ข้อคิดจากพระวาจาประจำวัน  โดย..คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์

วันพุธที่ 8 มีนาคม 2017
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต
ยนา 3:1-10 / ลก 11:29-32

บทอ่านจากพระวรสารนักบุญลูกา                           
      เวลานั้น เมื่อประชาชนมาชุมนุมกันมากขึ้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า “คนยุคนี้เป็นคนชั่วร้าย อยากเห็นเครื่องหมาย แต่จะไม่มีเครื่องหมายใดให้เห็นนอกจากเครื่องหมายของประกาศกโยนาห์เท่านั้น โยนาห์เป็นเครื่องหมายสำหรับชาวนีนะเวห์ฉันใด บุตรแห่งมนุษย์ก็จะเป็นเครื่องหมายสำหรับคนยุคนี้ฉันนั้น

ในวันพิพากษา พระราชินีแห่งทิศใต้จะทรงลุกขึ้นและทรงกล่าวโทษคนยุคนี้ เพราะพระนางเสด็จมาจากสุดปลายแผ่นดิน เพื่อฟังพระปรีชาสุขุมของกษัตริย์ซาโลมอน แต่ที่นี่มีผู้ยิ่งใหญ่กว่ากษัตริย์ซาโลมอนอีก ในวันพิพากษา ชาวนีนะเวห์จะลุกขึ้นและกล่าวโทษคนยุคนี้ เพราะชาวนีนะเวห์ได้กลับใจเมื่อได้ฟังคำเทศน์ของประกาศกโยนาห์ แต่ที่นี่มีผู้ยิ่งใหญ่กว่าโยนาห์อีก”

 (พระวาจาของพระเจ้า)

-------------------

 มหาพรตปีนี้ เราอาจจะอยากสมบูรณ์แบบในการจำศีล พลีกรรม ทำกิจศรัทธา ใช้โทษบาป ทำได้ แต่ยังไม่สมบูรณ์
 เพราะว่า เงื่อนเวลา ช่องปัจจัย อะไรท้าทาย จะผ่านเข้ามา เพื่อให้เรา กร่อน ร่อนเกลา เหลาขัด ให้ชัดขึ้น มากกว่า ทีเดียวเสร็จไปเลย
 ดังนั้น ความพยายาม การเติมไปทีละน้อย ไต่บันไดให้สูงขึ้น กลับเป็นท่าทีที่กว่า หักโหม ระดมจัดการ ทำอย่างหนักหน่วงให้เห็นผล ทำจนป่วย ทำจนเดือดร้อนกันทั่วหน้า เพราะต้องการจำศีลอดอาหาร พลีกรรมเหมือนทำโทษตัวเอง ดังคนไม่รักตัวเองเลย
 เมื่อเรามามองหนังสือประกาศกโยนาห์ ประโยคสำคัญที่บอกว่า
 "พระเจ้าทอดพระเนตรเห็นความพยายามของเขา ที่จะกลับใจไม่ประพฤติชั่วอีกต่อไป พระเจ้าทรงพระเมตตาไม่ลงโทษตามที่ตรัสไว้ว่าจะทรงลงโทษเขา"
 พระเจ้าต้องการความพยายาม ไม่ใช่ การหักโหม
 การอดอาหารจนหน้าเหลือง ไม่ใช่ การจำศีลอดอาหาร
 การทรมานกายทรกรรมใจ จนเหมือนคนไม่ปกติ ตีตน ทำร้ายตัวเอง ไม่ใช่พลีกรรม
 การจำศีลอดอาหาร พลีกรรม ที่พระเจ้าทรงพอพระทัย ไม่ทำร้ายตัวเอง
 แต่เป็น ปรับเปลี่ยน ด้วยการลดลง แทนที่จะเพิ่มขึ้น จนหลงลืมไป
 ปรับเปลี่ยน ที่จะจำกัด แทนที่ การหลงเหลิง ลืมกรอบ ละเลยระบบระเบียบ
 นี่เป็น ทำพลีกรรม จำศีล ที่มีคุณค่า กว่า การทำร้ายตัวเอง
 ที่โยนาห์ ได้ทำกุศล แทนที่จะร้ายตัวเอง