“ถ้าท่านทั้งหลายยึดมั่นในวาจาของเรา ท่านก็เป็นศิษย์ของเราอย่างแท้จริง" (ยน. 8:31)

รำพึงพระวาจาประจำวัน โดยคุณพ่อสมเกียรติ  ตรีนิกร
วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน 2015
สัปดาห์ที่สามสิบสี่ เทศกาลธรรมดา
ลก 21:12-19…
12แต่ก่อนที่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้น เขาจะจับกุมท่าน จะเบียดเบียนท่าน จะนำท่านไปไต่สวนในศาลาธรรม และจะจองจำท่านในคุก เขาจะนำท่านไปยืนต่อหน้ากษัตริย์และผู้ว่าราชการเพราะนามของเรา 13และนี่จะเป็นโอกาสให้ท่านเป็นพยานถึงเรา 14จงตัดสินใจว่าท่านจะไม่หาคำแก้ตัวไว้ก่อน 15เราจะให้คำพูดและปรีชาญาณแก่ท่าน ซึ่งศัตรูของท่านจะต้านทานหรือโต้แย้งไม่ได้ 16บิดามารดา พี่น้อง ญาติและมิตรสหายจะทรยศต่อท่าน บางท่านจะต้องถูกประหารชีวิตด้วย 17ท่านทั้งหลายจะเป็นที่เกลียดชังของทุกคนเพราะนามของเรา 18แต่เส้นผมบนศีรษะของท่านจะไม่เสียไปแม้แต่เส้นเดียว 19 ด้วยการยืนหยัดมั่นคงท่านจะรักษาชีวิตของท่านไว้ได้”



อรรถาธิบายและไตร่ตรอง
  

• พระวรสารนักบุญตามคำบอกเล่าของลูกา บทนี้ยังคงดำเนินต่อไปในเรื่องอวสานตกาล จุดประสงค์เพื่อเตือนสอนเราให้เราได้ตระหนักถึงวันเวลาจริงๆ ให้เราได้ใส่ใจกับวันเวลาจริงๆ ถ้าเราได้ดูอย่างดีๆเราจะเห็นว่า โลกนี้ช่างมีการเบียดเบียน มีสิ่งต่างๆ เกิดขึ้นเสมออย่างไม่น่าเชื่อ เพราะความรุนแรงความน่ากลัวในรูปแบบต่างๆ ... แต่อ่านดีๆครับ สำหรับเราคริสตชนผู้เชื่อในพระเยซูเจ้าหามีอะไรต้องกลัวไม่ เพราะวรรณกรรมวิวรณ์ในพระวรสารที่เรานำมาอ่านตอนปลายปีพิธีกรรมนี้เตือนเราให้เรารู้ถึงเวลา... เวลานั้น คือ เวลาแห่งความรักที่สุดของพระเจ้าผู้ทรงรักเรา “Sic Nos Amantem” ทรงรักเราถึงเพียงนี้... เวลา ที่มนุษย์อยากรู้อยากเห็นในโลก เวลาแห่งอวสานของโลก... หาใช้เนื้อหาสำคัญที่เราควรจะแสวงหาไม่... ไม่เลย... แต่เวลาแท้จริงที่เราควรรับรู้ที่สุด คือ เวลานั้น.. เวลาที่พระเจ้าทรงรักเรามากที่สุด...

• ถ้ามเราถามหญิงที่ตั้งครรภ์ใกล้จะคลอด และถามว่า เวลาที่เขากลัวที่สุด คือ เวลาไหน... กังวลที่สุดคือเวลาใด... คำตอบพ่อคิดว่าน่าจะ (พ่อไม่ทราบโดยส่วนตัวเพราะไม่เคยตั้งครรภ์ทบทวนไตร่ตรองจากประสบการณ์ที่ได้เห็น) เป็นเวลาที่หญิงคนนั้นจะคลอดบุตร.. เธอคงกลัวความเจ็บปวดที่สุด กลัวที่สุดยิ่งถ้าเป็นบุตรคนแรก เป็นการคลอดครั้งแรก
o (แต่ถ้าเป็นอย่างคุณแม่ของพ่อมีบุตร 15 คน คงไม่ห่วงอะไรเพราะคุ้นเคยจนอาจจะไม่กลัวอะไรมากแล้ว แต่ถามว่ากลัวไหม กังวลไหม... แม่คงรู้สึกเพียงว่า ฉันจะต้องเจ็บปวดอีกแล้ว แล้วลูกคลอดออกมาจะเป็นอย่างไร จะครบครันไหม หรือจะมีอะไรบกพร่องไหม... ก็คงมีในใจของแม่แน่ๆ)
o (จนมาถึงพ่อเอง คนที่ 14 ขอบคุณแม่ที่พร้อมและยินดีจะตั้งครรภ์จนถึงพ่อและน้องคนสุดท้อง ถ้าแม่ตัดสินใจไม่ยอมตั้งครรภ์หรือเจ็บต่อไป พ่อก็ไม่ได้มานั่งเขียนอยู่ขณะนี้แน่ๆ เขียนไปแล้วคิดถึงจัง ขอบคุณแม่จริงๆ พ่อกับน้องสาวคือพ่อคนที่ 14 กับน้องคนี่ 15 ไม่มีอะไรต่อรองกับแม่เลย แต่แม่ต่างหากที่ยอมและรักเราจนเรามีวันนี้)

• การให้กำเนิดบุตรของหญิงแต่ละคน พ่อไม่ทราบว่าเจ็บแค่ไหน... แต่มีคนเคยเล่าและแพทย์เคยประมาณว่า การคลอดบุตรแต่ละครั้ง (คลอดธรรมชาติ ไม่ผ่าตัดวางยานะครับ) ความเจ็บปวดของร่างกายของหญิงที่เป็นมารดานั้น เมื่อให้กำเนิด ภาษาอังกฤษเพราะๆใช้คำว่า (Deliver) เหมือนคือการส่งมอบชีวิตออกมากก็ได้ มีความหมายดีครับ... การคลอดบุตรแต่ละครั้ง ร่างกายแม่จะเจ็บปวดราวกระดูกหักแหลกไปทั้งร่างกาย... (ได้ยินเขาว่ากันนะครับ) โอย กระดูกหักชิ้นเดียวก็แย่แล้วครับ แต่หักแหลกไปทั้งสรรพางค์กายไม่ไหวนะครับ... แต่แม่ทุกคนทนได้... เพราะ “รัก รัก รัก” ที่สุด...

• เป็นอันว่าเวลาที่น่ากลัว น่าวิตก ห่วงใยที่สุด กลายเป็นเวลาที่แม่ทุ่มเทหัวใจ เทความรักให้ลูกมากที่สุดที่จะ ส่งชีวิตของลูกออกมาสู่การหายใจเฮือกแรกของชีวิตลูกและลมหายใจนี้จะไม่หยุดไปจนวันลาจากโลกนี้เลย... ช่างล้ำค่าจริงๆ ความเจ็บปวดดุจกระดูหักทั้งร่างช่างเป็นความรักที่ยิ่งใหญ่จริงๆ

• พี่น้องที่รัก... นี่คือเหตุผลต่อเนื่องที่พ่อไตร่ตรองรำพึงพระวรสาร เพราะพระวรสารนำเสนอเสมอ...“ก่อนที่พระทรมาน การสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้าจะมาถึง” มีบทที่เป็นวรรณกรรมแบบวิวรณ์เตือนเรื่องวันเวลา เรียกว่าเป็นบทนำพระทรมาน.. พระทรมานซึ่งอันที่จริง เป็น “ความรักที่สุดที่พระองค์ทรงรักเราถึงเพียงนี้”
o อย่าแปลกใจที่ก่อนเรื่องเล่าพระทรมาน พระวรสารทั้งมัทธิว มาระโก ลูกา มีบทนำที่เป็นวรรณกรรมแบบวิวรณ์คือเตือนเรื่องวันเวลา
o อย่าแปลกใจที่เราได้อ่านมาสองสามวันในปลายปีพิธีกรรม เพราะเป็นการนำการเตือนให้เราได้รู้ถึงวันเวลา และปีพิธีกรรมที่กำลังจบและและกำลังจะเริ่มใหม่กับเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า และก้าวต่อไปอีกหนึ่งปี
o เพราะ อันที่จริง... การกล่าวถึงความคิดแบบวิรณ์ การใช้ภาษาน่าสะพรึงกลัว... “แต่ก่อนที่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้น เขาจะจับกุมท่าน จะเบียดเบียนท่าน จะนำท่านไปไต่สวนในศาลาธรรม และจะจองจำท่านในคุก เขาจะนำท่านไปยืนต่อหน้ากษัตริย์และผู้ว่าราชการเพราะนามของเรา”

• การเสนอวรรณกรรมวิวรณ์นี้... คือ บทโหมโรงเท่านั้น โหมโรงให้ตื่นเต้นและดูน่าสะพรึงกลัว... เหมือนมารดาจะคลอดบุตร ใกล้วันคลอดยิ่งกังวลและมีคนมาโหมโรงให้เห็นว่าเวลานั้นน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก แต่...ไม่ต้องกลัว.. ทั้งหมดจะผ่านไปได้สบายด้วย “ความรักที่สุด”

• พี่น้องที่รักครับ ในพระวรสาร เรื่องความน่าตระหนกทั้งหมดในรูปแบบวิวรณ์ที่พ่อเน้นต่อเนื่องมาสามวันแล้ว... อันที่จริง เป็น “บทโหมโรงครับ” ใช่พระเยซูเจ้าตรัส... แต่ก่อนที่เหตุการณ์ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้น
o “เขาจะจับกุมท่าน
o จะเบียดเบียนท่าน
o จะนำท่านไปไต่สวนในศาลาธรรม
o และจะจองจำท่านในคุก
o เขาจะนำท่านไปยืนต่อหน้ากษัตริย์และผู้ว่าราชการเพราะนามของเรา
o บิดามารดา พี่น้อง ญาติและมิตรสหายจะทรยศต่อท่าน
o บางท่านจะต้องถูกประหารชีวิตด้วย
o ท่านทั้งหลายจะเป็นที่เกลียดชังของทุกคนเพราะนามของเรา”

• น่าตระหนกไหมครับ และตอนเมื่อวานนี้ก็เน้นว่าจะมีแผ่นดินไหว สงคราม ความแตกแยก และหลายคนตั้งตนเป็นผู้ทำนายทายทัก ฯลฯ แต่เวลายังมาไม่ถึงครับ ไม่มีใครรู้เวลาเหล่านั้น... แต่เมื่อมาถึง ต้องกลัวไหม... พระเยซูเจ้าตรัสต่อไปน่ารักที่สุด...
o “นี่จะเป็นโอกาสให้ท่านเป็นพยานถึงเรา
o จงตัดสินใจว่าท่านจะไม่หาคำแก้ตัวไว้ก่อน
o เราจะให้คำพูดและปรีชาญาณแก่ท่าน ซึ่งศัตรูของท่านจะต้านทานหรือโต้แย้งไม่ได้”

• อ่านประโยคท้ายของพระดำรัสของพระเยซูเจ้าดีๆครับ...
o “แต่เส้นผมบนศีรษะของท่านจะไม่เสียไปแม้แต่เส้นเดียว ด้วยการยืนหยัดมั่นคงท่านจะรักษาชีวิตของท่านไว้ได้”

• ความรักของแม่ที่กำลังจะให้กำเนิด (แม้นางกลัวที่สุด) แต่ความรักมั่นคงยืนหยัดจะทำให้นางกล้าก้าวเดินไปสู่การให้กำเนิด และพร้อมจะยอมรับ และแม่ส่วนใหญ่ แม่จริงๆในความหมายของแม่.. คงภาวนาว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นในการให้กำเนิด คงภาวนาว่า “ขอให้ลูกของฉันมีชีวิต ถ้าแม่จะต้องตายเพราะการนี้ก็ยอม ขอให้ได้เห็นหน้าลูกเกิดมาเถิด” (พ่อคาดๆเอานะครับ เพราะเชื่อในความรักของแม่แท้ๆทุกคนที่ให้กำเนิดเพราะความรัก ยกเว้นจะไม่ได้รัก ไม่ได้ตั้งใจ นั่นไม่ใช่แม่ในความหมายธรรมชาติมนุษย์ที่พ่อหมายถึงครับ)

• พี่น้องที่รัก... สรุปว่า ความน่ากลัวต่างๆที่พระวรสารเล่า เป็นเพียงบทโหมโรงก่อนจะไปถึงเวลาแห่ความรักที่สุดที่เราเรียนรู้ได้จากพระวรสาร คือ Sic Nos Amantem “ทรงรักเราถึงเพียงนี้” คือ การรับพระทรมาน สิ้นพระชนม์บนกางเขน และที่สุด ความรัก พระเจ้าองค์ความรัก ทรงทำให้พระองค์ได้ทรงกลับคืนพระชนม์ เป็นความหวังนิรันดร เป็นความรักนิรันดรทั้งกระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่ทรงบังเกิดอย่างยากไร้ ทรงรับทรมาน สิ้นพระชนม์... เพราะทรงรักเราครับ และพระองค์คือชีวิตของเราคริสตชนทุกคนเสมอไป

• ขอให้เราได้เข้าใจสัจจธรรมรักยิ่งใหญ่นี้ พระวรสารเสนอบทโหมโรงยิ่งใหญ่ตื่นเต้น แต่พี่น้องอย่าไปเต้นตื่นหน้าตั้งครับ..เพราะ พระดำรัสที่บอกเราคือให้เราวางใจในพระองค์ครับ... สบายใจ เพราะทรงรักเราครับ
o “นี่จะเป็นโอกาสให้ท่านเป็นพยานถึงเรา
o จงตัดสินใจว่าท่านจะไม่หาคำแก้ตัวไว้ก่อน
o เราจะให้คำพูดและปรีชาญาณแก่ท่าน ซึ่งศัตรูของท่านจะต้านทานหรือโต้แย้งไม่ได้”
o เส้นผมบนศีรษะของท่านจะไม่เสียไปแม้แต่เส้นเดียว ด้วยการยืนหยัดมั่นคงท่านจะรักษาชีวิตของท่านไว้ได้”

• ชีวิตเรา อนาคต จึงวางใจในพระเจ้าได้เลย... นะ... ไม่ต้องวิ่งโล่ไปหาหมอดู ดูหมด ปล่อยให้ใครก็ไม่รู้มาบอกอนาคตของเราที่เขาและเราก็ไม่รู้... ปล่อยให้เขามามั่วกับอนาคตของเรา แถมได้สตางค์เราไปอีก เขาว่ากันว่าหมอดูดังๆ ดูทีเป็นแสนเป็นล้านในสังคมไฮน์ๆๆ ครับ... ไปดูหมอบาปนิดหน่อยไหมก็บาปนะครับแต่โง่นี่สิเจ็บ เสียตังค์ด้วยปวดใจอ่ะ... โถลูก..อานาคตของเรา อยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้าแล้วครับ... เพียงพระเจ้า เพียงพอ น่า..นะ...เนอะ

 

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก