รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันอังคารที่ 22 มีนาคม 2016
สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์

อ่านบทเพลงของผู้รับใช้เพลงที่สองครับ ต่อจากเมื่อวาน และพ่อจะอธิบายสานต่อกันให้เห็นว่า เราทุกคนคือผู้รับใช้ของพระเจ้า และต้องติดตามยอดแห่งผู้รับใช้ คือ “พระคริสตเยซู” นะครับ อ่านก่อนเลยครับ

อสย 49:1-6…
1ดินแดนชายทะเลและเกาะทั้งหลายเอ๋ย จงฟังข้าพเจ้าเถิด
ประชาชนที่อยู่สุดแดนไกล จงตั้งใจฟังเถิด
พระยาห์เวห์ทรงเรียกข้าพเจ้าก่อนที่ข้าพเจ้าเกิด
ทรงขานชื่อข้าพเจ้าตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา


2พระองค์ทรงทำให้ปากข้าพเจ้าเป็นเสมือนดาบคม
ทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในร่มเงาพระหัตถ์ของพระองค์
ทรงทำให้ข้าพเจ้าเป็นเสมือนลูกศรแหลมคม
และทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในแล่งเก็บลูกศรของพระองค์
3พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “อิสราเอลเอ๋ย ท่านเป็นผู้รับใช้ของเรา
เราจะแสดงสิริรุ่งโรจน์ของเราโดยทางท่าน”
4แต่ข้าพเจ้ากลับคิดว่า “ข้าพเจ้าได้ทำงานเหนื่อยเปล่า
ข้าพเจ้าเสียแรงไปเปล่าๆ ไร้ประโยชน์”
ถึงกระนั้น รางวัลของข้าพเจ้าอยู่กับพระยาห์เวห์อย่างแน่นอน
และค่าตอบแทนของข้าพเจ้าก็อยู่กับพระเจ้าของข้าพเจ้า
5 พระยาห์เวห์ทรงสร้างข้าพเจ้ามาในครรภ์มารดาให้เป็นผู้รับใช้พระองค์
เพื่อนำยาโคบกลับมาหาพระองค์
และรวบรวมอิสราเอลมาอยู่กับพระองค์
บัดนี้ พระองค์ตรัสกับข้าพเจ้า และข้าพเจ้าได้รับเกียรติเฉพาะพระพักตร์พระองค์
พระเจ้าของข้าพเจ้าทรงเป็นพละกำลังของข้าพเจ้า
6พระองค์ตรัสว่า “เป็นการน้อยไปที่ท่านจะเป็นผู้รับใช้ของเรา
เพื่อสถาปนาเผ่าพันธุ์ของยาโคบขึ้นใหม่
และรวบรวมอิสราเอลที่เหลืออยู่อีกครั้งหนึ่ง
เราจะให้ท่านเป็นแสงสว่างส่องนานาชาติ
เพื่อความรอดพ้นที่เรานำมาให้จะได้แผ่ไปจนสุดปลายแผ่นดิน”

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• วันที่อังคาร หรือวันในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์วันที่สอง เราได้อ่านบทเพลงของผู้รับใช้...

• “บทเพลงของผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์” พ่อมั่นใจว่า ผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์มีลักษณะที่สำคัญ และพ่ออยากนำบทอ่านของเมื่อวานนี้มาแตกประเด็นลักษณะของผู้รับใช้ของพระยาห์เวห์ เพื่อว่าอาศัยการอ่านและไตร่ตรองนี้
o พวกเราจะได้เดินตามพระคริสตเจ้าผู้รับใช้แท้จริงที่เป็นต้นแบบให้กับเราในการดำเนินชีวิตในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์และตลอดไป...
o เราพิจารณากันนะครับ และพยายามเก็บอัตลักษณ์ของผู้รับใช้ของพระเจ้าไว้ในเราทุกคนให้ได้นะครับ

• “นี่คือผู้รับใช้ของเรา ซึ่งเราเชิดชู เราเลือกเขาเพราะเราพอใจเขา เราให้จิตของเราแก่เขา
o ผู้รับใช้ของพระเจ้าที่แท้จริงนั้น เราพบว่า เขาจำเป็นต้องมี “จิตของพระเจ้าในชีวิต” หรือ มีพลังของพระเจ้าในชีวิตของเขาอย่างแท้จริง
o ดังนั้น พ่อต้องถามตนเอง ถามพวกเราทุกคนครับเราอย่างว่า พี่น้องที่รักครับ เราต่างเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า เราได้มีพระเยซูเจ้าเป็นต้นแบบ และผู้รับใช้ต้องเปี่ยมด้วยจิตของพระเจ้า
o พ่อถามตรงๆ ว่า เราเป็นคริสตชนเป็นคนของพระเจ้า มี “พระเจ้าสถิตกับเรา” หรือถามว่า “จิตของพระเจ้า เปี่ยมล้นในชีวิตของเราจริงๆหรือไม่”
o พระเจ้าเลือกเราให้เป็นคริสตชนแท้จริงนั้นไม่ต้องสงสัยครับ... แต่ว่าเราแต่ะคนได้เปี่ยมด้วยพลังของพระเจ้าจริงๆไหมครับ

• เขาจะนำความยุติธรรมไปให้แก่นานาชาติ
o อัตลักษณ์ประจำตัวของผู้รับใช้คือ “ความยุติธรรม”
o พ่อคิดว่าชีวิตที่โดดเด่นของเราคริสตชนต้องโดดเด่นในความยุติธรรม ในความถูกต้องเที่ยงตรงและสอนความยุติธรรม กระทำสิ่งที่ยุติธรรม
o กล่าวง่ายๆ คริสตัง ไม่ควรเลยที่จะกระทำอยุติธรรมกับใครๆ เราโดดเด่นในความยุติธรรม ความถูกต้องใช่ไหมครับ...
o พระสันตะปาปาฟรังซิสสอนเราในเรื่อง “สันติภาพ” และเน้นความยุติธรรมมากๆ ครับ ในคำสอน Evangalii Gaudium (ความชื่นชมของพระวรสาร)...
o พระสันตะปาปาย้ำว่า เราทุกคน คือ “ประกาศก” เสียงของประกาศกต้องดังขึ้น
o ต่อสู้อย่างหนักแน่นกับการกระทำที่ทำให้เสียงของคนยากจนต้องเงียบงันและจำนน และต่อสู้กับกลุ่มคนที่ไม่ให้โอกาสหรือไม่ให้เกียรติแก่คนยากจน (EG218)
o เพื่อสร้างสังคมแห่งสันติสุขนั้น “ความยุติธรรม และภารดรภาพ คือ หลักการสำคัญที่สุด” (EG221)
o พี่น้องครับ เราคริสตชนต้องเป็นคนยุติธรรมมากๆ เลยนะครับ รักความยุติธรรม สร้างสันติแท้จริงได้ครับ

• เขาจะไม่ร้องตะโกนหรือเปล่งเสียงดัง จะไม่ทำให้ใครได้ยินเสียงของเขาตามถนน
o ผู้รับใช้ของพระเจ้า ต้องอดทนกับความเท็จ ไม่ย่อท้อ และไม่ยอมให้กับความอยุติธรรม ไม่โอดครวญแต่เพียรทนถ้าต้องกระทำเพื่อความดี ความจริง และความยุติธรรม

• ไม้อ้อที่ช้ำแล้ว เขาจะไม่หักและไส้ตะเกียงที่ริบหรี่อยู่ เขาจะไม่ดับ เขาจะประกาศความยุติธรรมด้วยความสัตย์จริง
o ชอบประโยคนี้จริงๆครับ ไม่ดับความหวังของใคร ไม่ทำลายความหวังเล็กน้อยของผู้ที่มีความหวังอยู่เล็กน้อย ผู้รับใช้ของพระเจ้า ชีวิตของเรา เราต้องเป็นความหวัง ไม่ดับความหวังของคนอื่นๆ ชีวิตของเราต้องทำให้ทุกคนมีความหวังจริงๆ พ่อบอกตรงๆว่าการดับความหวังของคนอื่นที่มีความหวังเพียงน้อยนิดนั้นเป็นบาปที่หนักหนานัก เป็นการขาดความรักมากที่สุดจริงๆนะครับ ความหวังที่ของคนยากจน ความหวังของคนยากไร้ชายของสังคม เราต้องไม่ดับหรือทำลายเป็นอัดขาด เพราะความรักต้องก่อให้เกิดความหวังแท้จริงให้จงได้อยู่เสมอ
o พระสันตะปาปาอธิบายว่า ในการที่เราสัมพันธ์และสัมผัสกับโลก เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องให้เหตุผลจริงๆของ “ความหวัง” ของเรา ไม่ใช่กระทำไปแบบตั้งตนเป็นศัตรูที่คอยเอาแต่วิจารณ์และกล่าวหาตัดสิน (EG 71)

• เขาจะไม่หมดหวังหรือท้อใจ จนกว่าจะได้สถาปนาความยุติธรรมไว้บนแผ่นดิน
o ผู้รับใช้ของพระเจ้าจะต้องดึงดันมุ่งมั่นให้เกิดความยุติธรรมให้ได้
o ไม่มีวันยอมให้กับความไม่ยุติธรรม
o พ่อสังเกตว่า ลักษณะที่ดีของเราผู้รับใช้ของพระเจ้า คือ ความยุติธรรมจริงๆครับ ให้เราพยายามใส่ใจกับเรื่องนี้กันดีๆจริงๆนะครับ
o คริสตชนต้องเป็นคนซื่อสัตย์และยุติธรรมที่สุดให้ได้ครับ)

• ต่อด้วยวันนี้จากอิสยาห์บทที่ 49 เป็นบทเพลงของผู้รับใช้บทที่สองครับ
o เป็นอีกบทเพลงที่เราจะอ่านและบรรเลงลงสู่ชีวิตของเรา ตามแบบอย่างผู้รับใช้ของพระเจ้า ตามแบบพระคริสตเจ้าครับ
o พระเจ้าทรงรู้จักเรียกเราตั้งแต่ในครรภ์มารดาเพื่อเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าเพื่อให้เราเป็นผู้ที่ทรงความยุติธรรม
o เครื่องหมายคือการตัดสิน... “พระองค์ทรงทำให้ปากข้าพเจ้าเป็นเสมือนดาบสองคม”
o วาจาของเราผู้รับใช้ของพระเจ้า คำพูดของเราต้องเป็นความจริง ความการตัดสินแยกแยะความจริงจากความเท็จ
o พ่อเชื่อว่า พลังของพระเจ้าที่อยู่ในเราคือพลังแห่งความยุติธรรมความเที่ยงตรง
1. เราต้องสามารถแยกแยะกระแสธรรมและความเที่ยงตรงออกจากกระแสโลกที่รุนแรง
2. เราต้องชัดเจนในการเจริญชีวิตในความจริง
3. พ่อเคยถามตนเองเสมอว่า เราเป็นพลังของพระเจ้าที่มีความชัดเจน เพียงพอหรือยัง
4. เราเป็นลูกศรแหลมคมในแล่งเก็บลูกศรของพระเจ้าไหมเพื่อพระองค์จะใช้เพ่อทะลุทะลวงความชั่วร้าย เพื่อประกาศความจริงและความดี
5. เรามีพลังของพระเจ้าพอแล้วหรือ
6. เราเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าที่มีความเชื่อมั่นในพระองค์พอแล้วหรือ...
7. พระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าได้รับประกาศเด่นชัดในชีวิตของพ่อและของพี่น้องแล้วหรือ...
o นี่เป็นคำถามในใจ ที่อยากให้เกิดความมุ่งมั่นเอาจริงกับการเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าเพื่อประกาศความยุติธรรมและสันติ ความรัก ที่มาจากความเชื่อในพระเจ้า...
o เราได้เป็น “แสงสว่างส่องโลก” จริงๆแล้วหรือ ชีวิตของเราได้เป็นพลังแห่งแสงแห่งความรักของพระเจ้าได้เต็มที่แล้วหรือยังหนอ

• พี่น้องครับ... ช่วงนี้ สามวันนี้วันจันทร์ถึงวันพุธในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์... เราเน้นการเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้านะครับ และวันพฤหัสบดีถึงวันเสาร์ ตรีวารปัสกา เราจะได้สัมผัสยอดแห่งผู้รับใช้ของพระเจ้า คือ “พระทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า” หรือที่เราเรียกว่า “พระรรมล้ำลึกปัสกาครับ... เราจะได้อัดแน่นและเห็นจริงๆจากการไตร่ตรองธรรมล้ำลึกแห่งผู้รับใช้ของพระจ้าแท้จริง เพราะพระเยซูคือต้นแบบ และเราต้องเดินตามพระองค์

• เราควรเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้าเหมือนพระเยซูเจ้าครับ... ขอพระเจ้าอวยพรครับ อ่านพระคัมภีร์มากๆนะครับ และเราจะรู้ว่าข้อความนี้เป็นความจริงครับ “เป็นการน้อยไปที่ท่านจะเป็นผู้รับใช้ของเราเพื่อสถาปนาเผ่าพันธุ์ของยาโคบขึ้นใหม่ และรวบรวมอิสราเอลที่เหลืออยู่อีกครั้งหนึ่ง เราจะให้ท่านเป็นแสงสว่างส่องนานาชาติ ความรอดพ้นที่เรานำมาให้จะได้แผ่ไปจนสุดปลายแผ่นดิน”