"พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ใดสำหรับข้าพเจ้า" อธิบายพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก โดย บาทหลวงฟรังซิส ไก้ส์
“เราสงสารประชาชน ”

36.อัศจรรย์การทวีขนมปังครั้งที่สอง (2)

- พระองค์ตรัสถามว่า “ท่านมีขนมปังกี่ก้อน” เขาทูลว่า “เจ็ดก้อน” ในที่นี้กล่าวถึงขนมปังเท่านั้น ไม่กล่าวถึงปลาเลย เพราะนักบุญมาระโกสนใจบรรยายการทวีขนมปังให้เป็นสัญลักษณ์ของศีลมหาสนิทซึ่งคริสตชนเฉลิมฉลองในพิธีบูชาขอบพระคุณ ส่วนปลาจะปรากฏอย่างกะทันหันในภายหลัง (8:7)   


-พระองค์ทรงสั่งให้ประชาชนนั่งลงบนพื้นดิน การบรรยายอากัปกิริยาของพระเยซูเจ้าในที่นี้ก็เช่นเดียวกับการบรรยายอัศจรรย์การทวีขนมปังครั้งแรก ยกเว้นพระองค์ไม่ "ทรงแหงนพระพักตร์ขึ้นมองท้องฟ้า" (6:41) ซึ่งเป็นอากัปกิริยาที่พระองค์ทรงใช้บ่อย ๆ  (เทียบ 7:34; 16:4;ยน 11:41)

- ทรงหยิบขนมปังเจ็ดก้อนนั้น ตรัสขอบพระคุณพระเจ้า แล้วทรงบิขนมปัง ประทานให้บรรดาศิษย์ไปแจกจ่าย คำกริยา 4 คำนี้เป็นรูปแบบการกระทำของพระเยซูเจ้าเมื่อทรงตั้งศีลมหาสนิท และยังเป็นรูปแบบงานเลี้ยงของพระเมสสิยาห์ดังที่พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะเกิดขึ้นเมื่อสิ้นพิภพ

- เขาก็แจกจ่ายขนมปังให้ประชาชน เขายังมีปลาตัวเล็กๆ อยู่บ้าง พระองค์ทรงกล่าวถวายพระพรพระเจ้า ทรงสั่งให้แจกจ่ายปลาเช่นเดียวกัน ทุกคนกินจนอิ่มในสมัยของโมเสส ประชาชนในถิ่นทุรกันดารได้กินอาหารที่มาจากสวรรค์อันเป็นของประทานจากพระเจ้าและเครื่องหมายแห่งพระเมตตาของพระองค์ฉันใด พระเยซูเจ้า โมเสสคนใหม่ก็ทรงเลี้ยงประชาชนจำนวนมากในที่เปลี่ยวจนอิ่มฉันนั้น แต่ดูเหมือนว่าบรรดาศิษย์ไม่เข้าใจสัญลักษณ์นี้

- และยังเก็บเศษที่เหลือได้อีกเจ็ดตะกร้า การเหลือเศษเป็นข้อพิสูจน์ชัดเจนว่าทุกคนได้กินจนอิ่ม ทั้งชาวยิวและคนต่างศาสนา เพราะพระเยซูเจ้าจะทรงเป็นอาหารสำหรับเลี้ยงทุกคน

-ผู้ที่กินขนมปังและปลามีประมาณสี่พันคน พระองค์ทรงส่งเขากลับไป จำนวนประชาชนที่ได้กินขนมปังครั้งนี้น้อยกว่าห้าพันคนที่ได้กินในอัศจรรย์การทวีขนมปังครั้งแรก แต่ต้องคำนึงว่าในครั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติ ซึ่งได้มาพบพระคริสตเจ้าจากสถานที่ต่าง ๆ ในแคว้นทศบุรี ประชาชนเหล่านี้คงจะได้รับการประกาศข่าวดีจากชาวเกราซาที่ถูกปีศาจสิง ซึ่งพระเยซูเจ้าทรงรักษาให้หายและทรงสั่งให้กลับไปอยู่กับชนชาติของตนทั้ง ๆ ที่เขาปรารถนาจะติดตามพระองค์ (5:1-20) ประชาชนเหล่านี้จึงต้องการพบพระองค์

- แล้วพระองค์เสด็จลงเรือพร้อมกับบรรดาศิษย์รายละเอียดนี้ชวนให้คิดว่า พระเยซูเจ้าทรงกระทำอัศจรรย์ที่ฝั่งทะเลสาบกาลิลี

- ไปยังบริเวณเมืองดาลมานูธาทันทีนักวิชาการไม่รู้ว่าสถานที่ชื่อ "ดาลมานูธา" อยู่ที่ใดในบริเวณทะเลสาบกาลิลี บางคนจึงคิดว่าผู้คัดลอกต้นฉบับพระวรสารได้สะกดชื่อเมืองนี้ผิด สำเนาโบราณบางฉบับและวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิวเรียกสถานที่นี้ว่า "มากาดาน" (มธ 15:39)  

b)    ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
1.    พระวาจาและอากัปกริยาของพระเยซูเจ้ามีลักษณะสำคัญเกี่ยวกับชีวิตประจำวันรวมทั้งปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะนำความยากลำบากหรือความหวัง ถ้าเราซื่อสัตย์ต่อพระเยซูเจ้าผู้ทรงชีวิต เหตุการณ์ต่าง ๆ  ในชีวิตของเราก็จะเป็นโอกาสที่จะเผยแผ่ข่าวดีของพระองค์แก่ผู้อื่น

2.    ในการเลี้ยงประชาชน พระเยซูเจ้าพอพระทัยที่จะเชิญชวนบรรดาอัครสาวกให้ร่วมมือกับพระองค์ ทรงบันดาลให้เขาเป็นเหมือนพระองค์ สามารถแบ่งปันสิ่งที่มีกับผู้อื่นด้วยใจกว้าง บรรดาศิษย์มีขนมปังเพียง 7 ก้อน  จึงคิดว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะเลี้ยงประชาชนจำนวนมากในที่เปลี่ยวเขาลืมไปว่าตนเป็นเพียงผู้นำความรักของพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพให้แก่ผู้อื่น เราก็เช่นกัน แม้เรามีความสำนึกว่าเป็นผู้อ่อนแอและยากจน ถ้าเราถ่อมตนเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ก็จะได้รับพละกำลังจากพระองค์เพื่อเป็นพยานถึงความรัก ความยุติธรรม ความจริงในคำพูดและกิจการ ความซื่อตรงในหน้าที่การงาน ความเสียสละและความใจกว้างในชีวิตประจำวัน

3.    พระเยซูเจ้าทรงสงสารมนุษย์ทุกคนไม่ว่าชาวยิวหรือคนต่างศาสนา พระองค์ยังคงตรัสกับเราผู้เป็นศิษย์เช่นเดียวกับที่ได้ตรัสกับบรรดาอัครสาวกว่า "เราสงสารประชาชน" สิ่งสำคัญคือ เราไม่ควรตอบว่า“ใครจะหาอาหารในที่เปลี่ยวเช่นนี้มาให้คนเหล่านี้กินจนอิ่มได้” แต่ควรตอบว่า "ข้าแต่พระองค์ โปรดทรงใช้ข้าพเจ้าเป็นเครื่องมือเพื่อความสงสารของพระองค์จะเป็นพระพร ประโยชน์และความชื่นชมยินดีสำหรับผู้ที่พระองค์ทรงสงสารด้วยเถิด"

4.    เมื่อคนใดคนหนึ่งต้องการความช่วยเหลือ โดยสัญชาตญาณ มนุษย์ทั่วไปจะไม่ให้ความช่วยเหลือ เพราะเขาต้องการหลีกเลี่ยงความยากลำบาก เพียงผู้ที่ยอมรับการท้าทายจากความสงสารผู้อื่นก็จะให้ความช่วยเหลืออย่างแท้จริง เต็มใจและสุดความสามารถ  

5.    โดยทั่วไป พระเยซูเจ้าทรงกระทำอัศจรรย์สำหรับปัจเจกบุคคลที่อยู่ในความต้องการ เช่น ทรงรักษาคนโรคเรื้อนให้หาย ทรงขับไล่ปีศาจจากผู้ถูกสิง ทรงรักษาผู้ป่วยให้หายจากโรค แต่ในกรณีอัศจรรย์การทวีขนมปังเกี่ยวข้องกับชุมชนส่วนรวมและความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ พระองค์ทรงเตรียมงานเลี้ยงสำหรับประชาชนทั้งหมด พระองค์ทรงทำให้ผู้คนมากมายกลับเป็นชุมชนหนึ่งเดียวที่มีชีวิตชีวา เราควรตนเองว่า เรามีส่วนร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับชีวิตวิถีชุมชนวัดของตนอย่างสันติและชื่นชมยินดีหรือไม่