"พระคริสตเจ้าทรงเป็นผู้ใดสำหรับข้าพเจ้า" อธิบายพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมาระโก โดย บาทหลวงฟรังซิส ไก้ส์
“บุตรแห่งมนุษย์จึงเป็นนายเหนือแม้กระทั่งวันสับบาโตด้วย”

11. บรรดาศิษย์เด็ดรวงข้าวในวันสับบาโต (3)
b)    ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
1.    การโต้เถียงกันระหว่างพระเยซูเจ้ากับชาวฟาริสีเรื่องการพักผ่อนในวันสับบาโตชวนคริสตชนให้เข้าใจความหมายของธรรมบัญญัติในพันธสัญญาเดิมอย่างถูกต้องคำว่า “ธรรมบัญญัติ” มีความหมายมากกว่าประมวลกฎหมาย เพราะหมายถึงคำสั่งสอนที่รวมวิธีการทั้งหมดที่พระเจ้าทรงใช้โดยกิจการต่าง ๆ กับประชากรอิสราเอลในอดีต เพื่อทรงเปิดเผยพระองค์และพระประสงค์ต่อมาเรื่องต่าง ๆ ดังกล่าวนี้ถูกบันทึกไว้ในพระคัมภีร์และชาวยิวใช้คำว่าธรรมบัญญัติหรือธรรมบัญญัติของโมเสสในความหมายที่จำกัด หมายถึงหนังสือปัญจบรรพ ซึ่งเป็นหนังสือ 5 เล่มแรกของพระคัมภีร์ชาวยิว คือหนังสือปฐมกาลและหนังสืออีกสี่เล่มที่เกี่ยวข้องกับโมเสส ได้แก่ อพยพ เลวีนิติ กันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

พระเยซูเจ้าทรงเคารพหนังสือดังกล่าวนี้ แต่ในบางครั้งก็ทรงตีความหมายไม่เหมือนกับหัวหน้าชาวยิวในสมัยของพระองค์ดังที่อ่านในข้อความที่เรากำลังอธิบาย เราจะเข้าใจวิธีการของพระเยซูเจ้า ก็ต่อเมื่อเราจดจำไว้ว่าพระคัมภีร์ของชาวยิวหรือธรรมบัญญัติไม่เป็นพระวาจาของพระเจ้าโดยตรง คือไม่บันทึกพระวจนาตถ์ผู้ตรัส แต่ผู้เขียนได้ฟังพระวาจาของพระวจนาตถ์ แล้วจึงเขียนตามความสามารถของตน พูดอีกนัยหนึ่ง พระเจ้าทรงดลใจมนุษย์บางคนให้มีประสบการณ์พิเศษในความสนิทสัมพันธ์กับพระองค์และในความรู้ถึงพระประสงค์ของพระองค์ เพื่อเขาจะอธิบายและถ่ายทอดประสบการณ์นั้นกับคนอื่น ๆ เขาทำเช่นนี้ได้เพียงเล็กน้อยตามความสามารถและความรู้จำกัดของตนทั้งในด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ 

ประชากรอิสราเอลในสมัยก่อนและพระศาสนจักรตลอดมายังให้ความเคารพข้อเขียนเหล่านี้ เพราะผู้อ่านเชื่อว่าได้ฟังพระวาจาของพระเจ้าตามที่ผู้เขียนในอดีตได้เข้าใจประสบการณ์ของตนในความสัมพันธ์กับพระเจ้าเมื่อเราอ่านพระคัมภีร์ เราจึงฟังพระวาจาดังที่คนในสมัยนั้นได้มีประสบการณ์กับพระวาจาแบบมนุษย์และตีความหมายแบบมนุษย์ ซึ่งมีข้อจำกัดและเรียกร้องการตีความหมาย เพราะเหตุนี้ บางครั้งคริสตชนตีความหมายพระวาจาที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์แตกต่างกับชาวยิว

พันธสัญญาใหม่ก็เป็นข้อเขียนของมนุษย์ที่มีความรู้และความสามารถจำกัดอีกด้วย แต่แตกต่างจากพันธสัญญาเดิมในแง่ที่ว่า พระเยซูเจ้าทรงเป็นการเปิดเผยสมบูรณ์ของพระเจ้าในรูปแบบมนุษย์ พระองค์ไม่ทรงเป็นเพียงมนุษย์ที่ตอบสนองประสบการณ์พิเศษที่มีกับพระเจ้าและยายามถ่ายทอดประสบการณ์นั้นโดยการเขียน แต่พระเยซูเจ้าพระองค์เองทรงเป็นพระวาจาของพระเจ้าพระองค์ทรงมีประสบการณ์กับพระบิดาเจ้าในข้อจำกัดแบบมนุษย์ก็จริง แต่ทรงถ่ายทอดความสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้าที่ทรงมีประสบการณ์แบบมนุษย์ด้วยคำพูด กิจการ ท่าที ความรู้สึก ความตั้งใจและความสัมพันธ์ต่าง ๆ อย่างสมบูรณ์เพราะพระองค์ทรงมีพระจิตของพระเจ้าอย่างเต็มเปี่ยมโดยไม่มีเงื่อนไข

ดังนั้นธรรมบัญญัติของชาวยิวจึงเป็นสิ่งที่ดีแต่มีข้อจำกัดและมีข้อบกพร่อง ข้อความในพันธสัญญาเดิมจึงมีคุณค่าถ้าเราเห็นว่าพระเยซูเจ้าทรงให้คุณค่าแก่กฎหมายหรือความคิดนั้นโดยทรงตีความหมาย พูดอีกนัยหนึ่ง เราต้องอ่านพันธสัญญาเดิมโดยใช้สายตาของพระเยซูเจ้า บรรดาศิษย์ของพระเยซูเจ้าเป็นอิสระไม่จำเป็นต้องปฏิบัติรายละเอียดทุกประการที่กำหนดไว้ในธรรมบัญญัติของโมเสส ยังมีกฎบางข้อที่พระเยซูเจ้าทรงให้คุณค่าและพระองค์ทรงปฏิบัติ เราก็เช่นกัน แต่มีบางอย่างที่ไม่มีความหมายสำหรับคริสตชน เช่น กฏเกี่ยวกับอาหารที่เป็นมลทินกับไม่เป็นมลทิน กฏการชำระตนเมื่อสัมผัสผู้ป่วยหรือศพที่ทำให้เป็นมลทิน