ข้อคิดจากพระวาจาประจำวัน  โดย..คุณพ่อฉลองรัฐ สังขรัตน์

วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ 2017
ระลึกถึง น.โปลีการ์ป พระสังฆราชและมรณสักขี
บสร5:1-8 / มก 9:41-50
บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมาระโก                       
       เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสว่า

     “ผู้ใดให้น้ำท่านดื่มเพียงแก้วหนึ่งเพราะท่านเป็นคนของพระคริสตเจ้าเราบอกความจริงกับท่านว่าเขาจะได้บำเหน็จรางวัลอย่างแน่นอน”


   “ผู้ใดเป็นเหตุให้คนธรรมดาๆที่มีความเชื่อเหล่านี้ทำบาปถ้าเขาจะถูกผูกคอด้วยหินโม่ถ่วงในทะเลก็ยังดีกว่ากระทำดังกล่าวถ้ามือข้างหนึ่งของท่านเป็นเหตุให้ท่านทำบาปจงตัดมันทิ้งเสียท่านจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดรโดยมีมือข้างเดียวยังดีกว่ามีมือทั้งสองข้างแต่ต้องตกนรกในไฟที่ไม่รู้ดับ

ถ้าเท้าข้างหนึ่งของท่านเป็นเหตุให้ท่านทำบาปจงตัดมันทิ้งเสียท่านจะเข้าสู่ชีวิตนิรันดรโดยมีเท้าข้างเดียวยังดีกว่ามีเท้าทั้งสองข้างแต่ถูกโยนลงนรกถ้าตาข้างหนึ่งของท่านเป็นเหตุให้ท่านทำบาปจงควักมันออกเสียท่านจะเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้าโดยมีตาข้างเดียวยังดีกว่ามีตาทั้งสองข้างแต่ต้องถูกโยนลงนรกที่นั่นหนอนไม่รู้ตายไฟไม่รู้ดับเพราะทุกคนจะถูกดองด้วยเกลือและไฟเกลือเป็นสิ่งดีแต่ถ้าเกลือจืดท่านจะนำสิ่งใดมาทำให้เกลือเค็มได้อีกจงมีเกลือไว้ในท่านเถิดและจงอยู่อย่างสันติกับผู้อื่น”

 (พระวาจาของพระเจ้า)

--------

 เมื่อมีความตั้งใจ มุ่งมั่น อย่าเสียความตั้งใจ
 หนังสือบุตรสิรา จึงบอกว่า
 "อย่ารีรอที่จะกลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า และอย่าผัดวันประกันพรุ่ง"
 ความตั้งใจของเรา "ล้ม" เราจึง ร้าง ขาดพลังความมุ่งมั่น ขาดวิถีความทุ่มเท เราอาจโทษ โยนกลอง มองเป็นภาระคนอื่น
 ความดีจริง ต้องไม่ โทษพี่น้อง ไม่โยนเป็นภาระหน้าที่คนอื่น
 อย่า รีรอ อย่าเชื่องช้า มองเป็นเรื่องนอกตัว อย่าคิดว่าไม่ใช่ รอคนที่ใช่
 เพราะองค์ประกอบของความรักแบบคริสตชน เป็นความรักที่ไม่เห็นแก่ตัว จะโทษ โยน เมิน ไม่ใช่ธุระ ไม่ใช่ ท่าทีคริสตชน
 คริสตชน คือ คนที่ดำเนินชีวิตเพื่อพระอาณาจักร ไม่ใช่ บุคคลที่แสดงออกว่าขาดความรัก
 นี่คือ คำอธิบายในพระวรสารวันนี้