“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม 2017
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลปัสกา
กจ 9:31-42….
31ขณะนั้น พระศาสนจักร มีสันติภาพทั่วแคว้นยูเดีย กาลิลีและสะมาเรีย พระศาสนจักรเติบโตขึ้น มีความเคารพยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้า และได้รับกำลังใจจากพระจิตเจ้าอย่างเต็มเปี่ยม
32เมื่อเปโตรเดินทางไปเยี่ยมผู้มีความเชื่อในที่ต่าง ๆ เขาไปเยี่ยมบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในเมืองลิดดาด้วย

33ที่นั่นเขาพบชายคนหนึ่งชื่อไอเนอัส เป็นอัมพาตนอนอยู่บนแคร่มาแปดปีแล้ว 34เปโตรจึงพูดกับเขาว่า “ไอเนอัสเอ๋ย พระเยซูคริสตเจ้าทรงรักษาท่านให้หาย จงลุกขึ้นและเก็บที่นอนเถิด” เขาก็ลุกขึ้นทันที 35เมื่อเห็นดังนี้ ทุกคนที่อยู่ในเมืองลิดดาและในที่ราบชาโรนก็กลับใจมีความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า

ในบรรดาศิษย์ที่เมืองยัฟฟามีหญิงคนหนึ่งชื่อทาบีธา แปลว่า “เนื้อทราย” ทำความดีและให้ทานเป็นอันมาก 37ระหว่างนั้นนางป่วยและถึงแก่กรรม เขาทำความสะอาดศพและตั้งศพไว้ในห้องชั้นบน 38เมืองลิดดาอยู่ใกล้กับเมืองยัฟฟา บรรดาศิษย์รู้ว่าเปโตรอยู่ที่เมืองลิดดา จึงส่งชายสองคนไปเชิญเขาว่า “โปรดรีบมาหาเราเถิด” 39เปโตรไปกับเขาทันที เมื่อไปถึง เขาก็พาเปโตรขึ้นไปยังห้องชั้นบน บรรดาหญิงม่ายมาห้อมล้อม ทุกคนต่างร้องไห้และชี้ให้เปโตรดูเสื้อผ้าทั้งชั้นนอกชั้นในที่ทาบีธาทำให้เมื่อนางยังมีชีวิต 40เปโตรจึงสั่งให้ทุกคนออกไปข้างนอก เขาคุกเข่าอธิษฐานภาวนาแล้วหันมาดูศพ พูดว่า “ทาบีธาเอ๋ย จงลุกขึ้นเถิด” นางก็ลืมตาขึ้นมองดูเปโตรและลุกขึ้นนั่ง 41เปโตรจึงยื่นมือพยุงให้นางยืน แล้วเรียกบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์และบรรดาหญิงม่ายเข้ามา ชี้ให้เห็นว่านางยังมีชีวิต 42เรื่องนี้เป็นที่รู้กันทั่วเมืองยัฟฟา หลายคนมีความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• “ผู้หญิงก็อ่อนโยนและใจดีเสมอในพระศาสนจักร”
o วันนี้ขอกล่าวถึงผู้หญิงในพระศาสนจักรเสมอ ประสบการณ์ของพ่อเองตั้งแต่เด็กๆ พ่อจำได้ดีว่า ผู้หญิงคือคนส่วนใหญ่เสมอที่มาวัด ใกล้ชิดวัด ช่วยเหลืองานวัด พ่อจำความน่ารักมากมายที่ได้เห็นมาตลอดตั้งแต่เป็นเด็ก
o วันนี้พ่ออยากเล่าเรื่องเก่าๆสักหน่อย... พ่อจำวัดพ่อสมัยเป็นเด็ก วัดเจ้าเจ็ด ความทรงจำดีๆ ที่ได้รับจากบรรดาซิสเตอร์ที่มาทำงานวัดของเรา จำบ้านซิสเตอร์ บ้านพ่อ สมัยก่อนนั้น บ้านซิสเตอร์ บ้านพ่อ ก็เก่า โทรมพอๆกันเพราะความเรียบง่าย ความยากจนของวัด ของชุมชนวัดของเรา
o บ้านซิสเตอร์ บ้านพ่อ ต้องเดินกันด้วยความระมัดระวังเพราะว่าบ้านไม้เก่า ไม่ได้ทาสีแต่เป็นสีไม้ธรรมชาติจริงๆครับ พ่อวิ่งไปวิ่งมาอยู่เสมอระหว่างบ้านพ่อกับบ้านซิสเตอร์ มีสะพานเชื่อมกันเป็นสะพานไม้ และก็เชื่อมมาที่วัดซึ่งเป็นไม้ทั้งหมดทาสีหน่อยที่วัด สวยหน่อย แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย
o พ่อจำได้บรรยากาศเก่า... ขอเล่าให้ฟังถึงความน่ารักของคนที่มาอยู่ใกล้วัด คนที่ช่วยวัดเสมอในบรรดาพวกเรา... ขอเล่าเป็นกลุ่มๆเลยดีไหมครับ...

