การเสด็จมาขององค์พระผู้เป็นเจ้า
7พี่น้องทั้งหลาย จงพากเพียรรอจนกว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมา จงดูชาวนาเถิด เขาย่อมรอผลมีค่าจากแผ่นดินด้วยความพากเพียร รอจนกระทั่งมีฝนต้นฤดูและฝนปลายฤดูc 8ท่านก็เช่นเดียวกัน จงมีความพากเพียร ทำจิตใจให้เข้มแข็งเพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้จะเสด็จมาแล้วd 9พี่น้องทั้งหลาย อย่าบ่นนินทากัน เพื่อจะได้ไม่ถูกพิพากษา พระผู้พิพากษาทรงยืนอยู่หน้าประตูแล้ว 10พี่น้องทั้งหลาย จงยึดบรรดาประกาศกซึ่งพูดในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาเป็นแบบฉบับในความพากเพียรอดทนต่อความยากลำบาก 11เราเรียกบรรดาผู้ที่พากเพียรอดทนว่าเป็นผู้มีความสุข ท่านได้ยินเรื่องความพากเพียรอดทนของโยบและรู้แล้วว่าในที่สุดองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำสิ่งใดแก่เขา พระองค์ทรงพระเมตตาและทรงพระกรุณาอย่างมาก 12พี่น้องทั้งหลาย สิ่งสำคัญที่สุด จงอย่าสาบาน ไม่ว่าโดยอ้างสวรรค์หรืออ้างแผ่นดิน หรืออ้างอะไรอื่นใดทั้งสิ้น ถ้า "ใช่" จงบอกว่า "ใช่" ถ้า "ไม่ใช่" ก็จงบอกว่า "ไม่ใช่" เพื่อท่านจะไม่ถูกพิพากษา
13ท่านใดทนทุกข์ จงอธิษฐานภาวนาเถิดe ท่านใดร่าเริงยินดี จงร้องเพลงสดุดีเถิด 14ท่านใดเจ็บป่วย จงเชิญบรรดาผู้อาวุโสของพระศาสนจักรให้มาอธิษฐานภาวนาเพื่อผู้ป่วย เจิมน้ำมันผู้นั้นในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าf 15คำอธิษฐานภาวนาด้วยความเชื่อจะช่วยผู้ป่วยให้รอดชีวิต องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงโปรดให้ผู้ป่วยลุกขึ้น และถ้าเขาเคยกระทำบาป เขาก็จะได้รับการอภัย 16ดังนั้น จงสารภาพบาปแก่กัน และจงอธิษฐานให้กันเพื่อท่านจะหายจากโรคg คำอ้อนวอนของผู้ชอบธรรมมีพลังทำให้เกิดผลมากมาย 17ประกาศกเอลียาห์hเป็นมนุษย์ที่มีธรรมชาติเหมือนกับเรา เขาอธิษฐานภาวนาอย่างแรงกล้าขออย่าให้ฝนตก ฝนก็ไม่ตกบนแผ่นดินเป็นเวลาสามปีหกเดือน 18เขาอธิษฐานภาวนาอีก ท้องฟ้าก็ให้ฝนและแผ่นดินก็ผลิตพืชผล
19พี่น้องทั้งหลาย ถ้าท่านใดหลงผิดไปจากความจริงและอีกคนหนึ่งนำเขากลับมา 20จงรู้ไว้เถิดว่าi ผู้ที่ช่วยคนบาปให้กลับมาจากทางผิด ก็จะช่วยวิญญาณของตนให้รอดพ้นจากความตาย และจะได้รับการอภัยบาปทั้งมวลj
c ยังอาจแปลได้อีกว่า "รอจนกระทั่งมีผลต้นฤดูและผลปลายฤดู"
d การรอคอยให้พระคริสตเจ้าเสด็จมาอย่างรุ่งโรจน์ (parousia : 1 คร 15:23 เชิงอรรถ n) เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่สุดให้คริสตชนมีความพากเพียร 1:2-4,12; 1 ธส 3:13; 1 ปต 4:7; 5:10; การเปรียบเทียบกับกรรมกรทำให้ระลึกถึง มก 4:26-29
e ความคิดที่มีอยู่ตลอดในข้อ 13-18 คือ การอธิษฐานภาวนาโดยเน้นกรณีของผู้เจ็บป่วยและคนบาปเป็นพิเศษ ส่วนข้อ 16ข-18 กล่าวถึงผลของการภาวนาอย่างดี
f สำเนาโบราณบางฉบับละ "ขององค์พระผู้เป็นเจ้า" ยากอบคิดว่า ผู้รับจดหมายเข้าใจอยู่แล้วว่า เขากำลังพูดถึงการปฏิบัติซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว พระศาสนจักรเห็นว่าการเจิมในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าพร้อมกับการอธิษฐานภาวนาของ "ผู้อาวุโส" กจ 11:30 เชิงอรรถ p; เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความบรรเทาและการอภัยบาปนี้ เป็นรูปแบบดั้งเดิมของศีลเจิมคนไข้
g ยากอบเตือนคริสตชนทุกคน ไม่เพียงแต่ผู้เจ็บป่วยเท่านั้น (ข้อ 15) ให้สารภาพบาปต่อกันและอธิษฐานภาวนาให้แก่กัน ในข้อความนี้ ยากอบมิได้กล่าวถึงศีลอภัยบาปโดยตรง
h ประกาศกเอลียาห์เป็นที่รู้จักอย่างดีทั้งในพระศาสนจักรและในกลุ่มชาวยิว ยากอบเน้นว่าประกาศกเอลียาห์แบบฉบับของผู้อธิษฐานภาวนาก็ยังเป็นมนุษย์เหมือนกับเรา
i ความรักฉันพี่น้องและการอภัยนำผู้ที่หลงผิดไปให้กลับเข้ามาในพระศาสนจักรอีก ดู มธ 18:15,21-22 เชิงอรรถ k; 1 ธส 5:14; และผู้กระทำเช่นนี้จะได้รับรางวัลในวันพิพากษา 1 ปต 4:8; เทียบ อสค 3:19; 33:9; ดนล 12:3; จดหมายฉบับนี้จบลงโดยไม่มีคำทักทายลงท้ายตามโครงสร้างปกติของจดหมายโดยทั่วไป
j แปลตามตัวอักษร "จะปกคลุมบาปมากมาย"