"พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ใดสำหรับข้าพเจ้า" อธิบายพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก โดย บาทหลวงฟรังซิส ไก้ส์
“ท่านเห็นอะไรไหม ”

41. พระเยซูเจ้าทรงทำนายครั้งแรกถึงพระทรมาน(3)
(b) ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
1.    พระวาจาของพระเยซูเจ้าชัดเจนมากและทันสมัยสำหรับเราทุกวันนี้เหมือนสำหรับบรรดาศิษย์สมัยแรก และเป็นพื้นฐานของชีวิตคริสตชน คือการดำเนินชีวิตตามพระฉบับของพระคริสตเจ้า พระองค์ทรงเปิดเผยชะตากรรมของพระองค์ในการดำเนินพระชนมชีพที่นำไปสู่การรับทรมานและสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน

ปฏิกิริยาและความผิดหวังของนักบุญเปโตรเป็นความรู้สึกทั่วไปของมนุษย์ พระเมสสิยาห์จะเป็นประโยชน์ใดแก่เรา ถ้าพระองค์เองทรงรับชะตากรรมน่าสมเพชของมนุษย์แทนที่จะทรงลบล้างความอยุติธรรม ความรุนแรงและการทำลายชีวิต คำทำนายของพระเยซูเจ้าขัดแย้งกับความหวังของบรรดาศิษย์และของเรา ซึ่งพร้อมที่จะติดตามพระองค์ก็จริง แต่เราตกใจกลัวที่จะติดตามพระองค์จนต้องได้รับทรมานและแบกไม้กางเขนของพระองค์

2.    เรารู้สึกว่าพระเยซูเจ้าทรงตำหนินักบุญเปโตรอย่างรุนแรง ทั้งๆ ที่ทรงรักเขามาก โดยแท้จริงแล้ว ไม่เป็นเรื่องแปลก เพราะพระเยซูเจ้าทรงพระประสงค์ที่จะมอบภารกิจแก่นักบุญเปโตร ให้รักษาความเชื่อและพระธรรมล้ำลึกเรื่องความรอดพ้นสำหรับพระศาสนจักรทั้งหมด ดังนั้น พระเยซูเจ้าไม่ทรงปล่อยให้นักบุญเปโตรมีความคิดผิดในเรื่องนี้ จึงทรงสั่งสอนเขาให้มีความเชื่อที่ถูกต้องตั้งแต่แรกเริ่ม

3.    น่าสังเกต คำทูลทัดทานของนักบุญเปโตรสอดคล้องกับการถูกประจญของพระเยซูเจ้าในถิ่นทุรกันดาร เมื่อปีศาจเชิญชวนพระองค์มิให้ปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาเจ้า ในครั้งนี้ผู้ประจญมาในรูปแบบเสียงของเพื่อนที่หวังดีต่อพระองค์ บางครั้งเราก็ต้องเผชิญสถานการณ์เช่นนี้ เราอาจจะตัดสินใจทำสิ่งที่เห็นว่าถูกต้องแม้อาจเรียกร้องความเสียสละและนำความทุกข์ยากลำบาก ความสูญเสียผลประโยชน์และความนิยมชมชอบ แล้วญาติพี่น้องหรือเพื่อนที่หวังดีต่อเราพยายามทำให้เราเลือกทางอื่นที่สะดวกสบายกว่า

4.    คำสอนของพระเยซูเจ้าเป็นรูปธรรมและสรุปได้ในพระวาจาที่นักบุญมาระโกบันทึกในตอนแรกของพระวรสารว่า “จงกลับใจ และเชื่อข่าวดีเถิด” (1:15)ในสถานการณ์ต่าง ๆ เมื่อเราถูกประจญดังกล่าว เราต้องกลับใจ จงอย่ายอมให้ความปรารถนาตามธรรมชาตินำชีวิตของเรา แต่จงมอบความไว้วางใจแด่พระพระเยซูเจ้าอย่างไม่มีเงื่อนไข เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้นำที่แท้จริง ชีวิตคริสตชนเป็นการท้าทายอย่างต่อเนื่องให้กลับใจและมีความเชื่อในพระองค์  

5.    ชีวิตคริสตชนจึงเรียกร้องการปฏิเสธตนเอง ความเสียสละ การไม่นึกถึงตนเอง จุดประสงค์ประการเดียวของการกระทำเช่นนี้คือ เพื่อรักษาความสนิทสัมพันธ์กับพระเยซูเจ้าและไม่ทรยศต่อพระองค์ เราทุกคนถูกประจญให้ละทิ้งพระเยซูเจ้าเพื่อเดินตามหนทางอื่นที่เราเลือกเอง ยังมีการประจญที่ละเอียดมากกว่านี้คือการปั้นแต่งเรื่องพระเยซูเจ้าตามความคิดของตนแบบผิด ๆ แล้วติดตามภาพลักษณ์นั้น ผลตามมาก็คือเราปฏิบัติตามใจตนเอง ไม่ใช่ติดตามพระคริสตเจ้าที่แท้จริง

6.    เราควรวอนขอพระเจ้าโปรดประทานความสามารถที่จะเข้าใจว่า เราต้องตั้งตนอยู่ข้างหลังพระองค์ ไม่ใช่นำหน้าพระองค์ เพื่อเป็นศิษย์แท้ผู้ติดตามพระเยซูเจ้าเราจึงต้องฟังพระวาจาของพระเจ้าอย่างถ่อมตนและด้วยความอ่อนน้อมเชื่อฟังเพื่อจะได้เรียนรู้ที่จะยอมรับไม้กางเขนประจำวันของตน  

7.    เราควรขอบพระคุณพระเยซูเจ้าผู้ทรงนำหน้าเราและทรงชี้แจงทางเดินแก่เรา แม้หนทางนั้นจะลาดชันและไม่สะดวกสบายก็จริง แต่พระองค์ทรงจูงมือและค้ำจุนเราอยู่เสมอ