• ซิสเตอร์ วัดเรามีอธิการ มีซิสเตอร์เล็ก คณะพระหฤทัยขอพระเยซูเจ้าแห่งกรุงเทพฯ
o พ่อจำได้ว่า พวกเราเด็กกับซิสเตอร์ มีแต่ความรู้สึกดีๆเสมอ มีซิสเตอร์แปลว่า วัดเราไม่อดตาย พ่อและเราเด็กๆมีอาหารอร่อยเพียงพอเสมอ วัดสะอาดเสมอ เพราะซิสเตอร์จะเกณฑ์พวกเราให้ไปทำความสะอาดวัด เด็กๆชายหญิงจะสนุกมากๆ กับการทำงานวัด กวาดวัด ทำความสะอาดวัด และที่ชอบมากคือกาบมะพร้าวที่พวกเราช่วยกันวิ่งลงเทียนและขัดพื้นวัด สนุกมาก...
o บ่อยครั้งเราก็ช่วยกันขัดภาชนะทองเหลืองเครื่องใช้หรือศาสนภัณฑ์ในวัด เรารู้สึกเป็นเกียรติมากที่เราได้ทำงานเหล่านี้กันในวัด มีความสุขมาก ส่งเสียงดังๆ ซิสเตอร์จะ “จุๆๆๆ” ดุเราให้เงียบ วัดนะ มีพระเยซูนะ เงียบๆหน่อย และชี้ไปที่ตู้ศีลในวัด เราก็จะเงียบกัน สงบกันสักพักก่อนจะเริ่มใหม่
o พ่อจำได้ว่า ครั้งหนึ่งซิสเตอร์เรียกพ่อกับเพื่อนๆช่วยกันซักผ้าศักดิ์สิทธิ์ พ่อก็กระตือรือร้นมากครับ เพราะเราจะได้ซักผ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในพิธีมิสซา ผ้าเช็ดจอกกาลิส ผ้าปูที่เรียกว่าผ้าศักดิ์สิทธิ์ ซิสเตอร์จะให้เรารวบรวมอย่างระมัดระวังไปที่บ้านซิสเตอร์ เราก็จะให้ความสำคัญมากเพราะผ้าขาวๆ สะอาด ที่ต้องระวังอย่างดีที่จะดูแล เมื่อไปถึง ซิสเตอร์บอกว่า “สมเกียรติไปเอากะละมังซักผ้ามาซิ” พ่อวิ่งทันทีด้วยความเร็ว เพราะตอนเด็กๆพ่อเป็นคนเร็วมากๆ จนชื่อเล่นของพ่อไม่เคยเปิดเผยมาก่อนที่ไหนว่า พ่อมีชื่อเล่นแต่ไม่มีใครเคยรู้... มันเกี่ยวกับความเร็วที่แหละ แต่ขอเก็บไว้ก่อน...
o พ่อวิ่งไปเอามาอย่างเร็ว.. หน้าระรื่นจะได้ซักผ้าศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อมาถึงซิสเตอร์ก็บอกว่า “ใช้ไม่ได้ กะละมังนี้ใช้ไม่ได้ ต้องเป็นใบสีเขียวที่แขวนอยู่ ใบนั้นใช้ซักผ้าศักดิ์สิทธิ์ ส่วนใบนี้ใช้ซักเสื้อผ้าอื่นๆ” โห พ่อได้เรียนรู้ว่า “มีกะละมังศักดิ์สิทธิ์ด้วย” ได้เรียนรู้ว่า เรืองของวัดของพระเจ้า ต้องแยกนะอย่าปนเปเด็กขาด... จำจนทุกวันนี้... บางทีเราอาจลืมไป เราอาจจะใช้กะละมังซักชุดชั้นในหรือล้างจานมาซักผ้าศักดิ์สิทธิ์ก็ได้ในทุกวันนี้... น่าคิด
o เอาเป็นว่า มีซิสเตอร์เวลานั้นสมัยพ่อเป็นเด็ก เราเห็นได้ถึงความน่ารัก ความศักดิ์สิทธิ์ ความเอาใจใส วัด ดอกไม้ ทุกอย่างเยี่ยมยอดเสมอมา พระเจ้าได้รับเกียรติจากบรรดาบุคคลเหล่านี้ที่เรียกได้ว่า “สตรีใจศรัทธา” เสมอมาครับ

• กลุ่มสตรีที่วัด แม่บ้านแม่เรือน... พวกเขาก็ศรัทธาช่วยวัดช่วยวามากเสมอ พ่อจำได้
o เวลามีงานที่วัด แม่บ้านทั้งหลายก็มารวมกันมากมายที่โรงอาหารของวัด หรือของโรงเรียน เช่นงานฉลองวัด แม่บ้านมารวมกันทั้งหมู่บ้าน ช่วยกันเตรียมการรับแขก ทำอาหาร เตรียมอาหารมากมาย
o พ่อก็วิ่งๆวนๆ ป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆนั้น เพราะได้ชิม ได้อิ่มตลอดทั้งวัดแหละ วิ่งหยิบโน่นหยิบนี่ตามคำสั่ง แต่ก็คุ้มกับการได้ชิมโน่นชิมนี่ไปเรื่อยเช่นกัน เป็นความสุขของวัดและของเรา ผู้หญิงในหมู่บ้านใจดี ร่วมมือกันทุกคน สนุกดีครับ ทำอาหาร หั่นผัก เตรียมต่างๆกันไปก็คุยกันไปนินทากันบ้าง บ่นกันบ้าง ชมกึ่งนินทาถึงความน่ารักของเจ้าวัดบ้าง พ่อก็ว่าบรรยากาศดีนะครับ... แต่ที่แน่ๆพวกผู้หญิงแม่บ้านคริสตชนใจดีและรักวัดจริงๆครับ
o เวลามิสซา สมัยพ่อเป็นเด็ก ในวัดแยกที่นั่งฝั่งชายหญิงเสมอ แต่ที่แน่ๆ ฝั่งหญิงแน่นกว่าฝั่งชายตลอดกาล ฝั่งชายจะมาวัดช้าหน่อย หรือมาเร็วก็นั่งคุยกันหน้าวัดก่อน เทศน์เสร็จแล้วค่อยเข้ามา... พ่อสมัยเป็นเด็กก็ได้สิทธิ์ที่จะไปนั่งกับแม่ในฝั่งหญิงได้... โตหน่อยก็ต้องไปนั่งแถวหน้าฝั่งเด็กชายแล้ว... บรรยากาศดีครับ...

• พี่น้องที่รัก วันนี้พ่อกล่าวถงผู้หญิงในพระศาสนจักรในความทรงจำของพ่อ เพื่อเชิดชูความงดงามแห่งความรักในพระศาสนจักรที่มีผู้หญิงที่ช่วยเหลือวัด
o ซิสเตอร์นักบวชมากมายที่พ่อจำได้ว่า รักวัด และรักพระศาสนจักรเสมอ ไม่ใช่เพราะผู้ชายไม่รักวัดนะครับ แต่คงจะเป็นการดีที่เราจะให้เกียรติผู้หญิงมากๆ ในพระศาสนจักรเพราะสตรีใจศรัทธาเป็นเครื่องหมายที่น่ารัก และมีพลังของพระศาสนจักรเสมอ
o คงจะเป็นการดีเสมอถ้าเราจะเชยชมซึ่งกันและกัน ให้กำลังหนุนใจกันและกันในความดีและความเชื่อ เพื่อเสริมสร้างความศรัทธาต่อกันและกัน
o และวันนี้ในพระคัมภีร์ เราได้พบหญิงคนหนึ่งที่ดีเหลือเกินในสมัยกิจการอัครสาวก เชื่อน่ารักครับ “ทาบีธา แปลว่าเนื้อทราย” และนางคือตัวอย่างของคนที่เป็นสตรีที่อ่อนโยนและสนับสนุนพระศาสนจักรตั้งแต่สมัยแรกเริ่ม สนับสนุนบรรดาอัครสาวกและชุมชนแห่งความเชื่อด้วยความรักและความใจดี....

• พ่อเชื่อว่า จะเป็นการดีมากถ้าเราคริสตชนได้มีประสบการณ์ที่ดีๆต่อกัน
o คิดถึงกันในด้านดีๆ เสมอ
o คิดถึงกันพูดถึงกันในด้านบวกเสมอคงจะทำให้พระศาสนจักรงดงามมาก ต้นไม้โตไปในทางที่มีแสงสว่างสาดส่องมาเสมอ ถ้าเราหันหน้าไปหาแสงแห่งความรักของพระเจ้าและแสงแห่งความดีแก่กันและกัน ชีวิตพระศาสนจักรคงจะมีด้านบวกๆและสวยงามมากขึ้นเสมอๆครับ...
o ขอพระเจ้าอวยพร ให้เราคิดถึงประสบการณ์ในความเชื่อ ประสบการณ์ด้านศาสนาที่ดีๆต่อกันนะครับ.. นั่นคือกิจการอัครสาวกที่งดงามเสมอแน่นอนครับ... ขอพระเจ้าอวยพรครับ...
o ขอพระเจ้าประทานผู้มีใจศรัทธาสตรีใจศรัทธามากมายเพื่อเสริมความเชื่อในพระศาสนจักรเสมอครับ... คิดถึงเรื่องดีๆก็มีความุสุขแล้วครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก