“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

"พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ใดสำหรับข้าพเจ้า" อธิบายพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก โดย บาทหลวงฟรังซิส ไก้ส์
“เมื่อนั้นประชาชนทั้งหลายจะเห็นบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาในก้อนเมฆ”

69. การเสด็จมาของบุตรแห่งมนุษย์ (2)

b)ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
         1.เป็นเรื่องสำคัญที่จะรู้ว่าโลกนี้พร้อมกับความชั่วร้ายจะจบลงอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ความชั่วร้ายไม่ได้สิ้นสุดเพราะความรุนแรงของตัวมันเองทวีขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งระเบิด ทำให้โลกสิ้นสุดพระวาจาของพระเจ้าบอกเราว่า การสิ้นสุดของโลกจะไม่เกิดจากสงคราม ความอดอยาก แผ่นดินไหว แต่มีบันทึกไว้ว่า "เมื่อทุกขเวทนาผ่านพ้นไปแล้ว” คือเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์เหล่านั้น โลกจะสิ้นสุดเมื่อพระหัตถ์ของพระเจ้าผู้ทรงพระปรีชาญาณจะทรงบันดาลให้ทุกอย่างสำเร็จสมบูรณ์ ดังนั้น โลกไม่อยู่ในมือของความชั่วร้าย แต่อยู่ในหัตถ์ของพระเจ้า เมื่อเราประสบเหตุร้ายใดๆ เวลานั้นยังไม่เป็นการสิ้นสุดของโลก เพราะเหตุการณ์สุดท้ายจะเกิดขึ้น เมื่อเหตุการณ์ร้ายพ้นไปแล้ว คือพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า

          2.ก่อนพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าปรากฏ “ดวงอาทิตย์จะมืดไป ดวงจันทร์จะไม่ทอแสง ดวงดาวจะตกจากท้องฟ้า และอานุภาพบนท้องฟ้าจะสั่นสะเทือน เมื่อพระเยซูเจ้าทรงถูกตรึงบนไม้กางเขน ดวงอาทิตย์ก็มืดไปหมายความว่า โลกแห่งความชั่วร้ายสิ้นสุดลง เพราะไม่มีสิ่งใดที่ร้ายแรงมากไปกว่าการตรึงพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน คือการพยายามประหารชีวิตพระเจ้า ความชั่วร้ายทุกประการก็มีส่วนร่วมในความชั่วร้ายยิ่งใหญ่นี้ ในขณะที่ความชั่วร้ายทั้งหมดของโลกปรากฏบนไม้กางเขนของพระเยซูเจ้า เวลานั้นจะมีสิ่งร้ายมากไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว ความดีทั้งหมดที่จะมาถึงเราก็ปรากฏบนไม้กางเขนเช่นกัน คือเราเห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของมนุษย์ นั่นคือความรักของพระเจ้า ด้วยเหตุนี้ เราจึงไม่กลัวแม้ดวงอาทิตย์จะมืดไป และดวงจันทร์จะไม่ทอแสงอีก เพราะพระเจ้าสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ทรงยอมรับคำสาปแช่งและบาปทุกประการไว้ในพระองค์ ดวงดาวจะตกจากท้องฟ้าคือ ภาพลักษณ์ของพระเจ้าที่เราเคยถูกเขย่า มนุษย์เคยคิดว่าพระเจ้าทรงเป็นทุกอย่าง ยกเว้นดังที่ทรงเป็น คือทรงเป็นมนุษย์ผู้ถ่อมตนและสุภาพอ่อนโยน ผู้ทรงยอมถูกตึงบนไม้กางเขนโดยรับคำสาปแช่งและบาปของโลกไว้ในพระองค์ ถ้ามองเช่นนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อพระเยซูเจ้าทรงถูกตรึงบนไม้กางเขน ก็เป็นบรรยายถึงการสิ้นสุดของโลก

             3.การเห็นบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาในก้อนเมฆ ทรงพระอานุภาพและพระสิริรุ่งโรจน์ยิ่งใหญ่หมายความว่า บุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาพิพากษาโลก โดยแท้จริง พระองค์ทรงพิพากษาโลกอยู่แล้วบนไม้กางเขน เมื่อทรงยอมมอบชีวิตเพื่อคนบาป การพิพากษาของพระเจ้าคือพระเมตตาต่อมนุษย์ผู้ขัดสน เป็นการมอบชีวิตแก่ผู้ที่ได้ประหารพระองค์ เป็นการให้อภัยผู้ที่ตรึงพระองค์บนไม้กางเขน เพื่อเราจะได้เห็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าคือความรัก การให้อภัยโดยไม่มีเงื่อนไข

           4.บุตรแห่งมนุษย์จะมาพิพากษาโลกด้วยมาตรการของพระองค์ คือมาตรการแห่งความรัก การให้อภัย การรับใช้ การมอบชีวิตเป็นของประทาน ไม้กางเขนเป็นการตัดสินถาวรตลอดไปของมนุษย์ และเป็นการเฉลยความหมายชีวิตของมนุษยชาติ ไม่เพียงชีวิตของผู้มีความเชื่อเท่านั้น แต่เป็นความหมายชีวิตของมนุษย์ทุกคนที่เป็นบุตรของพระเจ้า ไม้กางเขนจึงเป็นความรอดพ้นสำหรับทุกคน เป็นการเปิดเผยพระอานุภาพและพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า และในเวลาเดียวกัน เป็นอำนาจของบุตรแห่งมนุษย์ ผู้ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า ดังนั้น การพิศเพ่งไม้กางเขนทำให้เราได้รับใบหน้าแท้จริงของบุตรที่เกิดมาเป็นมนุษย์คนใหม่

             5.เรามักคิดว่าอนาคตหมายถึงคือการแตกแยก การทำลาย ความตาย และในที่สุด เราจะต้องอยู่โดดเดี่ยว ซึ่งเป็นการเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง อนาคตเป็นการรวบรวมมนุษย์กับพระเจ้า และมนุษย์ด้วยกัน ดังนั้น เป็นการทำให้ประวัติศาสตร์ทั้งหมดของมนุษย์สำเร็จบริบูรณ์ รวมทั้งทุกสิ่งที่ดีงามในมนุษย์และในความปรารถนาที่จะพบผู้อื่น เป็นรวบรวมผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรรจากทั้งสี่ทิศ จากปลายแผ่นจนสุดขอบฟ้า ประโยคนี้ชวนให้คิดถึงรูปของไม้กางเขนคือเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องซ้าย เบื้องขวา ซึ่งเปรียบเหมือนพระเจ้าผู้ทรงโอบกอดโลกทั้งหมดไว้ เพื่อทรงรวบรวมมนุษย์และทรงเปิดเผยพระสิริรุ่งโรจน์แก่เขา คำปราศรัยของพระเยซูเจ้าบรรยายเหตุการณ์นี้เหมือนจะเกิดขึ้นในอนาคต แต่โดยแท้จริง เกิดขึ้นแล้วในอดีตเมื่อพระเยซูเจ้าทรงถูกตรึงบนไม้กางเขน สิ่งที่เกิดขึ้นกับพระองค์แล้วจะเกิดขึ้นกับเราแต่ละคนและกับจักรวาลทั้งหมด เมื่อเรารู้ว่าอนาคตจะเป็นเหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เราในปัจจุบันก็จะไม่กลัวความชั่วร้ายในอนาคต เราจะไม่กังวลใจถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น แต่ปรารถนาที่จะพบกับพระเจ้า

           6.เราควรอธิษฐานภาวนาวอนขอพระเจ้าให้ทรงช่วยเรารู้จักพระคริสตเจ้าบุตรแห่งมนุษย์มากยิ่งขึ้น ผู้ทรงเป็นตุลาการของเรา เพื่อเราจะดำเนินชีวิตด้วยความไว้วางใจ ความหวัง และความเอาใจใส่ โดยจับตามองพระบุตรผู้ทรงรักพระบิดาและบรรดาพี่น้องเป็นแบบฉบับของชีวิต เราจงขอบพระคุณพระเยซูเจ้าผู้ทรงเปิดเผยพระองค์ เป็นบุตรแห่งมนุษย์และตุลาการบนไม้กางเขน พระองค์ทรงรับธรรมชาติมนุษย์ย์เพื่อเป็นพี่ชายของมนุษย์ทุกคน และช่วยเขาให้รอดพ้น อาศัยพระอานุภาพที่พระเจ้าทรงใช้เพื่อชนะความชั่วร้าย และอาศัยพระเมตตาที่พระบุตรทรงแสดงต่อพี่น้องทุกคน

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก