“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน 2017
วันพฤหัสบดี สัปดาห์ที่สองเทศกาลปัสกา
ยน 3:31-36…
31ผู้ที่มาจากเบื้องบนย่อมอยู่เหนือทุกคน
ผู้ที่มาจากแผ่นดินนี้


ย่อมเป็นของแผ่นดินนี้ และพูดอย่างคนของแผ่นดินนี้
ผู้ที่มาจากสวรรค์ย่อมอยู่เหนือทุกคน
32เขาเป็นพยานถึงสิ่งที่ได้เห็นและได้ยิน
แต่ไม่มีใครยอมรับคำพยานยืนยันของเขา
33ผู้ที่รับคำพยานยืนยันของเขา
ก็รับรองว่าพระเจ้าทรงสัตย์จริง
34ผู้ที่พระเจ้าทรงส่งมานั้นย่อมกล่าวพระวาจาของพระเจ้า
เพราะพระเจ้าประทานพระจิตเจ้าให้เขาอย่างไม่จำกัด
35พระบิดาทรงรักพระบุตร
และทรงมอบทุกสิ่งไว้ในพระหัตถ์ของพระบุตร
36ผู้ใดมีความเชื่อในพระบุตรย่อมมีชีวิตนิรันดร
ผู้ที่ไม่ยอมเชื่อฟังพระบุตร จะไม่พบชีวิตนั้น
การลงโทษของพระเจ้ากำลังอยู่เหนือเขาแล้ว

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• ภาพที่เราต้องจินตนาการกันต่อไปให้จบพระวรสารนักบุญยอห์นบทที่ 3 คือ การที่พระเยซูเจ้าทรงสนทนากับนิโคเดมัสในยามค่ำคืน
o ปกติเวลาค่ำคืน...อาจารย์ชายยิวจะสนทนากับศิษย์ และเทศน์สอนให้ความรู้แก่ศิษย์ของตน รับบีชาวยิวจะสอนและใช้ยามค่ำแบบนี้อบรมสอนสั่งบรรดาศิษย์ของตน พอคิดว่าเราอ่านยอห์นบทที่ 3 มาหลายวันต่อกัน...
o พ่ออยากจะสรุปเจตนาของการมาคุยกันครั้ง การมานั่งคุยกันในความมืด (ความมืดที่เดินมาสนทนากับความสว่างแท้คือพระเยซูเจ้า) ในการสนทนานี้มีหลายอย่างที่เป็นบทสอนหรือความเชื่อในพระเยซูเจ้าที่ถ้าเราอ่านตั้งแต่ตนจนจบ เราจะเห็นสิ่งเหล่านี้ชัดเจนมากๆ เมื่อสนทนาเสร็จแล้วพระองค์ออกไปประกาศข่าวดีในแคว้นยูเดีย และความจริงเหล่านี้ก็ได้รับการประกาศจากพระองค์
o ดังนั้น พ่อขอนำเสนอคำสอนที่เราได้รับจากยอห์นบทนี้นะครับ
1. พระเยซูคืออาจารย์ที่มาจากพระเจ้า แต่ต่างจากรับบีทั้งหลายเพราะไม่มีใครทำเครื่องหมายอัศจรรย์อย่างที่ท่านทำได้ นอกจากพระเจ้าจะสถิตกับเขา
2. จำเป็นที่จะต้อง “เกิดใหม่ด้วยน้ำและพระจิตเจ้า”
3. จำเป็นต้องเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า “เชื่อในพระองค์”
4. พระเยซูคือพระบุตรของพระเจ้าผู้เสด็จลงมาจากสวรรค์
5. จำเป็นที่พระองค์ต้องถูกยกขึ้นบนไม้กางเขน เพื่อทุกคนที่เชื่อ จะได้รับความรอด
6. จำเป็นต้องเชื่อในพระองค์ จึงจะได้รับชีวิตนิรันดร
7. พระเจ้าทรงรักโลกและมนุษย์อย่าง และความรักแสดงออกโดยการมอบพระบุตรสุดที่รักแต่พระองค์เดียวของพระองค์
8. ผู้ที่เชื่อในพระบุตรจะไม่ถูกลงโทษ เพราะการตัดสินคือการที่มนุษย์ได้รับแสงสว่างแต่เขาได้ปฏิเสธความแสวงและรักความมืด เพราะกิจการของเขาชั่วร้าย
• เราอ่านยอห์นวันนี้ซึ่งเป็นส่วนสุดท้ายของพระวรสารยอห์นบทที่ 3 พ่อเห็นว่า บทสรุปก็เป็นสาระสำคัญเดียวกันคือ
• “พระบิดาทรงรักพระบุตร และทรงมอบทุกสิ่งไว้ในพระหัตถ์ของพระบุตร ผู้ใดมีความเชื่อในพระบุตรย่อมมีชีวิตนิรันดร ผู้ที่ไม่ยอมเชื่อฟังพระบุตร จะไม่พบชีวิตนั้น การลงโทษของพระเจ้ากำลังอยู่เหนือเขาแล้ว”

• การเชื่อฟังคือความรอดของเรา เชื่อและฟังพระเจ้า...
o พ่อชอบภาษาไทยคำนี้ที่เราได้รับจากภาพของนิโคเดมัสที่มานั่งฟังพระอาจารย์เจ้าในยามค่ำคืน พระองค์ตรัส นิโคเดมัสฟัง นิโคเดมัสได้เป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้าอย่างลับๆ (เรื่องนี้ชัดเจนเมื่อตอนที่เขาร่วมกับโยเซฟชาวอริมาเธีย ฝังพระศพพระเยซูเจ้า) นิโคเดมัสเชื่อ และนั่งฟังพระองค์
• คงมิใช่เพียงภาพที่นิโคเดมัสมาฟังพระเยซูเจ้า แต่เขาได้เชื่อในพระองค์ ยอห์นเสนอภาพน่ารักให้เราได้อ่าน... การฟังพระเยซูเจ้า การเชื่อในพระองค์เท่านั้นคือความรอดพ้นและเป็นชีวิตนิรันดรของเราทุกคน
• พ่อมีประสบการณ์นิดหน่อยครับ... พ่อเองมองดูประสบการณ์ของตนเอง
o พ่อรู้ว่าพ่อเป็นเด็กที่เรียนไม่เก่งอะไรเลยจริงๆ ถ้าไม่มีพระเจ้า พ่อคงไม่ได้มาไกลถึงเพียงนี้ในเรื่องการศึกษาและความรู้ความเข้าใจ.. จริงๆ ตอนเด็กพ่อก็เป็นคนที่ผลการเรียนอ่อนแบบที่เขามักจะกล่าวเลี่ยงว่า “สติปัญญาปานกลาง” นี่คือความจริง คำว่า “ปัญญาดี หรือดีมาก” ไม่ใช่ธรรมชาติของพ่อเลยจริงๆครับ...
o แต่พ่อมีประสบการณ์อยู่อย่างที่พ่อเชื่อ คือ พ่อเป็นคนชอบฟัง ฟัง ฟัง ใครพูดอะไรน่าสนใจ พ่อจะตั้งใจฟังมาก เรียกว่า ตอนเรียนที่บ้านเณรใหญ่แสงธรรม พ่อตั้งใจฟังคุณพ่อ หรืออาจารย์ที่สอนมากๆ ตาพ่อจ้องจับไม่ปล่อยวางสายตาเลย หูตั้งใจฟังมาก มือก็จับปากกาจดบันทึกตลอดเวลา เรียกว่าแทบทุกคำจะอยู่ในสมุดของพ่อ
o มีเพื่อนๆ ชอบขอยืมสมุดบันทึกวิชาเรียนพ่อไปสำเนาหรืออ่านก่อนสอบ... พ่อเรียนไม่เก่ง พ่อเลยต้องตั้งใจฟังมาก.. จนเคยมีอาจารย์บางท่านกล่าวว่า “ผมสอนเณรสมเกียรติแล้วรู้เลยว่าเขาตั้งใจ มองตาเณรสมเกียรติแล้วรู้เลยว่า ผมยังสอนไม่พอ เขาไม่อิ่มกับสิ่งที่ผมสอน” คำพูดเหล่านี้น่าจะจริง เพราะอาจารย์ผู้ใหญ่ได้พูดในการประชุมสภาพระสังฆราช และพระสังฆราชท่านหนึ่งเล่าให้พ่อฟังเอง...

• พ่อตั้งใจฟังจริงๆครับ และตั้งใจเวลาเรียนมาก ไม่ปล่อยเลย และจดบันทึก จำ เมื่อเราตั้งใจ ใส่ใจเราก็ไม่ลืมง่ายๆ ฝังอยู่ในใจ ยิ่งถ้าอาจารย์คนไหนสอนดีๆ เก่งในการสอน ถ่ายทอดน่าสนใจ พ่อจะจดจ่อและจำได้แม้เวลาผ่านไปนับสิบๆปีก็ตาม
• เวลาผ่านไป...เวลานี้พ่อมีความรู้สึกว่า การฟัง มีพลังและอำนาจ การฟังคือพลังของการเรียนรู้ และการฟัง คือ “หัวใจนักปราชญ์จริง” (สุ จิ ปุ ลิ คือ ฟัง คิด ถาม เขียน) สรุปว่า การฟังคือบ่อเกิดและพลังแห่งปรีชาญาณและการเรียนรู้ทุกชนิด..
o มีคนชอบบอกว่าพ่อสมเกียรติสามารถเทศน์ได้ (เทศน์ดี..เขาว่ากัน พ่อไม่กล้ารับประกัน) แต่พ่อก็รู้สึกว่า การเทศน์คือสิ่งที่พ่อมีความสุขมาก และที่สำคัญพ่อไม่ต้องเตรียมเทศน์มากมาย เรียกว่า อ่านพระคัมภีร์จบ คิดสักนาทีหรือไม่มีเวลาคิดก็เทศน์ได้ทันที เทศน์ไปคิดไป...
o พ่อจึงไม่เคยเขียนบทเทศน์ไปอ่านในระหว่างการเทศน์ และที่เขียนอยู่ทุกวันเป็นปีๆนี้ก็เวลาเทศน์เองก็ไม่เคยตรงกับที่เขียน มีอะไรใหม่เสมอ เขียนทุกวันด้วยหวังจะแบ่งปันกับพี่น้องพระสงฆ์และคริสตชนที่ปรารถนา...
o มีคนบอกว่า พ่อเป็นนักบรรยาย เมื่อวานนี้ก็ไปบรรยาย สองท่านที่นั่งฟังข้างๆ พ่อก็คือพระคาร์ดินัลกับพระสังฆราช และสมาชิก
o อาทิตย์ที่แล้วพ่อก็ไปฟัง ร่วม สัมมนาพระสงฆ์เรื่องการอภิบาลครอบครัว พ่อไปนั่งฟังสี่วันเต็ม ทุกช่วง มีบรรยาย พ่อไม่โดดหายแม้สักช่วง นั่งฟังตลอดเลย ฟัง ฟัง วิทยากรพิเศษเก่งๆ พ่อชอบฟัง... มีบางคนบอกแกมหยอกพ่อว่า... “อ้าวเห็นมานั่งฟัง นึกว่าจะมาบรรยายกับเขาด้วย... ปกติเห็นเป็นแต่คนบรรยายตลอด วันนี้มาฟังเลยแปลกใจ” ว่าไปโน่นครับ..
o แต่ก็จริงๆอย่างที่ท่านบอก เพราะผมพบพระคุณเจ้าทั้งหลายเวลามีบรรยายให้กับสภาพระสังฆราชประจำ และผมก็เป็นคนบรรยายเสมอจริงๆ แต่บรรดาพระคุณเจ้าจะทราบไหมหนอว่า... ปกติผมชอบฟัง ฟังได้เป็นเวลาวันๆไม่เบื่อ ขอให้เรื่องที่ฟัง “น่าฟัง” ถ้าไม่น่าฟังก็อย่าหวังว่าผมจะอดทน... อย่างมากขณะฟังก็นั่งเขียนอะไรๆลงลงในบันทึกที่อยากเขียนหรือเขียนเฟสบุคไป...

• พี่น้องที่รักครับ พ่อเป็นคนแบบนี้ เขียนได้ เทศน์ได้ และบรรยายได้เสมออย่างมีความสุข
o เพราะพ่อได้คำตอบจริงๆ พี่น้องเชื่อไหมว่า “การฟังคือพลังอันยิ่งใหญ่ที่สุด”
o สำหรับชาวอิสราเอล รับบีสอนคำสอนของโมเสส ประชากรต้องฟัง “อิสราเอลจงฟัง... Shema Israel นี่เป็นบัญญัติเลย” (เทียบ ฉธบ 6:4ff) บนภูเขาทาบอร์เสียงจากเมฆ เสียงของพระบิดาสั่งว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา จงฟังท่านเถิด” (เทียบ มก 9:2ff)

• พี่น้องที่รัก พ่อเชื่อมั่นและอยากแบ่งปันว่า
o “การฟังพระเจ้าฟังพระวาจาของพระเจ้า การฟังเทศน์สอนพระวาจาเสมอ การอ่าน(ฟัง) พระคัมภีร์เสมอ คือบ่อเกิด และยิ่งกว่านั้นสำหรับพ่อ คือ จุดสูงสุดของการเรียนรู้ทุกชนิด”
o พ่อยอมรับว่าพ่อไม่ชอบอ่านหนังสือเลยครับ ใครๆคิดว่าพ่อเป็นนักอ่าน... ใครๆนึกว่าพ่อค้นคว้ามากๆจึงเขียน บรรยาย เทศน์ได้เยอะ ไม่จริงครับ... พ่ออ่านหนังสือปีหนึ่งๆไม่จบสักเล่มครับ นี่คือความจริง (ไม่บาปเพราะไม่ได้โกหก แต่นี่คือความจริง)
o แต่พ่อชอบฟังจริงๆ ชอบฟังใครก็ตามที่พูดแล้วน่าฟัง น่าสนใจ พ่ออ่านแต่พระคัมภีร์มากที่สุดในเวลาส่วนใหญ่ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ฟังเขา ฟังจากวิทยุ จากสารคดี จากยูทูป ดูและฟังทุกรายการที่ชอบและสนใจ...
o และที่สำคัญมาก ชอบฟังเพลงดีๆ สาระดีๆ และดนตรีดีๆ เพียงเท่านี้จริงๆ ส่วนการฟังเทศน์ของคนอื่นพ่อก็จะตั้งใจฟัง แม้บางครั้ง ไม่น่าฟัง ไม่น่าสนใจ แต่พ่อตั้งใจฟังด้วยความใส่ใจ และบางครั้ง ก็ฟังด้วยความเห็นใจด้วย... และถ้าเป็นบรรดาพระสงฆ์ลูกศิษย์ พ่อยิ่งอยากฟัง เพราะรักพวกเขา อยากให้กำลังใจพวกเขา...

• พี่น้องที่รัก... พ่อชอบภาษาไทยของเรามากที่สรุปบวกการฟังเข้ากับความเชื่อหรือการเชื่อ จึงออกมาเป็นคำ “ความเชื่อฟัง” พ่อสรุปว่า “คนเราฟังเพราะเชื่อศรัทธา และการฟังเสริมกำลังความเชื่อ และความเชื่อศรัทธาทำให้เราอยากฟังมากขึ้นไป” พี่น้องว่าจริงไหมครับ
o พ่อสรุปว่า... พี่น้องครับ พี่น้องเชื่อในพระเยซูเจ้าใช่ไหม...พ่อไม่น่าถามไม่น่าสงสัย.. แต่คำถามที่อาจต้องตอบจากหัวใจคือพี่น้องรักที่จะฟังพระวาจา อ่านพระคัมภีร์ ฟังเทศน์ดีๆ เสมอไหมครับ... พ่อไม่เชื่อครับ ถ้อยคำที่บอกว่า “เทศน์ดีต้องเจ็ดนาที” นั่นเป็นการอ้างอย่างเบาความไปในการทำหน้าที่ประกาศพระวาจาของพระเจ้า...
o พ่อทดสอบมานาน พ่อเทศน์ไม่ยาวมาก วันอาทิตย์ 12-15 นาที แต่พ่อโดนตำหนิบ่อยว่า “พ่อเทศน์จำกัดเวลาทำไม ทำไมไม่เทศน์ต่อไปอีก เราอยากฟัง” (ตรงนี้พ่อว่าจริงเหมือนกันอาจไม่ใช่สำหรับทุกคน แต่พ่อเคยได้ยินคนบ่นพ่อเช่นนี้ เขียนบทเทศน์ทุกวันสามถึงสี่หน้า หลายคนบ่นว่ายาวจัง พ่อจะตอบว่า นั่นลูกอ่านนะ แต่พ่อเขียน ใครใช้เวลามากกว่ากัน) กับคณะนักบวช พ่อเทศน์เข้าเงียบครั้งละหนึ่งชั่วโมง หยุดครึ่งชั่วโมง แล้วเทศน์ต่อ พ่อเคยได้ยินซิสเตอร์ตำหนิ “พ่อหยุดทำไม ต่อไปเลย สองชั่วโมงเลย”
o บางทีพี่น้องเองก็ไปฟังทอล์กโชว์ จากดาราหาตังค์ เขาพูดเป็นชั่วโมง ยอมจ่ายเป็นพันๆ ไปฟัง เขาพูดไม่มีสาระ จับคนอื่นเหยื่อของเนื้อหา นำมาเป็นเรื่องตลกหาตังค์ พูดสองแง่สามง่ามลามกวกไปมา แล้วคนฟังก็หัวเราะ และก็สรุปว่า เขาพูดดี.. ทั้งที่เจตนาของเขาคือ “เงิน”

• “ผู้ที่เชื่อในพระบุตรจะมีชีวิตนิรันดรท่านเชื่อเช่นนี้หรือ” พระเยซูเจ้าถามมาร์ธา (ดู ยน 11)
o พี่น้องครับ นิโคเดมัส ไม่ทราบว่า ฟังพระองค์เท่าไรในคืนนั้น...
o บรรดาศิษย์เชื่อ ฟังพระองค์ตลอดสามปี และทำตามพระองค์สอน
o พี่น้องคริสตชนที่รักครับ... ฟัง ฟัง ฟัง พระเยซู ฟังพระวาจา ฟังเสียงของพระเจ้าให้มาก ฟังเทศน์ด้วยความรัก (พระสงฆ์ ก็ต้องเทศน์อย่างดีที่สุด สุดกำลัง และฟังให้มากเหมือนกัน อีกทั้งดำเนินชีวิตตามคำเทศน์สอนด้วย)

• พี่น้องครับ เชื่อพ่อ พ่อไม่เก่ง ไม่ฉลาด แต่พ่อโชคดีอยู่อย่างหนึ่งซึ่งพวกเราทุกคนโชคดีเช่นกันที่พระพระวาจาที่ทรงตรัสกับเราทุกวันครับ.. ฟัง อ่าน ไตร่ตรอง และดำเนินชีวิต และพี่น้องจะเสริมความเชื่อให้เข้มแข็งครับ คงแปลกแน่ ถ้าบอกว่ารักพระเจ้า เชื่อพระเจ้า แต่ไม่ฟังพระองค์เลย อ่อนพระคัมภีร์ ก็อ่อนหมดทุกอย่างจริงๆนะครับ... “เราจะไปหาใครพระเจ้าข้า พระองค์ผู้เดียวมีพระวาจาที่ให้ชีวิตนิรันดร” (ดู ยน 6:68)
o ฟังพระเจ้า พระปรีชาญาณ เราจะฉลาดที่สุด
o แม้ว่า กระแสโลกอาจจะบอกว่าเราโง่ก็ตาม... พระองค์สิ้นพระชนม์บนกางเขนเพื่อเรา เขาก็ว่าโง่และสะดุด..
o แต่สำหรับพระองค์ นี่คือความรักและเป็นบ่อเกิดของความปรีชาแท้จริงในความรักและความจริง... ขอพระเจ้าอวยพร ฟังนะครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก