“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

ข. เอลียาห์ที่ภูเขาโฮเรบ

 

เอลียาห์เดินทางไปภูเขาโฮเรบ

19 1กษัตริย์อาคับทรงเล่าเรื่องทั้งหมดที่เอลียาห์ทำ ให้พระนางเยเซเบลฟัง ทั้งทรงเล่าเรื่องที่เอลียาห์ได้ฆ่าประกาศกทุกคนด้วย 2พระนางเยเซเบลจึงทรงส่งคนไปบอกเอลียาห์ว่า “ขอพระเจ้าทรงลงโทษเราอย่างหนัก ถ้าพรุ่งนี้ในเวลานี้เราไม่ฆ่าท่าน เหมือนที่ท่านได้ฆ่าประกาศกเหล่านั้น” 3เอลียาห์กลัวa จึงออกเดินทางหนีเอาชีวิตรอดมาถึงเมืองเบเออร์เชบาในแคว้นยูดาห์ แล้วให้ผู้รับใช้อยู่ที่นั่น 4ส่วนเอลียาห์เดินทางเข้าไปในถิ่นทุรกันดารเป็นระยะทางเดินหนึ่งวัน เขาไปนั่งใต้พุ่มไม้ คิดอยากตาย อธิษฐานว่า “ข้าแต่พระยาห์เวห์ เพียงเท่านี้ก็พอแล้ว โปรดเอาชีวิตของข้าพเจ้าไปเถิด ข้าพเจ้าไม่ดีกว่าบรรพบุรุษของข้าพเจ้าเลย” 5เขานอนแล้วหลับไปใต้พุ่มไม้ ทันใดนั้น ทูตสวรรค์มาแตะตัวเขาและพูดว่า “จงลุกขึ้นและกินเถิด” 6เขามองเห็นขนมปังปิ้งบนก้อนหินร้อนและเหยือกน้ำอยู่ใกล้ศีรษะ เมื่อเขากินและดื่ม แล้วนอนต่อไป 7ทูตสวรรค์ของพระยาห์เวห์กลับมาแตะตัวเขาอีก พูดว่า “จงลุกขึ้นและกินเถิด เพราะท่านยังต้องเดินทางอีกไกลมาก” 8เอลียาห์จึงลุกขึ้นกินและดื่ม อาหารนี้ทำให้เขามีกำลังเดินได้สี่สิบวันสี่สิบคืนจนถึงโฮเรบbภูเขาของพระเจ้า

 

เอลียาห์พบพระเจ้า

9ที่นั่น เอลียาห์เข้าไปค้างคืนในถ้ำc พระยาห์เวห์ตรัสกับเขาว่า “เอลียาห์ ท่านมาทำอะไรอยู่ที่นี่” 10เขาทูลตอบว่า “ข้าพเจ้ามีความกระตือรือร้นต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าจอมจักรวาล เพราะชาวอิสราเอลได้ละเมิดพันธสัญญาที่ทำไว้กับพระองค์ ได้รื้อพระแท่นบูชาของพระองค์และฆ่าประกาศกของพระองค์ มีแต่ข้าพเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เหลืออยู่ เขายังพยายามจะฆ่าข้าพเจ้าด้วย”d 11พระเจ้าทรงสั่งเขาว่า “จงออกไปยืนอยู่บนภูเขาเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์” แล้วพระยาห์เวห์ก็เสด็จผ่านมา ทรงบันดาลให้เกิดลมพัดแรงกล้า ผ่าภูเขาทำให้หินแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ แต่พระยาห์เวห์มิได้ประทับอยู่ในลมนั้น เมื่อลมหยุดก็เกิดแผ่นดินไหว แต่พระยาห์เวห์มิได้ประทับอยู่ในแผ่นดินไหว 12หลังจากแผ่นดินไหวก็เกิดไฟลุก แต่พระยาห์เวห์มิได้ประทับอยู่ในไฟนั้น หลังจากไฟก็มีเสียงกระซิบเบาๆe 13เมื่อเอลียาห์ได้ยิน ก็เอาเสื้อคลุมปิดหน้าไว้ ออกมายืนอยู่ที่ปากถ้ำ ได้ยินเสียงพูดกับเขาว่า “เอลียาห์ ท่านมาทำอะไรอยู่ที่นี่” 14เขาตอบว่า “ข้าพเจ้ามีความกระตือรือร้นอย่างยิ่งต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าจอมจักรวาล เพราะชาวอิสราเอลได้ละเมิดพันธสัญญาที่ทำไว้กับพระองค์ ได้รื้อพระแท่นบูชาของพระองค์และฆ่าประกาศกของพระองค์ มีแต่ข้าพเจ้าเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่เหลืออยู่ แล้วเขายังพยายามจะฆ่าข้าพเจ้าด้วย” 15พระยาห์เวห์ทรงสั่งว่า “จงกลับไปทางที่ท่านมา ไปยังถิ่นทุรกันดารใกล้กรุงดามัสกัส เมื่อไปถึงแล้วจงเจิมฮาซาเอลขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งอารัม 16แล้วจงเจิมเยฮูบุตรของนิมซีขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอลf เจิมgเอลีชาบุตรของชาฟัทชาวเมืองอาเบลเมโคลาห์ให้เป็นประกาศกสืบแทนท่าน 17ผู้ที่รอดพ้นคมดาบของฮาซาเอลจะถูกเยฮูฆ่า ผู้ที่รอดพ้นคมดาบของเยฮูจะถูกเอลีชาฆ่า 18แต่เราจะไว้ชีวิตคนเจ็ดพันคนในอิสราเอลที่ไม่ได้ย่อเข่ากราบไหว้พระบาอัล หรือไม่ได้จูบแสดงคารวะต่อรูปพระบาอัล

 

พระเจ้าทรงเรียกเอลีชาเป็นประกาศกh

19เอลียาห์ออกจากที่นั่นไปพบเอลีชาบุตรของชาฟัท เขากำลังไถนา ข้างหน้าเขามีโคสิบสองคู่ เขาไถนาอยู่กับคู่สุดท้าย เอลียาห์เดินผ่านเข้าไปใกล้ๆ ถอดเสื้อคลุมของตนห่มให้เอลีชาi 20เอลีชาจึงละโคเหล่านั้นวิ่งตามเอลียาห์ไป พูดว่า “ขอให้ข้าพเจ้าไปจูบลาบิดามารดาก่อน แล้วข้าพเจ้าจะติดตามท่าน” เอลียาห์ตอบว่า “ไปเถิดแล้วจงกลับมา ท่านเข้าใจแล้วว่าข้าพเจ้าทำอะไรให้ท่าน” 21เอลีชาก็กลับไปบ้าน ฆ่าโคคู่หนึ่ง ใช้แอกและคันไถเป็นฟืนปรุงเนื้อโคเป็นอาหาร แจกเนื้อให้ประชาชนกิน แล้วจึงออกเดินทางติดตามไปรับใช้เอลียาห์

 

19 a “กลัว” แปลตามสำนวนแปลโบราณ ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “เห็น”

b “โฮเรบ” ดู อพย 19:1 เชิงอรรถ a เอลียาห์มีความกระตือรือร้นที่จะปฏิบัติตามพันธสัญญาและรื้อฟื้นความเชื่อดั้งเดิม จึงเดินทางไปถึงสถานที่ที่พระเจ้าทรงสำแดงพระองค์ (อพย 3 และ 33:18 – 34:9) และทรงกระทำพันธสัญญากับประชากรอิสราเอล (อพย 19; 24; 34:10-28) เอลียาห์เข้าใจว่าหน้าที่ของตนเป็นการสืบต่องานของโมเสส ทั้งโมเสสและเอลียาห์มีประสบการณ์เดียวกันคือ พระเจ้าทรงสำแดงพระองค์แก่เขาที่ภูเขาโฮเรบ โมเสสและเอลียาห์ยังจะเป็นพยานในพันธสัญญาใหม่เมื่อพระคริสตเจ้าทรงสำแดงพระองค์อย่างรุ่งโรจน์ด้วย (มธ 17:1-9//)

c “ถ้ำ” อาจเป็นซอกหินที่โมเสสเข้าไปห่อตัวหลบอยู่เมื่อพระเจ้าทรงสำแดงพระองค์ (อพย 33:22)

d ข้อ 9ข-10 ซ้ำกับข้อ 13-14

e ลมพัด แผ่นดินไหวและไฟลุก (หรือสายฟ้าแลบ) ใน อพย 19 เป็นปรากฏการณ์ที่แสดงว่าพระเจ้าประทับอยู่ที่นั่น แต่ในเรื่องนี้เป็นเพียงสัญญาณว่าพระองค์กำลังเสด็จมา เสียงกระซิบหมายความว่าพระเจ้าทรงสนทนากับประกาศกอย่างใกล้ชิดเป็นกันเอง แต่มิได้หมายความว่าการกระทำของพระเจ้าเป็นการกระทำที่นิ่มนวลเสมอไป ดังจะเห็นได้จากพระบัญชาให้ประหารชีวิตผู้ทำผิด (ดูข้อ 15-17)

f ประกาศกเอลียาห์จะไม่เป็นผู้ปฏิบัติภารกิจ แต่ประกาศกเอลีชาจะเป็นผู้ปฏิบัติในภายหลัง

g การเจิม (อพย 30:22 เชิงอรรถ d) โดยปกติเป็นพิธีสงวนไว้สำหรับกษัตริย์เท่านั้น ข้อความนี้เป็นครั้งเดียวเท่านั้นที่กล่าวว่าประกาศกได้รับการเจิมด้วย การใช้คำ “เจิม” สำหรับประกาศกอาจเป็นเพราะได้ใช้คำนี้สองครั้งก่อนหน้าแล้วสำหรับกษัตริย์

h ข้อ 19-21 เป็นข้อความจากเรื่องชุดเกี่ยวกับประกาศกเอลีชา

i เสื้อคลุมเป็นสัญลักษณ์ของบุคคลและอำนาจของผู้เป็นเจ้าของ เสื้อคลุมของเอลียาห์ยังมีฤทธิ์ทำอัศจรรย์ได้ (2 พกษ 2:8) การที่เอลียาห์เอาเสื้อคลุมของตนห่มเอลีชาจึงทำให้เขามีอำนาจเหนือเอลีชาซึ่งไม่อาจทัดทานได้ การที่เอลีชาทำลายคันไถและฆ่าโค เป็นการประกาศว่าเขาสละวิถีชีวิตแบบเก่าโดยสิ้นเชิง

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก