“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

บทเทศน์/ข้อคิดวันอาทิตย์


(ไฟล์ "เสียงวรสาร" โดย วัดแม่พระกุหลาบทิพย์ กรุงเทพฯ)

อุปมาเรื่องงานวิวาหมงคลa

22 1พระเยซูเจ้าทรงเล่าเป็นอุปมาอีกเรื่องหนึ่งว่า 2“อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับกษัตริย์พระองค์หนึ่งซึ่งทรงจัดงานอภิเษกสมรสให้พระโอรส 3ทรงส่งผู้รับใช้ไปเรียกผู้รับเชิญให้มาในงานวิวาห์ แต่พวกเขาไม่ต้องการมา 4พระองค์จึงทรงส่งผู้รับใช้อื่นไปอีก รับสั่งว่า ‘จงไปบอกผู้รับเชิญว่า บัดนี้เราได้เตรียมการเลี้ยงไว้พร้อมแล้ว ได้ฆ่าวัวและสัตว์อ้วนพีแล้ว ทุกสิ่งพร้อมสรรพ เชิญมาในงานวิวาห์เถิด’ 5แต่ผู้รับเชิญมิได้สนใจ คนหนึ่งไปที่ทุ่งนา อีกคนหนึ่งไปทำธุรกิจ 6คนที่เหลือได้จับผู้รับใช้ของกษัตริย์ทำร้ายและฆ่าเสีย 7กษัตริย์กริ้ว จึงทรงส่งกองทหารไปทำลายฆาตกรเหล่านั้นและเผาเมืองของเขาด้วย 8แล้วพระองค์ตรัสแก่ผู้รับใช้ว่า ‘งานวิวาห์พร้อมแล้ว แต่ผู้รับเชิญไม่เหมาะสมกับงานนี้ 9จงไปตามทางแยก พบผู้ใดก็ตาม จงเชิญมาในงานวิวาห์เถิด’ 10บรรดาผู้รับใช้จึงออกไปตามถนน เชิญทุกคนที่พบมารวมกัน ทั้งคนเลวและคนดี แขกรับเชิญจึงมาเต็มห้องงานอภิเษกสมรส 11กษัตริย์เสด็จมาทอดพระเนตรแขกรับเชิญ ทรงเห็นคนหนึ่งไม่สวมเสื้อสำหรับงานวิวาห์ 12จึงตรัสแก่เขาว่า ‘เพื่อนเอ๋ย ท่านไม่ได้สวมเสื้อสำหรับงานวิวาห์ แล้วเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร’ คนนั้นก็นิ่ง 13กษัตริย์จึงตรัสสั่งผู้รับใช้ว่า ‘จงมัดมือมัดเท้าของเขา เอาไปทิ้งในที่มืดข้างนอกเถิด ที่นั่น จะมีแต่การร่ำไห้คร่ำครวญ และขบฟันด้วยความขุ่นเคือง 14เพราะผู้รับเชิญมีมาก แต่ผู้รับเลือกมีน้อย’”b

 การเสียภาษีแก่พระจักรพรรดิซีซาร์

15ครั้งนั้น ชาวฟาริสีปรึกษากันเพื่อจับผิดพระวาจาของพระเยซูเจ้า 16จึงส่งศิษย์ของตนพร้อมกับคนที่นิยมกษัตริย์เฮโรดc มาทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “พระอาจารย์ พวกเรารู้ว่าท่านเป็นคนเที่ยงตรง สั่งสอนวิถีทางของพระเจ้าตามความจริง โดยไม่ลำเอียง เพราะท่านไม่เห็นแก่หน้าใคร 17ดังนั้น โปรดบอกเราเถิดว่า ท่านมีความเห็นว่าการเสียภาษีแก่พระจักรพรรดิซีซาร์เป็นการถูกต้องหรือไม่” 18พระเยซูเจ้าทรงหยั่งรู้เจตนาร้ายของเขา จึงตรัสว่า “พวกคนหน้าซื่อใจคด เจ้ามาทดลองเราทำไม 19จงนำเงินที่ใช้เสียภาษีมาให้ดูสักเหรียญหนึ่ง” เขาก็นำเงินเหรียญมาถวาย 20พระองค์จึงตรัสถามว่า “รูปและคำจารึกนี้เป็นของใคร” 21เขาตอบว่า “เป็นของพระจักรพรรดิซีซาร์” พระองค์จึงตรัสว่า “ของของซีซาร์ จงคืนให้ซีซาร์ และของของพระเจ้า ก็จงคืนให้พระเจ้าเถิด”d 22เมื่อคนเหล่านั้นได้ยิน ต่างประหลาดใจ แล้วผละจากพระองค์ไป

 การกลับคืนชีพของผู้ตาย

23ในวันนั้น ชาวสะดูสีมาเฝ้าพระองค์ คนเหล่านี้สอนว่าไม่มีการกลับคืนชีพe เขาทูลถามพระองค์ว่า

24“พระอาจารย์ โมเสสสั่งไว้ว่าถ้าคนหนึ่งตายโดยไม่มีบุตร ก็ให้น้องชายของเขารับหญิงม่ายนั้นเป็นภรรยา เพื่อจะได้สืบสกุลของพี่ชายไว้ 25ยังมีพี่น้องเจ็ดคน คนแรกแต่งงานแล้วก็ตายโดยไม่มีบุตร ทิ้งภรรยาไว้ให้น้องชาย 26และเกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกันกับคนที่สอง คนที่สาม จนถึงคนที่เจ็ด 27ในที่สุดหญิงนั้นก็ตายด้วย

28เมื่อมนุษย์จะกลับคืนชีพ หญิงนั้นจะเป็นภรรยาของใคร เพราะทั้งเจ็ดคนได้นางเป็นภรรยา” 29พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านคิดผิดแล้ว เพราะไม่เข้าใจพระคัมภีร์ และไม่รู้จักพระอานุภาพของพระเจ้า 30เมื่อมนุษย์จะกลับคืนชีพ จะไม่มีการแต่งงานเป็นสามีภรรยากันอีก แต่เขาจะเป็นเหมือนทูตสวรรค์ 31ส่วนเรื่องผู้ตายกลับคืนชีพ ท่านไม่ได้อ่านพระวาจาที่พระเจ้าตรัสแก่ท่านหรือว่า 32เราคือพระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค และพระเจ้าของยาโคบ พระองค์มิใช่พระเจ้าของผู้ตาย แต่เป็นพระเจ้าของผู้เป็น”f 33ประชาชนที่ได้ฟังต่างพิศวงอย่างยิ่งในคำสอนของพระองค์

 บทบัญญัติเอก

34เมื่อชาวฟาริสีได้ยินว่าพระเยซูเจ้าทรงทำให้ชาวสะดูสีนิ่งอึ้งไป จึงมาชุมนุมพร้อมกัน 35มีคนหนึ่งเป็นบัณฑิตทางกฎหมายg ได้ทูลถามเพื่อจะจับผิดพระองค์ว่า 36“พระอาจารย์ บทบัญญัติข้อใดเป็นเอกในธรรมบัญญัติ” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า 37“ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดสติปัญญาของท่าน 38นี่คือบทบัญญัติเอกและเป็นบทบัญญัติแรก 39บทบัญญัติประการที่สองก็เช่นเดียวกัน คือท่านต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเองh 40ธรรมบัญญัติและคำสอนของบรรดาประกาศกก็ขึ้นอยู่กับบทบัญญัติสองประการนี้”

พระคริสตเจ้าทรงเป็นทั้งพระโอรสของกษัตริย์ดาวิดและทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วย

41ขณะที่ชาวฟาริสีมาชุมนุมกัน พระเยซูเจ้าทรงถามว่า 42“ท่านคิดอย่างไรเกี่ยวกับพระคริสตเจ้า พระองค์ทรงเป็นโอรสของใคร” ชาวฟาริสีทูลตอบว่า “เป็นโอรสของกษัตริย์ดาวิด” 43พระองค์จึงตรัสว่า “ถ้าเช่นนั้น เพราะเหตุใด เมื่อกษัตริย์ดาวิดทรงได้รับการดลใจจากพระจิตเจ้า จึงเรียกพระคริสต์ว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า และตรัสว่า

44องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสแก่องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าว่า

เชิญประทับนั่งเบื้องขวาของเรา

จนกว่าเราจะทำให้ศัตรูของพระองค์อยู่ใต้พระบาทของพระองค์

 45ถ้ากษัตริย์ดาวิดทรงเรียกพระคริสต์ว่าเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า พระคริสต์จะทรงเป็นโอรสของกษัตริย์ดาวิดได้อย่างไร” 46ไม่มีใครตอบพระองค์ได้i และจากวันนั้นเป็นต้นมา ไม่มีผู้ใดกล้าทูลถามพระองค์อีกเลย

 

22 a อุปมาเรื่องนี้เป็นอุปมานิทัศน์อีกเรื่องหนึ่งที่มีคำสอนคล้ายกับอุปมาเรื่องก่อน กษัตริย์คือพระเจ้า งานวิวาหมงคลคือความสุขในยุคของพระเมสสิยาห์ โอรสของกษัตริย์คือพระเมสสิยาห์ คนที่ไปเชิญผู้มาร่วมงานคือบรรดาประกาศกและบรรดาอัครสาวก ผู้รับเชิญที่ไม่สนใจหรือใช้ความรุนแรงต่อต้านคือชาวยิว ผู้ที่ได้รับเรียกตามถนนคือคนบาปและคนต่างศาสนา การเผาเมืองคือการทำลายกรุงเยรูซาเล็ม ในข้อ 11 ฉากของเรื่องเปลี่ยนไปเป็นการพิพากษาครั้งสุดท้าย ดูเหมือนว่ามัทธิวได้รวมอุปมาสองเรื่องเข้าด้วยกัน เรื่องหนึ่งคล้ายกับเรื่องใน ลก 14:16-24 ส่วนอีกเรื่องหนึ่งซึ่งจบลงด้วยข้อความในข้อ 11-14 ข้อความตอนจบนี้อธิบายว่าคนที่รับเชิญจะต้องแต่งกายให้เหมาะกับงานด้วย นั่นคือ เมื่อมีความเชื่อแล้วต้องมีกิจการดีตามมาด้วย (เทียบ 3:8; 5:20; 7:21ฯ; 13:47ฯ; 21:28ฯ)

b ประโยคนี้ดูเหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอุปมาเรื่องแรกมากกว่าเรื่องที่สอง อุปมาในข้อ 1-10 หมายถึงชาวยิวเท่านั้น ซึ่งเป็นพวกแรกที่ได้รับเชิญ แต่น้อยคนมีความเชื่อ (รับเลือก) อุปมานี้มิได้ยืนยันหรือปฏิเสธว่าชาวยิวบางคน (ส่วนน้อย) ได้ตอบรับคำเชิญและเป็นผู้ได้รับเลือก (ดู 24:22 เชิงอรรถ k)

c “คนที่นิยมกษัตริย์เฮโรด” เป็นพวกที่สนับสนุนราชวงศ์กษัตริย์เฮโรด (มก 3:6 เชิงอรรถ a) พวกนี้น่าจะเป็นผู้ที่คอยรายงานให้หน่วยราชการของชาวโรมันทราบสิ่งที่พวกเขาคิดว่าจะสามารถล่อหลอกให้พระเยซูเจ้ากล่าวโจมตีจักรพรรดิโรมัน

d ในทางปฏิบัติ ชาวยิวยอมรับอำนาจและผลประโยชน์ของรัฐบาลโรมัน ซึ่งเหรียญเป็นสัญลักษณ์อยู่ ดังนั้น จึงเป็นการถูกต้องและเป็นหน้าที่ของเขาจะต้องเสียภาษีแก่รัฐบาลโรมัน ตราบเท่าที่ไม่ล่วงละเมิดอำนาจและสิทธิของพระเจ้าซึ่งอยู่เหนือกว่า

e “ชาวสะดูสี” (3:7 เชิงอรรถ g) ยึดมั่นในธรรมประเพณีที่มีบันทึกไว้เท่านั้น โดยเฉพาะที่มีบันทึกไว้ในหนังสือปัญจบรรพ (Pentateuch) พวกนี้เชื่อมั่นว่าคำสอนเรื่องการกลับคืนชีพของร่างกาย (ดู 2 มคบ 7:9 เชิงอรรถ c) ไม่พบในธรรมประเพณีดังกล่าว ในเรื่องนี้ ชาวฟาริสีมีความคิดตรงข้ามกับชาวสะดูสี (ดู กจ 4:1 เชิงอรรถ a; 23:8 เชิงอรรถ c)

f เมื่อพระเจ้าทรงรับมนุษย์คนหนึ่ง (หรือประชากร) ให้มีความสัมพันธ์กับพระองค์ จนเรียกได้ว่าพระองค์เป็นพระเจ้า “ของเขา” ความสัมพันธ์เช่นนี้ต้องมั่นคงและสมบูรณ์จนไม่ปล่อยให้บุคคลนั้นต้องสูญไป ในสมัยแรกที่พระเจ้าทรงเปิดเผยความจริงให้มนุษย์ทราบ ชาวยิวยังไม่เข้าใจว่า ความรักของพระเจ้าต้องคงอยู่ตลอดนิรันดรเป็นเวลานานทีเดียว พระคัมภีร์กล่าวถึง “sheol” “แดนของผู้ตาย” ซึ่งมีความเป็นอยู่เหมือนเงาและไม่มีการกลับคืนชีพ (อสย 38:10-20; สดด 6:5; 88:10-12) ชาวสะดูสียังคงยึดมั่นในความเชื่อถือนี้ (กจ 23:8 เชิงอรรถ c) แต่ในเวลาต่อมา พระเจ้าทรงค่อยๆ เปิดเผยความจริงเรื่องชีวิตหลังความตายให้ชัดเจนขึ้น (สดด 16:10-11; 49:15; 73:24) โดยสอนว่าชีวิตจะรับการฟื้นฟูขึ้นใหม่สำหรับทุกคน (ปชญ 3:1-9) ความรอดพ้นจะครอบคลุมถึงร่างกายด้วย (2 มคบ 7:9ฯ; 12:43-46; 14:46; ดนล 12:2-3) พระเยซูเจ้าทรงเห็นพ้องกับคำสอนที่ได้รับการเปิดเผยในระยะสุดท้ายนี้ โดยทรงอธิบายว่าแผนการของพระเจ้ามีอยู่แล้วในข้อความเก่าแก่ของ อพย 3:6

g สำเนาโบราณบางฉบับละ “เป็นบัณฑิตทางกฎหมาย”

h บทบัญญัติให้รักพระเจ้าและให้รักเพื่อนมนุษย์ ยังพบได้ในหนังสือ Didache 1:2 ซึ่งอาจเขียนขึ้นตามแนวความคิดของผลงานของชาวยิวเรื่องทางสองแพร่ง (ดู 7:13 เชิงอรรถ d)

i คำตอบที่ถูกต้องคือ แม้ธรรมชาติมนุษย์ของพระคริสตเจ้าสามารถสืบสาวกลับไปถึงกษัตริย์ดาวิดได้ก็ตาม (ดู 1:1-17) แต่พระองค์ยังมีพระธรรมชาติพระเจ้าซึ่งทำให้พระองค์อยู่สูงกว่ากษัตริย์ดาวิด

พระวาจาประจำวัน

พระวาจาวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2024
วันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน 2024 ฉลองนักบุญมาระโก ผู้นิพนธ์พระวรสารบทอ่านจากจดหมายนักบุญเปโตรอัครสาวก ฉบับที่หนึ่ง (1ปต 5:5ข-14) ท่านที่รักทั้งหลาย จงมีความถ่อมตนต่อกันเถิด เพราะพระเจ้าทรงต่อต้านคนเย่อหยิ่งจองหอง แต่ประทานพระหรรษทานแก่ผู้ถ่อมตน ดังนั้น จงถ่อมตนลงอยู่ใต้พระหัตถ์ทรงฤทธิ์ของพระเจ้า เพื่อพระองค์จะได้ทรงยกย่องท่านขึ้นเมื่อถึงเวลาอันควร จงละความกระวนกระวายทั้งมวลของท่านไว้กับพระองค์ เพราะพระองค์ทรงห่วงใยท่าน จงมีสติสัมปชัญญะและตื่นตัวอยู่เสมอ เพราะศัตรูของท่านคือมาร กำลังดักวนเวียนอยู่รอบๆ ดุจสิงโตคำราม เสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้ จงต่อสู้มันด้วยใจมั่นคงในความเชื่อ จงรู้ว่าบรรดาพี่น้องผู้มีความเชื่อทั่วโลก...
วันพุธที่ 24 เมษายน 2024 นักบุญฟีเดลิส แห่งซิกมาริงเก็น พระสงฆ์และมรณสักขีบทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก (กจ 12:24 -13:5ก)...
วันอังคารที่ 23 เมษายน 2024 นักบุญยอร์จ มรณสักขีบทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก (กจ 11:19-26) การเบียดเบียนที่เกิดขึ้นสมัยสเทเฟน ทำให้บรรดาศิษย์กระจัดกระจายไป...
วันจันทร์ที่ 22 เมษายน 2024 สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา บทอ่านจากหนังสือกิจการอัครสาวก (กจ 11:1-18)...

ข่าวสารและประชาสัมพันธ์

การประชุม CBF-SEA ที่คูชิง (วันสุดท้าย)
การประชุม CBF-SEA ที่คูชิง (วันสุดท้าย)+++++++++++วันที่ 14 มีนาคม 2024 7 โมงเช้าวันนี้ ซิสเตอร์...
การประชุม CBF – SEA ที่คูชิง (วันที่ 3)
การประชุม CBF -SEA ที่คูชิง (วันที่ 3)13 มีนาคม 2024 + 9...
การประชุม CBF – SEA ที่คูชิง (วันที่ 2)
การประชุม CBF – SEA ที่คูชิง (วันที่ 2)อังคารที่ 12 มีนาคม เริ่มเช้าวันใหม่...
พิธีเปิดการประชุม CBF-SEA ที่คูชิง
พิธีเปิดการประชุม CBF-SEA ที่คูชิง++++++++++11 มีนาคม 2024 อาร์คบิชอป ไซม่อน โป แห่งอัครสังฆมณฑล คูชิง...
ประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย ครั้งที่ 1 /2024
ประชุมกรรมการอำนวยการสมาคมพระคริสตธรรมไทย (Thailand Bible Society-TBS) สมัยสามัญ ครั้งที่ 1 /2024 วันจันทร์ที่ 4...
โครงการสร้างบุคลากรทำงานด้านพระคัมภีร์
คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อคริสตศาสนธรรม แผนกพระคัมภีร์ ร่วมกับ แผนกพระคัมภีร์ ฝ่ายงานอภิบาล อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯจัดโครงการสร้างบุคลากรทำงานด้านพระคัมภีร์ "ผู้หว่าน" รุ่นที่ 8 วันพุธที่...

"ข้าพเจ้าจะเข้าใจได้อย่างไร ถ้าไม่มีใครอธิบาย"

“พระเยซู ชาวนาซาเร็ธ ผู้ถูกตรึงกางเขน ทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว” (1)
“พระเยซู ชาวนาซาเร็ธ ผู้ถูกตรึงกางเขน ทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว” 88. พระคูหาว่างเปล่า ข่าวดีจากทูตสวรรค์ (มก 16:1-8) 161เมื่อวันสับบาโตล่วงไปแล้ว...
“เชิญพระศพลงมา วางพระศพในคูหา” (2)
“เชิญพระศพลงมา วางพระศพในคูหา” 87. การฝังพระศพของพระเยซูเจ้า (2) b) ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน พระธรรมล้ำลึกยิ่งใหญ่แห่งความเชื่อคือ การที่พระเยซูเจ้าทรงถูกตรึงกางเขน สิ้นพระชนม์...
“เชิญพระศพลงมา วางพระศพในคูหา” (1)
“เชิญพระศพลงมา วางพระศพในคูหา” 87. การฝังพระศพของพระเยซูเจ้า (มก 15:42-47) 1542วันนั้นเป็นวันเตรียม คือวันก่อนวันสับบาโต 43ครั้นถึงเวลาเย็น โยเซฟชาวอาริมาเธียซึ่งเป็นสมาชิกน่านับถือคนหนึ่งของสภาซันเฮดรินและกำลังรอคอยพระอาณาจักรของพระเจ้า...
“สตรีบางคนมองดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ” (2)
“สตรีบางคนมองดูเหตุการณ์อยู่ห่าง ๆ” 86. กลุ่มสตรีที่เนินกัลวารีโอ (2) b) ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ในสตรีเหล่านี้ เราเห็นความรักมั่นคง ความซื่อสัตย์...

บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่ง

บทสวดของฉัน บทที่ 487 เมื่อลูกทำตัวเหมือนศักเคียส
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 487 เมื่อลูกทำตัวเหมือนศักเคียส:::: อ่าน/ดาวน์โหลด ::::
บทสวดของฉัน บทที่ 486 บทสวดวันปีใหม่ 2024
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 486 บทสวดวันปีใหม่ 2024:::: อ่าน/ดาวน์โหลด...
บทสวดของฉัน บทที่ 485 คริสต์มาสปี 2023
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 485 คริสต์มาสปี 2023:::: อ่าน/ดาวน์โหลด...
บทสวดของฉัน บทที่ 484 คำถามที่ไม่มีคำตอบ
My Little Prayers บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่งบทที่ 484 คำถามที่ไม่มีคำตอบ:::: อ่าน/ดาวน์โหลด ::::

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก

สมณลิขิตVerbum Domini

สมณลิขิตเตือน Verbum Domini ของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ที่ 1

สกู๊ป-พระวาจาบันดาลชีวิต

สกู๊ป-พระวาจาบันดาลชีวิต

เชิญมาอ่านพระคัมภีร์กันเถอะ

E-book เชิญมาอ่านพระคัมภีร์กันเถอะ

บทสวดของฉัน

บทสวดของฉัน โดย ลูกของพระองค์คนหนึ่ง

ศิลปะเพื่อพระเจ้า Art for God

ศิลปะเพื่อพระเจ้า โดย ศรินทร เมธีวัชรานนท์