“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2016

สัปดาห์ที่ 19 เทศกาลธรรมดา

อสค 1:2-5,24-28………….
      2วันที่ห้าของเดือน - คือในปีที่ห้าที่กษัตริย์เยโฮยาคีนทรงถูกกวาดต้อนเป็นเชลย – 3พระยาห์เวห์ตรัสกับสมณะเอเสเคียล บุตรของบุซีในแผ่นดินของชาวเคลเดีย ริมแม่น้ำเคบาร์ พระหัตถ์ของพระยาห์เวห์มาอยู่เหนือเขาที่นั่น


     4ข้าพเจ้ามองดู ก็เห็นลมพายุพัดมาจากทิศเหนือ เห็นเมฆก้อนใหญ่ที่มีไฟล้อมอยู่ มีความสุกใสลุกอยู่โดยรอบ ตรงใจกลางกองไฟมีแสงที่มีสีเหมือนอำพันแวบวาบออกมาเหมือนไฟ 5จากกลางกองไฟนี้มีร่างสิ่งมีชีวิตสี่ตนปรากฏออกมา รูปร่างมีสัณฐานเหมือนมนุษย์ 24เมื่อสิ่งมีชีวิตเหล่านี้เคลื่อนไหว ข้าพเจ้าได้ยินเสียงของปีกเหมือนเสียงน้ำมากมาย เหมือนเสียงฟ้าร้องของพระผู้ทรงสรรพานุภาพ เหมือนเสียงพายุ เหมือนเสียงโกลาหลวุ่นวายในค่าย เมื่อสิ่งมีชีวิตเหล่านี้หยุด ก็หุบปีกลง 25มีเสียงมาจากแผ่นฟ้าเบื้องบนเหนือศีรษะของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้

     26เหนือแผ่นฟ้าเหนือศีรษะของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มีสิ่งหนึ่งคล้ายอัญมณีสีน้ำเงิน มีลักษณะเหมือนบัลลังก์ และเหนือบัลลังก์ที่อยู่เบื้องบนนี้มีผู้หนึ่งลักษณะเหมือนมนุษย์
27แล้วข้าพเจ้าก็เห็นแสงที่มีสีเหมือนอำพันจากเหนือบั้นเอวขึ้นไป และเห็นแสงเหมือนไฟจากใต้บั้นเอวลงมา เห็นความสุกใสอยู่รอบท่านผู้นั้น 28ท่านผู้นั้นมีความสุกใสเหมือนสายรุ้งบนเมฆในวันที่ฝนตกอยู่โดยรอบ ข้าพเจ้าเห็นรูปทรงของพระสิริรุ่งโรจน์ของพระยาห์เวห์ เช่นนี้ เมื่อเห็นแล้ว ข้าพเจ้าก็ซบหน้าลงจรดพื้น และได้ยินเสียงผู้หนึ่งพูด

    1เขาพูดว่า “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงยืนขึ้นเถิด เราต้องการพูดกับท่าน” 2ขณะที่ข้าพเจ้าได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ พระจิตก็เสด็จมาสถิตอยู่ในข้าพเจ้า ทรงทำให้ข้าพเจ้ายืนขึ้น และข้าพเจ้าได้ยินพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้า 3พระองค์ตรัสว่า “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย เราส่งท่านไปพบลูกหลานอิสราเอล ไปพบชาติคนกบฏซึ่งทรยศต่อเรา เขาทั้งหลายและบรรพบุรุษเป็นกบฏต่อเราจนถึงวันนี้ 4ผู้ที่เราส่งท่านไปพบนั้นเป็นลูกหน้าด้านและใจดื้อดึง ท่านจะต้องพูดกับเขาว่า “พระเจ้าตรัสดังนี้” 5เขาจะฟังหรือไม่ฟังก็ตาม คนกบฏเหล่านั้นอย่างน้อยก็จะรู้ว่ามีประกาศกอยู่ในหมู่เขา 6ส่วนท่าน บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย อย่ากลัวเขา อย่ากลัวคำพูดของเขาเลย แม้ท่านมีหนามและกอหนามล้อมอยู่ และนั่งอยู่กับแมลงป่อง อย่ากลัวคำพูดของเขาเลย อย่าท้อใจเมื่อเห็นหน้าเขา เพราะเขาเป็นพงศ์พันธุ์กบฏ 7ท่านจะต้องประกาศถ้อยคำของเราให้เขาฟัง เขาจะฟังหรือไม่ฟังก็ตาม เพราะเขาเป็นพงศ์พันธุ์กบฏ

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• ประกาศกเอเสเคียล ชื่อภาษาฮีบรู “יְחֶזְקֵאל, Y'ḥez'qel,” EzekiEL แปลว่า “พระเจ้าจะทรงยกขึ้น หรือพระเจ้าทรงทำให้เข้มแข็งขึ้น”

• รากภาษาคำนี้แปลว่า “ขอพระเจ้าทรงทำให้เขาเข็มแข็งขึ้นเถิด” พระเจ้าทรงทำให้ประกาศกเอเสเคียลเข้มแข็งขึ้น เพื่อประกาศพระนามของพระองค์ เพื่อประกาศการกลับใจให้แก่ประชากรของพระองค์
o ประกาศกเอเสเคียลเกิดปี 622 ก่อนคริสตกาล ที่กรุงเยรูซาเล็ม
o และน่าจะสิ้นชีวิตประมาณปี 570 ก่อนคริสตกาล และน่าจะเป็นที่บาบิโลน
o ตามธรรมประเพณีนั้น มีหลุมศพของประกาศกองค์นี้อยู่ที่ Al Kifi ประเทศอีรักในปัจจุบัน
o เมื่อเราพูดถึงประกาศกท่านนี้ เรากำลังกล่าวถึงเวลาที่ย่ำแย่ แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประชากรของพระเจ้า “อาณาจักรยูดาห์” ในช่วงเวลาแห่งการเนรเทศไปบาบิโลน ในยามขมขื่นของอาณจักรยูดาห์
o เวลาที่เนบูคัสเนสซาร์เริ่มสยบความเย่อหยิ่งของเยรูซาเล็ม จนทำให้เยรูซาเล็มตกต่ำ
o เป็นเวลาที่พระวิหารถูกทำลายไปแล้ว (พระวิหารหลังแรกที่ซาโลมอนได้สร้าง) และเอเสเคียลนี้แหละที่เป็นประกาศกที่ท่านเป็นนิมิตรถึงพระวิหารหลังใหม่

• มารู้จักกับประกาศกองค์นี้อีกหน่อย
o เมื่อท่านอายุประมาณ 30 ปี ท่านได้ถูกอพยพไปเป็นเชลยที่บาบิโลน พร้อมกันคนชั้นสูงจากเยรูซาเล็มจำนวน 3000 คน
o นับเป็นการเริ่มการเนรเทศไปบาบิโลน ไปอยู่ที่ริมแม่น้ำเคบาร์ (เหมือนกับที่พระคัมภีร์วันนี้เล่า) ณ ที่นั่น ท่านได้เห็นภาพนิมิต ท่านได้เผชิญหน้ากับพระเจ้า ได้อยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า
o และหลังจากนั้น ท่านได้ทำนายถึงการที่พระวิหารเยรูซาเล็มจะถูกทำลายซึ่งไม่มีใครเชื่อเช่นนั้น และได้ต่อต้านมากมาย ท่านเป็นประกาศกในช่วงเวลาเดียวกับเยเรมีย์ ซึ่งเวลานั้น เยเรมีย์ได้อยู่ที่เยรูซาเล็มและทำนายว่าพระวิหารจะถูกทำลาย แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเช่นกัน
o เหตุผลเพราะชาวยิวมีความไว้ใจในพระวิหาร ไว้ใจในความยิ่งใหญ่ของสิ่งก่อสร้าง คือ พระวิหารและบ้านเมืองเยรูซาเล็ม พระราชวัง และความแข็งแกร่งของกำแพงนคร ระบบบริหารการจัดการต่างๆ ของเยรูซาเล็ม...
o ดังนั้น จึงไม่มีทางที่จะเชื่อได้ ไม่เชื่อว่า พระวิหารและนครเยรูซาเล็มจะถูกทำลายได้ แม้พวกเขาจะเหลวไหล เหลวแหลกสักเท่าไร พระวิหารก็ไม่มีวันถูกทำลาย
o จนที่สุดปี 587 ก่อนคริสตกาลพระวิหารก็ถูกทำลายลงจริงๆ และเอเสเคียลหลังจากนั้น ท่านได้เห็นภาพนิมิตเรื่องการสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ตามที่เราพบในพระคัมภีร์วันนี้ในหนังสือประกาศกเอเสเคียล
o ชื่อของท่านน่าฟัง ในยามที่ชาติและศาสนาต้องตกต่ำใครเล่าจะยกขึ้น ใครเล่าจะทำให้เข็มแข็งขึ้น ฤาว่าอิสราเอลและยูดามาถึงจุดที่เรียกว่าอวสาน
o แต่ไม่อย่างไรเสีย อิสราเอลและยูดาห์ก็จะจบโดยไม่มีความหวังไม่ได้เด็ดขาด...
o เหตุว่า พระเจ้าทรงฤทธานุภาพ พระองค์ทรงสามารถ “ยกขึ้น” อีกครั้งหนึ่งเสมอ
o พระองค์ทรงสามารถยกประชากรของพระองค์ขึ้น ยกขึ้นให้สูงอีกครั้ง พระเจ้าสามารถประทานความหวังอีกครั้งหนึ่งอย่างแน่นอน..... เพราะพระองค์คือผู้ทรงพลานุภาพ ทรงสามารถยกขึ้นเสมอ เมื่อพระองค์ต้องการ

• พี่น้องที่รัก วันนี้พ่ออยากให้อ่านหนังสือประกาศกเอเสเคียลจริงๆ ในบรรยากาศของความดื้อดึงดัน และไม่ยอมกลับใจมาหาพระเจ้า พระเจ้าตรัสในนิมิตของเอเสเคียลหนักจริงๆ

• พ่อเพิ่มเติมให้อ่านมากกว่าในมิสซา คือให้ต่อบทที่สองนิดหน่อยถึงพระดำรัสของพระเจ้า
o เพราะประชากรของพระเจ้าดื้อดึงและด้านเหลือเกิน
o ดูเหมือนว่า หมดหนทางแต่พระเจ้าก็ไม่ปล่อยให้พวกเขาพินาศ ทรงเตือน ตีสอน แต่ก็ไม่ได้ทอดทิ้ง
o เอเสเคียลถูกเรียกแม้ในดินแดนเนรเทศแห่งบาบิโลน ที่ริมแม่น้ำเคบาร์ เรียกเพื่อส่งให้ไปเตือนประชากรของพระองค์ให้กลับใจ และยังทรงสัญญาว่าจะให้มีพระวิหารขึ้นใหม่ในอนาคต
o ดูเหมือนว่า ประชากรจะดื้อจริงๆ แต่พระเจ้าก็ใจดีจริงๆ เพราะพระองค์คือพระเจ้าพระองค์ไม่ปล่อยให้พินาศตลอดไป...
o พระเจ้าส่งเอเสเคียลไปพูดกับประชากรอิสราเอลทั้งมวล วันนี้เมื่อได้อ่านพระคัมภีร์เอเสเคียล เราน่าจะคิดถึงเวลานั้นที่ประชากรต้องได้รับการตีสอน และพระเจ้าตรัสกับเอเสเคียลค่อนข้างแรงจังเลยนะครับ สำหรับความเหลวแหลกของประชากร

• พ่อคิดว่า คำเตือนเหล่านี้เตือนสอนใจเราคริสชนแม้ในปัจจุบันได้ดี กับความดื้อ ความเป็น “ลูกหน้าด้าน” ดังที่พระเจ้าได้ตรัสกับประชากรผ่านเอเสเคียล พระวาจาวันนี้สามารถสอนเราครับ
o สอนสังคมของเราที่เต็มไปด้วยความหนาและใจปิดสนิทต่อความจริงและความดี ชีวิตสังคมที่ขาดความรักและเต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ
o พระคัมภีร์กำลังสอนเราให้เห็นว่า พระเจ้าสามารถเรียก เตือนสอนและจะยกชีวิตทางศีลธรรมจรรยาและศาสนาที่ตกต่ำให้เข้มแข็งขึ้นใหม่อีกแน่นอน
o สอนชีวิตของพระศาสนจักรและสังคมคริสตชนและตัวเราได้ดีครับ เสียงของประกาศกกำลังเตือนเราให้ไม่ดื้อกับพระเจ้า ไม่ให้ดื้อกับเสียงมโนธรรมและเสียงของความจริงและความดีที่ร้องเตือนเรา เสียงเล็กๆของคนยากไร้ที่ร้องขอความรักเมตตา และความเป็นธรรมจากเราทุกคน
o สอนชีวิตของมนุษย์เราในยุคปัจจุบัน ให้เราไม่ด้านเกินไปกับเสียงของพระองค์
o ทั้งนี้เพื่อเราจะสามารถมีสำนึกและตระหนักถึงความรักของพระเจ้าที่ทรงมีต่อเรา
o และถ้าจะให้ดี พ่อขอให้เราได้ฟังเสียงประกาศกเอเสเคียล และขอให้เราสำนึกถึงความบกพร่อง ความดื้อดึงของเราที่มีต่อพระเจ้า....
o เราควรดื้อดึงต่อไปหรือ ในเมื่อพระเจ้าพระบิดาโดยทางพระเยซูเจ้าผู้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเราบนไม้กางเขน เป็นการประกาศความจริงว่าพระองค์ทรงรักเราถึงเพียงนี้เสมอ ทรงให้โอกาสเราเสมอ และที่สำคัญที่สุดทรงรักเราเสมอไม่ได้ขาดเลย

• พี่น้องที่รักครับ... พ่อเชิญชวนเราทุกคนเลยนะครับ
1. ให้เราเป็นคริสตชนที่ใบหน้าไม่ด้านหนาดึงดันในการทำความผิด กระแสโลกที่รุนแรง แต่เราต้องเป็นคริสตชนที่มีใบหน้าสดใส แสนอ่อนโยน และสวยงามด้วยความรักของพระเจ้า
2. กระแสโลก กระแสโลภ กระแสหลง ทำให้คนเราบ่อยครั้ง ไม่รู้สึกรู้สาต่อความผิดบกพร่องหรือความอยุติธรรมที่มนุษย์ได้กระทำต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน จนกระทั่งการเอาเปรียบเรารัด รัดกันให้หมดทางสู้และขาดเสรีภาพแท้จริง
3. ชาติบ้านเมืองของเราผ่านความด้านหนาแห่งความฉ้อโกง กลโกง และความอยุติธรรมของคนบางกลุ่มมานาน กลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง กลุ่มพรรคพวก กลุ่มอิทธิพล ลักษณะเหล่านี้ต้องเตือนเรา ให้เรามุ่งมั่นจะเจริญชีวิตเพื่อ “ยกขึ้น” ซึ่งคุณธรรมและจริยธรรม และบัญญัติแห่งความรักเสมอในหมู่เราคริสตชนทุกคน
4. ขอให้เราได้พิจารณาจริงๆ...แม้จะยกระดับยากหน่อย เพราะการออกทำประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ... ตอนนี้ไม่มีอำนาจที่ซื้อได้ ก็ต่อสู้สุดๆที่จะด้านดึงดันกันต่อไป จะเอาให้ได้ “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย เราส่งท่านไปพบลูกหลานอิสราเอล ไปพบชาติคนกบฏซึ่งทรยศต่อเรา เขาทั้งหลายและบรรพบุรุษเป็นกบฏต่อเราจนถึงวันนี้ ผู้ที่เราส่งท่านไปพบนั้นเป็นลูกหน้าด้านและใจดื้อดึง...”
5. ขอให้เราทุกคนได้เจริญชีวิตเป็นคริสตชนที่แสนดีเสมอนะครับ ขอพระเจ้าทรงยกบรรดาพี่น้องของเราที่ต้องตกต่ำเพราะความอยุติธรรมทั้งหลาย โดยเฉพาะบรรดาคนยากไร้ ขอพวกเราได้ก้าวออกไปเพื่อช่วยให้ได้รับการ “ยกขึ้น” สู่ศักดิ์ศรีแห่งพระพรของพระเจ้าเสมอไป...

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก