“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันศุกร์ที่ 1 เมษายน 2016
วันศุกร์ในอัฐมวารปัสกา

กจ 4:1-12….
           1ขณะที่เปโตรและยอห์นกำลังปราศรัยกับประชาชนอยู่นั้น บรรดาสมณะพร้อมกับนายทหารรักษาพระวิหารและบรรดาชาวสะดูสีได้เข้ามาพบ 2เขาไม่พอใจมากที่ทั้งสองคนสั่งสอนประชาชนและประกาศว่าบรรดาผู้ตายจะกลับคืนชีพเพราะพระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพ 3เขาจับกุมเปโตรและยอห์นจองจำไว้จนถึงวันรุ่งขึ้น เพราะเป็นเวลาเย็นแล้ว 4แต่หลายคนที่ฟังคำเทศน์สอนนั้นมีความเชื่อ และจำนวนของคนเหล่านี้เพิ่มขึ้นถึงประมาณห้าพันคน


5วันรุ่งขึ้น บรรดาผู้ปกครอง ผู้อาวุโสและธรรมาจารย์ มาประชุมกันในกรุงเยรูซาเล็ม 6พร้อมกับอันนาส มหาสมณะ คายาฟาส ยอห์น อเล็กซานเดอร์และสมาชิกทุกคนในครอบครัวมหาสมณะ 7เขานำเปโตรและยอห์นมาอยู่กลางที่ประชุม แล้วเริ่มซักถามว่า “ท่านทั้งสองคนทำการโดยอำนาจหรือในนามของผู้ใด” 8เปโตรเปี่ยมด้วยพระจิตเจ้ากล่าวกับเขาว่า “ท่านผู้ปกครองประชาชน และผู้อาวุโสทั้งหลาย 9วันนี้เราทำความดีรักษาผู้ป่วยคนหนึ่ง เราจึงถูกสอบสวนว่าคนนี้หายจากโรคได้อย่างไร 10ท่านทั้งหลายและประชาชนอิสราเอลทุกคนจงรู้เถิดว่า ชายคนนี้หายจากโรคมายืนอยู่ต่อหน้าท่านทั้งหลาย ก็เพราะพระนามของพระเยซูคริสตเจ้าชาวนาซาเร็ธ ซึ่งท่านนำไปตรึงกางเขน แต่พระเจ้าทรงบันดาลให้กลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย 11พระเยซูเจ้าองค์นี้ทรงเป็นศิลาซึ่งท่านทั้งหลายผู้เป็นช่างก่อสร้างขว้างทิ้งเสีย แต่ได้กลายเป็นศิลาหัวมุม 12ไม่มีผู้ใดช่วยให้เรารอดพ้น เพราะใต้ฟ้านี้พระเจ้ามิได้ประทานนามอื่นแก่มนุษย์นอกจากนามนี้ที่ช่วยเราให้รอดพ้นได้

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• “ถ้าไม่ใช่พระเยซูแล้วจะเป็นใคร ที่พระนามของพระองค์ทรงอำนาจขนาดนี้”....
• ชาวสะดูสีไม่พอใจแน่ที่เปโตรและยอห์นประกาศเรื่องพระเยซูเจ้าผู้กลับคืนชีพ... เพราะพวกเขาไม่เชื่อเรื่องการกลับคืนชีพ..
• ใช่ครับ ชาวสะดูสีไม่เชื่อเรื่องนี้และพวกเขาไม่พอใจ... แต่หลายคนฟังเทศน์ของเปโตรและยอห์นกลับเชื่อ... วันนี้พ่ออยากพูดถึงสะดูสีหน่อยครับ....

o ในยุคที่มีความแตกแยกภายในหลังสมัยยูดาห์มัคคาบี... ในอิสราเอลมีการแตกแยกอยู่ภายในพวกประชาชน เรียกว่า ดูข้างนอกก็อิสราเอล แต่ลึกๆก็แตกแยกกันอยู่เนืองด้วยวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน
1. พวกที่ได้ชื่อเป็นฟาริสีที่เคร่งครัดธรรมบัญญัติ
2. กับพวกที่เรียกว่า “ไม่เคร่งครัด” คือพวก สะดูสี

o พวกสะดูสีนี้ พวกเขาไม่เคร่งครัดและใช้ชีวิตตามกระแสโลกอย่างมากๆทีเดียวครับ... พวกนี้อันที่จริงได้รับอิทธิพลจากกระแสของกรีก
o สมัยที่อาเล็กซานเดอร์มหาราชครอบครองและใช้ภาษาและวัฒนธรรมกรีกเข้ามาเป็นสื่อในการปกครอง ปี 333-323 ก่อนคริสตกาล
o ความคิดแบบกระแสโลก และแบบกรีก หรือโลกีย์จึงเข้ามากอย่างแรงเช่นกัน
1. พวกที่ไม่เห็นด้วยก็พยายามเคร่งครัดและหันไปหาธรรมบัญญัติของโมเสส คือพวกฟาริสี...
2. ส่วนพวกที่ไหลตามกระแสและทิ้งความเคร่งครัดไปคือพวกที่ถูกเรียกว่าสะดูสี

o อันที่จริงพวกนี้คือพวกที่อยู่กับพระวิหาร อยู่กับพระอยู่กับเจ้านี่แหละครับ...
o และรากศัพท์ของคำว่าสะดูสี จริงๆมาจากคำว่าว่าเซเดค... หรือ ศาโดก แล้วต่อจะออกเสียง
o ภาษาฮีบรูเขียน צְדוּקִים Ṣĕdûqîm อ่านออกเสียงฮีบรู “เสะดูคีม” เป็นกลุ่มชาวยิวนี่แหละครับ อย่างที่บอก พวกนี้มีอิทธิ์พลมาตั้งแต่ช่วงเวลาที่มีพระวิหารหลังที่สองที่สร้างขึ้นใหม่ เราเรียกว่า Second Temple period คือช่วงสมัยพระวิหารหลังที่สอง
o โยเซฟุส ฟลาวิอุส (Josephus Flavius) นักประวัติศาสตร์สำคัญได้กล่าวถึงพวกนี้ว่า เป็นผู้ทรงอิทธิพลทางเศรษฐกิจและสังคม มีอิทธิพลทางศาสนา การเมือง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการดูแลพระวิหาร
o ที่แน่ๆ ที่ไม่น่าเลย ไม่ควรเป็นเช่นนั้นเลยจริงๆ คือพวกสะดูสีที่ทำตัวไหลตามกระแสโลกเน้นโลกียะเน้นสุขเน้นเงินทองและชีวิตสบายๆนี้เขาส่วนใหญ่เป็นพวก “สมณะ ครอบครัวสมณะ หรือสงฆ์ทั้งหลายนั่นเอง” พวกเขาอยู่กับพระวิหารทำงานที่พระวิหาร แต่เลือกที่จะไหลตามกระแสโลกโลกีย์จนเรียกว่า เคยตัว... ไหลไปตามกระแสโลกมากจนไม่ได้เน้นความเชื่อเชื่อเรื่องการกลับคืนชีพ แต่ใช้ชีวิตสุขสบายตามกระแสวัฒนธรรมกรีกเสียเป็นส่วนใหญ่....
o น่าคิดนะครับ กลุ่มที่ใกล้พระใก้ลเจ้ากลับไม่เชื่อเรื่องการกลับคืนชีพของร่างกาย... เหตุผลเพราะพวกเขาเน้น “ชีวิตนี้เป็นของเรา...ใช้ซะ” ภาษาวัยรุ่นหน่อย ชีวิตนี้ใช้ซะ เต็มที่กับมัน ไม่มีชีวิตหน้า ไม่มีการกลับคืนชีพ... ปล่อยตัวเต็มที่ไปตามกระแสโลกนิยม... และเรียกว่า เป็นสุขนิยม ไม่ต้องกังวล...
o ไม่สนใจในธรรมประเพณีที่ซื่อตรงต่อโมเสส... จึงขัดแย้งกันมากกับคนที่อยากเคร่งครัดธรรมบัญญัติของโมเสสคือพวกฟาริสี ก็สุดต่างไปอีกทางอีกนั่นแหละ... กลายเป็นสองพวกจนถึงสมัยพระเยซู และอัครสาวก...

• เวลาพ่อเขียนเรื่องสะดูสี พ่อรู้สึกจริงๆ รู้สึกสะเทือนตนจริงๆเหมือนกัน บางทีเราคริสตชนฆราวาส นักบวช หรือแม้แต่พวกเราเราพระสงฆ์ ที่ว่าเชื่อในพระเจ้า หรือยืนหยัดเป็นหลักของความเชื่อ แต่บางทีเราก็ขาดความเชื่อ หรือ เชื่อ แต่ปฏิบัติก็ไหลตามกระแสโลกเหมือนกันนะเรา

• น่าคิดครับ... พระนามพระเยซูมีอำนาจมากเหลือเกิน แต่บางทีเราก็ลืมไป...

• วันนี้เทศน์ให้ตัวเองฟังเป็นพิเศษ ให้คริสตชนฟังเป็นพิเศษ

o บางทีเราเองก็ไม่ค่อยเอาจริงเอาจังกับบัญญัติของพระเจ้า และบัญญัติพระศาสนจักร แต่เอาแต่ใจตัวเอง เลือกตามใจ สุขตามใจ จนลืมความรักและพี่น้องเหมือนกัน...
o จนบางทีก็กัดกร่อนทำลายกันและกัน แบ่งพรรคแบ่งพวกกัน ไม่ได้ฟังเสียงของพระเจ้าทางกันและกัน หรือมีเจตนาแฝงที่จะก่อให้เกิดความแตกแยก แต่อ้างเจตนาดี เจตนาบริสุทธิ์ ขณะเดียวกันก็ยุแหย่ยุยงให้เกิดความคิดขัดแย้ง การพูดทำลายกันโดยเม้าท์เอามั่วและเมามันส์หรือเรียกว่าพูดให้คนอื่นๆ เสียหายและตนเองดูดี หรือพูดใส่ร้ายคนอื่นเพื่อให้ตนเองได้หน้าตาทางการ ได้ก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ก็อาจจะมีนะในหมู่สมณะและในหมู่นักบวช...
o จะเรียกว่าอะไรดี เรียกว่าเป็นคริสตชน หรือเป็นนักบวช เป็นพระสงฆ์ ประเภท “ดื้อตาใส” หรือประเภท “ด้านตาบอด” คือ หน้าตาใสซื่อมากสำเนียงหวานหูพูดจาน่าฟังเป็นแบบเรียกว่าเปี่ยมด้วยพิธีการในการเสวนางดงาม เสนอเรื่องราวเรื่องเล่าแบบดูซื่อแต่แฝงทำลายกันและกัน
o ปัจจุบันมีอาการแบบนี้ครับ คือ สิ่งที่พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงเน้นว่าต้องไม่ดำเนินชีวิตนักบวชพระสงฆ์แบบ “ชีวิตสีเทา” ชีวิตที่ดูเหมือนดีแต่กัดกร่อนเอกภาพและความรักต่อกันและกัน

• น่าคิด เพราะคำว่า “สะดูสี” เป็นรากคำของคำว่า “สมณะ” เสียด้วย
o เอาเถอะพ่อขอสอนตนเองในฐานะพระสงฆ์ก่อนอื่นใดก็ดี
o สอนตนเองก่อนแล้วค่อยสอนฆราวาสต่อไป
o แม้เขียนไปๆ วันนี้พ่อจะรู้สึกเหมือนโดนเตะลูกเข้าประตูตัวเองอย่างแรง แต่ก็พร้อมจะเตือนตัวเองแรงๆ เหมือนกันครับ

• พ่อเองเป็นพระสงฆ์ พ่อต้องเชื่อในพระเยซู และต้องเจริญชีวิตตามบัญญัติของพระองค์เต็มที่เป็นอันดับแรก... แต่บางทีเราก็ใช้ชีวิตอาจดูอ่อนแอเหมือนกัน... และแน่นอนนักบวช และฆราวาสก็ต้องเป็นเช่นกันมิใช่หรือครับ คือต้องรวมกันในความรักหนึ่งเดียวมากๆ นะครับ ฟังเสียงพระเจ้าให้มาก น้ำใสใจจริงนะครับ ดื้อด้านแบบตาใสไม่เอาดีกว่านะครับ

• ดังนั้น วันนี้ ขอพระนามของพระเยซูเจ้า พระนามทรงอำนาจกอบกู้พ่อเอง และพี่น้องสมณะ พี่น้องคริสตชนผู้ร่วมในสังฆภาพแห่งศีลล้างบาป...

• ขอให้เรา กลับใจ หันมาฟังคำสอนของพระเยซูผู้ทรงกลับคืนพระชนม์ และให้เราดำเนินชีวิตเหมือนกับคนที่ได้รับการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า เป็นคนที่เชื่อในพระองค์จริงๆ รักพี่น้องด้วยจริงใจ เห็นแก่ส่วนรวมเหมือนพระเยซูทรงรักเราด้วยเทอญ

• พ่อต้องเตือนตัวเองเป็นพิเศษจริงๆ ว่าชีวิตของเราเชื่อในพระเยซูผู้ทรงกลับคืนชีพจริงๆ แล้วละหรือ
o ถ้าเราเชื่อ เราจะไม่มีวันปล่อยให้พี่น้องของเราสักคนต้องตายตลอดไปจากความรักและความทรงจำของเราแน่ๆ ถ้ามีความเชื่อจริงๆ ต้องไม่มีใครเป็นง่อยจากความสามารถที่จะรัก และพบเรา
o ถ้ามีใครที่ยังง่อยกาย โดยเฉพาะง่อยใจ หรือตาบอดตาใส ฯลฯ พวกเราก็ต้องหายจากกลุ่มอาการดังกล่าวได้

• พ่อขอให้พวกเราเองต้องพ้นจากอาการง่อย หงิก งอ หรือมือหด ใจแคบ... ที่ถ้าพวกเราคริสตชนไม่ได้ยื่นมือไปหาใครหลายๆ คนที่รอคอยความรักจากเราจริงๆ นะครับ..

• คงมีคนจำนวนมากที่รอคอยเรา รักเรา อยากได้ให้เราไม่ง่อยที่จะเดินไปหา หรือหยิบยื่นความรักความเมตตาสำหรับเขา...

• พี่น้องที่รักครับ ให้เราเชื่อในพระพระนามพระเยซูผู้ทรงกลับคืนพระชนม์นะครับ... ถ้าเราเชื่อ เราจะเห็นพระองค์ในพี่น้อง และช่วยให้ทุกคนได้กลับคืนชีพ มีชีวิตใหม่ที่ดีๆกว่าที่เคย โดยเฉพาะพี่น้องที่ต้องการความช่วยเหลือและรอคอยชีวิตที่ดีกว่าที่เคย....

• พ่อขอละครับ

o ขอให้เราประกาศพระเยซูผู้คืนพระชนม์เสมอในชีวิต ในกิจการของเรา ที่ทำให้ทุกคนรอบข้างมีความรักและมีความหวังนะครับ
o อย่าทำลายความรักความหวังของใคร โดยเฉพาะถ้าเรากระทำไปแบบตาใสใจดื้อ หรือหวังดีประสงค์ร้าย คือมีวาระซ่อนเร้นในจิตใจ ไม่ซื่อตรงละก็
o ให้เรากลับใจเสมอครับ ..... พระเจ้าอวยพรครับ อ่านพระคัมภีร์ด้วยนะครับ

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก