“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)


(ไฟล์ "เสียงวรสาร" โดย วัดแม่พระกุหลาบทิพย์ กรุงเทพฯ)

คำอธิษฐานของพระเยซูเจ้าa

17 1พระเยซูเจ้าตรัสดังนี้แล้ว ทรงเงยพระพักตร์ขึ้นเบื้องบน ตรัสว่า

“ข้าแต่พระบิดา ถึงเวลาแล้ว

โปรดประทานพระสิริรุ่งโรจน์แก่พระบุตรของพระองค์เถิด

เพื่อพระองค์จะทรงรับพระสิริรุ่งโรจน์จากพระบุตรb

2ดังที่พระองค์ได้ประทานอำนาจแก่พระบุตรเหนือมนุษย์ทั้งมวล

เพื่อพระบุตรจะได้ประทานชีวิตนิรันดรแก่ทุกคนที่พระองค์ทรงมอบให้

3ชีวิตนิรันดรคือ

การรู้จักcพระองค์

พระเจ้าแท้จริงแต่พระองค์เดียว

และรู้จักผู้ที่พระองค์ทรงส่งมาdคือพระเยซูคริสตเจ้า

4ข้าพเจ้าทำให้พระองค์ทรงได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ในโลกนี้แล้ว

โดยปฏิบัติภารกิจจนสำเร็จ

ตามที่ทรงมอบหมายแก่ข้าพเจ้า

5บัดนี้ พระบิดาเจ้าข้า โปรดประทานพระสิริรุ่งโรจน์ให้ข้าพเจ้า

พระสิริรุ่งโรจน์ที่ข้าพเจ้าเคยมีร่วมกับพระองค์e

ตั้งแต่ก่อนสร้างโลกf

6ข้าพเจ้าได้แสดงพระนามของพระองค์g

แก่มนุษย์ที่พระองค์ทรงนำจากโลกมามอบให้ข้าพเจ้า

เขาทั้งหลายเป็นของพระองค์ และพระองค์ทรงมอบเขาแก่ข้าพเจ้า

เขาได้ปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์

7บัดนี้ เขารู้แล้วว่า

ทุกสิ่งที่พระองค์ทรงมอบให้ข้าพเจ้านั้นมาจากพระองค์

8เพราะพระวาจาที่พระองค์ทรงมอบให้ข้าพเจ้านั้น

ข้าพเจ้ามอบให้เขาแล้ว

เขาได้รับไว้

และรู้แน่นอนhว่า ข้าพเจ้ามาจากพระองค์

และเขาก็เชื่อว่า พระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามา

9ข้าพเจ้าอธิษฐานภาวนาสำหรับเขาเหล่านี้

ข้าพเจ้ามิได้อธิษฐานภาวนาสำหรับโลก

แต่สำหรับผู้ที่พระองค์ทรงมอบให้ข้าพเจ้า

เพราะเขาเป็นของพระองค์

10ทุกสิ่งที่เป็นของข้าพเจ้า ก็เป็นของพระองค์

ทุกสิ่งที่เป็นของพระองค์ ก็เป็นของข้าพเจ้า

และข้าพเจ้าได้รับสิริรุ่งโรจน์โดยทางเขา

11ข้าพเจ้าไม่อยู่ในโลกอีกต่อไป

แต่เขายังอยู่ในโลก

และข้าพเจ้ากำลังกลับไปเฝ้าพระองค์

ข้าแต่พระบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์

โปรดเฝ้ารักษาบรรดาผู้ที่ทรงมอบให้ข้าพเจ้าiไว้ในพระนามของพระองค์

เพื่อเขาจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันเหมือนกับพระองค์และข้าพเจ้า

12เมื่อข้าพเจ้าอยู่กับบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงมอบให้ข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าเฝ้ารักษาเขาเหล่านั้นไว้ในพระนามพระองค์

ข้าพเจ้าเฝ้ารักษาไว้ และไม่มีผู้ใดพินาศ

เว้นแต่ผู้ที่ต้องพินาศj

เพื่อให้เป็นจริงตามพระคัมภีร์

13แต่บัดนี้ ข้าพเจ้ากำลังกลับไปเฝ้าพระองค์

ข้าพเจ้ากล่าววาจานี้ขณะที่ยังอยู่ในโลก

เพื่อบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงมอบให้ข้าพเจ้า

จะมีความยินดีของข้าพเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม

14ข้าพเจ้ามอบพระวาจาของพระองค์ให้เขาเหล่านั้นแล้ว

และโลกเกลียดชังเขา

เพราะเขาไม่เป็นของโลก

เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าไม่เป็นของโลก

15ข้าพเจ้าไม่ได้วอนขอพระองค์ให้ทรงยกเขาออกจากโลก

แต่วอนขอให้ทรงรักษาเขาให้พ้นจากมารร้ายk

16เขาไม่เป็นของโลก

เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าไม่เป็นของโลก

17โปรดบันดาลให้เขาศักดิ์สิทธิ์โดยlอาศัยความจริง

พระวาจาของพระองค์คือ ความจริง

18พระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามาในโลกฉันใด

ข้าพเจ้าก็ส่งเขาเข้าไปในโลกฉันนั้น

19ข้าพเจ้าถวายตนเป็นบูชาmสำหรับเขา

เพื่อเขาจะได้รับความศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริงด้วย

20ข้าพเจ้าอธิษฐานภาวนามิใช่สำหรับคนเหล่านี้เท่านั้น

แต่สำหรับผู้ที่จะเชื่อในข้าพเจ้าn

ผ่านทางวาจาของเขาด้วย

21ข้าแต่พระบิดา ข้าพเจ้าอธิษฐานภาวนา เพื่อให้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน

เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงอยู่ในข้าพเจ้า และข้าพเจ้าอยู่ในพระองค์

เพื่อให้เขาทั้งหลายอยู่ในพระองค์และในข้าพเจ้า

โลกจะได้เชื่อว่าพระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามา

22พระสิริรุ่งโรจน์ที่พระองค์ประทานให้ข้าพเจ้านั้น ข้าพเจ้าได้ให้แก่เขา

เพื่อให้เขาเป็นหนึ่งเดียวกัน เช่นเดียวกับที่พระองค์และข้าพเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกัน

23ข้าพเจ้าอยู่ในเขา และพระองค์ทรงอยู่ในข้าพเจ้า

เพื่อเขาจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์

โลกจะได้รู้ว่าพระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามา

และพระองค์ทรงรักเขาoเช่นเดียวกับที่ทรงรักข้าพเจ้า

24ข้าแต่พระบิดา ผู้ที่พระองค์ประทานให้ข้าพเจ้านั้น

ข้าพเจ้าปรารถนาให้เขาอยู่กับข้าพเจ้าทุกแห่งที่ข้าพเจ้าอยู่

เพื่อเขาจะได้เห็นพระสิริรุ่งโรจน์

ซึ่งพระองค์ประทานแก่ข้าพเจ้า

เพราะพระองค์ทรงรักข้าพเจ้า

ตั้งแต่ก่อนสร้างโลก

25ข้าแต่พระบิดาผู้ทรงเที่ยงธรรม

โลกไม่รู้จักพระองค์

แต่ข้าพเจ้ารู้จักพระองค์

และคนเหล่านี้รู้ว่า

พระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามา

26ข้าพเจ้าบอกให้เขารู้จักพระนามของพระองค์

และจะบอกให้รู้ต่อไป

เพื่อความรักที่พระองค์ทรงรักข้าพเจ้าจะได้อยู่ในเขา

และข้าพเจ้าจะได้อยู่ในเขาด้วยเช่นเดียวกัน”

 

เรียนพระคัมภีร์กับคุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกร
พระวรสารนักบุญยอห์น บทที่ 16-17

 

17 a เวลาที่พระเยซูเจ้าจะทรงถวายพระองค์เป็นบูชานั้นใกล้เข้ามาแล้ว ในคำอธิษฐานบทนี้ พระเยซูเจ้าทรงถวายพระองค์แด่พระบิดาและทรงอ้อนวอนเพื่อบรรดาศิษย์

b เมื่อพระเยซูเจ้าทรงขอพระบิดาให้ประทานพระสิริรุ่งโรจน์ พระองค์มิได้ทรงขอเพื่อพระองค์เอง (เทียบ 7:18; 8:50) แต่พระสิริรุ่งโรจน์ของพระบุตรเป็นหนึ่งเดียวกับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระบิดาด้วย (เทียบ 12:28; 13:31)

c ความหมายของ การรู้จัก ดู 10:14 เชิงอรรถ g

d จนถึงบัดนั้น ธรรมบัญญัติของโมเสสเป็นสื่อทำให้มนุษย์รู้จักพระเจ้า แต่เวลานี้พระคริสตเจ้าทรงมาเปิดเผยให้มนุษย์ทุกคนรู้จักพระเจ้า

e สำเนาโบราณบางฉบับว่า สิริรุ่งโรจน์ซึ่งอยู่กับพระองค์

f หมายถึง พระสิริรุ่งโรจน์ที่พระบุตรทรงมีอยู่แล้ว ก่อนจะทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ หรือพระสิริรุ่งโรจน์ที่พระบิดากำหนดไว้ให้พระบุตรตั้งแต่นิรันดรภาพ (1:14 เชิงอรรถ n)

g พระเยซูเจ้ามีพระภารกิจที่จะเปิดเผย พระนาม (หมายถึง พระบุคคล) ของพระบิดา (ข้อ 3-6, 26; 12:28 เชิงอรรถ g; 14:7-11; ดู 3:11 เชิงอรรถ e) ความรักต่อมนุษย์ทุกคนเป็นลักษณะเฉพาะของพระบิดา (1 ยน 4:8, 16) และพระองค์ทรงพิสูจน์ความรักนี้ โดยประทานพระบุตรแต่องค์เดียวให้เรา (ยน 3:16-18; 1 ยน 4:9, 10, 14, 16 ดู รม 8:32) ดังนั้น ถ้ามนุษย์ทุกคนต้องการรู้คุณค่าของความรักนี้ (เทียบ ยน 20:31; 1 ยน 2:23) เขาต้องเชื่อว่าพระเยซูเจ้าเป็นพระบุตร (ยน 3:18) แล้วจึงจะ รู้จัก พระบิดา

h แปลได้เช่นกันว่า เขาได้ยอมรับพระวาจาอย่างแท้จริง เพราะข้าพเจ้ามาจากพระองค์

i สำเนาโบราณบางฉบับว่า โปรดรักษาผู้ที่อยู่ในพระนามของพระองค์ ซึ่งพระองค์ทรงมอบให้ข้าพเจ้า (“ซึ่ง อาจหมายถึง บรรดาศิษย์ หรือ พระนาม)

j ผู้ที่ต้องพินาศ แปลตามตัวอักษร บุตรแห่งความพินาศ

k จากมารร้าย แปลได้อีกว่า จากความชั่ว (เทียบ มธ 6:13)

l บันดาลให้ศักดิ์สิทธิ์ คำกริยามีความหมายตามตัวอักษรว่า แยกไว้ต่างหาก อุทิศถวายแด่พระเจ้า เจิมถวาย(แด่พระเจ้า)” (ดู กจ 9:13 เชิงอรรถ g)

m พระเยซูเจ้าทรงถวายพระองค์เป็นบูชาแด่พระบิดา เพื่อเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ เพื่อเปิดเผยให้มนุษย์ทุกคนเข้าใจความรักของพระเจ้าได้อย่างสมบูรณ์ พระองค์ทรงอธิษฐานภาวนาเพื่อบรรดาศิษย์จะได้ดำเนินชีวิตตามความจริงของพระเจ้า ได้รับความศักดิ์สิทธิ์อาศัยความเชื่อในพระบิดาที่พระองค์ได้ทรงเผยให้รู้

n ในที่สุด ข้อ 20-26 พระเยซูเจ้าทรงอธิษฐานภาวนาสำหรับคริสตชนทุกคนในพระศาสนจักรที่ได้รับความเชื่อจากการเทศน์สอนของบรรดาอัครสาวก (3:11 เชิงอรรถ e; 15:27 ดู รม 1:1 เชิงอรรถ b) พระเยซูเจ้าทรงอ้อนวอนขอพระบิดาให้คริสตชนที่รวมเป็นหนึ่งเดียวนี้ได้เชื่อมั่นยิ่งขึ้นในพระภารกิจของพระองค์ (เทียบ 1 ยน 1:1-3; 2:24)

o สำเนาโบราณบางฉบับว่า ข้าพเจ้าได้รักเขา

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก