิตรของพระองค์ตลอดไป” 8แล้วเขาทั้งหลายก็มาอาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้ สร้างสักการสถานถวายเกียรติแด่พระองค์ ทูลว่า 9“ถ้าเกิดภัยพิบัติเป็นการลงโทษข้าพเจ้าทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสงคราม โรคระบาด หรือการกันดารอาหาร ข้าพเจ้าทั้งหลายจะมายืนอยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์ในพระวิหารแห่งนี้ เพราะพระองค์ประทับอยู่ที่นี่ ข้าพเจ้าทั้งหลายร้องทูลพระองค์ในความทุกข์ใจ แล้วพระองค์จะทรงฟังและช่วยให้รอดพ้น”

10บัดนี้ ชาวอัมโมน ชาวโมอับ และชาวเอโดมผู้อาศัยอยู่แถบภูเขาเสอีร์ ยกทัพมาโจมตีข้าพเจ้าทั้งหลาย เมื่อชาวอิสราเอลออกจากแผ่นดินอียิปต์ พระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้เขาผ่านดินแดนของชนชาติเหล่านี้ ชาวอิสราเอลจึงเดินทางอ้อมไป ไม่ได้ทำลายเขา 11แต่เขาก็ตอบแทนด้วยการยกทัพมาขับไล่ข้าพเจ้าทั้งหลายออกจากแผ่นดินกรรมสิทธิ์ของพระองค์ ที่พระองค์ประทานให้เป็นมรดก 12ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย ถ้าพระองค์ไม่ทรงตัดสินพระทัยลงโทษเขา ข้าพเจ้าทั้งหลายก็ไม่มีกำลังพลจะต่อต้านกองทัพใหญ่เช่นนี้ที่ยกมาโจมตี ข้าพเจ้าทั้งหลายไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร จึงหันหน้ามาหาพระองค์”

13ชาวยูดาห์ทั้งหลายยืนอยู่เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ พร้อมกับบุตร ภรรยา และเด็กทารก 14พระจิตของพระยาห์เวห์เสด็จมาเหนือยาคาซีเอลeบุตรของเศคาริยาห์ บุตรของเบไนยาห์ บุตรของเยอีเอล บุตรของมัทธันยาห์ ชนเลวีลูกหลานของอาสาฟ ขณะที่เขาอยู่กลางที่ประชุม 15ยาคาซีเอลกล่าวว่า “กษัตริย์เยโฮชาฟัท ชาวยูดาห์ และชาวเยรูซาเล็มทั้งหลาย โปรดฟังข้าพเจ้าเถิด พระยาห์เวห์ตรัสแก่ท่านทั้งหลายว่า ‘อย่าหวาดกลัว อย่าท้อแท้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกองทัพใหญ่นี้เลย เพราะสงครามนี้ไม่ใช่สงครามของท่าน แต่เป็นสงครามของพระเจ้า 16พรุ่งนี้ท่านทั้งหลายจงลงไปเผชิญหน้ากับเขา เขาจะขึ้นมาตามช่องเขาศิส ท่านจะพบเขาที่ปลายหุบเขาหน้าถิ่นทุรกันดารเยรูเอล 17ครั้งนี้ท่านจะไม่ต้องต่อสู้กับเขา ชาวยูดาห์และชาวเยรูซาเล็มเอ๋ย จงเพียงแต่ตั้งแนวรบอยู่กับที่เท่านั้น ท่านจะเห็นความรอดพ้นที่พระยาห์เวห์จะทรงกระทำเพื่อท่าน’ อย่ากลัว อย่าท้อแท้เลย พรุ่งนี้จงออกไปเผชิญหน้ากับเขาเถิด แล้วพระยาห์เวห์จะสถิตกับท่าน”

18กษัตริย์เยโฮชาฟัททรงกราบลงพระพักตร์จรดพื้น ชาวยูดาห์และชาวเยรูซาเล็มทั้งหลายก็กราบลงเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์เพื่อนมัสการพระองค์ด้วย 19ชนเลวีลูกหลานของโคฮาทและโคราห์ต่างยืนขึ้นขับร้องสรรเสริญพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล ด้วยเสียงดัง

20วันต่อมา เขาทั้งหลายลุกขึ้นแต่เช้าตรู่และออกไปในถิ่นทุรกันดารใกล้เมืองเทโคอา ขณะที่เขาออกไป กษัตริย์เยโฮชาฟัททรงยืนและตรัสว่า “ชาวยูดาห์และชาวเยรูซาเล็มเอ๋ย จงฟังเราเถิด จงวางใจในพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน แล้วท่านจะตั้งมั่นอยู่ได้ จงเชื่อบรรดาประกาศกของพระองค์ แล้วท่านจะประสบความสำเร็จ” 21เมื่อทรงปรึกษากับประชาชนแล้ว พระองค์ทรงจัดให้บรรดานักขับร้องของพระยาห์เวห์อยู่ข้างหน้ากองทัพ แต่งกายด้วยอาภรณ์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อสรรเสริญพระยาห์เวห์ ขับร้องว่า

“จงขอบพระคุณพระยาห์เวห์

เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์”

22เมื่อเขาเริ่มโห่ร้องเสียงดังขับร้องเพลงสรรเสริญ พระยาห์เวห์ทรงคอยซุ่มโจมตีชาวอัมโมน ชาวโมอับ และชาวภูเขาเสอีร์ ที่เข้ามาโจมตีชาวยูดาห์ จนกองทัพศัตรูแตกพ่ายไป 23ชาวอัมโมนและชาวโมอับเข้าโจมตีชาวภูเขาเสอีร์เพื่อทำลายล้างเขาจนหมดสิ้น และเมื่อทำลายล้างชาวเสอีร์หมดแล้ว เขาก็กลับมาฆ่ากันเองจนไม่มีผู้ใดรอดชีวิต

24เมื่อชาวยูดาห์ขึ้นไปอยู่บนยอดเนินที่มองลงไปยังถิ่นทุรกันดาร เขาก็มองดูกองทัพใหญ่นั้นและเห็นศัตรูตายอยู่กลาดเกลื่อน ไม่มีผู้ใดรอดชีวิต 25กษัตริย์เยโฮชาฟัทเสด็จพร้อมกับประชากรไปยึดของเชลยจากข้าศึก ทรงพบสัตว์เลี้ยงfจำนวนมาก ข้าวของ เสื้อผ้า และของมีค่าอื่นๆ จำนวนมาก เขาทั้งหลายยึดของเชลยได้มากจนขนไปไม่ไหว เขาต้องใช้เวลาถึงสามวันเพื่อเก็บของเชลยเหล่านี้ เพราะมีมากเหลือเกิน 26วันที่สี่เขาทั้งหลายชุมนุมกันที่หุบเขาเบราคาห์ ซึ่งแปลว่า “หุบเขาแห่งการถวายพระพร” เขามาถวายพระพรแด่พระยาห์เวห์ที่นั่น เพราะเหตุนี้ เขาจึงเรียกสถานที่นั้นว่า “หุบเขาเบราคาห์” จนถึงทุกวันนี้ 27กษัตริย์เยโฮชาฟัททรงนำหน้าชาวยูดาห์และชาวเยรูซาเล็มทุกคนกลับไปกรุงเยรูซาเล็มด้วยความยินดี เพราะพระยาห์เวห์ทรงบันดาลให้เขาชื่นชมที่ได้ชนะศัตรู 28เขาทั้งหลายเข้ากรุงเยรูซาเล็ม มุ่งไปยังพระวิหารของพระยาห์เวห์ พร้อมกับเสียงพิณใหญ่ พิณเขาคู่ และเสียงแตร 29เมื่ออาณาจักรต่างๆ ทั่วแผ่นดินได้ยินว่าพระยาห์เวห์ทรงต่อสู้กับศัตรูของอิสราเอล เขาก็หวาดกลัวพระเจ้ายิ่งนัก 30มีความสงบสุขในรัชสมัยของกษัตริย์เยโฮชาฟัท พระเจ้าประทานให้พระองค์มีสันติภาพกับชนชาติต่างๆ โดยรอบ

 

รัชสมัยของกษัตริย์เยโฮชาฟัทสิ้นสุด

            31เยโฮชาฟัททรงเป็นกษัตริย์ปกครองยูดาห์ พระองค์ทรงพระชนมายุสามสิบห้าพรรษาเมื่อทรงเป็นกษัตริย์ ทรงครองราชย์ที่กรุงเยรูซาเล็มเป็นเวลายี่สิบห้าปี พระมารดาทรงพระนามว่าอาซุบาห์ เป็นธิดาของซิลหิ 32พระองค์ทรงดำเนินตามวิถีทางของกษัตริย์อาสาพระบิดาโดยไม่หันเหจากวิถีทางนั้น ทรงกระทำสิ่งที่พระยาห์เวห์ทรงเห็นว่าถูกต้อง 33แต่สักการสถานบนที่สูงยังไม่ถูกยกเลิก ประชาชนยังไม่ปักใจแน่วแน่แสวงหาพระเจ้าของบรรพบุรุษ 34เหตุการณ์ในรัชสมัยกษัตริย์เยโฮชาฟัทตั้งแต่ต้นจนจบ มีบันทึกไว้ในหนังสือกิจการของเยฮูบุตรของคานานี ซึ่งเป็นตอนหนึ่งของหนังสือพงศ์กษัตริย์แห่งอิสราเอล

          35ต่อมา กษัตริย์เยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์ทรงเป็นพันธมิตรกับกษัตริย์อาคัสยาห์แห่งอิสราเอลผู้ทรงกระทำความชั่วร้ายมาก 36กษัตริย์เยโฮชาฟัททรงร่วมมือกับกษัตริย์อาคัสยาห์สร้างกองเรือเดินทางไปยังเมืองทารชิช เรือเหล่านี้สร้างขึ้นที่เมืองเอซีโอนเกเบอร์ 37เอลีเอเซอร์ บุตรของโดดาวาหุชาวเมืองมาเรชาห์กล่าวทำนายถึงกษัตริย์เยโฮชาฟัทว่า “เพราะพระองค์ทรงเป็นพันธมิตรกับกษัตริย์อาคัสยาห์ พระยาห์เวห์จะทรงทำลายกิจการของพระองค์” เรือเหล่านั้นก็แตก แล่นไปถึงเมืองทารชิชไม่ได้g

 

20 a เรื่องที่มีเล่าในข้อ 1-30 ไม่เหมือนกับเรื่องใดเลยใน 1 พกษ แต่เมื่อพิจารณาถึงการกล่าวชื่อสถานที่ต่างๆ อย่างถูกต้อง เหตุการณ์นี้ดูเหมือนจะได้เค้ามาจากธรรมประเพณีที่น่าเชื่อถือได้ แม้ว่าลีลาการเขียนจะได้รับอิทธิพลมาจากผู้เขียนประวัติศาสตร์ตามแนวเฉลยธรรมบัญญัติและวิธีเล่าในสมัยแรกๆ ถึง “สงครามศักดิ์สิทธิ์” (ดูโดยเฉพาะข้อ 15-18, 22-23, 29) เหตุการณ์ที่เป็นแก่นของเรื่องเล่าเหตุการณ์นี้ อาจเป็นการรุกล้ำเข้ามาของชนชาติจากฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน และจากดินแดนเนเกบ ในการอพยพประปรายที่ชนเผ่าเร่ร่อนรุกล้ำเข้ามาหาที่พำนัก จนชาวเอโดมเข้ามาตั้งหลักแหล่งทางใต้ของแผ่นดินปาเลสไตน์ได้ในที่สุด

b “ชาวเมอูนี” ตามต้นฉบับภาษากรีก ต้นฉบับภาษาฮีบรูไม่สมบูรณ์ ชื่อของชนชาติเกี่ยวข้องกับเมืองมาอานทางฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน และอยู่ทางตะวันออกของเมืองเปตรา แต่เราก็ไม่แน่ใจว่าความเกี่ยวข้องเช่นนี้มีอยู่จริงหรือไม่ เรื่องราวที่เล่าต่อไปกล่าวถึงชาวเอโดมซึ่งอาศัยอยู่แถบภูเขาเสอีร์เข้ามาแทนที่ชนกลุ่มนี้ “ภูเขาเสอีร์” หมายถึง “เอโดม” แต่ก็ยังใช้หมายถึงภาคกลางของดินแดนแถบภูเขาตอนเหนือของดินแดนเนเกบด้วย

c “เอโดม” อ่านตามต้นฉบับคัดลอกฉบับหนึ่ง ต้นฉบับภาษาฮีบรูอ่านว่า “อารัม” อักษร “ร” กับ “ด” ในภาษาฮีบรูเขียนคล้ายกันมาก จึงมักเกิดการสับสนอยู่บ่อยๆ ในการคัดลอก

d ข้อความเริ่มต้นของคำอธิษฐานบทนี้ซ้ำความคิดของคำอธิษฐานภาวนาของกษัตริย์ซาโลมอนใน 6:1ฯ

e “ยาคาซีเอล” ผู้เขียนพงศาวดารกล่าวว่าชนเลวีนักขับร้องผู้นี้มี “จิตแห่งการพยากรณ์” ด้วย (ดู 1 พศด 25:1 เชิงอรรถ a) เหมือนกับที่เขาทำเช่นเดียวกับเศคาริยาห์บุตรของสมณะเยโฮยาดา ใน 2 พศด 24:20

f “สัตว์เลี้ยง...เสื้อผ้า” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ในพวกเขา...ศพ”

g ผู้เขียนพงศาวดารดัดแปลงเรื่องราวที่เล่าใน 1 พกษ 22:49-51 โดยกล่าวว่า การร่วมเป็นพันธมิตรทำธุรกิจกับอาคัสยาห์ กษัตริย์นอกรีตแห่งอิสราเอลทำให้พาณิชนาวีของกษัตริย์เยโฮชาฟัทต้องอับปางไปด้วย (1 พกษ 22:52–2 พกษ 1:18) ส่วนเรื่อง “ทารชิช” ดู 1 พกษ 10:22ฯ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก