รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 14 กันยายน 2015
สัปดาห์ที่ยี่สิบสี่ เทศกาลธรรมดา
ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน

ยน 3:13-17…

13ไม่มีใครเคยขึ้นไปบนสวรรค์ นอกจากผู้ที่ลงมาจากสวรรค์คือบุตรแห่งมนุษย์เท่านั้น 14โมเสสยกรูปงูขึ้นในถิ่นทุรกันดารฉันใดบุตรแห่งมนุษย์ ก็จะต้องถูกยกขึ้นฉันนั้น 15เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระองค์จะมีชีวิตนิรันดร 16พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศแต่จะมีชีวิตนิรันดร 17เพราะพระเจ้าทรงส่งพระบุตรมาในโลกนี้มิใช่เพื่อตัดสินลงโทษโลกแต่เพื่อโลก จะได้รับความรอดพ้นเดชะพระบุตรนั้น



อรรถาธิบายและไตร่ตรอง 
• “ทำไมเราเทิดทูนพระเยซูเจ้าผู้สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน...” 


• พ่อเคยมีกรณีที่ต้องคิด ต้องสอน ต้องไตร่ตรอง เรื่องไม้กางเขน ที่เราเรียกว่า “The Cross” คือ “ไม้กางเขน” 

o “กางเขน” นั่นหมายถึงเครื่องหมายกากบาท เป็นรูปไม้สองชิ้นที่ขวางกัน ที่เขานิยมแขวนขอเป็นเครื่องหมาย และพี่น้องต่างนิกายก็นิยมใช้แต่ไม้กางเขน โดยไม่มีรูปพระเยซูเจ้าแขวนอยู่.. และเขามักจะเน้นว่า พระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว พระองค์ต้องไม่อยู่บนไม้กางเขน 

o ดังนั้น หลายๆนิกายที่ไม่ใช่คาทอลิกจึงเน้นการให้ความสำคัญกับรูปไม้กางเขนเท่านั้น ไม่ต้องมีรูปพระเยซูเจ้าแขวนอยู่... 

o แต่สำหรับเราคาทอลิก เราให้ความเคารพไม้กางเขนที่มีพระเยซูเจ้าแขวนอยู่ด้วยที่เรียกว่า “The Crucifixion” การประหารโดยการตรึงบนไม้กางเขน การนำพระเยซูเจ้าไปตรึงและประหารบนไม้กางเขน... เราคาทอลิกสรรเสริญสูงสุดคือการที่พระเยซูเจ้าได้สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน นั่นเอง พ่อมีข้อมูลจากพระคัมภีร์มาสนับสนุนให้เราเข้าใจการเทิดทูนกางเขนของเรา...

• พี่น้องที่รัก ก่อนอื่นพ่อขอเสนอบทเพลงสรรเสริญความรัก หรือความตายบนไม้กางเขน จากจดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวฟิลิปปี ที่เปาโลได้นำบทเพลงสรรเสริญพระเยซูเจ้าผู้ทรงถ่อมพระองค์มากที่สุด สวยงามที่สุด เราลองอ่านเพลงบทนี้ดีนะครับ เป็นวรรณกรรมที่ตกตะกอนมากๆทีเดียว... พ่อยกมาจากจดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวฟิลิปปี

• ฟป 2:6-11
o แม้ว่าพระองค์ทรงมีธรรมชาติพระเจ้า พระองค์ก็มิได้ทรงถือว่าศักดิ์ศรีเสมอพระเจ้านั้นเป็นสมบัติที่จะต้อง หวงแหน…. แต่ทรงสละ (to empty : kenosis) พระองค์จนหมดสิ้น ทรงรับสภาพดุจทาส เป็นมนุษย์ดุจเรา ทรงแสดงพระองค์ในธรรมชาติมนุษย์ ทรงถ่อมพระองค์จนถึงกับทรงยอมรับแม้ความตาย เป็นความตายบนไม้กางเขน… เพราะเหตุนี้ พระเจ้าจึงทรงเทิดทูนพระองค์ขึ้นสูงส่ง และประทานพระนามให้แก่พระองค์ พระนามนี้ประเสริฐกว่านามอื่นใดทั้งสิ้น เพื่อทุกคนในสวรรค์และบนแผ่นดิน รวมทั้งใต้พื้นพิภพ จะย่อเข่าลงนมัสการพระนาม “เยซู” นี้ และเพื่อชนทุกภาษาจะได้ร้องประกาศว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อพระสิริรุ่งโรจน์แด่พระเจ้าพระบิดา

• พี่น้องที่รัก บทเพลงสรรเสริญพระเยซูเจ้านี้ไม่ต้องอธิบาย เวลาฟังเพลงเราก็ปล่อยให้เราเข้าใจ เข้าถึง เข้าไปในบทเพลงนั้นๆ... เราพบว่า... 


• พระเยซูเจ้าทรงถ่อมพระองค์ที่สุด ทรงยอมทำให้ความเป็นพระเจ้าที่ยิ่งใหญ่นั้นว่างลง (to empty) การกระทำให้ว่างเปล่าลง ภาษากรีกใช้คำว่า “kenosis” (อ่านว่า เคโนสิส) แปลว่าทำให้ว่างเปล่าไม่เหลืออะไรจริงๆ

• ถ้าเราจะสรุปความจริงของพระเยซูเจ้า ผู้ที่เราเห็นพระองค์บนไม้กางเขน เราตั้งกางเขนที่มีพระองค์แขวนอยู่เป็นเครื่องหมายนั้นเราคิดถึงอะไร จริงๆ... แน่นอน พ่อเคยมีประสบการณ์จริงๆกับคำถามของคนหนึ่งที่ยืนขึ้นถามพ่อด้วยความสงสัย และด้วยความตั้งใจที่จะต้องการคำตอบ... คำถามคือ

o เขาถามพ่อว่า.... “คุณพ่อครับ ทำไมคริสตชนคาทอลิกเคารพแต่ศพคนตายบนไม้กางเขน ทำไมเรากราบไว้นมัสการศพคนตาย คือ พระศพพระเยซูเจ้าบนกางเขนทั้งๆที่พระองค์กลับคืนชีพแล้ว...” พ่อตอบทันทีอย่างรอบคอบและระมัดระวังว่า 

o “เข้าใจผิดครับลูก.... เราคริสตชนไม่เคยนมัสการความตายเลย เราไม่เคยบูชาความตาย... เราไม่ได้นมัสการพระศพในฐานะที่เป็นพระศพ แต่รู้ไหมว่าเมื่อเรามองดูพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน เมื่อเราได้มองดูพระศพของพระองค์บนกางเขนนั้นเราคิดถึงอะไร... เราคิดถึงอะไร อันที่จริงเราระลึกถึง “ความรัก” ต่างหากครับ ไม่ใช่ความตายที่เราศรัทธาและบูชา แต่อันที่จริงเราระลึกถึงความจริงที่ว่า “ทรงรักเราถึงเพียงนี้” (Sic nos amantem) 
o บนไม้กางเขนพระศพที่เรามองดู เราพิศเพ่งอยู่นั้น คือ เราพิศเพ่งความรักอันยิ่งใหญ่ที่สุดของพระเจ้าผู้ทรงรักเราถึงเพียงนี้จริงๆ บทอ่านพระวรสารวันนี้ชัดเจนมากด้วย “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศแต่จะมีชีวิตนิรันดร”

• เรากลับมาที่พระวรสาร ยน 3:13-17 พ่อรักพระวรสารตอนนี้เป็นชีวิตจิตใจจริงๆ เป็นพระวรสารตอนที่นิโคเดมัสอาจารย์ชาวยิวมาพบพระเยซูเจ้าในเวลากลางคืน (เทียบ ยน 3) และสนทนากับพระองค์ พระองค์สอนเขา ชี้เขาได้เห็นความจริงถึงความรักของพระเจ้าผู้ทรงรักมนุษย์.. พ่อชอบประโยคสำคัญคือ ข้อ 16 ที่พระเยซูเจ้าตรัสกับนิโคเดมัสว่า... “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศแต่จะมีชีวิตนิรันดร”


• พ่อรักพระวาจาข้อนี้จริง ๆ พ่อเคยปักไว้บนแขนเสื้อของพ่อ เมื่อพ่อเข้ามาที่แสงธรรม น้องเณรปีห้ารุ่นแรกที่พ่ออยู่กับพวกเขา พ่อทำเสื้อให้พวกเขาคนละตัว พ่อจำได้ นั่นคือหกปีกว่าแล้ว พวกเขาก็บวชกันไปกันสองสามปีแล้วกระมัง.. 

o จำได้ว่า พ่อเสนอให้พวกเขาทำเสื้อ และปักที่แขนข้างหนึ่ง ไม่มีคำอะไรนอกจาก “Jn 3:16” ไม่ได้มีข้อความ แต่มีบทและข้อจากพระคัมภีร์ พ่อได้เน้นว่าถ้ามีคนถาม เราก็ตอบทันทีว่า “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมาก...” 

o พ่อรักเสื้อตัวนี้มาก แม้ปัจจุบันเก่ามากแต่พ่อก็ยังสวมใส่อยู่เสมอๆ สีมอไม่ดำแล้วแต่.. ตัวอักษรที่ปักสีทองนั้นแทบไม่หม่นหมองไปเลย ความจริงเสื้อที่พ่อซื้อมาก็ยี่ห้อดีนะครับ.. แม้พ่อซื้อได้ถูกกว่าท้องตลาดเพราะซื้อจำนวนมาก... แต่ที่แน่ๆ ตัวอักษรที่เป็นสีทอง ร้านปักอยู่ที่เดอะมอลล์บางแคอันนี้โฆษณาได้เพราะอะไร เพราะว่าคนที่ทำงานร้านนี้เขาน่ารัก ใจดี พ่อจำได้ว่าเราไปติดต่อเขาคนในร้านเขาคุยดี ใจดี และทำให้อย่างดีจริงๆ ดูสิครับเสื้อยี่ห้อดังสีตกหมด แต่สีทองที่ปักบอกบทและข้อพระคัมภีร์ไม่ตกเลยแม้แต่น้อย...สีทองสดใสมาหกปี อันนี้ชื่นชมจริงๆ

o พ่อคิดว่า “ที่ว่า...พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียว..” นั้น เป็นความจริงไม่ใช่บนแขนเสื้อ แต่เป็นความจริงบนไม้กางเขนที่เราเทิดทูนในชีวิตคริสตชนของเราตลอดกาลจริงๆ ครับ


• พี่น้องที่รัก เราฉลองวันนี้ “เทิดทูนไม้กางเขน” พ่ออยากยืนยันความจริง เราคริสตชนเทิดทูนความตายของพระองค์บนไม้กางเขน คือเราไม่ได้เทิดทูนความตายในฐานะที่เป็นการเสียชีวิตหรือถูกประหารชีวิต แต่เราคริสตชนเราเทิดทูนที่สุด คือ เราเทิดทูนความรักของพระเยซูเจ้าตลอดไป...

• พี่น้องที่รัก 

o เราจงไม่ต้องแปลกใจ แต่ต้องปลื้มใจที่เราเทิดทูนความรักของพระองค์ที่ทรงรักเราถึงเพียงนี้ พระองค์ทรงรักเราถึงกับยอมสละทุกอย่างด้วยความสุภาพถ่อมพระองค์ ทรงยอมลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์รับทรมานและสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่บาปของเรา เพื่อให้เราได้คืนดีกับพระเจ้าพระบิดา ให้เราได้สามารถรับความรดพ้นอาศัยพระทรมาน การสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์... 

o พ่อเชิญชวนสุดกำลังเลยนะครับ ให้เราเทิดทูนเหนือชีวิตจิตใจ เทิดทูนสูงสุดคือเทิดทูนพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน นั่นคือเทิดทูนความรักของพระองค์สูงสุดในชีวิตของเราครับ อย่าลืมนะครับ.. ยน 3:16 “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมาก...” ท่องไว้ลูกๆ ท่องไว้.. จำไว้ให้ขึ้นใจ รักพระเจ้าพระบิดาที่ทรงรักเราถึงเพียงนี้จริงๆนะครับ..

o พี่น้องที่รัก..ขอให้เราได้มีมุมศรัทธาของตนเอง พ่อก็มีครับ..ในห้องเล็กๆ ของพ่อมีมุมนี้อยู่ มีกางเขนที่มีพระเยซูแขวนอยู่ ขอให้เราได้ตระหนักและคิดถึงความรักของพระองค์เสมอนะครับ... ขอพระเจ้าเอวยพรครับ