“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันอังคารที่ 15 มีนาคม 2016
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต 

กดว 21:4-9
4ชาวอิสราเอลออกเดินทางจากภูเขาโฮร์มุ่งสู่ทะเลต้นกก เพื่อเลี่ยงแผ่นดินเอโดม แต่ขณะที่อยู่ตามทางประชากรเริ่มหมดความอดทน 5จึงพากันบ่นว่าพระเจ้าและโมเสสว่า “ทำไมท่านจึงพาพวกเราออกมาจากประเทศอียิปต์ให้มาตายในถิ่นทุรกันดารนี้เล่า ที่นี่ไม่มีทั้งน้ำและอาหาร พวกเราเบื่ออาหารจืดชืดนี้เต็มทีแล้ว”


6พระยาห์เวห์ทรงส่งงูพิษ มากัดประชาชน ทำให้ชาวอิสราเอลตายเป็นจำนวนมาก 7คนทั้งปวงจึงไปหาโมเสสขอร้องว่า “พวกเราทำบาปเพราะบ่นว่าพระยาห์เวห์และบ่นว่าท่าน ขอท่านได้ทูลพระยาห์เวห์ให้ทรงขจัดงูพิษเหล่านี้ออกไปเสียเถิด” โมเสสจึงอ้อนวอนพระเจ้าเพื่อประชากร 8แล้วพระยาห์เวห์ตรัสแก่โมเสสว่า “จงทำงูโลหะติดไว้บนเสา ผู้ที่ถูกงูกัดและมองดูงูโลหะนั้น จะรอดชีวิต” 9โมเสสจึงทำงูทองสัมฤทธิ์ขึ้นติดไว้ที่เสา ผู้ที่ถูกงูกัด และมองดูงูทองสัมฤทธิ์นั้นก็รอดชีวิต

อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
• เพื่อเข้าใจพระคัมภีร์วันนี้ที่เราได้อ่าน เรื่องราวการถูกงูกัด และการต้องมองดูงูโลหะหรือสัมฤทธิ์ขนเสาหลักที่ตั้งขึ้น ... ก่อนอื่นครับ พ่ออยากเล่าประสบการณ์สั้นๆ ก่อนที่เราจะอ่านกันก่อน พ่ออยากจะเล่าถึงประสบการณ์การพบคำถามที่เคยท้าทายความคิด และถ้าทายการไตร่ตรองของเรานิดหน่อย...

• พ่อเคยมีประสบการณ์จริงๆ กับคำถามของคนหนึ่งในขณะที่พ่อบรรยายพระคัมภีร์ให้คนจำนวนมากที่ภาคใต้ ที่บ้านชุมพาบาล หลายปีมาแล้ว พ่อจำได้ว่า ชายคนหนึ่งยืนขึ้นถามพ่อด้วยความสงสัย และด้วยความตั้งใจที่จะต้องการคำตอบ...คำถามคือ

o เขาถามพ่อว่า.... “คุณพ่อครับ ทำไมคริสตชนคาทอลิกเคารพแต่ศพคนตายบนไม้กางเขน ทำไมเรากราบไว้นมัสการศพคนตาย คือ พระศพพระเยซูเจ้าบนกางเขนทั้งๆที่พระองค์กลับคืนชีพแล้ว...” พ่อตอบทันทีอย่างรอบคอบและระมัดระวังว่า
o “เข้าใจผิดครับลูก.... เราคริสตชนไม่เคยนมัสการความตายเลย
o เราคริสตชนไม่เคยบูชาความตาย...
o เราไม่ได้นมัสการพระศพในฐานะที่เป็นพระศพ
o แต่รู้ไหมว่าเมื่อเรามองดูพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน เมื่อเราได้มองดูพระศพของพระองค์บนกางเขนนั้นเราคิดถึงอะไร... เราคิดถึงอะไร
o อันที่จริงเราระลึกถึง “ความรัก” ต่างหากครับ ไม่ใช่ความตายที่เราศรัทธาและบูชา แต่อันที่จริงเราระลึกถึงความจริงที่ว่า “ทรงรักเราถึงเพียงนี้” (Sic nos amantem)
o ดังนั้น บนไม้กางเขนพระศพที่เรามองดู เราพิศเพ่งอยู่นั้น คือ เราพิศเพ่งความรักอันยิ่งใหญ่ที่สุดของพระเจ้าผู้ทรงรักเราถึงเพียงนี้จริงๆ

• พี่น้องที่รัก ให้เรากลับมาที่หนังสือกันดารวิถี...

• การที่โมเสสได้ยกงูโลหะขึ้นบนเสาในถิ่นกันดาร เมื่อประชาชนได้ทำบาปผิดต่อพระยาห์เวห์ และถูกงูกัดและต้องตาย การมองดูงูโลหะนั้นมีความหมายอย่างไร...
o แน่นอนครับงูโลหะนั้นไม่ใช่รูปเคารพ ไม่ใช่การบูชารูปงูทองสัมฤทธิ์ เหมือนๆกับเรื่องที่พ่อเล่าครับ ไม่ใช่ครับ ไม่ใช่การบูชาพระศพที่แขวนบนกางเขน เพราะอันที่จริง พระองค์ได้กลับคืนพระชนม์แล้ว และเรามองดูไม้กางเขนนั้น เราได้แต่คิดถึงความรัก... เราได้ตระหนักถึงความรักของพระองค์ เราได้สำนึกถึงบาปของเรา
o แต่งูโลหะนั้นใช้แทนงูที่มากัดพวกเขาเพราะพวกเขาได้ทำบาป
o และการตั้งรูปงูและการมองดูงูนั้นเพื่ออะไรจริงๆ ทำไมต้องตั้งรูปงูโลหะนั้นด้วย... คำตอบคือ
o ก็เพื่อจะได้สำนึกถึงบาปที่ตนได้กระทำ พวกเขาได้กระทำอะไรลงไป
o ดูผลของบาปสิ ดูรูปงูสิ และคิดถึงงูที่มากัดสิและสำนึกเสียว่าได้ทำอะไร
o ในกรณีของพันธสัญญาใหม่ สำหรับพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขนก็เป็นเช่นนี้
o อันที่จริง การมองดูพระเยซูเจ้าบนกางเขนก็ทำให้เราเข้าใจสิ่งที่พระเยซูเจ้าได้กระทำ คือพระองค์ยอมตายเพื่อไถ่บาป
o ความตายของพระองค์เพราะทรงรักเรา รักเราแม้เราได้กระทำบาป
o ผลของบาปคือความตาย และพระองค์ทรงยอมรับผลของบาปนั้น เพื่อเป็นเครื่องหมายว่าทรงรักเราถึงเพียงนี้จริงๆ

• พี่น้องที่รัก เราอยู่ในเทศกาลมหาพรต และเรากำลังก้าวไปสู่สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์วันที่เรา มองดูพระเยซูเจ้าบนกางเขน ฟังพระวาจาอย่างพิเศษ “เรื่องเล่าพระทรมาน” ที่อ่านอย่างสง่าในพิธีกรรม...

• พ่อยอมรับว่า พิธีกรรมของเรา มหาพรตยามนี้ของเรา กำลังได้นำเราคริสตชนไปสู่การมองดูพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน เราคริสตชนเทิดทูนกางเขนจริงๆ เราเทิดทูนความตายของพระองค์บนไม้กางเขน อันที่จริงเราไม่ได้เทิดทูนความตายในฐานะที่เป็นการเสียชีวิตหรือถูกประหารชีวิต
o แต่...เราคริสตชนเราเทิดทูนที่สุด เราเทิดทูนความรักของพระเยซูเจ้าตลอดไป...

• พี่น้องที่รักครับ อ่านเรื่องราวของหนังสือกันดารวิถีวันนี้... เราจึงไม่ต้องแปลกใจ ถ้าเราจะนำเรื่องราวของกันดารวิถีนี้มาสู่ความจริงแห่งการมองดูพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน..

• แทนที่จะแปลกใจ เรากลับต้องปลื้มใจที่เราเทิดทูนความรักของพระองค์ที่ทรงรักเราถึงเพียงนี้ รักเราถึงกับยอมสละทุกอย่างด้วยความสุภาพถ่อมพระองค์

• ยอมลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์รับทรมานและสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่บาปของเรา เพื่อให้เราได้คืนดีกับพระเจ้าพระบิดา ให้เราได้สามารถรับความรดพ้นอาศัยพระทรมาน การสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์...

• พ่อเชิญชวนสุดกำลังเลยนะครับ ให้เราในมหาพรตปีนี้ และสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ในปีนี้ ให้เราได้พิศเพ่งไตร่ตรองและเทิดทูนความตายของพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน “เพราะทรงรักเรา” เทิดทูนพระองค์เหนือชีวิตจิตใจ เทิดทูนสูงสุดคือเทิดทูนพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน นั่นคือเทิดทูนความรักของพระองค์สูงสุดในชีวิตของเราครับ...

• วันนี้พ่อขอจบลงด้วย ข้อความจากจดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวฟิลิปปี

• ที่พ่อนำบทเพลงมาในวันนี้ พ่อขอนำส่วนต้นของบทจดหมายนี้บทที่ 2 มาสรุปให้อ่านเพื่อส่งท้ายครับ เพื่อเราจะได้มีเอกภาพกันที่กางเขน เอกภาพที่ไหนหรือ พ่อหมายถึงเอกภาพที่ได้พิศเพิ่งมองดูพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขน (เปรียบกับการมองดูรูปงูโลหะที่อยู่บนเสาหลักที่โมเสสได้ตั้งไว้ คือ การมองดูความรักอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่ทรงรักเรา...)

• เราได้เห็นพระเยซูเจ้าในความสุภาพถ่อมตนของพระองค์ ที่ยอมถ่อมองค์มารับความตายบนไม้กางเขน...นั่นเอง... เปาโลเขียนไว้ชัดเจนว่า
o “ถ้าท่านได้รับกำลังใจจากการเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้า ถ้าท่านได้รับกำลังใจจากความรัก ถ้าท่านเป็นหนึ่งเดียวกันในพระจิตเจ้า ถ้าท่านเห็นอกเห็นใจสงสารกัน ท่านจงทำให้ข้าพเจ้ามีความยินดีอย่างเต็มเปี่ยมโดย…..
1. การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
2. มีความรักแบบเดียวกัน
3. มีความรู้สึกนึกคิดอย่างเดียวกัน
4. อย่ากระทำการใดเพื่อชิงดีกันหรือเพื่อโอ้อวด
5. แต่จงถ่อมตนคิดว่าผู้อื่นดีกว่าตน
6. อย่าเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว
7. จงเห็นแก่ผลประโยชน์ของผู้อื่นด้วย
8. จงมีความรู้สึกนึกคิดเช่นเดียวกับที่พระคริสตเยซูทรงมีเถิด” (ฟป 2:1-5)

• พี่น้องที่รักครับ ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านอย่าลืมว่า เราไม่ได้เทิดทูนความตาย เราไม่ได้กราบไว้งูทองสัมฤทธิ์ แต่เราคริสตชนต้อง
o สำนึก
o ตระหนักถึงบาปและการละเมิดที่ได้กระทำ
o เราปรารถนาจะคืนดีและกลับมาหาพระองค์
o เพราะเหนือสิ่งอื่นใด พระองค์ทรงรักเราถึงเพียงนี้ พ่อคิดว่า นี่คือมหาพรตแท้จริงสำหรับเรา

• ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านนะครับ... ให้เรามองดูพระองค์บนกางเขน และสำนึกถึงความรักของพระองค์ และที่สำคัญ สำนึกถึงบาปที่เราอาจจะอ่อนแอ ความผิดทั้งหลาย แต่พระเจ้าทรงรักเราเหลือเกิน เกินกว่าที่เราจะเข้าใจได้จริงๆนะครับ... มหาพรตคือเวลาแห่งความอัดแน่นของการพิศเพ่งความรักของพระเจ้าครับ... ขอพระเจ้าช่วยให้เราได้เห็นความรักของพระองค์มากที่สุดจริงๆ นะครับ อ่านพระคัมภีร์ด้วยนะครับ

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก