รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม 2014
สัปดาห์ที่ 29 เทศกาลธรรมดา
อฟ 2:1-10…………..

1ท่านทั้งหลายตายแล้วเพราะการล่วงละเมิดและเพราะบาป 2ครั้งหนึ่งท่านเคยดำเนินชีวิตตามโลกียวิสัย อยู่ใต้อำนาจเทพนิกรเจ้าผู้ปกครองชั้นบรรยากาศ คือจิตที่ทำงานอยู่ในมนุษย์ที่ไม่ยอมเชื่อฟัง 3เราทุกคนก็เคยประพฤติเช่นนี้ในอดีต ปล่อยตนตามราคตัณหา ปฏิบัติตนตามความต้องการและความคิดโดยธรรมชาติฝ่ายต่ำเราจึงน่าจะถูกพระเจ้า ลงโทษเช่นเดียวกับคนอื่น 4แต่พระเจ้าทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา ทรงสำแดงความรักยิ่งใหญ่ต่อเรา 5เมื่อเราตายไปแล้วเพราะการล่วงละเมิด พระองค์ก็ทรงบันดาลให้เรากลับมีชีวิตกับพระคริสตเจ้า ท่านได้รับความรอดพ้นก็เพราะพระหรรษทาน

6พระเจ้าโปรดให้เรากลับคืนชีพพร้อมกับพระคริสตเยซู โปรดให้เรามีที่นั่งในสวรรค์พร้อมกับพระคริสตเจ้า 7เพื่อจะทรงแสดงพระหรรษทานอันอุดมเหลือล้นของพระองค์แก่มนุษย์ทุกยุคสมัยใน อนาคต โดยทรงพระกรุณาต่อเราในพระคริสตเยซู 8ท่านได้รับความรอดพ้นเพราะพระหรรษทานอาศัยความเชื่อ ความรอดพ้นนี้มิได้มาจากท่าน แต่เป็นของประทานจากพระเจ้า 9มิได้มาจากการกระทำใด ๆ ของท่าน เพื่อมิให้ใครโอ้อวดตนได้ 10เราเป็นผลงานของพระองค์ ถูกสร้างมาในพระคริสตเยซูเพื่อให้ประกอบกิจการดี ซึ่งพระเจ้าทรงกำหนดล่วงหน้าให้เราปฏิบัติ
อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์เราอ่านจดหมายของนักบุญเปาโล ถึงชาวเอเฟซัส 


• เรามารู้จักจดหมายฉบับนี้กันหน่อยครับ อันที่จริง จดหมายฉบับนี้ท่านได้เขียนจากที่จองจำ ขณะถูกจองจำอยู่ที่กรุงโรม ช่วงปี ค.ศ. 61-63 เป็นการเขียนจดหมายที่เต็มไปด้วยเสรีภาพและความรักในยามที่เปาโลน่าจะไร้ อิสรภาพที่สุด


• เปาโลมีอิสรภาพที่สุดในการไตร่ตรองและเขียนถึงความเป็นอิสระในพระคริสตเยซู น่าปลื้มใจจริงๆ...


• จดหมายของเปาโลฉบับนี้ทำพ่อคิดถึง คิดถึงหลายคนที่พ่อคิดว่าใช่ ใช่จริงๆ สำหรับเราที่จะนำมาไตร่ตรอง
1. พ่อคิดถึงพ่อบุญเกิด บุญราศีนิโคลาส บุญเกิด บุญราศีและมรณะสักขี 

o พระสงฆ์ผู้ถูกจองจำอย่างอยุติธรรม พ่อจำได้ว่า พ่อเคยเขียนอรรถาธิบายถึงคำบรรยายของท่าน จดหมายของท่านที่เขียนถึงพระสังฆราชของท่านจากในคุก

o คุณพ่อนิโคลาสได้เขียนจดหมายจากในคุก.... ท่านเขียนอย่างลึกซึ้งพรรณนาถึงความเจ็บปวดที่ถูกกล่าวหาอย่างอยุติธรรม จริงๆ ท่านต้องยอมรับแม้ไม่มีความผิด ต้องอยู่ในความลำบากมาก ไร้อิสรภาพ 

o ท่านเขียนว่า “ท่านเหมือนนกใหม่ที่ถูกขังอยู่ในกรง” ชัดดีครับ ดิ้นรนและเจ็บปวดที่ขาดอิสรภาพที่สุด.... สิ่งเดียวที่เป็นความบรรเทาใจคือ การภาวนาตามหนังสือสวดและสายประคำ... 

o สรุปสิ่งเดียวที่ทำให้ท่านสงบและมีสันติสุข คือ “พระเจ้า” นั่นเอง.... พระองค์คือสันติสุขแท้ของท่าน การมีพระองค์ นั่นแหละคืออิสรภาพ...
2. พ่อคิดถึงพระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่สอง นักบุญร่วมสมัย และบุคคลแห่งยุคของเรา 

o พ่อเองก็เคยเข้าเฝ้าพระองค์หลายครั้งอย่างน่าอัศจรรย์สำหรับชีวิตเด็กบ้าน นอกคอนาอย่างพ่อที่จะมีโอกาสไปถึงกรุงโรมเพื่อเรียนพระคัมภีร์ ไปถึงได้ไม่ถึงสามเดือนก็ได้เข้าเฝ้าพระสันตะปาปา ยอห์น ปอลที่สอง ด้วยความเมตตาให้โอกาสของพระคุณเจ้าพระคาร์ดินัล.... 

o พระสันตะปาปา ยอห์น ปอล พระองค์มาจากโลกยุโรปตะวันออก เกิดมาในโลกคอมมิวนิสต์ที่เบียดและเบียดบังศาสนา แต่พระองค์ก็ก้าวออกมาและประกาศอิสรภาพทางการถือศาสนาและอิสรภาพแก่สังคม อย่างไม่หยุดยั้ง 

o พ่อจำได้ว่า สหภาพโซเวียต USSR สมัยนั้นเรียกว่า สหภาพรัสเซีย... ได้แตกออกในสมัยขององค์พระสันตะปาปานี่เอง กำแพงเบอร์ลินที่แบ่งแยกพี่น้องเยอรมันออกเป็นตะวันออกและตะวันตกล้มทำลายลง ในสมัยของพระองค์นี่เอง 

o ยอห์น ปอล ที่สอง พระองค์เป็นเครื่องหมายของสันติภาพ พระองค์เป็นบุคคลแห่งสันติภาพ 

o พระองค์เคยถูกยิงเพื่อปลงพระชนม์ในวันฉลองแม่พระฟาติมา ณ ลานวาติกันเอง... แต่ไม่เสียชีวิต พระองค์ถวายความเจ็บปวดแด่พระแม่มารีย์ 

o พระองค์เป็นยิ่งกว่าซุปเปอร์สตาร์ใดๆ ในโลกที่ผ่านมา มีใครหนอเหมือนพระองค์... จากประเทศที่เป็นค่ายคอมมิวนิสต์กลายเป็นพระสันตะปาปาและสันติภาพ และการเดินทางอย่างไร้พรมแดนเพื่อเยี่ยมเยียนและทำให้เห็นว่า “ศาสนาไม่มีพรมแดน” จริงๆ
3. พ่อคิดถึงคุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา... สุดยอด และสันติภาพอีกทั้งความรักเมตตาที่เป็นรูปธรรมที่สุดสำหรับคนยากจนในอินเดีย ท่านไม่ใช่ชาวอินเดีย แต่อยู่จนแยกไม่ออกว่าท่านไม่ใช่อินเดียเลยทีเดียว 

o คนที่ขาดอิสรภาพที่สุดในชีวิต คือ คนที่ถูกความยากจนครอบงำและดิ้นไม่หลุด ความยากจนเกิดจากความใจคับแคบของมนุษย์ต่างหาก

o คุณแม่ได้กลายเป็นนักบุญแห่งยุคสมัย ไม่มีความจำกัดใดที่กำหนดพรมแดนแห่งความรักเมตตาของพระเจ้าในชีวิตแบบอย่าง ของคุณแม่เทเรซาได้เลย 

o ไม่มีคุกกักขังหรือกักกันที่จะกำหนดความ คับแคบแห่งจิตใจใดๆจะจำจอง หรือจองจำกักขังหรือปิดกัน “ความรักเมตตาที่เป็นจริงในภาคปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม” ของคุณแม่เทเรซาได้เลย... 

o ท่านอยู่ในความจำกัดขอชีวิตที่อินเดีย อยู่กับบรรดาคนที่มีความจำกัดที่สุด.... แต่คุณแม่มีอิสรภาพสูงสุด อยู่ในดินแดนแห่งชนชั้นและวรรณะที่รุนแรงที่สุด แต่ท่านมีอิสระที่จะก้าวออกเพื่อสัมผัสกับวรรณะที่ต่ำชั้นกว่าวรรณะทางสังคม อินเดีย เพราะความยากจน คนยากจน มิได้มีเฉพาะในอินเดีย แต่มีอยู่ทั่วโลกจริงๆ คุณแม่มีอิสรภาพที่สุดจริงๆ

• พี่น้องที่รักครับ พ่อเขียนมาเรื่อยๆ ยังมีอีกหลายตัวอย่างที่เป็นประจักษ์พยานแห่งการเจริญชีวิตเพื่อสร้างเพื่อ ปลดแอกให้พี่น้อง เพื่อประกาศอิสรภาพแก่เพื่อนพี่น้องที่จำกัดมากๆคือบรรดาคนยากไร้ชายขอบ สังคม...


• แต่พอก่อน อยากให้อ่านจดหมายถึงชาวเอเฟซัสวันนี้ดี และดูตัวอย่างนักบุญและบุญราศีที่พ่อยกมากให้อ่านดีๆครับ และเราจะรู้ว่า 

o เราไม่ควรเป็นทาส เพราะเรามีอิสรภาพเต็มที่ในพระคริสตเยซูจริงๆ

o มีอะไรที่เป็นทาสในโลกปัจจุบัน มีอะไรที่กักขังและจองจำพวกเราคริสตชนในโลกปัจจุบันมากมายที่เรียกว่ายุคโลก ไร้พรมแดน แต่พวกเรากลับต้องติดคุกและถูกจองจำกันทั่วหน้า.. ติดคุกตนเอง จำจองตนเอง อยู่ต่อหน้าจอเล็กๆที่เรียกว่า ไอ “I” ไอโน่น ไอนี่ ไอนั่น จน “ยู” ที่ควรแปลว่า “เธอ” หายไปจากสายตา นั่งติดกันแท้ๆ แต่มองไม่เห็นกันเลย

o สรุปบ่อยครั้ง พวกเราจำพันธนาการตนเอง... และพันธนาการจำยอมโดยขาดอิสรภาพกันไปเอง.... จับตนเอง ขังตนเองกันหมด อยู่ในคุกของตนเองกันหมด ทั้งๆที่เราในยุคแห่งเสรีเต็มที่นี่แหละ.... 

o พี่น้องที่รักครับ... เรามาเป็นอิสระกันเถอะนะครับ อิสระจากบาปและความเห็นแก่ตัว คือ เห็นแก่ “ฉัน” คนเดียว และติดกับเครื่องมือสื่อสารต่างๆที่เรียกว่า “I” ทั้งมวล 

o เลิกยึดแต่ “I” เพื่อเห็นแก่ “You and you and you and you” กันให้มากขึ้นนะครับ... 

o อ่านพระวาจานะครับ เอเฟซัส จดหมายแห่งอิสรภาพจากที่จองจำของเปาโล อิสรภาพในการเป็นบุตรของพระเจ้าครับ....