“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2015
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลธรรมดา
มก 8:11-13…
11ชาวฟาริสีเข้ามาโต้เถียงกับพระองค์ ขอให้ทรงแสดงเครื่องหมายจากฟ้าเพื่อทดสอบ 12พระองค์ถอนพระทัยลึก ๆ ตรัสว่า “คนยุคนี้แสวงหาเครื่องหมายอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่ออะไร เราบอกความจริงกับท่านว่า คนยุคนี้จะไม่ได้รับเครื่องหมายอย่างใดเลย” 13แล้วพระองค์ทรงแยกจากคนเหล่านั้น เสด็จลงเรือข้ามไปอีกฟากหนึ่ง

5พระองค์ตรัสถามว่า “ท่านมีขนมปังกี่ก้อน” เขาทูลว่า “เจ็ดก้อน” 6พระองค์ทรงสั่งให้ประชาชนนั่งลงบนพื้นดิน ทรงหยิบขนมปังเจ็ดก้อนนั้น ตรัสขอบพระคุณพระเจ้า แล้วทรงบิขนมปัง ประทานให้บรรดาศิษย์ไปแจกจ่าย เขาก็แจกจ่ายขนมปังให้ประชาชน 7เขายังมีปลาตัวเล็ก ๆ อยู่บ้าง พระองค์ทรงกล่าวถวายพระพรพระเจ้า ทรงสั่งให้แจกจ่ายปลาเช่นเดียวกัน 8ทุกคนกินจนอิ่ม และยังเก็บเศษที่เหลือได้อีกเจ็ดตะกร้า 9ผู้ที่กินขนมปังและปลามีประมาณสี่พันคน พระองค์ทรงส่งเขากลับไป 10แล้วพระองค์เสด็จลงเรือพร้อมกับบรรดาศิษย์ไปยังบริเวณเมืองดาลมานูธาทันที

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• ถ้าเรามีพระองค์อยู่ต่อหน้าแล้ว เราคงไม่มีความจำเป็นต้องการเครื่องหมายใดๆอีกต่อไป พ่อเคยศึกษาในพระวรสารโดยเฉพาะพระวรสารนักบุญยอห์น พ่อพบว่า “เครื่องหมาย” Sings เป็นเรื่องสำคัญเพื่อที่จะได้เชื่อในพระเยซูเจ้า เครื่องหมายมีมากมายที่เราต้องการเพื่อจะไดเชื่อในพระองค์

• พ่อยกตัวอย่าง เวลาที่เราเห็นเครื่องหมายบนถนนหนทาง มีรูปลูกศรตรงไป หรือย้อนกลับ และมีเส้นคาดไว้ ก็หมายความว่า “ห้ามตรงไป หรือห้ามกลับรถ” เราเห็นเครื่องหมายแบบนี้เราก็รู้ว่า กลับรถไม่ได้ ย้อนสอนหรือตรงไปไม่ได้ เพราะมีระเบียบมีข้อห้ามเพื่อความสะดวกและปลอดภัยเป็นหลัก... ดังนั้น เครื่องหมายมีไว้เพื่อจะได้เชื่อฟังและเพื่อจะได้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขสันติจริงๆปลอดภัยจริงๆ...

• เวลานี้พ่อคิดว่าในประเทศไทยของเรามีปัญหาเรื่องเครื่องหมาย ความเชื่อต่อเครื่องหมายครับสองสามวันนี้พ่อดูข่าวทางทีวี มีคลิปที่คนไทยฝ่าฝืนกฎจราจร คือ “ขับรถย้อนศร” เยอะมาก ทราบไหมครับว่าวันหนึ่งเรามีการฝ่าฝืนย้อนศร เฉพาะขับรถย้อนศรนี้แต่ละวันประมาณห้าพันรายในกรุงเทพฯ... ไม่น่าเชื่อนะครับ.. และก็ไม่รู้สึกผิดด้วย แม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งสิ้นเสียเลย ปล่อยกันไป กระทำกันไปไม่เชื่อฟังเครื่องหมายจราจรกันเลย...แย่นะครับ... ความรู้สึกแบบไม่เคารพกฎหมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการ “ไม่เชื่อฟังเครื่องหมาย” เป็นอะไรที่ทำให้ประเทศของเราต้องตกต่ำและถอยหลังเข้าคลองมากๆ มากอย่างไม่น่าเชื่อทีเดียวครับ... เพราะความ “ดื้อ รั้น ความด้าน ทน หนา ต่อความเชื่อฟังเครื่องหมายนี่เอง”

• พี่น้องที่รักครับ... พระเยซูเจ้าได้พบกับความดื้อรั้นมากจนถึงมากที่สุดกับบรรดาฟาริสีธรรมมาจารย์ที่มีแต่อยากเห็นเครื่องหมายที่ยิ่งใหญ่มากๆ จึงจะเชื่อ.. เราอ่านมาระโกมาหลายๆตอน เราเห็นว่าประชาชนเชื่อพระเยซูเจ้ากันมาก เพราะมีเครื่องหมายที่ทรงทำอัศจรรย์ การรักษาคนเจ็บมากมาย การเทศนาและมีผู้ติดตามมากมาย คนต่างเชื่อพระเยซูและติดตามพระองค์จนพระองค์เองไม่มีวันจะพักผ่อนเอาเสียด้วยซ้ำ... จนพระองค์กับบรรดาศิษย์ต้องลงเรือไปหาที่สงเพื่อพักผ่อน... คนทั่วไปเชื่อพระองค์ ติดตามพระองค์... แต่พวกฟาริสี ความรู้ศาสนาและธรรมเนียมธรรมบัญญัติดีกว่าใครๆ แต่กลับไม่เชื่อ ได้เห็น ได้ยิน ได้ฟัง แต่ไม่เชื่อง่าย เพราะใจดื้อหยาบกระด้างของพวกเขา

• พ่อคิดว่าสิ่งที่เราควรเรียนรู้จากพระวรสารวันนี้คือ “ในวันนี้ถ้าท่านได้ยินเสียงของพระองค์ ก็อย่าทำใจแข็งเลย” นี่คือประเด็นสำคัญจริงๆ ครับ คือประเด็นที่เราควรไตร่ตรอง อย่าปล่อยให้ใจของเราดื้อกับเครื่องหมายที่พระเจ้าประทานให้เรา เครื่องหมายสูงสุดคือความรัก “ความรัก” คือ “ความรักจนยอมสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน” (Sic nos amantem ทรงรักเราถึงเพียงนี้) เครื่องหมายนี้ไม่รักไม่ศรัทธาไม่เชื่อไม่ได้แล้วครับ

• พ่อภาวนาขออย่าให้ใจเราดื้อหยาบกระด้างต่อเครื่องหมายนี้เลย คือ “ความรัก” ที่ทรงรักเรา คนเรานะเห็นรูปหัวใจก็รู้ว่าคือความรัก เวลาเป็นหนุ่มสาว ใครส่งรูปหัวใจมาให้วันวาเลนไทน์ก็ซึ้งเกินประมาณ เพราะเครื่องหมายมันบอกว่ารัก พ่อจำได้วัยเด็ก ไปเรียน วันวาเลนไทน์มีเพื่อนซื้อสติ๊กเกอร์รูปหัวใจมาติดกระเป่า ติดเสื้อ ติดแขนกันเต็มไปหมด.. ไปเรียนกลับมาบ้านมีแต่รอยยิ้ม หวานซื้อตรึงใจ ก็เพราะเครื่องหมายรูปหัวใจหรือดอกกุหลาบ.. บ้าไหม ก็บ้านะ แต่เป็นวัยของเรา วัยรุ่น อยู่โรงเรียนชายล้วนยังไม่วายติดรูปหัวใจให้กันเล๊ย... (เสียงสูง) เพราะมันเป็นเครื่องหมายของ “ความรัก”

• พี่น้องที่รักครับ... เครื่องหมายที่แสดงความรักที่สุดที่เราต้องเชื่อ “พระเยซูทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน” ทรงรักเราถึงเพียงนี้ เราไม่ต้องการเครื่องหมายอะไรอีก ไม่ต้องขอเครื่องหมายอะไรอีก ไม่ต้องรออะไรอีกเพื่อจะเชื่อครับ เชื่อได้เลย หวังได้เลย รักได้เลย อย่าฝืนเครื่องหมายนี้ อย่าดื้อต่อความรักของพระเจ้าอีกเลยนะครับ... ขอพระเจ้าอวยพรให้เรา มีแต่รัก รัก รัก และนำไปสู่การให้อภัยที่สุดเหมือนพระองค์ครับ... อาแมน อาแมน อาแมน รักนะครับ จุ๊บๆ (วัยรุ่นเขาจบกันแบบนี้ครับ จุ๊บๆ แปลว่า รัก เครื่องหมายครับ) แต่เรามีเครื่องหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า คือ รักแบบพระเยซูเจ้าครับ

• อ้อแล้วอย่าใช้เครื่องหมายผิดๆนะครับ จำได้ไหม ยูดาสทำอะไร “จูบเป็นเครื่องหมายแห่งความรักและมิตรภาพ” แต่ยูดาสนัดแนะพวกทหารของสมณะว่า “เราจูบคนไหน จับกุมเลย” ... เครื่องหมายแสนดีมีมิตรภาพ หลายเป็นเครื่องหมายแห่งการ “ทรยศ” ไปได้อย่างไรกัน.. อย่านะครับ อย่าขับรถย้อนศร อย่ากลับรถในที่ห้ามกลับ อย่าดื้อที่จะไม่รักถ้าพระองค์ทรงมอบเครื่องหมายแห่งความรักให้เรารักกันและกันดังเช่นพระองค์ อาแมนอีกทีครับ... อัลเลลูยา ขอพระเจ้าอวยพรครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก