"พระคัมภีร์และพิธีกรรม" โดย บาทหลวงเชษฐา  ไชยเดช
ย้อนดูบทจดหมายฟีเลโมน
         ข้าพเจ้าเขียนด้วยมือของข้าพเจ้าว่า ข้าพเจ้า เปาโล จะชดใช้ให้ทั้งหมด ข้าพเจ้าจะไม่พูดถึงหนี้สินอื่นที่ท่านเป็นหนี้ข้าพเจ้า (ฟม 1.19)

ภูมหลังของบทจดหมายถึงฟีเลโมน
              ฟิเลโมนเป็นคนมีฐานะกลับใจเชื่อในพระเยซูเจ้าช่วงที่เปาโลไปเทศน์สอนที่โคโลสี โอเนสิมัสซึ่งเป็นทาสของท่านได้หนีไป แล้วได้ไปพบเปาโล ประทับใจในคำพูดคำสอน กลับใจเป็นคริสตชน เปาโลต้องการส่งทาสโอเนสิมัสกลับไปหานายเก่า พร้อมนำจดหมายที่มีลายเซนต์ของเปาโลไปด้วย
             รายละเอียดมีไม่มากนัก เราไม่รู้ว่าโอเนสิมัสทำอะไรกันแน่ช่วงหนีนายไป และเราก็ไม่รู้เช่นกันว่าเปาโลต้องการให้ฟีเลโมนจัดการอย่างไรแน่กับทาสของเขา สิ่งที่ชัดคือเปาโลต้องการให้นายปฏิบัตต่อทาสคนเก่าในรูปแบบใหม่

ความสัมพันธ์แบบทาสหรือฉันท์พี่น้อง
            ก่อนอื่นเปาโลไม่เน้นสิ่งที่โอเนสิมัสได้ขะโมยไป หรือการหนีไปของเขา หรือการกลับใจเป็นคริสตชน แต่เน้นที่ความเชื่อความศรัทธาและชื่อเสียงของฟีเลโมน เปาโลเริ่มด้วยการยกย่องฟีเลโมน “เพราะข้าพเจ้าฟังเรื่องความรักและความเชื่อที่ท่านมีต่อพระเยซูเจ้าและต่อประชากรศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า” (ฟม 5) แล้วดึงตรงเข้าประเด็นของจดหมาย “ขอให้ความเชื่อที่เรามีร่วมกัน2 จงบังเกิดผลแสดงให้เห็นความดีทุกประการที่เราทำเพื่อพระคริสตเจ้าได้” (ฟม 6)

            เปาโลขอให้ฟีเลโมนตอบรับด้วยความนบนอบเชื่อฟัง แต่ไม่บังคับ ท่านปรารถนาและคาดหวังว่าฟีเลโมนคงตอบรับด้วยความรัก เพราะโอเนสิมัสรักนายเช่นกัน “มิใช่ในฐานะทาส แต่ในฐานะที่ดีกว่ามาก คือเป็นน้องชายที่รัก ถ้าเขาเป็นที่รักอย่างยิ่งของข้าพเจ้า เขาจะต้องเป็นที่รักของท่านมากกว่าสักเท่าใดเล่า ทั้งในฐานะที่เป็นเพื่อนมนุษย์และในฐานะที่เป็นพี่น้องในองค์พระผู้เป็นเจ้า” (ฟม 16)

            ประโยคนี้เปาโลได้ขจัดกำแพงที่อาจกั้นขวางนายและทาส-ชนชั้น ตำแหน่ง และความสัมพันธ์ลูกจ้างนายจ้าง ทั้งนายและทาสต่างเป็นหนี้พระคริสต์และต่างเป็นทายาทพันธะสัญญาแห่งความรอดของพระเจ้า และดังนั้นก็เป็นพี่เป็นน้องกัน ทั้งสอง-นายและทาส เป็นบุตรบุญธรรมพระเป็นเจ้า (รม 8.15-16)

             ทั้งสองยังเป็นพี่เป็นน้องกันอีกทางหนึ่ง คือต่างมีเปาโลเป็นบิดาฝ่ายจิต และนี่คือสาเหตุที่เปาโลบอกว่าฟีเลโมนเป็นหนี้ท่าน (ฟม 19) ข้อความนี้อยู่หลังการเสนอคืนหนี้ของโอเนสิมัส เปาโลชี้ให้ฟีเลโมนเห็นว่า นายเองก็เป็นหนี้เปาโลดังที่ทาสเป็นหนี้นาย แต่หนี้นายต่อเปาโลนั้นมีมากกว่า

การตอบรับของกลุ่มคริสตชน
              การแนะนำสั่งสอนของเปาโลมีผลต่อกลุ่มคริสตชนทั้งหมด เพราะจดหมายนี้ใช้อ่านในบ้านวัดของฟีเลโมน (ถึงฟีเลโมนเพื่อนร่วมงานที่รัก ถึงอัปเฟียน้องสาว1 ถึงอารคิปปัสเพื่อนผู้ร่วมต่อสู้มากับเรา และถึงพระศาสนจักรที่ชุมนุมกันที่บ้านของท่าน ฟม 1-2) คำแนะนำแบบขอร้องของเปาโลต่อฟีเลโมนย่อมเป็นที่ได้ยินของทกคนในวัดบ้านนั้น เป็นหน้าที่ของนายที่จะตัดสินใจอย่างไรต่อทาส การตัดสินใจที่ต้องรับผิดชอบ เปาโลกระซิบดังๆ กับฟีเลโมนว่า “พระคริสตเจ้ามีความสำคัญต่อท่นอย่างไร ข่าวดีได้ทำให้ท่านเปลี่ยนแปลงขนาดไหน”

               เปาโลรู้ดีว่าการปฏิบัติของฟีเลโมนย่อมมีผลกระทบต่อกลุ่มคริสตชนทั้งหมด ท่านต้องการเตืยนทุกคนว่า พวกเขาเป็นทองแผ่นเดี่ยวกันมิใช่เพราะด้านสังคม หรือการเสมอภาคทางกฏหมาย แต่เพราะความเชื่อความศรัทธาในพระคริสนเจ้า