“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

"พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ใดสำหรับข้าพเจ้า" อธิบายพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก โดย บาทหลวงฟรังซิส ไก้ส์
“ทุกคนที่สัมผัสพระเยซูเจ้าแล้วก็หายจากโรคภัย”

32. พระเยซูเจ้าทรงรักษาผู้เจ็บป่วยที่เมืองเยนเนซาเร็ธ (มก 6:53-56)
6 53พระเยซูเจ้าทรงข้ามฟากพร้อมกับบรรดาศิษย์ มาจอดเรือขึ้นฝั่งที่เมืองเยนเนซาเร็ธ 54เมื่อเสด็จขึ้นจากเรือประชาชนก็จำพระองค์ได้ทันที 55และคนในบริเวณนั้นต่างรีบมาหา นำผู้เจ็บป่วยนอนบนแคร่มาเฝ้าพระองค์ ณ สถานที่ที่เขาได้ยินว่าพระองค์ประทับอยู่ 56ไม่ว่าพระองค์เสด็จไปที่ใด ในหมู่บ้าน ในเมืองหรือในชนบท เขาก็นำผู้เจ็บป่วยมาวางตามลานสาธารณะ ทูลขอพระองค์ให้เขาสัมผัสเพียงชายฉลองพระองค์เท่านั้น และทุกคนที่สัมผัสแล้วก็หายจากโรคภัย


a) อธิบายความหมาย
ข้อความ สั้น ๆ นี้เป็นการสรุปกิจการของพระเยซูเจ้าช่วงระยะเวลาหนึ่ง ดังที่นักบุญมาระโกใช้บ่อย ๆ เพื่อเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่าง ๆ ในการเล่าพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า คำสรุปนี้ดูเหมือนไม่ได้เพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับพระเยซูเจ้าและความ สัมพันธ์ระหว่างพระองค์กับประชาชนหรือกับบรรดาศิษย์

- พระเยซูเจ้าทรงข้ามฟากพร้อมกับบรรดาศิษย์ มาจอดเรือขึ้นฝั่งที่เมืองเยนเนซาเร็ธ ก่อนหน้านั้น "พระเยซูเจ้าทรงสั่งให้บรรดาศิษย์ลงเรือข้ามฟากล่วงหน้าไปที่เมืองเบธไซดา" (6:45) แต่เพราะลมพัดแรงบรรดาศิษย์จึงไม่สามารถแล่นเรือไปที่นั่น ตลอดคืนเขาต้องกรรเชียงเรืออย่างเหน็ดเหนื่อยเพราะเรือทวนลม แม้พระเยซูเจ้าเสด็จไปหาเขาในเรือและลมก็หยุด แต่เรือไม่ได้เปลี่ยนทิศทางไปยังจุดมุ่งหมาย เขามาจอดเรือขึ้นฝั่งที่เมืองเยนเนซาเร็ธซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของทะเลสาบกา ลิลี เมืองนี้อยู่ในที่ราบชายฝั่งทะเลสาบ มีเนื้อที่กว้างประมาณ 4 กิโลเมตร ยาว 6 กิโลเมตร ตั้งระหว่างเมืองมักดาลาทางใต้กับเมืองทับคา (Tabgha) ทางเหนือ ฟลาวีอุส โยเซฟุส (Flavius Josephus, ค.ศ.37-100) นักประวัติศาสตร์โรมันเชื้อสายยิวบันทึกว่า ที่ราบนี้เป็นดินแดนอุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของปาเลสไตน์ทั้งหมด

- เมื่อเสด็จขึ้นจากเรือประชาชนก็จำพระองค์ได้ทันที และคนในบริเวณนั้นต่างรีบมาหา นำผู้เจ็บป่วยนอนบนแคร่มาเฝ้าพระองค์ ณ สถานที่ที่เขาได้ยินว่าพระองค์ประทับอยู่ โดยแท้จริงแล้ว ในต้นฉบับภาษากรีกไม่มีคำว่า "ประชาชน" "คน" และ "เขา" เป็นประธานของพระโยค มีเพียงคำกริยาในรูปแบบพหูพจน์ว่า "จำ" "รีบมาหา" "นำ" และ "ได้ยิน" ประโยคต่อไปในข้อความนี้ก็ไม่มีประธานเช่นกัน ซึ่งแสดงว่านักบุญมาระโกต้องการสรุปกิจการของพระเยซูเจ้าช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกระทำอัศจรรย์ต่าง ๆ น่าสังเกตข้อความนี้ไม่บอกว่าพระเยซูเจ้าทรงสั่งสอนประชาชน นักพระคัมภีร์บางคนจึงคิดว่า แม้ประชาชนได้เห็นอัศจรรย์มากมาย เขากลับเริ่มไม่ค่อยสนใจในคำสั่งสอนพระเยซูเจ้า ประชาชนมาหาพระองค์เพื่อจะได้รับการรักษาให้หายจากโรคภัยเท่านั้น ในทำนองเดียวกัน พระเยซูเจ้าจะเสด็จออกไปจากประชาชนในบริเวณนั้น (เทียบ 7:24)

- ไม่ว่าพระองค์เสด็จไปที่ใด ในหมู่บ้าน ในเมืองหรือในชนบท เขาก็นำผู้เจ็บป่วยมาวางตามลานสาธารณะ ทูลขอพระองค์ให้เขาสัมผัสเพียงชายฉลองพระองค์เท่านั้น และทุกคนที่สัมผัสแล้วก็หายจากโรคภัย ความปรารถนาของประชาชนที่ ต้องการสัมผัสเพียงชายฉลองของพระเยซูเจ้าสะท้อนให้เห็นความเชื่อถือในสมัย นั้นที่ว่า ผู้วิเศษแผ่พลังที่มีอยู่ในตนเหมือนสนามแม่เหล็ก ถ้าเขาสัมผัสผู้ใดหรือผู้ใดสัมผัสผู้วิเศษ แม้เพียงเสื้อเท่านั้น ก็จะได้รับการรักษาให้หายจากโรคภัย เช่น พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนเป็นโรคเรื้อนโดยทรงสัมผัสเขา (เทียบ 1:41) ทรงรักษาผู้ป่วยจำนวนมากที่ "เบียดเสียดกันเข้ามาเพื่อสัมผัสพระองค์" (3:10) ทรงรักษาหญิงตกเลือดที่ "เข้ามาเบื้องหลังและสัมผัสฉลองพระองค์" (5:27)

b) ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
1. พระเยซูเจ้าเสด็จไปที่ใด ประชาชนก็นำผู้เจ็บป่วยมาวางตามลานสาธารณะ ทูลขอพระองค์ให้เขาสัมผัสเพียงชายฉลองเท่านั้น และทุกคนที่สัมผัสแล้วก็หายจากโรคภัยทันที ประชาชนแสวงพระองค์เพื่อจะได้รับการรักษาให้หายจากโรคภัย เขาไม่มาเพื่อฟังคำสั่งสอนหรือรับการอภัยบาป เขาสนใจเพียงการรักษาฝ่ายกาย ไม่แสวงหาความรอดพ้น พระเยซูเจ้าทรงสงสารเขา จึงทรงให้การรักษา แต่คงจะทรงรู้สึกเสียพระทัยที่ประทานพระพรมากไปกว่านี้ไม่ได้ ประชาชนเข้าใจว่าพระเยซูเจ้าทรงมีผลประโยชน์สำหรับตน จึงใช้พระองค์และต้องการให้ประทับอยู่กับเขาเสมอ เพื่อจะพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บทุกชนิด และเราล่ะ เราไม่ควรตัดสินลงโทษการกระทำของประชาชนเหล่านั้น เพราะเป็นสัญชาตญาณของผู้มีความทุกข์ทรมานที่จะแสวงหาการพ้นทุกข์โดยใช้ผู้ อื่น เราควรพิจารณาว่าเคยประพฤติตนเช่นนี้บ้างหรือไม่ คือวอนขอพระเยซูเจ้าเมื่อต้องการความช่วยเหลือ แต่เมื่อทุกอย่างราบรื่นก็ลืมพระองค์ไป

2. เราต้องมีความรู้สึกนึกคิดเช่นเดียวกับพระคริสตเจ้าคือ สงสารเพื่อนมนุษย์ที่เจ็บป่วยด้วยโรคภัยต่าง ๆ และลงมือช่วยเหลือเขาทุกวิถีทาง แต่ไม่ยอมให้ผู้ป่วยคิดว่าเราอยู่ในหมู่เขาเพียงเพื่อรักษาโรคภัยเท่านั้น ตามพระฉบับของพระเยซูเจ้า เราต้องอยู่กับเขาเพื่อประกาศว่า พระเจ้าเป็นพระบิดาผู้ทรงรักมนุษย์ทุกคน และประกาศอีกว่า สิ่งชั่วร้ายในชีวิตไม่เป็นพียงโรคภัยไข้เจ็บ แต่ยังมีสิ่งชั่วร้ายมากกว่านั้นคือบาป เพราะบาปอาจทำให้มนุษย์ไม่บรรลุจุดมุ่งหมายของชีวิต เรามีความกล้าหาญที่จะประกาศความจริงนี้หรือไม่

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก