“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันอังคารที่ 3 มีนาคม 2015
สัปดาห์ที่สอง เทศกาลมหาพรต

มธ 23:1-12…
1ครั้งนั้น พระเยซูเจ้าตรัสแก่ประชาชนและบรรดาศิษย์ว่า 2“พวกธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนั่งบนธรรมาสน์ของโมเสส 3ถ้าเขาสั่งสอนเรื่องใด ท่านจงปฏิบัติตามเถิด แต่อย่าปฏิบัติตามพฤติกรรมของเขา เพราะเขาพูด แต่ไม่ปฏิบัติ 4เขามัดสัมภาระหนักวางบนบ่าคนอื่น แต่เขาเองไม่ปรารถนาแม้แต่จะขยับนิ้ว 5เขาทำกิจการทุกอย่างเพื่อให้คนเห็น เช่น เขาขยายกลักบรรจุพระวาจาให้ใหญ่ขึ้น ผ้าคลุมของเขามีพู่ยาวกว่าของคนอื่น 6เขาชอบที่นั่งมีเกียรติในงานเลี้ยง ชอบนั่งแถวหน้าในศาลาธรรม

7ชอบให้ผู้คนคำนับตามลานสาธารณะ ชอบให้ทุกคนเรียกว่า ‘รับบี’
8“ส่วนท่านทั้งหลาย อย่าให้ผู้ใดเรียกว่า ‘รับบี’ เพราะอาจารย์ของท่านมีเพียงผู้เดียวและทุกคนเป็นพี่น้องกัน 9ในโลกนี้อย่าเรียกผู้ใดว่า ‘บิดา’ เพราะว่าพระบิดาของท่านมีเพียงพระองค์เดียวคือพระบิดาในสวรรค์ 10อย่าให้ผู้ใดเรียกท่านว่า ‘อาจารย์’ เพราะพระอาจารย์ของท่านมีเพียงพระองค์เดียวคือพระคริสตเจ้า 11ในกลุ่มของท่าน ผู้ใดเป็นใหญ่จะต้องเป็นผู้รับใช้ผู้อื่น 12ผู้ใดที่ยกตนขึ้น จะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• พ่ออ่านพระวาจาวันนี้แล้วพ่อบาดใจจริงๆ “พวกธรรมาจารย์และชาวฟาริสีนั่งบนธรรมาสน์ของโมเสส ถ้าเขาสั่งสอนเรื่องใด ท่านจงปฏิบัติตามเถิด แต่อย่าปฏิบัติตามพฤติกรรมของเขา เพราะเขาพูด แต่ไม่ปฏิบัติ เขามัดสัมภาระหนักวางบนบ่าคนอื่น แต่เขาเองไม่ปรารถนาแม้แต่จะขยับนิ้ว” 

o พ่อไตร่ตรอง ให้คำอธิบายไปแล้วก็รู้สึกว่ากำลังบาดเจ็บ และจำเป็นต้องเถือเนื้อตนเอง เปิดเผยตนเอง และต้องยอมรับความจริงมากๆ... 

o พระวาจาวันนี้เรียกร้องให้เราต้อง “เป็นประจักษ์พยานด้วยชีวิต” อันนี้สำคัญเหลือเกิน...


• พ่อยอมรับว่าพระเยซูเจ้าทรงสอนบรรดาศิษย์ด้วยแบบอย่างของพระองค์ และให้หลีกเลี่ยงแบบอย่างของฟาริสี ธรรมาจารย์ พวกที่นั่งบนที่นั่งของโมเสส คือ สอนกฎหมาย สอนกฎเกณฑ์ กุมอำนาจ และใช้อำนาจสอนทางศาสนาและธรรมประเพณี... แต่ชีวิตบ่อยครั้งน่าตำหนิ น่าตำหนิจริงๆ วันนี้พ่อคิดว่า พ่อต้องหันมามองตนเอง หันมาเตือนตนเองและพี่น้องพระสงฆ์ของพ่อก่อน พระสังฆราชด้วย และพี่น้องนักบวช เป็นพิเศษจริงๆครับ...

• พฤติกรรมของธรรมจารย์และฟาริสี คือ ผู้ใหญ่ในศาสนาของชาวยิว ผู้ที่อยู่ในสถาบันทางศาสนา แน่นอน สถาบันนี้มีบรรดาสมณะหรือพระสงฆ์ด้วยครับ รวมกันเป็นสภาซันเฮดริน เรียกว่า คณะผู้ใหญ่ในศาสนา เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ ผู้ทำหน้าที่ควบคุมเรื่องกฎเกณฑ์ของชีวิตในมิติศาสนา การตัดสิน การให้คุณ ให้โทษ (ส่วนใหญ่จะเป็นการตัดสิน) “ที่นั่งของโมเสส” เป็นเครื่องหมายถึงอำนาจทางศาสนาที่ต้องได้รับการควบคุมจากบัญญัติสิบประการ และจากธรรมเนียมต่างๆ ซึ่งมีมากมายจริงๆ การจะเป็นยิวที่ดีต้องถือกฎ 613 ข้ออย่างเคร่งครัด และมีธรรมเนียมปฏิบัติอีกมากๆมายก่ายกอง เรียกว่า “เยอะ”

• ฟาริสีธรรมาจารย์จะแสดงตนเป็นคนศรัทธาต่อพระเจ้ามากๆ มากจริงๆ ติดกับพระคัมภีร์ ถือตามตัวอักษร ขยายกลักพระธรรมบนหน้าผากใหญ่ (กลักพระธรรมคือกล่องบรรจุพระคัมภีร์ เพราะโมเสสเคยสั่งให้คิดถึงพระธรรมตลอดเวลา (เทียบ ฉธบ 6:4ff) เพลงสดุดีบทที่หนึ่ง (เทียบ สดด 1) ก็กล่าวว่า ผู้ชอบธรรมคือคนที่รำพึงถึงพระธรรมตลอดเวลา พวกนี้ก็เลยนำใส่กล่องมากคาดไว้บนหน้าผากเลย...นี่ให้รู้ไปเลยว่า คิดถึงตลอด) พวกเขาก็ทำแบบนี้ เครื่องแต่กายก็มีอะไรรุงรังไปหมด มือ แขน พระเจ้าสั่งให้ทำอะไรก็ต้องให้บัญญัติเป็นเครื่องนำทาง พวกนี้ก็เอาพระคัมภีร์ลอกลงบนสายหนังคาดมือตลอดแขนซะเลย ให้รู้ไปเลยว่า ถือบัญญัติตลอด (ฮา) กลายเป็นเครื่องหมายของความเคร่งครัด เป็นคนศรัทธา และเป็นศาสนาที่มีศรัทธาอย่างเห็นได้ชัด...

• โมเสส อันที่จริงให้บัญญัติไว้ไม่มาก มีบัญญัติสิบประการ และธรรมเนียมเพื่อความอยู่รอดของประชากร เพื่อความดีส่วนรวม แต่ นานไป ธรรมเนียมต่างๆถูกอธิบาย ถูกประยุกต์ใช้ จนเลย เลยเถิด ไปกันใหญ่ เป็นแต่เรื่องภายนอก กลายเป็นสิ่งภายนอก เป็นเรื่องการแสดงออกอวดอ้างและทำเพื่อประกาศตนเองว่ามีบุญ เป็นผู้บริสุทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์...

• ชีวิตฟาริสีธรรมจารย์ บ่อยครั้ง ในความเป็นจริง เป็นผู้สอน เป็นผู้นำทางศาสนา และกินผลประโยชน์จากพระวิหาร จากประชาชน จากเครื่องบูชา... บ่อยครั้ง กฎเล็กน้อยมากมายถูกสร้างขึ้นเพื่อดึงเอาประโยชน์โดยอ้างธรรมเนียม อ้างพระเจ้า... หนักๆเข้าก็เอากันใหญ่ เคยตัว ได้เยอะ โลภ เหิมเกริม เหลิงเจิ้งไป เสียนิสัย และติดนิสัยเขี่ยลูกเข้าประตูตัวเอง... บ่อยๆ ศานาเสื่อมถอยเพราะผู้นำทางจิตวิญญาณหลงเหลิงไปกับอำนาจ ทรัพย์สิน สมบัติ และการเงิน... ที่สุดก็สร้างกฎเกณฑ์ สร้างกรอบให้คนเดิน เพื่อพากันหลั่งไหลจนหลงใหลได้ปลื้ม และงมงาย พาณิชย์เข้าแทรก การเมืองเข้าแซง การเงินเป็นหลัก สร้างสิ่งภายนอก และก็ทำให้ศาสนาเสื่อมถอยศรัทธา และก็มักจะพลาดกันที่คนศาสนานี่แหละ...

• จากกฎหมายเพื่อความดีกลายเป็นการกดขี่แห่งศรัทธา... คนก็เชื่อศรัทธา ยอมให้เทียมแอก... พี่น้องที่รักครับ... พระเยซูเจ้าคงเอือมระอาจึงตรัสแรงอย่างนี้...

o ถ้าเขาสั่งสอนเรื่องใด ท่านจงปฏิบัติตามเถิด แต่อย่าปฏิบัติตามพฤติกรรมของเขา เพราะเขาพูด แต่ไม่ปฏิบัติ 

o เขามัดสัมภาระหนักวางบนบ่าคนอื่น แต่เขาเองไม่ปรารถนาแม้แต่จะขยับนิ้ว 

o เขาทำกิจการทุกอย่างเพื่อให้คนเห็น เช่น เขาขยายกลักบรรจุพระวาจาให้ใหญ่ขึ้น ผ้าคลุมของเขามีพู่ยาวกว่าของคนอื่น

o เขาชอบที่นั่งมีเกียรติในงานเลี้ยง ชอบนั่งแถวหน้าในศาลาธรรม 

o ชอบให้ผู้คนคำนับตามลานสาธารณะ ชอบให้ทุกคนเรียกว่า ‘รับบี’


• พระเยซูเจ้า ตรัสสอนตรงจริงๆ เรียกว่าหมัดตรง... พี่น้องครับ... พ่อบอกตรงได้เลยว่า ที่สุดพวกนี้ก็หาเรื่องให้พระเยซูเจ้า ยุยง ให้พระองค์ถึงตาย เพราะอำนาจสั่นคลอนและเจอของจริง เพียงแต่รับไม่ได้เท่านั้นเอง... พ่อคิดว่าพระวาจาของพระเจ้าวันนี้ กำลังกระแทกหัวใจพ่อจริงๆ พ่อเองต้องไตร่ตรองจริงๆ ครับ

o พี่น้องรักพระสงฆ์นักบวช น่าดีใจ พ่อก็ได้รับความรัก (ความเมตตา) นั่นไปด้วย พ่อไม่กล้าที่จะบอกว่า “พ่อสมควรได้รับครับ” พ่อเองก็เป็นคนบาป ต้องข้อน-อก ขออภัยบาปในบทสารภาพบาปพร้อมกับพี่น้องเหมือนกัน... พี่น้องรัก เคารพพ่อในฐานะพระสงฆ์ พ่อยิ่งต้องตระหนักและสำนึก “เป็นพระองค์ไม่ใช่เรา” (พ่อก็เป็นคนบาป) ความรักของพี่น้อง คือ ความรักต่อพระเจ้า ไม่ใช่ความดีของพ่อ แต่เป็นความรักของพระองค์ พ่อต้องไม่ลืมตัว ต้องไม่ลืมตัว ต้องไม่ลืมตัว...

o พ่อสอนพระคัมภีร์ พ่อเขียนบทเทศน์มากมาย เทศน์มากมาย บทเทศน์พ่อรวมกันจะได้สักห้าพันหน้าแล้วกระมังครับ... พ่อเขียน พ่อสอน พ่อเทศน์... พ่อยิ่งต้องเจียมตัว พ่อกลัวที่จะโดนพระองค์ตำหนิ และบอกกับพี่น้องว่า “ฟังสิ่งที่พ่อสอนแต่อย่าทำตามอย่างพ่อเขา” จบกัน พ่อก็จะไม่ต่างจากฟาริสีและธรรมาจารย์...

o พี่น้องครับ พ่อคิดว่า พระวาจาวันนี้เตือนพ่อก่อน เตือนแรงๆด้วย เตือนบรรดาพระสังฆราช พระสงฆ์ นักบวช... ลืมตัวไม่ได้ สอนและต้องปฏิบัติสิ่งที่สอน คำสอนจึงจะมีความหมาย มีน้ำหนัก... พ่อไตร่ตรองแล้ว พ่อยอมรับครับ ขอน้อมรับคำสอนของพระองค์จริงๆ


• พระวาจาวันนี้ ลงท้ายเตือนพ่อและเตือนพวกเราคริสตชนจริงๆ ครับ โดยเฉพาะเตือนพวกพ่อๆทั้งหลาย บรรดาสมณะทั้งหลายครับ... “ในกลุ่มของท่าน ผู้ใดเป็นใหญ่จะต้องเป็นผู้รับใช้ผู้อื่น ผู้ใดที่ยกตนขึ้น จะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น”

o แทบไม่ต้องอธิบาย แค่เพียงเตือนตนเองก็พอมังครับ..

o พระสงฆ์ นักบวช คือ ผู้รับใช้... พ่ออยากเตือนตนเองแรงๆ อย่าใช้คนอื่นมากนัก เพราะเราเป็นผู้รับใช้จริงๆ 

o พี่น้องครับ “รัก คือ การรับใช้” “การรับใช้คือความรัก” แยกกันไม่ออก พระเยซูเจ้าแบบอย่างแสนดี “ล้างเท้าบรรดาศิษย์” เรามีทางอื่นหรอครับ... พ่อยอมละครับ ยอมให้กลับพระองค์ ขอประกาศยอมให้กับพี่น้องด้วย ถ้าพ่อเคยตัว ใช้แต่คนอื่น ตำหนิติเตียนพ่อได้เลยนะครับ... ถ้าพ่อไม่รับใช้ ตำหนิได้เลยครับ... อย่าให้เป็นเพียงไตเติ้ล แต่ต้องให้เป็นความเป็นจริงครับ


• พี่น้องที่รักครับ พ่อคิดว่า พวกเราต้องกลับใจ พวกพ่อๆเองเริ่มก่อนใคร รับใช้ รัก เมตตา และไม่หลงไปตามแบบฟาริสีและธรรมาจารย์ พระเยซูเจ้าเตือนเราแรงๆด้วยพระวาจา พ่อคิดว่า โอกาสดีครับ... ขอบคุณพระวาจาทรงชีวิตจริงๆ

• ขอพระเจ้าอวยพรให้เราทุกคนได้รับใช้กันและกันด้วยความรักเสมอนะครับ... 


• สุดท้าย ให้เราพร้อมใจกันฝึกฝนความถ่อมตน และสุภาพกันมากๆนะครับ “พ่อนี่แหละที่ต้องจริงจังกับความถ่อมตน ถ้าพ่อไม่ถ่อมตน ตำหนิพ่อนะครับ” พระเยซูเจ้าสอนเราครับ “ผู้ใดที่ยกตนขึ้น จะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น” ขอพระเจ้าอวยพรครับ

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก