“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม 2017
สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา
มธ 8:5-17…
       5เมื่อพระองค์เสด็จเข้าเมืองคาเปอรนาอุม นายร้อยคนหนึ่งเข้ามาเฝ้าพระองค์ ทูลอ้อนวอนว่า 6“พระองค์เจ้าข้า ผู้รับใช้ของข้าพเจ้าเป็นอัมพาตนอนอยู่ที่บ้าน ต้องทรมานอย่างสาหัส” 7พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “เราจะไปรักษาเขาให้หาย” 8แต่นายร้อยทูลตอบว่า “พระองค์เจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่สมควรให้พระองค์เสด็จเข้ามาในบ้านของข้าพเจ้า แต่ขอพระองค์ตรัสเพียงคำเดียวเท่านั้น ผู้รับใช้ของข้าพเจ้าก็จะหายจากโรค

9ข้าพเจ้าเป็นคนอยู่ใต้บังคับบัญชา แต่ยังมีทหารอยู่ใต้บังคับบัญชาด้วย ข้าพเจ้าสั่งทหารคนนี้ว่า ‘ไป’ เขาก็ไป สั่งอีกคนหนึ่งว่า ‘มา’ เขาก็มา ข้าพเจ้าสั่งผู้รับใช้ว่า ‘ทำนี่’ เขาก็ทำ” 10เมื่อพระเยซูเจ้าทรงได้ยินเช่นนี้ ทรงประหลาดพระทัย จึงตรัสแก่บรรดาผู้ติดตามว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เรายังไม่เคยพบใครมีความเชื่อมากเช่นนี้ในอิสราเอลเลย 11เราบอกท่านทั้งหลายว่า คนจำนวนมากจะมาจากทิศตะวันออกและตะวันตก และจะนั่งร่วมโต๊ะกับอับราฮัม อิสอัคและยาโคบในอาณาจักรสวรรค์ 12แต่บุตรแห่งอาณาจักร จะถูกขับไล่ออกไปในที่มืดข้างนอก ที่นั่นจะมีแต่การร่ำไห้คร่ำครวญ และขบฟันด้วยความขุ่นเคือง” 13แล้วพระเยซูเจ้าจึงตรัสกับนายร้อยว่า “จงไปเถิด จงเป็นไปตามที่ท่านเชื่อนั้นเถิด” ผู้รับใช้ของเขาก็หายจากโรคในเวลานั้นเอง
14เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จเข้าไปในบ้านของเปโตร ทรงเห็นมารดาของภรรยาเปโตรนอนป่วยเป็นไข้ 15พระองค์จึงทรงจับมือนาง นางก็หายไข้ ลุกขึ้นและปรนนิบัติรับใช้พระองค์
16เย็นวันนั้น ประชาชนนำผู้ถูกปีศาจสิงจำนวนมากมาเฝ้าพระองค์ พระองค์ทรงขับปีศาจเหล่านี้ออกไปด้วยพระวาจา และทรงบำบัดรักษาผู้ป่วยทุกคน 17เพื่อให้พระวาจาที่ได้ตรัสไว้ทางประกาศกอิสยาห์เป็นความจริงว่า พระองค์ทรงรับเอาความอ่อนแอของเราไว้ และทรงแบกความเจ็บป่วยของเรา

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• สุดยอดของความเชื่อ และความสุภาพถ่อมตน กลับไม่ได้พบในชนชาติอิสราเอล ““เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เรายังไม่เคยพบใครมีความเชื่อมากเช่นนี้ในอิสราเอลเลย เราบอกท่านทั้งหลายว่า คนจำนวนมากจะมาจากทิศตะวันออกและตะวันตก และจะนั่งร่วมโต๊ะกับอับราฮัม อิสอัคและยาโคบในอาณาจักรสวรรค์ แต่บุตรแห่งอาณาจักร จะถูกขับไล่ออกไปในที่มืดข้างนอก ที่นั่นจะมีแต่การร่ำไห้คร่ำครวญ และขบฟันด้วยความขุ่นเคือง””

• วันเสาร์นี้พ่อสอนพระวรสารนักบุญยอห์นให้กลับกลุ่มผู้หว่าน รุ่นที่สี่ เพื่อสร้างบุคลากรพระคัมภีร์ เราได้ยินเรื่องของคนต่างชาติที่ลูกของเขาป่วย... เขาไปหาพระเยซูเจ้าขอให้พระองค์ไปรักษาลูกของเขา... เขาไม่ใช่ชาวยิว เขาต้องการความช่วยเหลือ พระองค์ไม่ได้ไปกับเขา ขณะที่เขาเร่งพระองค์ว่า “รีบไปเถิดก่อนที่ลูกเขาจะเสียชีวิต” แต่พระองค์ตรัสเพียงว่า “ไปเถิดลูกของท่านจะรอด”

• เขาได้เชื่อพระวาจา และกลับไป และพบว่า ลูกของเขารอด อาการดีขึ้น ณ เวลาที่พระองค์ตรัสกับเขาให้กลับไปนั่นเอง เขาจึงได้เชื่อในพระองค์.. คำตอบตรงๆ คือ ยอดเยี่ยม “เพียงพระวาจา” มีอำนาจรักษาลูกเขาให้หาย... พวกเราที่เรียนพระคัมภีร์ยอห์น พ่อยอมรับว่า พวกเขาบอกว่า “พระวาจา พระคัมภีร์ น่าทึ่งมากๆ” นี่คือสิ่งที่พ่อยืนยันจากประสบการณ์ตรงของพ่อกับการสอนพระคัมภีร์

• พ่อรีบนั่งเขียนบทอ่านของวันเสาร์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ... ก่อนเดินทางไปสุราษฎร์ธานี้เพื่อบรรยายเรื่องกฤษฎีกาหนึ่งวัน พ่อนั่งที่รอเรือบินอ่านพระวรสารของมัทธิว พบว่าพระวรสารตอนนี้สำหรับวันเสาร์นี้ก็ยอดเยี่ยมในเรื่องคล้ายกัน จนพระเยซูเจ้าปรารภว่า “ไม่เคยพบความเชื่อเช่นนี้เลยในอิสราเอล” พ่ออ่าน และไตร่ตรอง รู้สึกเหมือนกับ “ใกล้เกลือกินด่างอย่างไรก็ไม่ทราบ” เพราะชาวยิวมากมายที่ได้ใกล้ชิดพระองค์กลับไม่ค่อยเชื่อแต่กลับสงสัย และบรรดาสมณะคัมภีราจารย์อีกทั้งผู้ใหญ่กลับต่อต้าน และเอาพระองค์ถึงตายเพราะความอิจฉา.. (เรื่องนี้เราทราบดี) แต่ทำไม คนต่างชาติ ชาวสะมาเรีย (ยน 4) กลับต้อนรับและเชื่อในพระองค์ และคนต่างชาติเชื่อแม้เพียงพระวาจาเดียว...

• ไม่แปลกกระมังครับ...พ่ออยู่บ้านผู้หว่านสิบปี พ่อตั้งรูปแม่พระไว้ที่โถงต้อนรับ กลางโถงเลย ตั้งไว้บนแท่นที่ออกแบบเฉพาะ พ่อสังเกตและยืนยันได้ว่าบรรดาลูกๆบ้านผู้หว่านชาวพุทธสมัยที่พ่ออยู่ เจ้าหน้าที่ที่ทำงานขอเรา เวลาเดินเข้าเดินออก พวกเขายกมือไหว้กันอย่างศรัทธา พวกเขารักแม่พระอย่างน่าทึ่งจริงๆ น่ารักที่สุด... (แต่กลับกันบ่อยๆพ่อไม่เคยเห็นลูกๆที่เป็นคาทอลิกยกมือไว้แม่พระเลย... บางทีก็เป็นคนที่มีหน้าที่สำคัญๆในบ้าน (สำคัญนิดหน่อย) แต่พ่อไม่เคยเห็นยกมือไหว้รูปแม่พระเลย) ไม่แปลแม้ดูจากประสบการณ์ พ่อเห็นคนต่างศาสนาเดินเข้ามาเขาไหว้รูปแม่พระกันบ่อยที่นั่น น่าทึ่งครับ

• พี่น้องที่รัก พระวาจาวันนี้ พระเยซูเจ้าได้พบกับนายร้อยคนนั้นที่คาร์เปอนาอุม ความงดงามที่พ่อพบในตัวนายร้อยคนนี้ตั้งแต่เริ่มอ่าน คือ
o เขาน่ารักมาก เพราะเขาห่วงคนใช้ของเขา และรักคนใช้ของเขา และวิงวอนพระเยซูเจ้าเพื่อคนใช้ของเขา “นายร้อยคนหนึ่งเข้ามาเฝ้าพระองค์ ทูลอ้อนวอนว่า “พระองค์เจ้าข้า ผู้รับใช้ของข้าพเจ้าเป็นอัมพาตนอนอยู่ที่บ้าน ต้องทรมานอย่างสาหัส””
o เขาเชื่อในพระเยซู... เพราะเขาได้เข้ามาวิงวอนพระเยซูเจ้า เขาเป็นนายร้อย ต้องเรียกว่า เป็นระดับผู้ใหญ่ของที่นั่น และมีอำนาจของโรมันในมือ เขาสามารถไม่แยแสชาวยิวเลยด้วย แต่เขาเข้ามาหาพระเยซูและวิงวอนพระองค์
o “พระเยซูอ่อนโยนยิ่งกว่า” ทรงตอบรับทันที “เราจะไปรักษาเขาให้หาย” พ่อไตร่ตรองตรงๆว่า พระองค์น่ารักและอ่อนโยนพระทัยดีเหลือเกินครับ เราได้เห็นความอ่อนโยนและความพร้อมที่จะเสด็จไปตามคำร้องขอของทุกคนจริงๆ
o “ความสุภาพถ่อมตนและประกาศถึงความไม่เหมาะสมของตน ขณะเดียวกันเป็นการประกาศว่าเขายอมรับความยิ่งใหญ่ของพระเยซู” เป็นคำกล่าวของนายร้อยที่น่ารักมากๆ สุภาพมาก ถ่อมตัวมาก เป็นการยอมรับความยิ่งใหญ่ของพระเยซูมากจริงๆ... อ่านคำพูดของนายร้อยแล้วต้องยอมรับว่าสุดยอดและเราสามารถเลียนแบบเพื่อดำเนินชีวิตจริงๆ... “แต่นายร้อยทูลตอบว่า “พระองค์เจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่สมควรให้พระองค์เสด็จเข้ามาในบ้านของข้าพเจ้า แต่ขอพระองค์ตรัสเพียงคำเดียวเท่านั้น ผู้รับใช้ของข้าพเจ้าก็จะหายจากโรค” ข้อความนี้เป็นข้อความที่พระศาสนจักรนำมาให้พวกเราภาวนาพร้อมกับในทุกมิสซาก่อนรับศีลมหาสนิท พี่น้องจำได้ใช่ไหมครับ.. “ข้าพเจ้าไม่สมควรจะรับเสด็จพระองค์เข้ามา...แต่โปรดตรัสเพียงพระวาจาเดียว...”
o นายร้อยยกตัวอย่างตนเอง เป็นนายร้อย มีอำนาจ สั่งใครๆรอบข้าง สั่งให้ไปเขาก็ไป สั่งให้มาเขาก็มา... ข้อความนี้ เน้นให้เห็น “อำนาจและพลังของคำพูด หรือพลังของพระวาจา”

• พี่น้องที่รัก พ่อสอนพระคัมภีร์... พ่อเห็นชัดจริงๆ ว่า “พระวาจาของพระเจ้ามีพลังเหลือเกิน พระวาจาของพระเจ้าในพระคัมภีร์ที่พ่อสอนบรรดาสมาชิกผู้หว่านสอง และสอนพี่น้อง แบ่งปันพระวาจาเสมอๆ พ่อยอมรับว่า “พระวาจาทรงอำนาจจริงๆ””
• วันนี้คำสอนยืนยันว่า “พระวาจา” ขอตรัสเพียงคำเดียว... นายร้อยเชื่อว่าคนใช้ของเขาจะหาย ขอเพียงตรัส ไม่ต้องเสด็จไปใต้ชายคาของเขา เพราะไม่สมควรที่จะต้อนรับ ต่ำต้อยเกินไป...
• พ่ออยากเห็นพวกเราคริสตชน เชื่อแบบนี้ เชื่อในพระวาจา รักพระวาจา และยอมให้พระวาจาของพระเจ้าตรัสกับเราทางพระคัมภีร์... อยากให้เราได้อ่านพระคัมภีร์ ไตร่ตรองพระวาจาของพระเจ้า อ่านพระคัมภีร์กันให้มากที่สุดนะครับ และพี่น้องจะเห็นพลังอำนาจแห่งความรักและความอ่อนโยนของพระวาจาของพระเจ้ากันมากขึ้นจริงๆ

• พี่น้องที่รัก พระเยซูเจ้ามีพระวาจาทรงชีวิต มีพระหัตถ์ที่ทรงความรัก ทรงจับมือแม่ยายของเปโตร นางก็นายไข้ทันที ทรงรักษาคนเจ็บมากมาย ทุกคนต่างอยากให้พระองค์อยู่กับพวกเขา... พี่น้องที่รัก
o พี่น้องกำลังอยู่กับพระองค์ไหมครับ อยากฟังพระองค์ อยากอ่านพระวาจาจริงๆไหมครับ “ขอเพียงคำเดียว” เรารักพระองค์แบบนายร้อยต่างชาติคนนี้ไหม... เราไหว้ เคารพ ตระหนัก ระลึกถึงพระเจ้าแบบนายร้อยต่างชาติไหม... (ประสบการณ์บอกพ่อว่า บ่อยๆเป็นลูกคาทอลิกกลับเป็นที่สะดุดในสำนักงานของเราเอง ฉ้อโกง คอรัปชั่นในองค์กรของเรา บ่อยๆ เป็นพวกเราคาทอลิกเอง...น่าเศร้านะครับ) คงจริงอย่างที่พระเยซูเจ้าตรัส “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เรายังไม่เคยพบใครมีความเชื่อมากเช่นนี้ในอิสราเอลเลย” เรื่องนี้ เราจะยอมได้อย่างไร เราเป็นคริสตชน เป็นลูกพระเจ้าแท้ๆนะครับ...
o เราเชื่อแบบนายร้อยคนนี้ไหม เชื่อในพระวาจา วางใจในพระวาจา
o เราสุภาพถ่อมตนจริงๆ ไหม “ข้าพเจ้าไม่สมควรจะรับเสด็จพระองค์เข้ามาในเรา” เป็นอย่านี้จริงๆไหม เรารับศีลมหาสนิทอย่างสมควรไหม และที่สำคัญ...
o เราต้อนรับ เรากระทำกับพี่น้องผู้ต่ำต้อย คนยากไร้ คนด้อยโอกาส พี่น้องรอบข้างเรา เราได้ต้อนรับพวกเขาจริงๆไหม
o สรุป เรารักพวกเขาผู้ยากจน และเราได้ต้อนรับเพื่อนพี่น้องของเราเหมือนที่พระองค์รักเราไหมครับ

• พระเยซูเจ้า เสด็จที่นั่น ไม่มีใครอยากปล่อยพระองค์ไปเลย พระองค์แสนดีกับทุกคน จนพวกเขาอยากให้พระองค์อยู่กับเขาเสมอ...
o ขอให้ชีวิตของเราทุกคนเป็นเช่นนั้นนะครับ กับพี่น้องรอบข้างเรา เจ้านายกับลูกน้องขอให้ลูกน้องรอคอยให้เราอยู่ออฟฟิต อยู่สำนักงานมีเราแล้วพวกเขาอุ่นใจจะดีนะครับ.. คงดีกว่า พวกเขารอให้เราไม่อยู่ อยากให้เราไปพักร้อน อยากให้เราติดประชุม ไปต่างประเทศนานๆได้ยิ่งดี.. ไปไม่กลับเลยยิ่งยอดเยี่ยม จบกันเลย ไม่เอานะครับ แสดงว่า เราไม่น่ารัก...
o พ่อสงสัยว่าที่บ้านเณรใหญ่เขายังอยากให้พ่ออยู่ต่อหรือเปล่าหนอ..ไปพิจารณามโนธรรมไตร่ตรองชีวิตตนเองดีกว่า...

• พี่น้องครับ “น่ารักกันมากๆนะครับ สุภาพ อ่อนโยน ถ่อมตน ดูนายร้อยในพระคัมภีร์วันนี้เป็นตัวอย่างครับ” อย่าทำตัวเป็นคนแปลกหน้า หรือต่างชาติเสียล่ะครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก