“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน 2017
สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา
มธ 8:1-4…
1เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จลงมาจากภูเขา ประชาชนจำนวนมากติดตามพระองค์ 2ทันใดนั้น คนโรคเรื้อนคนหนึ่งมาเฝ้าพระองค์ กราบลงทูลว่า “พระเจ้าข้า ถ้าพระองค์พอพระทัย ก็ทรงรักษาข้าพเจ้าให้หายได้” 3พระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์สัมผัสเขา ตรัสว่า “เราพอใจ จงหายเถิด” โรคเรื้อนก็หายไปทันที 4พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาอีกว่า “ระวัง อย่าบอกให้ใครรู้เลย จงไปแสดงตนแก่สมณะและถวายเครื่องบูชาตามที่โมเสสกำหนด เพื่อเป็นพยานหลักฐานแก่คนทั้งหลาย”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• บรรยากาศเมื่อพระเยซูเจ้าเทศนาบนภูเขาเสร็จ (มธ 5-7) ตลอดสามบทในพระวรสารที่พระองค์เสด็จขึ้นภูเขา ประทับนั่งสอนพวกเขา... ในที่สุด เมื่อจบพระโอวาท พระองค์เสด็จลงจากภูเขา บันทึกไว้ในต้นพระวรสารบทที่ 8 พระองค์เสด็จลงมาและทรง “รักษาคนโรคเรื้อนทันที” นี่คือประเด็นที่พ่ออยากกล่าวถึง พระวาจาทรงอำนาจ ทรงสอนบนภูเขา สอนคำสอนให้ต้องฟัง... เมื่อฟังแล้ว คำสอนทรงอำนาจของพระองค์ต้องตามมาด้วย “กิจการ” คำสอนที่ไม่มีกิจการไม่มีพลังจริงๆ

• ประสบการณ์ของพ่อ...
o ประเทศไทยของเรา คนไทยเรา “สอนยากเหมือนกัน” บรรดาผู้ใหญ่ นักการเมือง นักสอนศาสนา และพระสงฆ์นักบวชแบบพ่อนี่แหละก็ต้องพิจารณา
o คำสอนของเรา เราสอนมากมาย พ่อเองก็เขียนสอนมาก็เยอะ นี่วันนี้ก่อนจะมานั่งเขียนบทเทศน์พระวรสารวันนี้ พ่อก็นั่งสอน สอนๆๆๆ สอนพระคัมภีร์มาตลอดหลายวัน... พูดจนเสียงแหบแห้ง ให้กับกลุ่มศึกษาพระคัมภีร์ และที่บ้านเณร วันนี้ เย็นวันนี้ก็จะไปสอนที่สุราษฎร์ธานี้ในเรื่องกฤษฎีกาสมัชชาฯ...
o พ่อก็ต้องเจียมตัวและระวัง “การปฏิบัติของพ่อว่าสอดคล้องและสนับสนุนคำสอนของพ่อหรือไม่”...

• พระเยซูเจ้า พระองค์สอนบุญลาภ สอนบนภูเขา เมื่อเสด็จลงมา พระองค์ทอดพระเนตรเห็นคนโรคเรื้อน พระองค์สงสาร พระองค์สัมผัสเขา (สิ่งเป็นสิ่งต้องห้ามมากๆ สำหรับชาวยิว) แต่พระองค์สัมผัสเขา และรักษาเขา พอพระทัยรักษาเขา... นี่คือกิจการที่ตามมาจากคำสอน

• พี่น้องที่รักเรื่องนี้สำคัญมาก คำสอนจะมีพลังต้องมีกิจการที่สนับสนุนหรือรับรองคำสอนนั้น.. พ่อคิดว่า สังคมของเรายังต้องทบทวนเรื่องนี้มากๆ บ่อยครั้ง ที่ผ่านมาพ่อได้มีประสบการณ์กับบรรดานักการเมืองในอดีตที่มีบรรดานักการเมือง (ไม่มีมานานใช้ได้ ก็ดีเหมือนกันเพราะเบื่อกับการโอ้อวดตนเองทั่วท้องถนน ได้อำนาจ แต่ไม่ได้ทำอะไรที่เพื่อประชาชนให้เห็นจริงๆ โดยไม่หวังผลทางการเมือง พรรค พวก) บ่อยครั้งบรรดาคนที่ออกกฎหมาย มีกฎระเบียบ มีคำสั่งมากมาย แต่ชีวิตบ่อยครั้ง มิได้เป็นประจักษ์พยานถึงความดีเอาเสียเลย...

• ผู้คนที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำสังคม การเมือง แต่ทว่าชีวิตหาได้เป็นตัวอย่างไม่ กลับเป็นคนใช้อิทธิพลมากมายในการแสวงหา ฉ้อโกง กินตามน้ำ สะสมความร่ำรวย และคอรัปชั่นอย่างไม่มีความอับอายเสียเลย เป็นผู้ปกครองแท้ๆ หรือเป็นนักการเมืองที่ใส่สูททรงเกียรติ แต่เที่ยวเสเพล เกเร หาประโยชน์ กินเหล้าดื่มเหล้าเมายาและไปถึงการซื้อขายค้ามนุษย์วางอำนาจ เที่ยวสนุกกับการซื้อหามนุษย์... มีบ้านเล็กบ้านน้อย มีภรรยาหลายคน มีหลายบ้าน.. ชีวิตไม่ได้เป็นแบบอย่างในกิจการ... บรรดาลูกน้อง คนในบังคับบัญชาก็กระอักกระอ่วนใจต้องยอมอ่อนน้อมเชื่อฟังเฉพาะต่อหน้า... แต่เบื้องหลังก็วิจารณ์นินทาวิจารณ์กล่าวขานกันไปอย่างมากมาย.. นี่แหละคือปัญหาของสังคมที่มีหลายมาตรฐาน และเป็นสังคมที่หน้าไว้หลังหลอก มือถือสากปากถือศีล... มีหลายชีวิตในตัวคนเดียว... สิ่งเหล่านี้ไม่น่ารักเลย

• สังคมแบบนี้แทรกซึมไปในระดับต่างๆอย่างน่าเศร้าใจ แต่ที่น่าไตร่ตรองและชวนคิด ระบบศาสนา คนศาสนาก็ไม่วายไหลไปตามกระแสเช่นกัน...
o คำสอนที่สอนเทศน์ชัดเจน สอนศีลธรรมจรรยา สอนความเชื่อ แต่บางทีชีวิตของพวกเราเอง ตัวพ่อเองด้วยต้องระวังมากๆ ต้องระวังจริงๆ ว่าคำสอนของเรากับตัวเราที่ปฏิบัติอยู่สอดคล้องและเป็นมาตรฐานเดียวกันหรือไม่ เราสอนให้ทำความดี และพ่อทำความดีหรือเปล่า... เราสอนให้ซื่อสัตย์ และพ่อเองซื่อสัตย์หรือเปล่า เราสอนให้พอเพียง เมตตา รัก เห็นใจ และพ่อเองใจกว้าง เมตตา และแบ่งปันหรือเปล่า หรือว่า เรากลับสะสม ร่ำรวย มีมากเกินจำเป็น เป็นแบบที่พระเยซูเจ้าตำหนิ “ความหน้าซื่อใจคดแบบฟาสิรีหรือเปล่า”...
o มีคำถามมากมายที่ก่อขึ้นในหัวจิตหัวใจพ่อ... พ่อต้องสำรวจตนเองจริงๆ พิจารณามโนธรรมจริงๆ ว่า พ่อเองเป็นอย่างไร... และพี่น้องทุกท่านคริสตชน นักบวช พระสงฆ์ แม้แต่พระสังฆราช พวกเราเป็นอย่างไร... เราเป็นเหมือนพระเยซูเจ้าไหม ทรงสอนและทรงเมตตาปฏิบัติความรักเมตตา จนถึงยอมสิ้นพระชนม์เพื่อทุกคน และทรงเป็นต้นแบบของเรา... เราเป็นอย่างไรกันครับ...

• พ่อคิดไตร่ตรอง พระเยซูเจ้าสอนบนภูเขา ครั้นเสด็จลง พระองค์เริ่มประกอบกิจการดีจริงๆ... และพ่อเอง สอนเทศน์บนธรรมาสน์แล้วเมื่อลงจากธรรมาสน์แล้วชีวิตจริงของเรา ตอบสนองเป็นประจักษ์พยานถึงสิ่งที่เราเทศน์ไหม น่าคิดว่า “บนธรรมมาสน์คุณภาพลงจากธรรมมาสน์นั้นเปี่ยมคุณธรรมไหม”... น่าไตร่ตรองจริงๆ

• พระศาสนจักรคาทอลิก เราคริสตชนต้องปฏิบัติด้วยเสมอ ปฏิบัติเป็นสำคัญ ปฏิบัติสิ่งที่สอดคล้องกับความเชื่อของเรา คือ เชื่อในพระเยซูและปฏิบัติเหมือนกับพระเยซู
o พ่อคิดว่า สิ่งที่เราทำได้ทันที คือ สอนถึงพระองค์และกระทำเหมือนกับที่พระองค์ทรงกระทำ ความรัก เมตตา และมองเห็นความจำเป็นของเพื่อนพี่น้องรอบข้าง โดยเฉพาะคนยากไร้ คนเจ็บไข้
o พระเยซูเจ้าทรงลงจากภูเขาที่เทศนา พระองค์ทรงทอดพระเนตรคนโรคเรื้อนทันที... และทรงสัมผัสเขา และรักษาเขาให้หายจากโรคที่เกินกำลังมนุษย์จะเยียวยา แต่พระองค์ ยืนพระหัตถ์เกิดความจำกัดของกฎหมายของโมเสสที่ห้ามไว้ไม่ให้สัมผัสคนโรคเรื้อน แต่พระวรสารบันทึกว่า “พระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์สัมผัสเขา ตรัสว่า “เราพอใจ จงหายเถิด” โรคเรื้อนก็หายไปทันที”
o พี่น้องที่รัก พ่อมั่นใจ.. การปฏิบัติคำสอนที่เราสอน โดยการยื่นมือเปิดใจ ไม่ใช่เพียงออกไปประกาศข่าวดี แต่การออกไปสัมผัสเพื่อนพี่น้องรอบข้างของเรานั้นเป็นประจักษ์พยานแห่งความรักที่จำเป็นจริงๆครับ

• กระแสสังคมที่พ่อเล่ามา สังคมไทยของเรา คนที่มีอำนาจ หรือระบบที่คนเป็นผู้ใหญ่มีอำนาจ มีบารมี มีคำสอน มีหลักการ มีกฎหมาย พี่น้องที่รักครับ เราต้องเลือกที่จะเป็นแบบพระเยซูเจ้าจริงๆ นะครับ พระเยซูเจ้าเคยสอนว่า “ท่านรู้ว่าคนต่างชาติ เมื่อเป็นใหญ่ย่อมใช้อำนาจบังคับ แต่ในพวกท่านต้องไม่เป็นเช่นนั้น” (เทียบ มก 10) พระเยซูเจ้าเน้นให้เราแผ่บารมีความยิ่งใหญ่ไม่ใช่ด้วยการใช้อำนาจบังคับ แต่ให้เรา “รับใช้” ต่างหาก

• พี่น้องที่รักครับ... พระเยซูสอนและทรงปฏิบัติความรักและเมตตาทันที พ่อเชิญพวกเรานะครับ เรารู้จักคำสอนของพระเยซูเจ้า เราเป็นศิษย์พระเยซูเจ้า โดยทันทีสิ่งที่จำเป็นนะครับ... “เจริญชีวิตของเราตามคำสอนนั้นๆ และประกาศข่าวดีนั้นๆ ด้วยกิจการแห่งความรักเมตตาของเราเสมอไปครับ”

• คงถึงเวลาที่เราต้อง ยื่นมือ เปิดใจ ใส่ใจ รัก เอาใจใส่ และช่วยเหลือเพื่อนพี่น้องรอบข้างเรา เป็นการแผ่บารมีและอำนาจขั้นสูงสุด คือ อำนาจแห่งความรักเมตตา และการรับใช้พี่น้องของเรา ให้มันรู้ไปสิว่าแบบไหนที่เป็นบารมีอำนาจแท้จริง คือ
o แบบกระแสโลก การเมือง สังคม ที่แผ่นอำนาจ แผ่บารมีถ่ายทอดอำนาจ จนกลายเป็นครอบครัวการเมืองหรือครอบครัวทรราชย์ในรูปแบบต่างๆ หรือ
o แบบพระเยซู พระเจ้าองค์ความรัก ที่รักทุกคน เมตตาทุกคน รักจนถึงที่สุดมอบชีวิตเพื่อความรอดของมนุษย์ทุกคน

• พระเยซูเจ้า คือ ต้นแบบของเรานะครับ ให้เราเจริญชีวิตตามพระวาจาและคำสอน และการปฏิบัติของพระองค์ รักเหมือนพระองค์ เมตตา และลงมือปฏิบัติกิจการดีดังเช่นพระองค์ ถ้าเป็นเช่นนี้ ยอดเยี่ยม เพราะเรากำลังประกาศข่าวดีจริงๆครับ... ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก