“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

18 1เมื่อดาวิดทูลกษัตริย์ซาอูลจบแล้ว โยนาธานมีพระทัยรักใคร่ดาวิดมาก โยนาธานทรงรักเขาเหมือนทรงรักพระองค์เองa 2ตั้งแต่วันนั้น กษัตริย์ซาอูลทรงให้ดาวิดอยู่กับพระองค์ ไม่ทรงยอมให้เขากลับไปบ้านของบิดา 3โยนาธานทรงทำพันธสัญญาเป็นเพื่อนตายกับดาวิด เพราะทรงรักดาวิดเหมือนทรงรักพระองค์เอง 4โยนาธานทรงถอดเสื้อคลุมมอบให้ดาวิด พร้อมกับฉลองพระองค์ ดาบ ธนูและเข็มขัดb 5กษัตริย์ซาอูลทรงมอบภารกิจใดให้ดาวิดทำ เขาก็ทำสำเร็จทุกประการ ซาอูลจึงทรงแต่งตั้งเขาเป็นผู้บัญชานักรบ บรรดาทหารและนายทหารทั้งหลายของกษัตริย์ซาอูลต่างก็พอใจ


กษัตริย์ซาอูลทรงอิจฉาดาวิดc

6เมื่อบรรดาทหารกลับไปบ้านหลังจากที่ดาวิดฆ่าชาวฟีลิสเตียผู้นั้นแล้ว บรรดาสตรีได้ออกจากทุกเมืองของอิสราเอลมารับเสด็จกษัตริย์ซาอูล เขาร้องเพลงเริงระบำ เล่นรำมะนา ส่งเสียงร้องด้วยความยินดีและเล่นเครื่องดนตรีอื่นๆ 7บรรดาสตรีพากันเต้นรำและขับร้องรับกันว่า

          “ซาอูลฆ่าศัตรูเป็นพัน

ดาวิดฆ่าศัตรูเป็นหมื่น”

8กษัตริย์ซาอูลทรงได้ยินบทเพลงนี้ก็ไม่พอพระทัย กริ้วมาก ตรัสว่า “เขายกย่องดาวิดว่าฆ่าศัตรูหลายหมื่น ส่วนเรา เขาว่าฆ่าศัตรูหลายพันเท่านั้น เขาจะให้อะไรแก่ดาวิด นอกจากจะให้ราชสมบัติ” 9ตั้งแต่วันนั้น กษัตริย์ซาอูลทรงอิจฉาดาวิดเรื่อยมา

10วันรุ่งขึ้น พระเจ้าทรงยอมให้จิตชั่วร้ายเข้าสิงกษัตริย์ซาอูล พระองค์ก็ทรงมีอาการคลุ้มคลั่งอยู่ในบ้าน ดาวิดดีดพิณถวายอย่างที่เคยทำทุกวัน กษัตริย์ซาอูลทรงถือหอก 11พระองค์ทรงพุ่งหอกเข้าใส่ดาวิดพลางคิดว่า “เราจะปักเขาให้ติดกับกำแพง แต่ดาวิดหลบได้ถึงสองครั้ง”d

12กษัตริย์ซาอูลทรงกลัวดาวิด เพราะพระยาห์เวห์สถิตกับเขา แต่ทรงละทิ้งซาอูลไปแล้ว 13กษัตริย์ซาอูลจึงทรงให้เขาออกไปพ้นพระพักตร์ ทรงแต่งตั้งเขาเป็นผู้บังคับบัญชากองพัน ดาวิดนำทหารใต้บังคับบัญชาออกศึก 14ได้ชัยชนะทุกครั้ง เพราะพระยาห์เวห์สถิตกับเขา 15กษัตริย์ซาอูลทรงสังเกตเห็นความสำเร็จของดาวิด ก็ทรงกลัวดาวิดยิ่งขึ้น 16แต่ทุกคนในอิสราเอลและยูดาห์รักดาวิด เพราะเขาเป็นผู้นำในการทำสงคราม


ดาวิดแต่งงานกับมีคาลพระธิดาของกษัตริย์ซาอูลe

17กษัตริย์ซาอูลตรัสกับดาวิดว่า “นี่คือลูกสาวคนโตของเราชื่อเมราบ เราจะยกให้เป็นภรรยาของท่าน แต่ท่านต้องพิสูจน์ให้เราเห็นว่า ท่านเป็นนักรบที่กล้าหาญ พร้อมที่จะทำสงครามของพระยาห์เวห์” กษัตริย์ซาอูลทรงคิดว่า “เราจะให้ชาวฟีลิสเตียฆ่าดาวิด โดยที่เราไม่ต้องลงมือฆ่าเอง” 18ดาวิดทูลตอบกษัตริย์ซาอูลว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้ใด และวงศ์ตระกูลfของข้าพเจ้าและครอบครัวบิดาของข้าพเจ้า ก็ไม่มีความสำคัญแต่อย่างใดในอิสราเอล ที่ข้าพเจ้าจะได้เป็นถึงราชบุตรเขยของกษัตริย์” 19แต่ครั้นถึงเวลาที่กษัตริย์ซาอูลจะทรงยกเมราบพระธิดาให้ดาวิด กษัตริย์ซาอูลกลับทรงยกนางให้เป็นภรรยาของชาวเมโหลาห์คนหนึ่งชื่อ อาดรีเอล

20แต่มีคาลพระธิดาอีกองค์หนึ่งของกษัตริย์ซาอูลทรงรักดาวิด เมื่อซาอูลทรงทราบเรื่องนี้ ก็พอพระทัย 21ทรงคิดว่า “เราจะยกมีคาลให้ดาวิดและจะใช้นางล่อดาวิดไปให้ชาวฟีลิสเตียฆ่า” กษัตริย์ซาอูลจึงตรัสกับดาวิดว่า “วันนี้ ท่านมีโอกาสเป็นครั้งที่สองgจะเป็นบุตรเขยของเรา” 22ซาอูลมีพระบัญชาให้ข้าราชบริพารพูดกับดาวิดเป็นส่วนตัวว่า “กษัตริย์โปรดปรานท่านมาก ข้าราชบริพารทุกคนก็รักท่านด้วย ถึงเวลาแล้วที่ท่านจะเป็นราชบุตรเขยของกษัตริย์” 23เมื่อข้าราชบริพารของกษัตริย์ซาอูลซุบซิบถ้อยคำเหล่านี้ให้ดาวิดฟัง ดาวิดก็ตอบว่า “ท่านคิดว่าการเป็นราชบุตรเขยของกษัตริย์เป็นเรื่องเล็กน้อยหรือ ข้าพเจ้าเป็นคนจน ไม่มีความสำคัญใดเลย” 24ข้าราชบริพารก็นำถ้อยคำของดาวิดไปทูลกษัตริย์ซาอูล 25กษัตริย์ซาอูลทรงบัญชาให้ไปบอกดาวิดว่า “กษัตริย์ไม่ทรงเรียกร้องค่าสินสอดhจากท่าน แต่ทรงขอเพียงให้ท่านพิสูจน์ว่าได้ฆ่าชาวฟีลิสเตียหนึ่งร้อยคนi เป็นการแก้แค้นศัตรูของพระองค์เท่านั้น” ที่ซาอูลตรัสเช่นนี้ก็เพราะทรงวางแผนให้ชาวฟีลิสเตียฆ่าดาวิด

26ข้าราชบริพารนำพระดำรัสของกษัตริย์มาแจ้งให้ดาวิด ดาวิดยินดีที่จะเป็นราชบุตรเขยของกษัตริย์ตามเงื่อนไขนี้ ก่อนจะถึงวันกำหนด 27ดาวิดก็คุมทหารออกไปฆ่าชาวฟีลิสเตียสองร้อยคน นำหลักฐานพิสูจน์จำนวนชาวฟีลิสเตียที่ถูกฆ่ามาแสดงแก่กษัตริย์ เพื่อตนจะได้เป็นราชบุตรเขย กษัตริย์ซาอูลก็ทรงยกมีคาลให้เป็นภรรยาของดาวิด

28กษัตริย์ซาอูลทรงเห็นชัดว่าพระยาห์เวห์สถิตกับดาวิด และมีคาลพระธิดาjก็ทรงรักดาวิด 29กษัตริย์ซาอูลทรงกลัวดาวิดมากขึ้น และทรงตั้งพระองค์เป็นศัตรูกับดาวิดตลอดพระชนมชีพของพระองค์ 30บรรดาหัวหน้าชาวฟีลิสเตียยกพลออกมาสู้รบ แต่ทุกครั้งดาวิดก็รบชนะมากกว่านายทหารคนอื่นๆ ของกษัตริย์ซาอูล ดาวิดจึงมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น




18 a มิตรภาพระหว่างดาวิดกับโยนาธาน เป็นมิตรภาพระหว่างเพื่อนทหารที่ยอมตายแทนกันได้ ไม่มีลักษณะความรักร่วมเพศดังที่บางคนคิดแต่ประการใด มิตรภาพที่งดงามนี้จะคงอยู่จนกระทั่งโยนาธานสิ้นชีวิต

b เสื้อผ้าและอาวุธเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ (ดู 24:5-6; นรธ 3:9; 2 พกษ 2:13) ดังนั้น การกระทำของโยนาธานเป็นการแสดงความรักที่เขามีต่อดาวิด (ข้อ 1) เหมือนกับเพื่อนที่แลกของที่ระลึกระหว่างกัน

c ข้อความในบทนี้ค่อนข้างสลับซับซ้อน ต้นฉบับภาษากรีกละข้อความหลายข้อ เช่น ข้อ 6ก ข้อ 10-11 (ความพยายามจะฆ่าดาวิดครั้งแรก) ข้อ 17-19 (การกีดกันไม่ให้สมรสกับเมราบ) ข้อ 30 (ชัยชนะของดาวิด ซึ่งซ้ำข้อ 14-16)

d ข้อ 10-11 มาจากธรรมประเพณีเดียวกันกับ 16:14-23 ดูเหมือนแทรกเข้ามาที่นี่ ทำให้เรื่องไม่ต่อเนื่อง น่าจะย้ายไปนำหน้าเรื่องที่เล่าใน 19:8-10

e เรื่องเมราบใน ข้อ 17-19 ไม่เข้ากับเรื่องที่จะเล่าต่อไปใน ข้อ20-27 ข้อ 21 น่าจะเป็นคำอธิบายที่ผู้เรียบเรียงเพิ่มเข้ามา

f “วงศ์ตระกูลของข้าพเจ้า” แปลโดยคาดคะเน ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “ชีวิตของข้าพเจ้า”

g “ครั้งที่สอง” ดาวิดมีโอกาสเป็นราชบุตรเขยครั้งแรก ถ้าแต่งงานกับเมราบ ครั้งที่สอง ถ้าแต่งงานกับมีคาล ประโยคนี้ดูเหมือนเป็นคำอธิบายเพิ่มเติมของผู้คัดลอก

h “ค่าสินสอด” ขนบธรรมเนียมของชาวอิสราเอลเหมือนกับของไทยที่เจ้าบ่าวต้องจ่ายค่าสินสอดให้บิดาของเจ้าสาว

i “หนึ่งร้อยคน” แปลตามตัวอักษรว่า “หนังหุ้มปลายองคชาตหนึ่งร้อยชั้น” เนื่องจากชาวฟีลิสเตียไม่เข้าสุหนัต วิธีพิสูจน์ว่าได้ฆ่าชาวฟีลิสเตียก็คือ นำอวัยวะเพศของผู้ถูกฆ่ามาแสดงว่ายังมีหนังหุ้มปลายองคชาตอยู่ด้วย

j “มีคาลพระธิดา” ต้นฉบับภาษากรีกว่า “ชาวอิสราเอลทุกคน”

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก