“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันเสาร์ที่ 17 กันยายน 2016

สัปดาห์ที่ 24 เทศกาลธรรมดา

1คร 15:35-37, 42-49………
          35บางคนอาจถามว่า คนตายจะกลับคืนชีพได้อย่างไร เขาจะกลับมีร่างกายแบบใด 36ช่างโง่จริง เมล็ดที่ท่านหว่านลงไปนั้นจะมีชีวิตใหม่ได้อย่างไรถ้าไม่ตายเสียก่อน 37เมล็ดข้าวสาลีหรือเมล็ดพืชอย่างอื่นที่ท่านหว่านลงไปนั้นเป็นเพียงเมล็ดมิใช่ลำต้นที่จะงอกขึ้น 38พระเจ้าประทานลำต้นแบบต่าง ๆ ตามพระประสงค์ให้กับเมล็ดเมล็ดแต่ละชนิดจึงมีลำต้นตามชนิดของมัน


42การกลับคืนชีพของผู้ตายก็เช่นเดียวกัน สิ่งที่หว่านลงไปนั้นเน่าเปื่อย แต่สิ่งที่กลับคืนชีพนั้นไม่เน่าเปื่อยอีก 43สิ่งที่หว่านลงไปนั้นไม่มีเกียรติ แต่สิ่งที่กลับคืนชีพนั้นมีความรุ่งเรือง สิ่งที่หว่านลงไปนั้นอ่อนแอ แต่สิ่งที่กลับคืนชีพนั้นมีอานุภาพ 44สิ่งที่หว่านลงไปเป็นร่างกายตามธรรมชาติ แต่สิ่งที่กลับคืนชีพเป็นร่างกายที่มีพระจิตเจ้าเป็นชีวิต
ถ้ามีร่างกายตามธรรมชาติ ก็มีร่างกายที่มีพระจิตเจ้าเป็นชีวิตด้วย 45ดังที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า อาดัมมนุษย์คนแรกถูกสร้างขึ้นเป็นสิ่งมีชีวิต อาดัมคนสุดท้ายเป็นจิตซึ่งประทานชีวิต 46สิ่งที่มาก่อนมิใช่กายที่มีพระจิตเจ้าเป็นชีวิต แต่เป็นกายตามธรรมชาติ ภายหลังจึงเป็นกายที่มีพระจิตเจ้าเป็นชีวิต 47มนุษย์คนแรกมาจากดิน เป็นมนุษย์ดิน มนุษย์คนที่สองมาจากสวรรค์ 48มนุษย์ดินคนนั้นเป็นอย่างไร มนุษย์ดินคนอื่น ๆ ก็เป็นอย่างนั้น มนุษย์สวรรค์คนนั้นเป็นอย่างไร มนุษย์สวรรค์คนอื่น ๆ ก็เป็นอย่างนั้น 49เราเกิดมามีลักษณะเหมือนคนฝ่ายโลกฉันใด เราก็จะมีลักษณะเหมือนคนจากสวรรค์ฉันนั้น

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• วันนี้เริ่มที่นามที่เราได้ยินจากเปาโลในช่วงนี้ มีพระคัมภีร์สองช่วงในบทเดียวกันนี้ที่กล่าวถึง
o “มนุษย์ทุกคนตายเพราะ อาดัมฉันใด มนุษย์ทุกคนก็จะกลับมีชีวิตเพราะพระคริสตเจ้าฉันนั้น” (1คร 15:22)
o “อาดัมมนุษย์คนแรกถูกสร้างขึ้นเป็นสิ่งมีชีวิต อาดัมคนสุดท้ายเป็นจิตซึ่งประทานชีวิต” (1คร 15:45)
o เรามาสังเกตความแตกต่างกันนิดหน่อยครับ นี่คือสิ่งที่มีค่ามากๆจากคำสอนของพระคัมภีร์ในบทจดหมายของท่านนักบุญเปาโล ในเรื่องความจริงของเทววทิยาแห่งชีวิต หรือความตาย ที่เราเชื่อ
1. อาดัมเก่า (ปฐม 1) พระคัมภีร์เล่าว่ามนุษย์ อาดัมมาจากดิน ภาษาฮีบรู อาดามมาห์ Adamah แปลว่า “ดิน” (Earth, Soil) แต่แรกที่ปั้นมานั้นไม่ได้มีชีวิต ดินที่ปั้นไม่มีชีวิต แต่ชีวิตมาจากพระเจ้า และพระเจ้า ทรงเป่า “ลม” คำว่า “ลม” ภาษาฮีบร “รัวห์” Ruah แปลว่า “กระแสลมหายใจ หรือพระจิตเจ้า พลังของพระเจ้า ชีวิตของพระเจ้าที่ประทานให้” พระคัมภีร์เล่าว่า พระเจ้าทรงเป่าลมนี้เข้าไปทางรูจมูกของดินที่ปั้นขึ้นมา ดังนั้น เขาจึงกลายเป็นผู้มีชีวิต กล่าวได้ว่า จาก “อาดามาห์” กลายเป็น “ดาอัม” Adam ภาษาฮีบรู แปลว่า “มนุษย์”

2. อาดัมใหม่ (อาดัมคนสุดท้าย....พระเยซู) ในพระเยซูเจ้า เราไม่ต้องสงสัยเลย พระองค์คือชีวิต คือ ลมหายใจของพระบิดาเจ้า คือ พระบิดารักพระบุตร เหมือนบิดารักบุตรสุดที่รักดังลมหายใจของตน.. พระเยซูคือ “พระวาจาของพระเจ้า” “โลกอส” Logos หมายถึงพระวาจา คำพูด หรือพระประสงค์ที่พระเจ้าทรงประกาศออกมาจากพระโอษฐ์หรือจากพระประสงค์ขอพระเจ้า... พระเยซูได้สิ้นพระชนม์ และทรงทำให้เราทุกคนได้มีชีวิตเพราะการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ณ เวลาที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ พระองค์ประทานลมหายใจ (ชีวิตหรือพระจิตเจ้า) ให้กับมนุษยชาติจริงๆ “พระเยซูเจ้าทรงจิบน้ำองุ่นเปรี้ยวแล้ว ตรัสว่า “สำเร็จบริบูรณ์แล้ว” พระองค์ทรงเอนพระเศียร สิ้นพระชนม์” (ยน 19:30) คำแปลภาษาอังกฤษดีกว่าภาษาไทยของเรามากนัก ฉบับ RSV แปลว่า “ When Jesus had received the vinegar, he said, "It is finished"; and he bowed his head and gave up his spirit. (Joh 19:30 RSV)” ภาษากรีกยืนยันเต็มที่เพราะเป็นต้นฉบับครับ “ὅτε οὖν ἔλαβεν τὸ ὄξος [ὁ] Ἰησοῦς εἶπεν, Τετέλεσται, καὶ κλίνας τὴν κεφαλὴν παρέδωκεν τὸ πνεῦμα. (Joh 19:30 GNT)” พ่ออ่านให้ฟังแต่ประโยคสุดท้ายที่ภาษาไทยเราหายไปนะครับ “παρέδωκεν τὸ πνεῦμα.” อ่านว่า “พาเรโดแคน โต พะเนวมา” แปลว่า “ทรงมอบพระจิตเจ้า” (ลมหายใจ) ในความตายของพระเยซู “อาดัมใหม่” พระองค์ทรงส่งพระจิตเจ้าให้ คือ ลมหายใจ คือ ลมแห่งชีวิต

• พี่น้องที่รัก อ่านอาดัมเก่า กับอาดัมใหม่ ในข้อ 1 และ 2 ที่พ่อเขียนมาข้างต้น... เราเข้าใจเทววิทยาแห่งความตายแบบอาดัมมนุษย์คนแรก และเทววิทยาแห่งของกับพระเยซู อาดัมใหม่หรือมนุษย์คนสุดท้าย ตามที่นักบุญเปาโลกเขียนในจดหมายที่เราอ่านวันนี้แล้วนะครับ เปาโลเขียนว่า....
o “ดังที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า
o อาดัมมนุษย์คนแรกถูกสร้างขึ้นเป็นสิ่งมีชีวิต อาดัมคนสุดท้ายเป็นจิตซึ่งประทานชีวิต
o สิ่งที่มาก่อนมิใช่กายที่มีพระจิตเจ้าเป็นชีวิต แต่เป็นกายตามธรรมชาติ ภายหลังจึงเป็นกายที่มีพระจิตเจ้าเป็นชีวิต
o มนุษย์คนแรกมาจากดิน เป็นมนุษย์ดิน มนุษย์คนที่สองมาจากสวรรค์
o มนุษย์ดินคนนั้นเป็นอย่างไร มนุษย์ดินคนอื่น ๆ ก็เป็นอย่างนั้น มนุษย์สวรรค์คนนั้นเป็นอย่างไร มนุษย์สวรรค์คนอื่น ๆ ก็เป็นอย่างนั้น
o เราเกิดมามีลักษณะเหมือนคนฝ่ายโลกฉันใด เราก็จะมีลักษณะเหมือนคนจากสวรรค์ฉันนั้น”

• พระคัมภีร์เมื่อเราอ่านเช่นนี้ เข้าใจแบบภาพรวม เราจะเข้าใจพระคัมภีร์ง่ายขึ้นมากครับ เปาโลเข้าใจและพระจิตเจ้าดลใจให้เขียนให้เราทราบอย่างสุดยอด... เราลูกพระ
o แม้เราเป็นมนุษย์เหมือนอาดัม (มนุษย์ดิน)
o แต่เราได้รับชีวิตสวรรค์จากพระเยซู (มนุษย์สวรรค์)

***************************************

ต่อไปนี้พ่ออธิบายเรื่องความเชื่อในการกลับคืนชีพต่อนะครับ.... เทววทิยาเรื่องการกลับคืนชีพของเราคริสตชนครับ....
• “การกลับคืนชีพ” ที่ประเทศอิสราเอลในกรุงเยรูซาเล็มมีภูมิประเทศที่แม้ปัจจุบันก็ยังคงน่าสนใจมากๆ ในกรุงเยรูซาเล็มนั้น นครเยรูซาเล็มตั้งอยู่บนภูเขา และภูเขาที่นครนี้ตั้งอยู่คือภูเขาที่อยู่ตะวันตกโดยที่มีพระวิหารเป็นหัวใจสำคัญ (พระวิหารในอดีต ปัจจุบันไม่มีพระวิหารแล้ว) พระวิหารอยู่บนเนินเขาของนครเยรูซาเล็ม บนเนินเขาที่ชื่อว่า “ภูเขาโมริยาห์” แปลว่า “สถานที่พระยาห์เวห์ทรงและเห็น” ภูเขานี้มีความสำคัญสองสามประการดังนี้

• ภูเขานี้เคยเป็นสถานที่อับราฮัมแลเห็น และพระเจ้าโปรดให้อับราฮัมและเห็นและแจ้งว่า ณ สถานที่นี้คือที่ๆอับราฮัมยอมถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชาตามที่พระยาห์เวห์เรียกร้องให้กระทำ เพื่อเป็นการพิสูจน์ความเชื่อของอับราฮัม และอับราฮัมก็สอบผ่าน และยอมถวายอิสอัค และพระเจ้าทรงยอมรับว่า อับราฮัมเชื่อในพระยาห์เวห์จริงๆ พระเจ้าให้อับราฮัมถวายแกะตัวผู้แทนอิสอัคบุตรชาย.... ภูเขานั้นถูกเรียกว่า “โมริยาห์” เสมอมา

• ภูเขานี้เป็นที่ตั้ง “พระวิหาร” ของชาวยิว... พระวิหารที่พระเจ้าทรงบัญชาให้ซาโลมอนสร้างขึ้น และพระวิหารนี้เป็นวิหารที่พระเจ้าทรงประทับอยู่เสมอกับประชากรของพระเจ้า... ภูเขานี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของประชากรของพระเจ้า

• ปัจจุบัน ภูเขานี้เป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญของพี่น้องมุสลิม และยังคงเป็นที่ศรัทธาของชาวยิวต่อไปในส่วนที่เป็นกำแพงทางทิศตะวันตก “กำแพงร้องไห้”

• สถานที่นี้เป็นสถานที่เชื่อกันว่า “เป็นศูนย์กลางของโลก” และการตัดสินสุดท้าย การพิพากษาสุดท้ายของพระเจ้าจะเกิดขึ้นนี่ ณ ที่ห้วยคิดโดรนในอดีต...

• เรามาต่อเรื่องภูเขาโมริยาห์กัน......
o ปัจจุบันบนภูเขาโมริยาห์ และภูเขาอีกลูกห่างกันเล็กน้อยไปทางตะวันออก ชื่อว่าภูเขามะกอก เรียกว่า สมัยที่มีพระวิหารเขาได้สร้างให้พระวิหารนั้นหันหน้าไปทางตะวันออกนี่แหละเพื่อเป็นเครื่องหมายของการรอคอยการเสด็จมาของพระแมสซียาห์... เมื่อพระองค์มาพระองค์จะเสด็จขึ้นสู่นครเยรูซาเล็ม... ระหว่างภูเขาทั้งสองคือห้วยคิดโดรน... ซึ่งจะเป็นหุบเขาแห่งการพิพากษาตัดสินสุดท้าย..
o ดังนั้น บนภูเขามะกอกด้านที่หันหน้ามาทางพระวิหารทั้งลูกนั้น เป็นที่ฝังศพของชาวยิวบนภูเขาทั้งลูกในด้านที่หันมาหาพระวิหารนั้นเลยครับ หลุมศพมากมายของชาวยิวฝังไว้เป็นเครื่องหมายถึงการนอนรอของบรรดาผู้ตาย นอนรอการกลับคืนชีพ การที่พระแมสซียาห์จะเสด็จม และเมื่อพระองค์เสด็จมากนั้น พระองค์จะปลุกบรรดาผู้ตายเหล่านี้ขึ้นมาจากความตาย จะเปิดหลุมศพของพวกเขา และจะเสด็จนำพวกเขาขึ้นไปยังภูเขาโมริยาห์และเข้าสู่พระวิหารหรือที่ประทับของพระเจ้านั่นเอง... นี่คือความเชื่อ (สามารถดูภาพประกอบที่พ่อจะวางไว้ เป็นภาพหลุมศพมากมายบนภูเขามะกอก)

• สรุปก็คือว่า “ความเชื่อเรื่องการกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตายนั้น เป็นความจริงของความเชื่อที่มีอยู่เสมอในประชากรของพระเจ้า” ... ความเชื่อเรื่องการกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตายนั้น เป็นความเชื่อที่ว่า ชีวิตจะไม่มีวันตายตลอดไป แต่เมื่อตายแล้ว ทุกคนมีความหวังในการกลับคืนชีพ ทั้งนี้อาศัยพระบารมีของพระเยซูคริสตเจ้าอย่างแท้จริง
o ความเชื่อเรื่องการกลับคืนชีพ หรือการที่มนุษย์ไม่ตายตลอดไป แต่มีความหวังในชีวิตนิรันดรเสมอนั้น มีอยู่ในความเชื่อของเราคาทอลิก และนักบุญเปาโลเองก็ได้สอนเรื่องนี้ชัดเจน
o พ่อเชิญชวนให้เราอ่านพระวาจาวันนี้ด้วยกันนะครับ และให้เราเชื่อมันว่า เราจะไม่มีวันตายตลอดไป
o จำคำของพระเยซูเจ้าได้ใช่ไหมครับ น่าฟังมากที่สุด “เราเป็นการกลับคืนชีพและเป็นชีวิต ใครเชื่อในเรา แม้ตายไปแล้ว ก็จะมีชีวิต และทุกคนที่มีชีวิต และเชื่อในเรา จะไม่มีวันตายเลย ท่านเชื่อเช่นนี้หรือ” (ยน 11:25-26) อ่านพระคัมภีร์นะครับ ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ

o คำขอร้องสำคัญ.... ให้เราจงดำเนินชีวิตให้สมกับเป็นชาวสวรรค์บนโลกนะครับ... อย่าดำเนินชีวิตแบบโลกจนลืมชีวิตพระที่อยู่ในตัวเราเพราะค่าแห่งพระโลหิตแห่งความรักของพระเยซูนะครับ

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก