“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม 2016

สัปดาห์ที่ 6 เทศกาลปัสกา 

กจ 16:11-15…

1เปาโลเดินทางมาถึงเมืองเดอร์บีและเมืองลิสตรา ที่เมืองนี้ศิษย์คนหนึ่งชื่อทิโมธี มารดาของเขาเป็นคริสตชนชาวยิว แต่บิดาเป็นชาวกรีก 2เขาเป็นที่นับถือของบรรดาพี่น้อง คริสตชนที่เมืองลิสตราและเมืองอิโคนิยุม 3เปาโลต้องการให้เขาร่วมเดินทางไปด้วย จึงให้เขาเข้าสุหนัต เพื่อเอาใจบรรดาชาวยิวที่อยู่ในที่ต่าง ๆ แถบนั้น เพราะทุกคนรู้ว่า บิดาของเขาเป็นชาวกรีก 4เมื่อคณะของเปาโลผ่านไปตามเมืองต่าง ๆ ก็แจ้งให้บรรดาคริสตชนรู้ข้อกำหนดที่บรรดาอัครสาวกและผู้อาวุโสตกลงกันที่กรุงเยรูซาเล็ม เตือนเขาให้ปฏิบัติตาม 5บรรดากลุ่มคริสตชนจึงมีความเชื่อมั่นคงยิ่งขึ้นและมีจำนวนคริสตชนเพิ่มขึ้นทุกวัน


6พระจิตเจ้าทรงห้ามคณะของเปาโลประกาศพระวาจาในแคว้นอาเซีย เขาจึงเดินทางผ่านแคว้นฟรีเจียและแคว้นกาลาเทีย 7มาถึงแคว้นมิเซีย เขาพยายามเข้าไปในแคว้นบิธีเนีย แต่พระจิตของพระเยซูเจ้า ไม่ทรงอนุญาตให้เข้าไป 8เขาจึงเดินทางผ่านแคว้นมิเซีย ไปถึงเมืองโตรอัส 9เวลากลางคืนเปาโลเห็นนิมิต ชาวมาซิโดเนียคนหนึ่งยืนอยู่ อ้อนวอนเปาโลว่า “โปรดข้ามมาในแคว้นมาซิโดเนียและช่วยพวกเราด้วยเถิด” 10เมื่อเปาโลเห็นนิมิตนี้แล้ว พวกเราก็หาโอกาสที่จะไปยังแคว้นมาซิโดเนียทันที เพราะเชื่อแน่ว่าพระเจ้าทรงเรียกเราให้ไปประกาศข่าวดีแก่ชาวแคว้นนั้นด้วย
11พวกเราแล่นเรือออกจากเมืองโตรอัส มุ่งไปยังเกาะซาโมธรัส วันรุ่งขึ้นก็เดินทางต่อไปถึงเมืองเนอาบุรี 12จากเมืองนี้เราเดินทางไปถึงเมืองฟิลิปปี อาณานิคมของชาวโรมัน เป็นเมืองเอกของแคว้นมาซิโดเนีย เราพักอยู่ที่เมืองนี้หลายวัน 13วันสับบาโตวันหนึ่ง เราออกนอกประตูเมืองไปยังริมลำธาร เพราะคิดว่าที่นั่นเป็นสถานที่สำหรับอธิษฐานภาวนา เรานั่งพูดคุยกับบรรดาสตรีที่มาชุมนุมกันอยู่ที่นั่น 14สตรีคนหนึ่งชื่อ ลิเดีย มาจากเมืองธิอาทิรา เป็นคนขายผ้ากำมะหยี่สีม่วงแดง เป็นคนเลื่อมใสในพระเจ้าฟังเราอยู่ องค์พระผู้เป็นเจ้าเปิดใจนางให้ยอมรับถ้อยคำของเปาโล 15นางและทุกคนในครอบครัวรับศีลล้างบาป แล้วจึงเชิญเรา พูดว่า “ถ้าท่านคิดว่าดิฉันเป็นผู้มีความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว จงมาพักที่บ้านของดิฉันเถิด” นางเชิญชวนจนเราปฏิเสธไม่ได้

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง

• “เปาโล เดินทาง เดินทาง และเดินทาง หยุดไม่ได้เพราะความรัก...”
o ความกระตือรือร้นเพื่อพระนามของพระเยซูคริสตเจ้า... ชีวิตคือธรรมทูตสำหรับผู้ที่เชื่อในพระคริสตเจ้า...

• ใครเป็นผู้กระตุ้นเตือนหรือผลักดันให้เปาโลเดินทางเช่นนี้...
o คำตอบ คือ ความรักของพระคริสตเจ้าผลักดันเปาโลให้เดินทางตลอดไป
o คนที่มีความรักอยู่เฉยไม่ได้
o ความรักทำให้คนที่มีความรักแสวงหา ออกกำลังกายใจ เดินทาง และมุ่งไปสู่เพื่อนพี่น้องเพื่อประกาศข่าวดี...

• พ่อเคยได้พบประสบการณ์ของเพื่อนๆที่มีความรัก ทั้งทางตรงและทางอ้อมหรือประสบการณ์ของทุกคนที่มีความรักที่พ่อจินตนาการได้ หรือแม้แต่ได้เคยดูในละครก็ตาม พ่อพบความจริงว่า
o คนที่มีความรักไม่เคยอยู่เฉยที่จะทำทุกอย่างเพื่อคนที่รัก... จริงไหมครับ...
o พ่อเองก็ต้องยอมรับความจริงว่า ถ้าเรารักใครสักคนหรือสักกลุ่ม ถ้าเรามีความรัก เราจะกล้าออกจากทุกอย่าง ยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อความสุข เพื่อความดีของคนที่เรารัก….

• พ่อเคยคิดถามตนเองว่า ทำไมนักบุญเปาโลเป็นคนที่ร้อนรนเพื่อการประกาศข่าวดีนัก พ่อเคยคิดว่าทำไมท่านเดินทางไปไม่รู้จักหยุดหย่อน แม้เรือแตก แม้ถูกเบียดเบียน ถูกเฆี่ยน ถูกปองร้าย ถูกจองจำ... และท่านประกาศว่า “แต่พระวาจาของพระเจ้าจะถูกจองจำไม่ได้....”
o นั่นคือประเด็นสำคัญที่สุด เพราะ “ความรัก ความรัก ความรัก” ที่มีต่อพระวาจาของพระเจ้า
o เพราะความรักที่มีต่อพระเยซูคริสตเจ้า ผู้ที่ท่านได้พบในแสงสว่างและเสียงจากพระองค์ บนถนนไปเมืองดามัสกัส และท่านได้กลับใจ และทุ่มสุดกำลังเพื่อพระนามของพระองค์จนแม้ต้องตายก็ไม่กลัว เพราะความรักต่อพระองค์....
o นักบุญเปาโลเป็นตัวอย่างของการเดินทางตลอดไปวางใจในพระเจ้าและเชื่อในพระองค์

• พี่น้องที่รัก นักบุญเปาโลคนเดียวทำให้คนต่างศาสนามากมายได้มารู้จักพระคริสตเจ้า และทำให้คนต่างชาติจำนวนมหาศาลได้กลับมารับความเชื่อในพระองค์

• กิจการอัครสาวกทำให้เราเห็นว่า ท่านได้รับพลังของพระจิตเจ้า พลังแห่งความรักของพระเจ้า ทำให้ท่านเดินทาง มุ่งหน้าตลอดไปเพื่อประกาศพระนามของพระองค์...

• พ่อได้เห็นตัวอย่างจากหนังสือกิจการอัครสาวก ถ้าเราดูดีๆ ถ้าเราอ่านดีๆ เราจะพบว่า หนังสือกิจการอัครสาวกนั้น พื้นที่ส่วนใหญ่ มากกว่าครึ่งคือเรื่องราวการกลับใจและการประกาศข่าวดี การเดินทางของเปาโล...

• จากการตรวจสอบศึกษาไตร่ตรองหนังสือกิจการอัครสากนี้ทำให้พ่อยิ่งมั่นใจ
o “ความรัก” ทำให้เรากล้าออกเดินทางในความเชื่อ และเจริญชีวิตในความรักตลอดไป...
o พระศาสนจักรสอนเราในเอกสาร “ประตูแห่งความเชื่อ” ว่า “ ความเชื่อเป็นจริงเฉพาะในประสบการณ์แห่งความรัก” ดังนั้น
o ถ้าเราเจริญชีวิตในความรักจริงๆ เฉพาะการเจริญชีวิตในหนทางแห่งความรักเท่านั้น ที่เราคริสตชนจะสามารถกล่าวได้ว่า เรามี “ความเชื่อ”
o เพราะความเชื่อที่ปราศจากกิจการแห่งความรักเป็นความเชื่อที่ตายแล้ว หรือเป็นความเชื่อที่งมงายและไม่มีอยู่จริง
o ดังนั้นนักบุญเปาโลเป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ เพราะท่านได้พบ ได้เชื่อ และได้เชื่ออย่างลึกซึ้งท่านจึงออกไปประกาศข่าวดีด้วยความรักต่อทุกคนอย่างไม่หยุดยั้ง เพราะความรัก... ความเชื่อ ความรักที่เป็นประสบการณ์จริงขยายหัวใจของเราไปสู่ความหวังและความหวังนั้นไม่มีที่สิ้นสุด...

• พี่น้องที่รัก สัปดาห์ที่หกเทศกาลปัสกาแล้ว เราได้อ่านกิจการอัครสาวกตลอดมาอย่างต่อเนื่อง พ่อเชื่อว่า กิจการอัครสาวกอันที่จริง ตัวอย่างของเปาโลชัดที่สุดว่า “กิจการอัครสาวกคือกิจการของความรัก และเป็นกิจการของความหวังที่เป็นพลังมาจากความเชื่อในพระเยซูเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนม์ พระคริสตเจ้า องค์ปัสกาของเรานั่นเอง”

• พ่อขอย้ำนะครับ...
o กิจการของเราคริสตชนจำเป็นต้องเป็นกิจการแห่งความรักและการประกาศข่าวดีแห่งความรักเสมอไม่จบสิ้นไม่มีวันสิ้นสุดความหวัง เพราะถ้าเรามีความเชื่อแท้จริงในพระเยซูคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนม์ตลอดไป....

• พ่อขอให้เรามั่นใจในความเชื่อในพระเยซูผู้ทรงกลับคืนพระชนม์ และแน่นอนถ้าเป็นเช่นนั้น คริสตชนผู้มีความเชื่อ เราต้องเจริญชีวิตในความรักในความเมตตาและในความดีต่อพี่น้องอย่างไม่มีทางอื่นใดที่จะดีไปกว่านี้ได้เลย

• ขอพระเจ้าอวยพรให้เรากล้าหาญในความรัก ความรักต่อพระเยซู เหมือนกับบรรดาอัครสาวกของพระเยซูเสมอไป
o ขอให้ “ความรักของพระคริสตเจ้าเร่งรัดผลักดันชีวิตของเราเสมอไป ให้รักพระองค์ในเพื่อนพี่น้องมากขึ้นทุกวันนะครับ....”
o เพราะนี่คือความเชื่อของเราจริงๆ ตัวอย่างของนักบุญเปาโล... จะเห็นว่า เสียงของพระจิตเจ้าเรียกร้อง พระจิตเจ้าองค์ความรัก... นำเปาโลให้เดินทาง เดินทาง มิได้หยุดหย่อน... พลังของความรักต่อพระเจ้านี้จึงเป็นพลังของ “การเดินทาง” แห่งความรักจริงๆ... ดูตัวอย่างเปาโลนี้อีกทีครับ รวมทั้งการตอบรับของลิเดียที่พระจิตเจ้าเปิดใจนางให้ร่วมงานกับเปาโล และพร้อมจะรับใช้ แบ่งปัน และให้ที่กับเปาโลเพื่องานธรรมทูต... พ่อสรุปให้สั้นๆ ดังนี้
o เปาโลเดินทางมาถึงเมืองเดอร์บีและเมืองลิสตรา
o พระจิตเจ้าทรงห้ามคณะของเปาโลประกาศพระวาจาในแคว้นอาเซีย เขาจึงเดินทางผ่านแคว้นฟรีเจียและแคว้นกาลาเทีย มาถึงแคว้นมิเซีย
o เขาพยายามเข้าไปในแคว้นบิธีเนีย แต่พระจิตของพระเยซูเจ้า ไม่ทรงอนุญาตให้เข้าไป
o เขาจึงเดินทางผ่านแคว้นมิเซีย ไปถึงเมืองโตรอัส
o พวกเราแล่นเรือออกจากเมืองโตรอัส มุ่งไปยังเกาะซาโมธรัส
o วันรุ่งขึ้นก็เดินทางต่อไปถึงเมืองเนอาบุรี
o จากเมืองนี้เราเดินทางไปถึงเมืองฟิลิปปี อาณานิคมของชาวโรมัน เป็นเมืองเอกของแคว้นมาซิโดเนีย เราพักอยู่ที่เมืองนี้หลายวัน
o สตรีคนหนึ่งชื่อ ลิเดีย มาจากเมืองธิอาทิรา.... เชิญเรา พูดว่า “ถ้าท่านคิดว่าดิฉันเป็นผู้มีความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว จงมาพักที่บ้านของดิฉันเถิด” นางเชิญชวนจนเราปฏิเสธไม่ได้

• พี่น้องที่รัก เรื่องการเดินทางด้วยพลังแห่งความรักนี่เป็นสิ่งที่เราคริสตชนน่าจะได้พิจารณาไตร่ตรองกันให้มากขึ้นๆเสมอครับ..

• พระศาสนจักรเป็นธรรมทูตจริงๆ เราก็เป็นธรรมทูตจริงๆ เช่นกัน พ่อคิดว่า เราควรเหลือเกินที่จะ “ออกเดินทาง” ไปประกาศพระคริสตเจ้า เราต้องกล้าออกไปจริงๆ ครับ พระสันตะปาปาฟรังซิสสอนเราหนักแน่นมากให้เราคริสตชนต้องกล้าออกไป ไปยังเพื่อนพี่น้องของเราให้มากกว่าที่เคยครับ... อ่าน Evangelii Gaudium กันอีกหน่อยนะครับ อ่านเจตนาเตือนใจจากพระสันตะบิดรของเราอย่างดีๆครับ
o คริสตชนทุกคน ทุกคนจริงๆ ต้องรู้สึกให้ได้ถึงความจำเป็น รู้สึกจริงๆว่าต้องนำความรักของพระคริสต์ไปยังผู้อื่น และต้องทำให้เป็น “พันธกิจถาวร” ของเราทุกคน
o เราต้องเอาชนะความยากของปัจจุบัน คือ โลก กระแสโลก ที่หยิบยื่นปัจเจกนิยมให้กับเรา แต่เราต้องเอาชนะด้วยการออกไปเพื่อนำความรักไปจริงๆ (EG 2)
o พระสันตะปาปาเรียกร้องให้ผู้อ่านคำสอนนี้ ได้ค้นพบความสดชื่นแท้จริงที่มาจากพระวรสาร... ต้องค้นพบหนทางใหม่ที่สร้างสรรค์ โดยไม่ทำให้ข่าวดีของพระเยซูเจ้าต้องถูกเก็บเงียบไปเป็นอันขาด (EG 11)
o เราทุกคนได้รับเรียกสู่การออกเดินทางธรรมทูตครั้งใหม่ คริสตชนทุกคนและชุมชนทั้งหมด จะร่วมกันพิเคราะห์แยกแยะว่า หนทางใดที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียกร้องเรา อย่างไรก็ตาม เราทุกคนได้รับเชิญให้ยอมรับเสียงเรียกนี้ คือการออกจากความสะดวกสบายปลอดภัยของตนเอง และมีความกล้าหาญที่จะไปยังทุกพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่างแห่งพระวรสาร (EG 20-24)
o พระสันตะปาปาย้ำสอนเตือนใจเราคริสตชนอย่างเด็ดขาดว่า พระองค์ต้องการพระศาสนจักรที่บอบช้ำ บาดเจ็บ และมอมแมมจริงๆ เพราะพระศาสนจักรได้ออกไปสู่ผู้คนบนถนน มากกว่าพระศาสนจักรที่ใส่ใจแต่การเป็นของตนเอง เป็นศูนย์กลางเท่านั้น

• พี่น้องที่รักครับ ให้เรากล้าออกเดินทางเช่นเปาโล พ่อขอให้เราคริสตชนร่วมกันจริงๆครับ คือ
o ให้เรากล้าประกาศเล่าเรื่อง พูดถึงพระเยซูและบัญญัติแห่งความรักให้มากขึ้นกว่าที่เคย
o ให้เราคริสตชนกล้าเจริญชีวิตเป็นประจักษ์พยานจริงๆว่าเรามีศรัทธาในพระเยซู
o ให้เรากล้าเจริญชีวิตในความรักและที่สำคัญรักในความจริงและความถูกต้องยุติธรรม
o ให้เรากล้าเถิดครับกล้าเจริญชีวิตในความรักต่อคนยากไร้ กล้าออกไปหาคนยากจนเป็นพิเศษให้มากขึ้นกว่าที่เคย กล้าออกจากความปลอดภัยของเราออกไปร่วมหัวจมท้ายกับพี่น้องผู้ยากไร้และเป็นเหยื่อของกระแสโลกที่เห็นแก่ตัวและคอรัปชั่น
o พี่น้องที่รักครับขอให้เราร้อนรนด้วยการกล้าออกเดินทางเพื่อประกาศข่าวดี ประกาศความยินดีแห่งพระวรสารให้ไปถึงพี่น้องของเราทุกคนมากขึ้นนะครับ ขอพระเจ้าอวยพรนะครับ พระศาสนจักรคงมีชีวิตชีวาน่ารักมาก ถ้าเราทุกคนเข้มแข็งในการเจริญชีวิตคริสตชนให้โดดเด่นกว่าที่เคยเสมอมา นี่คือข้อเรียกร้อง พระสมณะสาสน์เตือนใจของพระสันตะปาปาฟรังซิสอย่างหนักแน่นจริงๆครับ..

• พ่อเองก็กล้าขอเรียกร้องเช่นกัน คือ
o ขอให้เรากล้ามอมแมมมากขึ้น เพราะเราได้ออกไปกอบกู้เพื่อนพี่น้องผู้ยากไร้และเป็นเหยื่อของระบบเศรษฐกิจที่อยุติธรรม และระบบเศรษฐกิจที่กลายเป็นเครือข่ายของบาป
o ก็ยังดีกว่าที่เราคริสตชนจะพลอยมือเปื้อนเลือดไปด้วยเพราะเราได้ไหลตามกระแสไป ไหลไปทำให้ความเป็นมนุษย์ของพี่น้องของเราต้องหายไปเพราะการค้ามนุษย์และการเอาเปรียบคนยากจนครับ “เครือข่ายฆาตกรรมเหล่านี้ก่อตัวเกิดขึ้นในสังคมอย่างเงียบๆ และคนจำนวนมากมือเปื้อนเลือดเพราะเข้าไปมีส่วนร่วม “กระทำ” (EG 211)

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก